Returning From The Immortal World - 229.5
.......................................................................................................................................................................................
เขวียนหน้าบากเองก็ได้พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนที่จะพูดว่า
“ไม่ต้องเป็นห่วงเลยบอส ตลอดชีวิตนี้มันเป็นของคุณ ตายไปแล้วก็ยังเป็นผีของคุณ ไม่ว่าคุณจะให้ผมทำอะไรผมก็จะทำอย่างนั้น ผมจะตั้งใจทำไวน์นี้อย่างสุดความสามารถ”
ถังซิ่วได้พยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ก่อนหน้านี้ฉันเห็นว่าที่นี่ไม่มีหน่วยรักษาความปลอดภัย จำไว้ว่าสูตรที่ฉันให้ไปนั้นจะต้องเก็บเป็นความลับและยิ่งไปกว่านั้นคือนายจำเป็นจะต้องแยกที่ตั้งของพื้นที่ทำงานทั้งหมด คนงานที่จ้างมานั้นก็ให้จัดการแค่เรื่องภายนอกเท่านั้นหลังจากที่โรงงานทั้งหมดของเราเสร็จแล้วฉันจะแจ้งให้คังเซี่ยนส่งหน่วยรักษาความปลอดภัยมาเอง เราจะต้องรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุด”
เขวียนหน้าบากก็ได้ตอบกลับไปว่า
“บอส ผมเข้าใจแล้ว สูตรทุกอย่างที่คุณให้มาผมจะไม่เอาไปบอกใครแม้แต่คนเดียว หลังจากนี้ผมบอกเลยว่าความลับของเราจะไม่มีทางหลุดรอดออกไปจากที่นี่แน่นอน”
ถังซิ่วได้ตบไปที่บ่าของเขาแล้วพูดว่า
“เอาล่ะ ฉันเองก็พูดเรื่องที่ฉันควรพูดไปหมดแล้ว ฉันยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำเล็กน้อย”
“ผมจะออกไปส่งคุณ !”
เขวียนหน้าบากเองก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็ว
ถังซิ่วไม่ได้ปฏิเสธเขาพร้อมออกไปด้านนอก เขาค้นพบว่าที่แห่งนี้นั้นมันยากมากหากว่าจะต้องโบกรถสักคันและเขาเองก็ปฏิเสธการที่เขวียนหน้าบากจะขับรถไปส่งเขา ถังซิ่วได้เดินออกไปถึง2กิโลเมตรก่อนที่จะสามารถหารถได้
“น้องชายจะไปที่ไหนงั้นหรอ ?”
คนขับรถได้ถามออกมา
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“ไปที่โรงพยาบาลจีน”
“ได้เลย !”
คนขับรถได้ตอบตกลงก่อนที่จะขับรถไปส่งถังซิ่วอย่างรวดเร็ว ถังซิ่วนั้นไม่ได้เข้าไปในโรงพยาบาลทันทีแต่กลับเดินไปที่ธนาคารที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ
ตอนนี้เขาไม่ได้มีเงินติดตัวมากนักแต่เขานั้นได้ตอบตกลงกับกู่หยินเอาไว้แล้ว ถังซิ่วเองก็ได้เตรียมที่จะเก็บเงินเอาไว้ในบ้านยามฉุกเฉินเช่นกัน
ในธราคาร
คนที่มาทำรายการนั้นมีมากมายส่วนถังซิ่วเองก็ยืนรออยู่ที่มุมๆหนึ่ง ธนาคารแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่นักและมีอยู่เพียง3เค้าเตอร์เท่านั้น
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
คิ้วของถังซิ่วขมวดเข้าหากันเพราะเขาได้มองบัตรคิวและหน้าจอแสดงผล ด้านหน้าของเขามีคนอยู่23คนต่อแถวกันอยู่และมันมีตัวอักษรตั้งแต่ AและV และพนักงานที่อยู่ในช่องAนั้นก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่พนักงานที่จัดการช่วงVนั้นมีถึงสองคนทว่าที่ช่องนั้นกลับไม่มีคนแม้แต่น้อย
เกือบจะสี่โมงอยู่แล้ว ยังไม่รู้เลยว่าคนข้างหน้าจะใช้เวลาอีกนานไหม !”
ถังซิ่วได้ฝืนยิ้มออกมาก่อนที่จะส่ายศีรษะของเขา เขาตั้งใจว่าจะไปที่โรงพยาบาลจีนในวันนี้เพื่อพบกับหลี่ฮงจี้เพื่อจะบอกว่าเขาจะมาตรวจคนไข้ในวันพรุ่งนี้แต่ใครจะไปคิดว่าจะต้องเสียเวลามากมายขนาดนี้
ตอนนี้ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมแว่นกันแดดและได้ยินว่าเขามีชื่อว่าเฮ่าเชิน เขาได้เดินไปที่ช่อง V โดยทันที
คิ้วของถังซิ่วได้ขมวดเข้าหากันก่อนที่จะปรากฏความสงสัยในสายตาของเขา เขาได้เดินไปที่ผู้จัดการพร้อมกับพูดว่า
“สวัสดี จะบอกหน่อยได้ไหมว่าทำไมคนเมื่อกี้ถึงได้รับการบริการโดยทันที ? ผมได้รอมากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไม่ถึงคิวผมเลย ?”
ผู้จัดการหญิงวัยกลางคนที่ได้ยินคำพูดของถังซิ่วก็ได้ตอบกลับมาว่า
“ไหนเอาบัตรคิวมาดูหน่อยสิ”
ถังซิ่วก็ได้ยื่นไปให้เธอ
เมื่อผู้จัดการได้มองไปที่มันแล้วเธอก็ยื่นคืนไปให้ถังซิ่วพร้อมกับพูดว่า
“บัตรของคุณเป็นแบบธรรมดาแต่ของเขาเป็นแบบ VIP ดังนั้นจึงสามารถใช้บริการที่ช่องพิเศษได้ หากว่าคุณต้องการบริการแบบเขาก็สามารถไปเลื่อนระดับเป็นvipได้เช่นกัน”
ถังซิ่วได้ถามออกมาด้วยความสับสนว่า
“แล้วจะเป็นvipของธนาคารคุณได้อย่างไรกัน?”
ผู้จัดการเองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“เงินในบัญชีของคุณต้องไม่ต่ำกว่า1แสนและมันจะต้องไม่ต่ำกว่า2เดือน ในสองเดือนมานี้คุณมีเงินฝากเข้าตลอด1แสนไหม ?”
ถังซิ่วได้จ้องมองก่อนที่จะส่ายศีรษะแล้วพูดว่า
“ไม่ !”
ผู้จัดการเองก็มองเขาด้วยสายตาที่ดูถูกพร้อมกับพูดว่า
“ถ้าไม่มีก็รอไปซะ คนอื่นเองก็รอได้แล้วทำไมเธอถึงรอไม่ได้ !”
ท่าทางของถังซิ่วเองได้เปลี่ยนไปทันทีก่อนที่จะถามออกมาว่า
“ฉันเองก็ต้องการที่จะเป็นvipของธนาคารคุณแต่มันพอจะมีวิธีอื่นไหม ?”
ผู้จัดการเองก็แสดงท่าทางหมดความอดทนออกมาก่อนที่เธอจะพูดว่า
“ได้สิหากว่าคุณมีเงินในบัตรมากกว่า1ล้าน คุณมี ? คุณสามารถทำรายการมากกว่า1ล้าน ? หากว่าคุณทำได้ก็จะสามารถได้รับการบริการระดับvip”
เมื่อพูดจบเธอก็ไม่รอให้ถังซิ่วพูดต่อพร้อมกับเดินจากไป
ถังซิ่วนั้นได้ตามผู้จัดการไปพร้อมกับพูดว่า
“เมื่อกี้นี้บอกว่าหากผมทำรายการมากกว่า1ล้านก็จะได้รับการบริการใช่ไหม ?”
ผู้จัดการเองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“เธอก็ไปสิแต่ฉันขอบอกไว้ก่อนนะว่าหากว่าเธอเปลี่ยนเป็นแบบVแล้วแต่ไม่สามารถทำรายการได้มากกว่า1ล้าน พวกเขาจะไม่ทำรายการให้เธออย่างแน่นอน”
ชายหนุ่มที่เพิ่งมาทำรายการเมื่อครู่และบังเอิญไปได้ยินทำพูดของถังซิ่วนั้นถึงกับมองเขาพร้อมกับพูดออกมาด้วยความดูถูกว่า
“เฮ้เพื่อน ไม่มีเงินก็อย่าทำเก่งเลย ดูจากท่าทางของนายแล้วจะสามารถทำรายการมากกว่า1ล้านงั้นหรอ ? อย่าตลกไปหน่อยเลย....”
เมื่อพูดจบชายคนนั้นก็ได้เดินออกไปด้านนอกธนาคารทันที
โดนดูถูก ?
ถังซิ่วได้ฝืนยิ้มออกมาทันที
ทันใดนั้นถังซิ่วก็ได้ไปยืนตรงหน้าเค้าเตอร์Vทันทีพร้อมกับพูดว่า
“สวัสดี ถอนเงิน !”
พนักงานเองก็ได้รับบัตรของถังซิ่วไปพร้อมกับพูดว่า
“ต้องการถอนเท่าไหร่ค่ะ ?”
ถังซิ่วก็ได้ตอบกลับไปว่า
“เงินสด 1ล้าน !”
“เท่าไหร่นะคะ ?”
พนักงานเองก็ได้ถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
ถังซิ่วก็ได้ตอบอีกครั้งว่า
“1ล้าน !”
พนักงานคนนั้นได้ไปคุยกับหัวหน้าของเธอพร้อมกับหันหน้ากลับมามองที่ถังซิ่วพร้อมพูดว่า
“ต้องขออภัยอย่างสูงคะเพราะจำนวนเงินที่คุณต้องการนั้นสูงไปดังนั้นเราจึงไม่ได้เตรียมเงินมามากขนาดนั้น ดังนั้นต้องรบกวนให้คุณนัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้วเราจะเตรียมเงินไว้ให้ในวันพรุ่งนี้”
ถังซิ่วได้พูดต่อว่า
“ผู้จัดการฝ่ายต้อยรับของคุณได้บอกมาว่าหากต้องการได้รับบริการจากช่องนี้ก็จำเป็นต้องทำรายการที่มากกว่า1ล้าน ตอนนี้ฉันต้องการถอน1ล้านแล้วเธอกลับบอกฉันจะนัดหมายงั้นหรอ นี่มันจะไม่มากเกินไปหน่อยหรอ ?”
พนักงานคนนั้นก็ได้ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า
“ต้องขออภัยสำหรับการทำงานของเราด้วยนะค่ะ นี่เป็นกฏและเราเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้”
ถังซิ่วได้ขมวดคิ้วของเขาพร้อมกับพูดออกมาว่า
“งั้นบอกมาสิว่าฉันสามารถถอนได้มากสุดเท่าไหร่ ?”
พนักงานคนนั้นได้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“หากว่ามากกว่า5แสนก็จะต้องนัดหมายไว้ล่วงหน้าค่ะ”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“เอามา5แสน”
พนักงานคนนั้นได้เดินไปคุยกับหัวหน้าเธอพร้อมกับพูดว่า
“ท่านค่ะ โปรดมาที่ห้องvipของเราข้างๆนี้เพราะเราเกรงว่าจำนวนเงินที่ท่านถอนนั้นมีเยอะมากและเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงอันตราย”
“รบกวนด้วย !”
ถังซิ่วได้ถอนหายใจออกมาพร้อมมีความคิดที่จะเปิดธนาคารของตัวเอง อย่างไรก็คามหลังจากที่คิดแล้วมันมีปัญหามากเกินไป มันจำเป็นต้องใช้เส้นสายทางภาครัฐดังนั้นตอนนี้เขาจึงทำได้แค่คิดเท่านั้น
ระหว่างที่กำลังถือกระเป๋าที่ธนาคารเตรียมไว้ให้นั้นถังซิ่วก็ล้มเลิกความคิดที่จะไปที่โรงพยาบาลพร้อมมุ่งหน้ากลับไปที่วิลล่าของเขา หลังจากที่กลับไปถึงแล้วถังซิ่วก็ได้โทรไปหาหลี่ฮงจี้แล้วบอกว่าเขาจะเข้าไปตรวจคนไข้ในวันพรุ่งนี้ เมื่อหลี่ฮงจี้ได้ยินเช่นนั้นก็ทำให้เขามีความสุขเป็นอย่างมาก
หลังจากที่กู่หยินได้เรียนพิเศษในช่วงเย็นแล้วถังซิ่วก็ได้พูดคุยกับเธอพร้อมเอาให้เงินเธอไป2หมื่นหยวน
โรงแรมเมืองสตาร์ซิตี้
หยางเซียนหยูกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องพร้อมกับภรรยาของเขาที่นอนหมดสติอยู่บนเตียง
“ริ้งงงงงง ริ้งงงงงงงงงง”
เสียงเรียกเข้าได้ดังขึ้นพร้อมกับพบว่านี่เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว เขารู้ดีว่าคนปกติคงไม่โทรมาหาเขาในเวลานี้ เมื่อเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหมายเลขผู้โทรนั้นท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปพร้อมกับกดปุ่มตอบรับทันที
“สวัสดีผู้อำนวนการหลี่ ฉันหยางเซียนหยู”
“คุณหยาง ฉันรบกวนการพักผ่อนของคุณหรือเปล่า ?”
เสียงหัวเราะของหลี่ฮงจี้ได้ดังออกมาจากปลายสาย
หยางเซียนหยูเองก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“ฉันยังไม่นอน ผู้อำนวยการหลี่ คุณโทรมาก็เพราะถังซิ่วกำลังจะเตรียมที่จะตรวจคนไข้ใช่ไหม ?”
หลี่ฮงจี้เองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“ใช่แล้ว เมื่อกี้นี้เขาเพิ่งโทรมาหาฉันและจะมาที่นี่ในวันพรุ่งนี้เช้า หากว่าคุณยังอยู่ในเมืองนี้ก็ขอให้มาด้วยแล้วกัน ! ไอ้เจ้าแก่เจียงเฟิงนั้นพูดเรื่องนี้ให้ฉันฟังอยู่บ่อยๆ”
หยางเซียนหยูเองก็ได้พูดออกมาว่า
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากๆ หากว่าเสร็จเรื่องนี้แล้วฉันจะขอดื่มกับคุณ”
“เอาล่ะ”
การสนทนาได้สิ้นสุดลง
ได้ปรากฏความรู้สึกตื่นเต้นขึ้นบนใบหน้าหยางเซียนหยู ก่อนหน้านี้เขานั้นได้ทนทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก เขาได้พาภรรยาของเขาไปหาหมอทั่วเมืองแห่งนี้แล้วแต่ก็ไม่มีใครสามารถรักษาเธอได้เลยเพราะฉะนั้นความหวังทั้งหมดของเขานั้นอยู่ที่ถังซิ่ว
หลังจากนั้นเขาก็ได้โทรไปหาลูกของเขาให้มาที่นี่ทันทีโดยให้ละทิ้งทุกอย่างที่กำลังทำอยู่พร้อมกับโทรไปหาเจียงเฟิงเพื่อขอบคุณเขา
“เพื่อนหยาง เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปี นายไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก นายรีบๆพักผ่อนเถอะแล้วฉันจะไปที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนนายเอง”
เจียงเฟิงเองก้ได้พูดออกมาระหว่างการสนทนาของพวกเขา
หยางเซียนหยูเองก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถามออกมาว่า
“เพื่อนเจียง นายจะไปด้วย ?”
เจียงเฟิงเองก็ชะงักทันทีพร้อมกับพูดออกมาอย่างขมขื่นว่า
“ถ้านายไม่พูดนี่ฉันคงลืมไปแล้ว ฉันกับเขาเองก็ขัดแย้งกันเล็กน้อย ช่างมันเถอะ”
หยางเซียนหยูเองก็ได้พูดออกมาว่า
“หรือว่านายจะไปกับฉัน ! เรื่องก่อนหน้านี้มันก็จบไปแล้ว ฉันคิดว่าเขาคงไม่ใช้คนที่แค้นฝังใจอะไรหรอก”