Returning From The Immortal World - 261
ถังเกาเชิงเองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยแววตาเป็นประกาย เขาได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากในชีวิตนี้และสามารถตัดสินคนได้ทันที ในช่วงเวลาที่ได้คลุกคลีกันมานี้เขาก็เริ่มชินกับนิสัยของถังซิ่วแล้ว
ดังนั้นเขาไม่ได้โกรธในสิ่งที่ถังซิ่วเพิ่งพูดไปแม้แต่น้อย แน่นอนว่าหากเป็นคนอื่นที่พูดประโยคนี้เขาคงจะระเบิดอารมณ์ออกมานานแล้ว
“ถังซิ่ว หากว่าเธอสามารถรักษาพ่อเธอได้แล้วไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็เป็นเรื่องของเขา หากว่าเธอไม่สามารถรักษาเขาได้แต่ต้องการจะพาเขากลับมาที่เมืองสตาร์ซิตี้ฉันก็ยินยอมอย่างไรก็ตามเครื่องมือรักษาที่เมืองนี้มันไม่ค่อยดีเหมือนที่เมืองหลวงดังนั้นฉันต้องส่งคนมาดูแลเขา”
“ส่วนเรื่องที่เธอพูดมาเมื่อกี้นั้นฉันเข้าใจเธอดีว่าก่อนหน้านี้ฉันเป็นฝ่ายผิดเองที่ทำให้พวกเธอสองแม่ลูกต้องทนทุกข์ทรมานมาหลายปีแต่อย่างไรก็ตามเธอก็ยังเป็นคนสกุลถังและเลือดที่ไหลเวียนอยู่ภายในก็เป็นของตระกูลเราดังนั้นตระกูลถังก็คือครอบครัวของเธอ”
ถังซิ่วเองก็ได้แสยะออกไปอย่างเย็นชาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อไป
ถังเซี่ยได้มองไปที่ถังซิ่วก่อนที่จะหันกลับไปที่ซูหลิงหยุนแล้วพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“พี่สะใภ้จริงๆแล้วก่อนหน้านี้พี่น่าจะไปที่เมืองหลวง ฉันคิดว่าพี่สองเองก็น่าจะบอกคุณเกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์ของตระกูลเราแล้วแม้ว่าคนของตระกูลเราจะเป็นคนที่มีอำนาจและความมั่งคั่งแต่เกี่ยวกับเรื่องของหนุ่มสาวนั้นพวกผู้อาวุโสเองก็ไม่ได้เข้ามาก้าวก่าย คุณพ่อเองก็ได้มาที่เมืองสตาร์ซิตี้ตั้งหลายต่อหลายครั้งเพื่อตามหาพี่”
เมื่อพูดจบถังเซี่ยเองก็ได้เดินไปจับมือของซูหลิงหยุนไว้แล้วพูดออกมาด้วยความขมขื่นว่า
“พี่สะใภ้สอง พี่รู้ไหมว่าตลอดหลายปีมานี้คุณแม่คิดถึงเรื่องอะไรตลอดเวลา ? เธอคิดถึงหลานชายที่ต้องออกไปทนทุกข์อยู่ภายนอกและทุกๆครั้งที่มีคนพูดถึงพี่ชายสองเธอก็จะร้องไห้ออกมา เธอรักพี่สองและคิดถึงหลานชายของเธอมาก”
“ฉัน......”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ทำให้หัวใจของซูหลิงหยุนสั่นพร้อมกับรู้สึกอบอุ่นทันที ทำให้ความรู้สึกต่อต้านตระกูลถังในใจของเธอนั้นจางหายไป เธอไม่คิดเลยว่าขณะที่เธอกำลังหาข่าวของสามีนั้นคนตระกูลถังเองก็กำลังหาข่าวของเธอสองแม่ลูก
ถังเซี่ยเองก็ได้พูดต่อว่า
“พี่สะใภ้สอง กลับไปที่เมืองหลวงกับเราเถอะนะ ! ที่นั่นเป็นครอบครัวของเราและหากว่าพี่ไม่ต้องการอยู่ใกล้ๆกับพ่อและแม่นั้นฉันจะซื้อวิลล่าให้พี่เอง หากว่าหลานของฉันต้องการจะเรียนหนังสือก็ให้ไปเรียนที่หมาวิทยาลัยเมืองหลวงได้เลย ทุกๆอย่างในชีวิตที่พี่ต้องการฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง”
ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“ต้องขอโทษด้วยที่เราไม่ชินกับการใช้ชีวิตที่เมืองหลวงและยิ่งไปกว่านั้นเราก็ไม่ต้องการเงินของตระกูลถังแม้แต่หยวนเดียว แม้ว่าเงินของผมจะไม่สามารถเทียบกับตระกูลคุณได้แต่มันก็มากพอที่จะเลี้ยงดูแม่ผมให้มีความสุขไปตลอดชีวิต”
ซูหลิงหยุนเองก็ได้พูดออกมาทันทีว่า
“ใช่ เราอยู่นี่ก็สบายดีแล้ว ซิ่วน้อยเองก็เป็นผู้ใหญ่และมีความสามารถของเขา เราเองก็ยังมีร้านอาหารอยู่ซึ่งธุรกิจเองก็เป็นไปได้ด้วยดีดังนั้นจึงไม่มีความตั้งใจที่จะไปอยู่เมืองหลวงเป็นเวลานาน”
ถังเกาเชิงเองก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำว่า
“หยุนน้อย ถังซิ่ว ไม่ว่าเธอสองแม่ลูกต้องการจะอยู่ที่ไหนฉันก็จะตกลง ไม่ว่าจะมีความต้องการอะไรก็สามารถพูดออกมาได้เลยตราบใดที่ฉันสามารถทำได้ต่อให้ต้องทำให้ตระกูลได้รับผลกระทบฉันก็จะทำ จำไว้ว่าตระกูลถังนั้นได้ติดหนี้บุญคุณของพวกเธอเอาไว้”
หัวใจของถังซิ่วเองก็กระสับกระส่ายเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าถังเกาเชิงจะกล้าให้คำสัญญาแบบนั้น เขารู้สึกแปลกไปเล็กน้อยแต่มันก็ยังไม่พอที่จะให้เขาสนิทสนมต่อตระกูลถังได้ในตอนนี้
“เอาของมา !”
ถังเซี่ยเองก็ได้ตะโกนออกไปทางประตูทางเข้าพร้อมกับหันหน้ามาหาซูหลิงหยุนแล้วพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“พี่สะใภ้สอง พ่อได้รู้มาว่าแม่ของพี่ได้รับบาดเจ็บจึงได้ไปซื้อยาบำรุงกำลังมาให้ ส่วนเรื่องคนที่เป็นคนลงมือทำร้ายนั้น นอกจากรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ได้หายตัวไปแล้ว คนที่เหลือเองก็ได้รับบทลงโทษไปเรียบร้อย”
ทันใดนั้น
ผู้คุ้มกันทั้งสี่คนเองก็ได้เดินเข้ามาทางประตูหน้าพร้อมกับแบกกล่องใบใหญ่เข้ามา
“นี่......”
ซูหลิงหยุนเองก็รู้สึกหมดหนทางทันที
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า
“คุณแม่ ในเมื่อมันเป็นการแสดงเจตนาดีของพวกเขาเราก็รับไปเถอะยิ่งไปกว่านั้นอย่ายื่นมีไปทุบตีคนที่กำลังยิ้มอยู่ ในเมื่อพวกเขาไม่ได้ต้องการที่จะมาสร้างปัญหาเราก็ไม่สามารถละเลยเขาได้ ให้พวกเขาเข้าไปเถอะ !”
ซูหลิงหยุนเองก็ได้สติทันทีพร้อมกับพูดออกมาทันทีว่า
“ขอบคุณมากๆ เชิญ แม่ของฉันอยู่ในห้อง”
หลังจากนั้นถังเกาเชิงและถังเซี่ยเองก็ได้พบกับซางฮี หลังจากที่เธอรู้ถึงสถานะของพวกเขาแล้วถึงกับตกตะลึงทันทีพร้อมกับที่เข้าใจถึงเรื่องราบทั้งหมดและรู้สึกขอบคุณพวกเขาจากใจจริง เธอรู้สึกมีความสุขแทนลูกสาวของเธอที่ลูกเขยเธอยังคงมีชีวิตอยู่
“ซิ่วน้อย ยายรู้ว่าหลานมีความสามารถด้านการแพทย์ดังนั้นหลานต้องรักษาพ่อนะ เขามีเหตุผลที่หายตัวไปหลานเองก็อย่าได้ไปโทษเขาเลย ไปที่เมืองหลวง ! รักษาเขา ! ให้ยายได้สามารถเห็นหน้าของลูกเขยตัวเองสักครั้ง”
ซางฉีที่ได้เข้าใจถึงสถานการณ์นั้นก็ได้พูดออกมาขณะที่กำลังนอนอยู่บนเตียง
“ผมจะช่วยเขา !”
ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าตอบ
หลังจากผ่านไปหลายนาทีซูหลิงหยุนเองก็ได้เก็บของพร้อมกับเดินไปที่หน้าประตูบ้าน
“พวกคุณขับรถนำไปส่วนผมจะขับตามไปกับแม่”
ถังซิ่วเองก็ได้หยิบกล่องพวกนั้นมาพร้อมกับพูดกับถังเกาเชิง
ถังเซี่ยเองก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“ฉันก็จะนั่งไปด้วยจะได้พูดคุยกับพี่สะใภ้ด้วย”
ซูหลิงหยุนเองก็ได้พูดออกมาอย่างมีความสุขว่า
“ดีเลย !”
ถังซิ่วเองก็ไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด ทุกการตัดสินใจของแม่นั้นเขาจะไม่ขัดโดยเด็ดขาด หลักจากที่ขึ้นรถไปแล้วเขาก็เห็นว่าถังเซี่ยกำลังจับมือกับแม่ของเขาพร้อมกับพูดคุยกันด้านหลัง เขาได้สตาร์ทรถพร้อมกับขับออกไปตามรถaudiที่อยู่ข้างหน้าทันที
วิลล่าหมิงหยวน , เมืองหลวง
ผู้อาวุโสที่สามของตระกูลถัง ถังเกาโฉวกำลังอ่านเอกสารในมือพร้อมกับชายใส่ชุดทหารสองคนที่ยืนตัวตรงอยู่ตรงหน้าเขาแต่บนบ่าของพวกเขานั้นได้ประดับยศระดับนายพลและพลตรี
“โคร๊ม.....”
ประตูได้ถูกเปิดออกอย่างรุนแรงและลูกชายของถังเกาโฉว ถังหยุนชิงได้วิ่งเข้ามาทันทีพร้อมกับพูดออกมาอย่างหอบว่า
“คุณพ่อ เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว”
ถังเกาโฉวเองก็ได้ขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีพร้อมกับแสยะออกมาอย่างเย็นชาว่า
“ท้องฟ้าถล่มลงมาหรืออย่างไรกันถึงได้มีกริยามารยาทแบบนี้ ดูสิ นี่มันถูกต้องไหม ?”
ถังหยุนชิงเองก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“มันไม่ใช่ มันเป็นเรื่องที่สำคัญจริงๆนะพ่อ คุณลุงกำลังรีบกลับมาที่นี่ ผมเพิ่งได้รับสายจากพี่ใหญ่ว่าให้เรากลับไปที่บ้านหลักทันที”
ถังเกาโฉวเองก็ได้ถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า
“แล้วจะให้กลับไปที่บ้านหลักทำไม ? หยุนเป็งไม่ได้บอกงั้นหรอว่าเกิดอะไรขึ้น ?”
ถังหยุนชิงเองก็ได้พูดออกมาว่า
“เป็นเรื่องที่พบลูกชายของพี่สองแล้วและกำลังพาสองแม่ลูกกลับมาที่เมืองหลวง ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่คุณลุงแอบไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเมืองสตาร์ซิตี้แบบลับๆนั้นหมอเทวดาสกุลถังคนนั้นก็คือลูกชายของพี่สอง”
“อะไรนะ ?”
ท่าทางของถังเกาโฉวเองก็เปลี่ยนไปทันที เขาไม่คิดเลยว่าหลานชายของเขาจะถูกพบตัวแล้ว ในหลายปีมานี้ท่านหญิงเองก็เอาแต่เป็นกังวลเกี่ยวกับหลานชายของเธอที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือตายด้วยซ้ำ
“ดีมาก หยุนชิงลูกไปแจ้งให้ทุกคนทราบเดี๋ยวนี้ หลังจากนี้อีกสี่ชั่วโมงให้ทุกคนกลับไปที่บ้านหลักทันที ไม่คิดเลยว่าหลานชายที่ไม่เคยเห็นหน้าจะกลายเป็นหมอเทวดา ! หาก......หากว่าเขาสามารถรักษาอาการป่วยของหยุนดี่......”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ใบหน้าของถังเกาโฉวเองก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นมากกว่าเดิม
ถังหยุนชิงเองก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“ครับพ่อ ผมจะรีบไปบอกพวกเขาทันที”
คลับจักรพรรดิมังกร, เมืองหลวง
ถังเหว่ยที่กำลังถือขวดไวน์พร้อมกับดื่มไวน์แดงอยู่ ข้างๆเขาได้มีผู้ชายสองคนที่กำลังโอบกอดหญิงสาวสวยและพวกเขาก็มีชื่อว่าซ่งลู่และซางฮงเหนียนซึ่งเป็นวัยรุ่นที่มั่งคั่งของเมืองนี้และเป็นเพื่อนของเขาตั้งแต่สมัยยังเด็ก
“โคร๊ม.......”
