ตอนที่แล้วบทที่ 24: การปลดปล่อย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26: เชื่อใจ?

บทที่ 25: น้ำแข็ง


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

••••••••••••••••••••

บทที่ 25: น้ำแข็ง

ฉือจ้าวติงเห็นผลลัพธ์ออกมาเช่นนั้น ความพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า

เขาหมุนตัวเพื่อจะหันหลังกลับ แต่เมื่อหันกลับมาเขาได้สบสายตากับดวงตากลมโตที่สวยงามที่สุด…

นั่นมัน… มู่หนิงเซวีย!

ใบหน้าของฉื่อจ้าวติงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

เขาไม่คิดว่าการสอบของตนเองจะได้รับเกียรติจากเธอด้วย… ‘นี่เธอมาดูเขางั้นเหรอ…’

‘เธอจะต้องรู้สึกตื่นเต้นอย่างแน่นอน เพราะธาตุสายฟ้านั้นไม่ได้พบเจอได้โดยง่าย!’

......

“หนิงเซวีย เป็นไงบ้างล่ะ?” มู่เห่อถามออกมา

“ทั่วไป…” มู่หนิงเซวียกล่าวออกมาพร้อมกับหันหลังกลับทันทีอย่างไม่แยแส

เหล่าอาจารย์และคนรับใช้ต่างๆรู้สึกตัวแข็งทื่อทันที

ไม่งั้นเหรอ? ธาตุสายฟ้านั้นแข็งแกร่งที่สุดแต่เธอกลับรู้สึกว่ามันเฉยๆ? หญิงสาวคนนี้นั้นมีทัศนคติที่สูงส่งจริงๆ

“อ่า ความจริงแล้วมันยอดเยี่ยมมากนะ แต่มู่หนิงเซวียนั้นอยู่ในมหาวิทยาลัยจักรพรรดิ ซึ่งมีนักเวทย์อัจฉริยะมากมายอยู่ที่นั่น อีกอย่างเวทย์สายฟ้าขั้นแรกนั้นเป็นสิ่งที่พื้นฐานอย่างมาก เธอพบเห็นได้อย่างทั่วไปเมื่ออยู่ที่นั่น” มู่โจวอวิ๋นรีบอธิบายออกมาพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็เดินตามมู่หนิงเซวียไป

“อ่า ถ้าอย่างนั้น ฉื่อจ้าวติงก็ยังมีสิทธิ์ที่จะได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยจักรพรรดิใช่ไหม?” ผู้อำนวยการโรงเรียนรีบเดินตามมาถาม

คนรอบๆที่ได้ยินเช่นนั้นรู้สึกเวียนหัวทันทีและเข้าร่วมการสนทนานี้อย่างช่วยไม่ได้

“อืม ไม่แน่นะ เพราะฉื่อจ้าวติงเป็นคนเดียวที่สามารถปลดปล่อยพลังได้” อาจารย์เฉินกวนเหลียงกล่าวออกมา

“บางทีอาจจะไม่ใช่แบบนั้นเลยซะทีเดียว ฉันได้ยินมาว่ามู่ไป๋ที่อยู่ห้องแปดนั้นก็มีความสามารถในการต่อสู้เช่นกัน” อีกคนกล่าวออกมา

สองที่ทั้งสองคนนั้นถกเถียงกันทำให้ใบหน้าของมู่เห่อเปื้อนรอยยิ้ม จากนั้นเขากล่าวกับมู่โจวอวิ๋นและมู่หนิงเซวียทันที “พี่ใหญ่ มู่ไป๋นั้นเป็นลูกหลานของตระกูลมู่ ผลคะแนนของเขาจะต้องยอดเยี่ยมแน่นอน เราแวะไปดูเขาสักหน่อยไหม?”

“หืม มู่ไป๋? ใครกัน?”

“เขาเป็นบุตรของมู่หยาง แต่มู่หยางตายไปแล้ว ฉันเห็นแม่และบุตรชายถูกรังแกอยู่ด้านนอกของกำแพง เช่นนี้จึงได้รับเขาเข้ามาภายในคฤหาสน์ มู่ไป๋นั้นเป็นเด็กฉลาดและกระตือรือร้นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะไม่อาจเทียบเท่ากับเด็กๆในตระกูลของเราได้ แต่ก็ไม่ได้ด้อยไปมากกว่านัก ช่องว่างของเขากับมู่หนิงเซวียนั้นแม้จะห่างไกลอย่างมาก แต่ก็ถือว่าเป็นต้นกล้าที่ดี เขาควรได้รับการสนับสนุนที่ดี” มู่เห่อรีบอธิบายกับมู่โจวอวิ๋น

แน่นอนว่ามู่โจวอวิ๋นนั้นเป็นกำลังหลักของตระกูล แม้ว่ามู่เห่อจะมีอำนาจอยู่บ้าง แต่เขาก็อยู่ในลำดับที่สามถึงสี่ นั่นไม่สามารถเทียบกับมู่โจวอวิ๋นได้เลย

“โอ้ อย่างนั้นเรอะ น่าประทับใจดีนะ ถ้าเช่นนั้นลองไปดูสักหน่อยก็ได้ ฉันก็อยากจะรู้ว่าอะไรทำให้แกชอบมันนัก?” มู่โจวอวิ๋นกล่าวออกมา

“ถ้าหากเขาเป็นบุตรหลานของตระกูลมู่ แน่นอนว่าพวกเราจะต้องสนใจและดูแลเขาอย่างเต็มที่!”

