Returning From The Immortal World - 96
.......................................................................................................................................................................................
คนที่มานั้นเป็นนักพรตเฒ่าที่สวมเสื้อคลุมของลัทธิเต๋าและผูกผมในขณะที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
"คุณคือ?"
ฮูซิงหยูซึ่งเป็นผู้จัดการแผนกต้อนรับของวิลล่าได้ยืนขึ้นทันทีที่ได้เห็นนักพรตเฒ่านี้เข้ามาในห้องอาหารอย่างไม่ได้รับเชิญ เพราะยังไงก็ตามหากเจี่ยหลุยเดาและถังซิ่วไม่ต้องการพบกับพรตเฒ่าผู้นี้ มันเป็นหน้าที่ของเขาที่จะส่งนักพรตนี่ออกไป
สายตาของพรตเฒ่าคนนั้นได้กวาดไปรอบๆห้องพร้อมหยุดอยู่ที่หน้าถังซิ่ว จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า
"ฉันนั้นมาจากวัดหยางม่วงที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ชื่อของฉันนั้นคือพรตเฒ่าซือยี่และฉันได้ถูกเชื้อเชิญให้มาเป็นแขกของใครบางคนที่เกาะจิงเหมินและบังเอิญไปได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับห้องอาหารร้อยงานฉลองเข้า ถึงได้มาเยี่ยมเยือนคุณถังผู้เจริญที่นี่ "
เจี่ยหลุยเดาถามด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกว่า
"คุณรู้ได้อย่างไรว่าพี่ชายถังนั้นอยู่ที่นี่?"
นักพรตได้ตอบด้วยรอยยิ้มว่า
"คุณคงเป็นคุณเจี่ยผู้เจริญ ? เมื่อก่อนหน้านี้มีคนที่จำเกี่ยวกับคุณได้และยิ่งไปกว่านั้นคือเมื่อคืน คุณได้อยู่กับคุณถังผู้เจริญดังนั้นพรตเฒ่าคนนี้จึงเดาว่านี้ควรเป็นคุณถังผู้เจริญ”
ถังซิ่วพยักหน้าและตอบกลับว่า
"ผมถังซิ่ว คุณมีเรื่องอะไรถึงต้องการมาหาผมงั้นหรอ? "
พรตเฒ่าซือยี่ตอบด้วยรอยยิ้มว่า
"พรตเฒ่านี้อยากตะมาขอเชิญชวนคุณถังผู้เจริญให้มาร่วมมือด้วยกันในการสำรวจอาณาเขตทะเลมังกรอันชั่วร้าย ไม่ทราบว่าคุณถังผู้เจริญสนใจไหม? "
"อาณาเขตทะเลมังกรแห่งความชั่วร้าย?"
ถังซิ่วไม่เคยได้ยินชื่อดังกล่าวพร้อมเอ่ยปากถามทันทีว่า
"อาณาเขตทะเลมังกรแห่งความชั่วร้ายนั้นอยู่ที่ไหน? เราจะเข้าไปในที่แห่งนั้นเพื่ออะไร? "
นักพรตเฒ่าได้ถามกลับด้วยความรู้สึกประหลาดใจว่า
"คุณถังผู้เจริญไม่รู้จักอาณาเขตทะเลมังกรแห่งความชั่วร้าย?"
"ฉันไม่รู้!"
ถังซิ่วส่ายหัว
พรตเฒ่าจึงได้พูดต่อว่า
"อาณาเขตทะเลมังกรแห่งความชั่วร้ายนั้นตั้งอยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์จากเกาะจิงเหมิน เป็นช่องแคบเล็กๆในทะเลจีนใต้ และเพราะวัดหยางม่วงของเรานั้นมีความสามารถที่พิเศษในการกลั่น ดังนั้นฉันจึงมีแผนว่าจะไปรวบรวมชิ้นส่วนสัตว์อสูรและแร่ธาตุพิเศษบางอย่างจากที่นั่น ดังนั้นจึงได้เตรียมที่จะล่าและฆ่าสัตว์อสูร แต่ยังไงก็ตามพรตเฒ่าคนนี้ตระหนักได้ถึงความแข็งแกร่งของตัวเองดี ถ้าหากว่าจะต้องไปคนเดียวนั้นมันก็ยากมากที่จะกลับมาเป็นๆได้ ดังนั้นฉันจึงได้มาที่นี้เพื่อเชิญชวนคุณถังผู้เจริญให้ไปด้วยกัน"
อาณาเขตทะเลมังกรแห่งความชั่วร้าย?