ประตูห้องที่หรูหราได้ถูกถีบออกพร้อมกับเด็กสาวที่หน้าตาน่ารักได้วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอเห็นผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ข้างๆถังเหว่ยนั้นท่าทางของเธอก็เปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับวิ่งมาตรงหน้าเขาแล้วดึงไปที่แขนแล้วพูดว่า
“พี่ใหญ่ รีบๆไปได้แล้ว คุณปู่บอกว่าให้ทุกคนกลับไปที่บ้านหลักเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ได้มีเรื่องที่สำคัญมากๆ !”
ถังเหว่ยเองก็ได้กรอกตาบนก่อนจะพูดออกมาแบบไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีว่า
“ถังถัง ท้องฟ้าถล่มลงมาหรืออย่างไรกัน ? จะกระวนกระวายไปทำไมยิ่งไปกว่านั้นไม่ใช่ว่าคุณปู่บอกว่าจะออกไปนอกพื้นที่ ? จะมีเรื่องอะไรได้อย่างไรกัน ? แล้วเธอรู้ได้ไงว่าพี่อยู่ที่นี่ ?”
ถังถังเองก็ได้ดึงมือของเขาอย่างสุดแรงก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ช่างมันเถอะว่าหนูรู้ได้ยังไง รีบๆตามหนูมาได้แล้ว มันเป็นเรื่องของลุงสอง ปู่ได้พบตัวของลูกชายลุงสองและกำลังนำเขากลับมา รีบๆไปได้แล้วหากว่าเรากลับไปสายก็จะต้องถูกคุณปู่ดุอย่างแน่นอน”
ลูกชายของลุงสอง?
ท่าทางของถังเหว่ยเองก็ได้เปลี่ยนไปทันที
เขาได้ดึงมือของถังถังออกก่อนที่จะมองไปที่ซ่งลู่และซางฮงเหนียนพร้อมพูดว่า
“ได้ยินแล้วใช่ไหม ? ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องกลับไปบ้านหลักทันที พวกนายเล่นกันไปก่อนแล้วกัน ฉันจะมาเล่นด้วยหลังจากที่มีเวลาว่าง”
ซ่งลู่และซางฮงเหนียนเองก็มองไปที่กันและกันด้วยความว่างเปล่าแน่ก็ยังคงพยักหน้า พวกเขารู้เรื่องเกี่ยวกับลุงสองของถังเหว่ยดีที่ได้รับอุบัติเหตุแล้วกลายเป็นเจ้าชายนิทราไปกว่า20ปี ไม่คิดเลยว่าลูกของเราจะอยู่ที่โลกภายนอก
“พี่ชายถัง รีบๆหน่อย !”
ศูนย์บัญชาการกองทัพ , เมืองหลวง
ชายสวมชุดเครื่องแบบสีเขียวและดูเหมือนว่าจะเป็นหน่วยพิเศษซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการซึ่งกำลังเฝ้าดูการฝึกกำลังพล
ณ ตอนนี้ได้มีชายหนุ่มใส่ชุดเครื่องแบบวิ่งมาข้างๆเขาพร้อมกับพูดว่า
“ท่านผู้บัญชาการ มีโทรศัพท์ถึงท่าน”
ถังหนิงที่ได้รับสายนั้นก็ได้พูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า
“ฉันถังหนิง”
“กลับมาที่บ้านหลักของตระกูลเดี๋ยวนี้”
เสียงของถังหยุนชิงได้ถูกส่งผ่านมาทางปลายสาย
ถังหนิงได้ขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีพร้อมกับพูดออกมาว่า
“ลุงสี่ ผมกำลังฝึกทหารอยู่ มีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถพูดคุยทางโทรศัพท์ได้งั้นหรอ ?”
“ลูกชายของลุงสองของเธอได้ถูกพบตัวแล้วและท่านชายเองก็กำลังพาตัวเขากลับมาที่นี่จากเมืองสตาร์ซิตี้”
“อะไรนะ ? ผมจะรีบกลับไปทันที !”
<div>
(ใครมีคำแนะนำหน่อยว่า old lady กับ old lord จะใช้คำแทนว่าอะไรดี ตอนนี้ใช้ท่านหญิงกับท่านชาย ใครมีคำดีๆแนะนำหน่อย มันแบบใช้เรียกไอพวกนี้มีอำนาจมากสุดในตระกูลอะในที่นี่ก็หมายถึงปู่กับย่าของถังซิ่ว )
</div>