กลุ่มคนเหล่านี้ค่อยๆเคลื่อนตัวไปยังห้องสอบของห้องแปด

กลิ่นอายของพวกเขานั้นรุนแรง แต่เหล่าผู้นำโรงเรียนนั้นไม่ได้มีผลต่อสายตาของนักเรียนมากนัก แต่ไม่ใช่สำหรับมู่หนิงเซวียที่ดึงดูดสายตาทุกคู่ให้จับจ้องไปที่เธออย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

นักเรียนชายทั้งหมดต่างตาค้างและตกตะลึงเมื่อมีหญิงสาวมาเยือนพวกเขาถึงห้อง ทั้งหมดนั้นทำตัวไม่ถูกราวกับเป็นไก่น้อย นี่มันยิ่งกว่าฝันซะอีก หญิงสาวที่สวยเหมือนนางฟ้ากำลังยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา!

“โอ้พระเจ้า ทีมของผู้นำมาถึงแล้ว!”

“ใช่พวกเขาจริงๆ ฉันสั่นไปหมดแล้ว!”

“มันเป็นเวลาที่เหมาะสมที่ฉันจะแสดงพลัง!”

“บัดซบ แกจะโชว์อะไรอีก ผลคะแนนของแกคือซี! ไอ้เวร!”

นักเรียนในห้องแปดต่างพากันซุบซิบอย่างวุ่นวาย

ทุกคนต่างรู้สึกหนักหน่วงภายในจิตใจ เหล่าผู้นำเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของพวกเขาได้ภายในฝ่ามือเดียว ทำให้การสอบรอบต่อไปเต็มไปด้วยความประหม่า

มู่เห่อเดินมาที่ด้านหน้าและส่งสายตาให้กับผู้ควบคุมทั้งสามอย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่ามู่เห่อและผู้ควบคุมนั้นรู้กันอยู่แล้วว่าต้องทำสิ่งใด จากนั้นผู้ควบคุมเรียกชื่อต่อไปทันทีอย่างไม่สนว่าลำดับคืออะไร “ถัดไป มู่ไป๋!”

ดวงตาของมู่ไป๋ยังคงอยู่ที่มู่หนิงเซวีย แม้ว่าเขาจะอยู่ในปราสาทเช่นกัน แต่ปราสาทนั้นกว้างใหญ่อย่างมากและเขาไม่มีโอกาสที่จะได้พบกับมู่หนิงเซวียใกล้ๆแน่นอน

“มู่ไป๋… ฉันรออยู่” มู่เห่อกระแอ่มออกมาสองทีเพื่อเรียกสติของมู่ไป๋

มู่ไป๋ฟื้นคืนทันที

‘ฉันชอบมู่หนิงเซวียมานานหลายปี แม้ว่าเขาจะรู้ว่าตนเองไม่มีทางที่จะได้เดินเคียงคู่กับเธอ แต่เขาก็จะไม่ยินยอมให้ไอ้ขยะโม่ฝานทำตัวเกินหน้าเกินตาของเขา เช่นนี้ฉันจะขัดขวางแกทุกวิถีทาง ฉันนี่แหละจะเป็นผู้พิทักษ์ของมู่หนิงเซวียให้ได้!’

‘ฉันฝึกฝนมานานหลายปี มันถึงเวลาที่ฉันจะได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว!’

มู่ไป๋พยักหน้าพร้อมกับเดินออกไปด้านหน้าและเข้าห้องทดสอบ

เขารอเวลานี้มาเนิ่นนาน… มู่ไป๋คิดกับตัวเองพร้อมกับสูดเอาลมเย็นๆเข้าปอดเพื่อสงบสติ

ตอนนี้ตระกูลมู่กำลังมองเขาอยู่ อีกทั้งยังมีสายตาของมู่หนิงเซวียที่จับจ้องมาที่เขา มันเป็นความฝัน… สิ่งที่เขาใฝ่ฝันมาเสมอ!!!

มู่ไป๋วางมือลงบนหินเวทย์ดวงดาว เขาพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมายอดเยี่ยมที่สุด!