ฆ่าสัตว์อสูร?
และหาแร่พิเศษ?
ใจของถังซิ่วนั้นสั่นโดยทันทีพร้อมกับถามอย่างรวดเร็วว่า
"เราจะออกเดินทางเมื่อไหร่? แค่พวกเราสองคนเท่านั้น? "
พรตเฒ่าตอบด้วยรอยยิ้มว่า
"ดูเหมือนว่าคุณถังผู้เจริญจะตอบตกลง ใช่เราสองคนเท่านั้น จริงๆแล้วพรตเฒ่าคนนี้เองก็อยากจะเชิญคนอื่นเช่นกันแต่ฉันมีเพื่อนเพียงไม่กี่คนเท่า นอกจากนี้ยังไม่มีวิธีที่จะเชื้อเชิญผู้บ่มเพาะพลังคนอื่นๆบนเกาะนี้ได้เลย "
ถังซิ่วเงียบครู่หนึ่งขณะที่ใบหน้าของคน2คนได้ปรากฏขึ้นมาทันที พวกมันเป็นใบหน้าของเหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิง เขากำลังพิจารณาว่าควรจะเชิญพวกเขาทั้งสองไปด้วยกันหรือไม่
คนอื่นๆอาจไม่ค่อยรู้เรื่องนี้แต่เขารู้ตัวดีว่าตัวเองนั้นมีระดับพลังเพาะปลูกแค่เพียงขั้นรวบรวมพลังฉี ถ้าหากต้องสู้กับถูกเขาทั้งสองคน ถังซิ่วนั้นจะถูกฆ่าตายในพริบตา
ยิ่งมีผู้ช่วยมากเท่าไรก็ยิ่งมีโอกาสรอดมากขึ้น
ถังซิ่วตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและพูดต่อว่า
"เนื่องจากพรตเฒ่าซือยี่ไม่สามารถเชิญคนอื่นมาได้ ฉันจะเชิญมาสองคน!และถ้าให้พูดตามตรงนั้นฉันเองก็จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบจากสัตว์อสูรพวกนั้นเหมือนกันและเอาเป็นว่า ทุกสิ่งที่เราเก็บเกี่ยวมาได้นั้นจะแบ่งเท่ากันทุกคน ตกลงไหม? "
พรตเฒ่าซือยี่ลังเลเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพยักหน้าแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า
"ฉันจะปฏิบัติตามคำพูดของคุณถังผู้เจริญ"
ถังซิ่วเอามือถือของเขาออกมาพร้อมกับนามบัตรของเหมี่ยวเหวินถังและโทรไปที่เบอร์นั้น
ณ ตอนนี้…
เหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิงกำลังพักอยู่ที่โรงแรมระดับ5ดาวและกำลังพูดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในพาราไดซ์คลับให้เซ่าหมิงเซิงฟัง เมื่อได้ยินเรื่องที่เล่ามานั้น เขาก็แอบเสียใจมากที่ไม่ได้ไปดูในวันนั้น
"เย่ไทฟูนั้นพ่ายแพ้อย่างไม่เป็นธรรมซักเท่าไหร่เลย การไปเทียบสายตาและความเร็วกับคนที่มาจากโลกของการบ่มเพาะพลังนั้นเป็นการเพิ่มปัญหาให้ตัวเองเท่านั้น อย่างไรก็ตามการกระทำและสไตล์ของถังซิ่วนั้นเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้จริงๆ เขาเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่มีเกียรติ แต่เขาก็ออกไปช่วยคนในการเล่นพนัน ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่น่าสนใจ! "
เซ่าหมิงเซิงได้พูดออกมาพร้อมหัวเราะ
เหมี่ยวเหวินถังยังคงยิ้มอยู่
"จริงอย่างที่สุด! ผู้บ่มเพาะพลังนั้นจะมุ่งมั่นส่งเสริมการบ่มเพาะพลังของพวกเขาอย่างจริงจัง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นผู้บ่มเพาะพลังไปเล่นการพนัน อย่างไรก็ตามฉันได้ขอโทษถังซิ่วสำหรับความขัดแย้งเล็กน้อยก่อนหน้านี้ไปแล้ว แต่ถ้าเขาไม่ยกโทษให้ฉัน ฉันเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วเหมือนกัน "
เซ่างหมิงเซิงส่ายหัวและพูดว่า
"ฉันไม่คิดอย่างนั้นหรอก ถังซิ่วไม่ใช่คนใจแคบที่จะแบกรับความเสียใจจากสิ่งเล็กๆ ในเมื่อคุณขอโทษเขาไปแล้ว ฉันไม่คิดว่าเขาจะยึดติดกับเรื่องนี้ "
"ฉันเองก็หวังว่าอย่างนั้น!"
เหมี่ยวเหวินถังพูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่ฝืนๆ
เซ่าหมิงเซิงไม่ได้พูดถึงหัวข้อนี้อีกต่อไปและพยายามเปลี่ยนไปพูดถึงเรื่องอื่นแทน
"พี่ชายเหมี่ยว คุณได้รับบัตรเชิญเข้าร่วมการประมูลดอกชงโคประจำปีนี้หรือยัง? เหตุผลที่แท้จริงที่ฉันรีบแจ๋นมาที่เกาะนี่นั้นมีสองข้อ ข้อแรกคือฉันอยากจะทดสอบค่ายกลพันโคจรนั้นและอีกข้อก็คือการประมูลนี้ "
เหมี่ยวเหวินถังได้ตอบด้วยรอยยิ้มว่า
"จริงๆฉันเองก็คิดแบบเดียวกัน โชคดีที่เมื่อวานนี้มีเพื่อนนักธุรกิจของฉันได้ให้บัตรเข้างานมาบ้าง ช่วงบ่ายนี้เราไปที่นั่นกันเถอะ อย่างไรก็ตาม ฉันต้องเตือนคุณก่อนนะว่าตอนนี้ฉันเตรียมเงินไว้มากพอที่จะซื้อของเล็กๆน้อยๆที่ฉันต้องการได้! "
เซ่าหมิงเซิงหัวเราะเบาๆ
"แบร่ ฉันไม่แข่งกับนายหรอก ถึงยังก็ตามการประมูลนี่ไม่ค่อยจะมีของที่พวกเรานักบ่มเพาะพลังต้องการอยู่แล้วหนิ"
"ฉันรู้!"
เหมี่ยวเหวินถังพยักหน้าตอบ
"ริ้งงงงงงง ริ้งงงงงงงง ริ้งงงงงงงงงง... "
ริงโทนโทรศัพท์มือถือได้ดังขึ้นพร้อมขัดจังหวะการสนทนาของพวกเขา
เหมี่ยวเหวินถังเอาโทรศัพท์ออกมาและพบว่าหมายเลขผู้โทรนั้นไม่คุ้นเคย ถ้าเป็นปกติแล้วเขาคงจะกดวางโดยทันที แต่หลังจากที่ได้มีภาพของถังซิ่วปรากฎขึ้นภายในจิตใจของเขานั้น เขารีบโยนความคิดนั้นทิ้งโดยทันทีพร้อมกับกดรับสาย
"ฉันเหมี่ยวเหวินถัง นี่ฉันกำลังพูดอยู่ใคร?"
"ฉัน ถังซิ่ว!"
เสียงของถังซิ่วถูกส่งผ่านทางสายโทรศัพท์
ดวงตาของเหมี่ยวเหวินถังหดลงเล็กน้อยก่อนจะรีบถามออกมาด้วยความรู้สึกยินดีว่า
"คุณถัง คุณโทรมาหาเพราะมีเรื่องอะไรจะให้ผมช่วยงั้นหรอ? "
"ใช่! คนที่ชื่อว่าพรตเฒ่าซือยี่ได้ชวนฉันไปล่าสัตว์อสูรในอาณาเขตทะเลมังกรแห่งความชั่วร้าย คุณสนใจที่จะไปกับเราหรือไม่? "
เหมี่ยวเหวินถังรีบเหลือบตาของเขาไปมองที่เซ่าหมิงเซิงและพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกว่า
"ฉันรู้จักกับพรตเฒ่าซือยี่และเป็นเพื่อนกับเขามานานกว่า20ปีแล้ว ฉันต้องการที่จะเข้าร่วมกับคุณแต่ฉันสามารถนำคนอื่นไปได้หรือไม่? พอดีว่าเซ่าหมิงเซิงนั้นอยู่ที่นี้พอดี?
"ดีเลย!"
ถังซิ่วได้ตอบทันที
เหมี่ยวเหวินถังได้ถามต่อว่า
"เราจะออกเดินทางเมื่อไหร่? แล้วเราจะไปเจอกันที่ไหน? "
ถังซิ่วได้ตอบเขาว่า
"ถ้าเป็นไปได้ คุณมาที่วิลล่าช่องแคบนี่และมองหาฮูซิงหยู เขาจะพาคุณมาหาเรา "
"เอาล่ะๆเราจะรีบไปทันที"
การโทรสิ้นสุดลง ...
เหมี่ยวเหมินถังได้เล่าถึงคำพูดของถังซิ่วอีกครั้งในขณะที่เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่และพูดออกมาว่า
"พี่เซ่า,ถังซิ่วนั้นดูเหมือนจะเป็นคนใจกว้างจริงๆ เขาเชิญเราไปสำรวจอาณาเขตทะเลมังกรแห่งความชั่วร้ายเพื่อล่าสัตว์อสูร ฉันคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา "
เซ่าหมิงเซิงลุกขึ้นยืนและตอบด้วยรอยยิ้มว่า
"นี่เป็นโอกาสที่สวรรค์ส่งมา อย่างไรก็ตามอาณาเขตทะเลมังกรแห่งความชั่วร้ายนั้นเป็นสถานที่ที่อันตรายมาก ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังในการเดินทางครั้งนี้เป็นอย่างมาก ไปกันเถอะ!"
"อืม!"
ในวิลล่าช่องแคบ ถังซิ่วเก็บโทรศัพท์ไว้และมองไปที่พรตเฒ่าซือยี่ขณะที่เขาพูดว่า
"โปรดนั่งที่นี่และกินอาหารด้วยกัน!ฉันเชื่อว่าสองคนที่ฉันได้เชิญจะมาหลังจากที่เรารับประทานอาหารกลางวันกันเสร็จแล้ว ฉันไม่มีเวลามากดังนั้นเมื่อเราบรรลุข้อตกลงกันแล้ว เราจะออกไปทันทีหลังจากที่พวกเขามาถึง "
พรตเฒ่าซือยี่ตอบด้วยรอยยิ้มว่า
"อ๊ะ ฉันคนนี้ไม่ได้คาดคิดว่าคุณถังผู้เจริญจะรวดเร็วและเด็ดขาดถึงเพียงนี้ ฉันชื่นชมคุณจริงๆและจะปฏิบัติตามสิ่งที่คุณพูด"
เจี่ยหลุยเดาได้มองไปที่ถังซิ่วและนักพรตเฒ่าซือยี่ และพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในวงสนทนาที่พิเศษและเขาไม่สามารถพูดอะไรขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนที่มีบุคลิกที่ลื่นไหลดั่งสายน้ำ ดังนั้นเขาจึงได้เชิญให้นักพรตนั่งลงและสร้างความบันเทิงให้เขาโดยทันที
อาหารกลางวันอร่อยมาก อร่อยถึงขนาดที่ถังซิ่วรู้สึกว่ามันค่อนข้างหรูหราเกินไปด้วยซ้ำและทำให้เขารู้สึกแห้วในเวลาเดียวกัน ด้วย ยกตัวอย่างเช่นสองวัตถุดิบหลักของส่วนผสมใจจานนี้คือเนื้อสัตว์อสูรที่ดี หากเนื้อเหล่านี้ถูกนำมามอบให้เขาแล้วละก็ เขาจะสามารถนำมันไปกลั่นเป็นน้ำยาระฆังทองได้อย่างแน่นอน
“โชคร้ายที่พลังวิญญาณของมันนั้นได้ถูกดูดออกไปจนเกลี้ยงแล้ว ดังนั้นเนื้อนี่จึงไม่มีประโยชน์ใดๆสำหรับร่างกายของฉันเลย”
อาหารของเขาก็หมดเรียบร้อยขณะที่เขากำลังถอนหายใจ
ก่อนหน้านี้เจี่ยหลุยเดานั้นต้องการจะพาถังซิ่วไปทำอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย แต่เมื่อเห็นว่าถังซิ่วนั้นยังมีอะไรที่ต้องทำหลังจากนี้ เขาจึงได้พาเหล่าลูกศิษย์ทั้งสามคนของเขากลับไป ส่วนถังซิ่วเองก็ไม่ได้รั้งเขาไว้และยืมมองพวกเขาจากไปอย่างเงียบๆ
"คุณถังผู้เจริญ ตาเฒ่าคนนี้ได้ยินมาว่าคุณสามารถที่จะฝ่าเข้าไปถึงค่ายกลพันโคจรชั้นที่หกได้ คุณนั้นมันน่าทึ่งจริงๆ ฉันเองก็เคยได้ไปท้าทายค่ายกลนั่นแล้วเหมือนกัน แต่ว่าน่าเสียดายที่ตาเฒ่าคนนี้ทำได้แค่ฝ่าไปถึงชั้นสามเท่านั้นและต้องถอนตัวออกมาอย่างรวดเร็ว "
นักพรตเฒ่าซือยี่พูดขณะที่กำลังนั่งมองหน้าของถังซิ่ว
ถังซิ่วส่ายหัวและตอบว่า
"ระดับพลังบ่มเพาะของฉันต่ำมากและความแข็งแกร่งของฉันนั้นอ่อนแอมาก แต่อย่างไรก็ตาม ฉันมีความรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับค่ายกล ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ฉันมีอำนาจมากกว่าเมื่อเทียบกับผู้บ่มเพาะพลังคนอื่นๆที่ได้เข้าไปในค่ายกลนั้น เมื่อเราไปถึงที่อาณาเขตทะเลมังกรแห่งความชั่วร้ายแล้ว ฉันคิดว่าฉันคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย”
นักพรตเฒ่าซือยี่ลังเลและเงียบไปชั่วครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า
"คุณถังผู้เจริญ คุณไม่จำเป็นต้องดูถูกตัวเอง ในความเห็นของฉัน ปรมาจารย์ด้านค่ายกลนั้นแข็งแกร่งว่าผู้บ่มเพาะพลัง เมื่อถึงเวลานั้นคุณก็แค่วางค่ายกลสำหรับการฆ่า จากนั้นพวกเราก็จะล่อเหล่าสัตว์อสูรพวกนั้นเข้าไปในค่ายกลของคุณและจัดการมันซะ ดังนั้นการล่าของเราจะทำได้ง่ายขึ้นมาก "
ถังซิ่วเข้าใจคำพูดของเขาได้อย่างรวดเร็วขณะที่เขาพยักหน้าและตอบว่า
"มันจะไม่เป็นปัญหาในการวางค่ายกล แต่ฉันต้องการวัสดุบางอย่างเพื่อวางมัน"
พรตเฒ่าได้ถามกลับทันทีว่า
"วัสดุชนิดใด?"
ถังซิ่วได้ตอบกลับว่า
"หยก ยิ่งคุณภาพดีประสิทธิภาพของค่ายกลก็จะดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ฉันยังจะต้องแกะสลักเครื่องรางสำหรับใช้ในค่ายกลเหล่านั้น”
พรตเฒ่าก็รีบตอบด้วยรอยย้อมว่า
"นี่เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับหยกอยู่บนเกาะนี้ ฉันจะติดต่อเขาตอนนี้เลยและรีบให้เขาส่งหยกพวกนั้นมาให้เร็วที่สุด ส่วนสำหรับเครื่องรางนั้นคงต้องขอช่วยคุณถังผู้เจริญแล้วหละ "
"ไม่เป็นไร!"
และได้พูดต่อทันทีว่า
"การจะสลักเครื่องรางนั้น ฉันจำเป็นที่จะต้องซื้อวัสดุบางอย่างก่อน เอาอย่างงี้ คุณรอสองคนนั้นอยู่ที่นี่และฉันจะรีบออกไปซื้อของเหล่านั้น เมื่อฉันกลับมาแล้วเราจะเริ่มกันทันที “
“เยี่ยม!”