มู่ไป๋นั้นฝึกฝนมาอย่างหนัก แม้ว่าเขาจะตื่นเต้นแต่เขาก็สามารถควบคุมพลังเวทย์ได้อย่างยอดเยี่ยม เช่นนี้ความสามารถของเขาจึงโดดเด่นมากกว่าคนอื่นมาก

น้ำแข็งแพร่กระจายไปทั่วบริเวณอย่างหนาแน่น ไอเย็นปกคลุมบรรยากาศโดยรอบจนรู้สึกหายใจไม่ออก

พลังเหล่านี้นั้นแข็งแกร่งมาก ทั้งหมดล้วนแต่ออกมาจากร่างกายของเขา น้ำแข็งเกาะแน่นไปทั่วบริเวณไม่เว้นแม้แต่ใบหน้าของเขา

อาจารย์และนักเรียนภายในห้องต่างพากันตกตะลึงกับภาพตรงหน้าอย่างมาก

คลื่นน้ำแข็งที่เปล่งประกายออกมานั้นรุนแรง ความกระจางใสของมันนั้นไม่อาจหาดูได้โดยง่าย แม้แต่พลังของซูมินก็ยังด้อยกว่ามู่ไป๋!

“เอส!”

“เอส!”

“เอส!”

ผู้ควบคุมทั้งสามตะโกนออกมาพร้อมกัน ผลของคะแนนก็คือระดับเอส!

“ฉันจำได้ว่าฉื่อจ้าวติงนั้นได้เพียงสองเอสและหนึ่งเอใช่ไหม?”

“ฮ่า มู่ไป๋นั้นชนะฉื่อจ้าวติงขาดลอย!” มู่เห่อกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

ชุ่ยมู่เชิงนั้นตกใจเล็กน้อย เขาสงสัยทันทีว่าที่ผ่านมามู่ไป๋นั้นเก็บซ่อนความแข็งแกร่งของตนเองงั้นหรือ?

‘แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะเขาเป็นเด็กของครอบครัวมู่ ในตอนแรกฉันคิดว่าเขาจะได้เพียงหนึ่งเอสหรือสองเท่านั้น ฉันไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะได้ถึงสามเอส!’

‘ฮ่า สามเอส ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน ทริปเปิ้ลเอส!’

ชุ่ยมู่เชิงเผยรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าในขณะคิดเช่นนั้น

‘แน่นอนว่าเขาจะต้องกลายเป็นอันดับหนึ่งโดยไม่ต้องสงสัย!’

“ยอดเยี่ยม มู่ไป๋… เธอยอดเยี่ยมมาก ได้รับสามเอส ซึ่งมันมากกว่าฉื่อจ้าวติงห้องเจ็ดซะอีก แน่นอนว่าเธอคืออันดับหนึ่ง” ผู้ควบคุมกล่าว

“อ่า… ผมไม่ได้… ผมไม่ได้คาดหวังมากขนาดนั้น…” มู่ไป๋ถ่อมตัวเล็กน้อย

“มู่ไป๋เท่ห์ที่สุดดดดด!!!” เหล่านักเรียนหญิงในห้องกรี้ดกร้าดขึ้นมาทันที

มู่ไป๋นั้นรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวตาคม ลักษณะของเขาล้วนแต่เป็นเจ้าชายที่หญิงสาวต่างหมายปอง

“พี่ใหญ่ ท่านคิดอย่างไรบ้าง?” มู่เห่อเผยรอยยิ้มออกมาพร้อมหันไปถามมู่โจวอวิ๋น

“ไม่เลว!” มู่โจวอวิ๋นกล่าวออกมาสั้นๆ

มู่หนิงเซวียนั้นไม่ได้กล่าวสิ่งใด

เมื่อเห็นว่ามู่หนิงเซวียไม่ได้เคลื่อนไหวหรือแสดงสีหน้าอะไรออกมา มู่ไป๋รู้ได้ทันทีว่าเพียงสามเอสนั้นไม่อาจทำให้อัจฉริยะอย่างมู่หนิงเซวียประทับใจได้ จากนั้นเขาจึงคิดที่จะสอบอีกระดับขั้นทันที นั่นคือการปลดปล่อยพลังเวทย์!

มู่ไป๋หันหลังและเดินเข้าไปในห้องสอบ

“ผมขอทำการทดสอบการปลดปล่อยพลังเวทย์!”

“ว้าว มู่ไป๋… สามารถควบคุมดวงดาวทั้งเจ็ดได้แล้ว”

“ฉันอยากเห็นเวทย์น้ำแข็งจะแย่แล้ว”

เสียงสนทนาภายในห้องดังขึ้น ทุกคนต่างจับจ้องไปที่มู่ไป๋และหุ่นเชิ่ดตรงหน้าอย่างไม่วางตา

‘ใช่ การทดสอบพลังเวทย์ดวงดาวนั้นเป็นเพียงพื้นฐานเท่านั้น การปลดปล่อยพลังน่ะสิคือของจริง!’

‘ฉันจะแสดงให้ดูเอง มู่หนิงเซวียคอยดูฉันไว้ให้ดีเถอะ!’

เขาหลับตาลงพร้อมกับเคลื่อนไหวพลังเวทย์ภายในร่างกายช้าๆ…

มู่ไป๋ทำทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว เขาควบคุมดวงดาวทั้งเจ็ดและเชื่อมพวกมันเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น……

••••••••••••••••••••

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด