ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 88
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 90

Returning From The Immortal World - 89


.......................................................................................................................................................................................

คิ้วของชูยี่เหี่ยวย่นในขณะที่เขามองไปที่ถังซิ่วไม่กี่ครั้ง เขายักไหล่ของเขาแล้วพูดว่า

"คุณก็มีชื่อว่าถังซิ่ว? ดูเหมือนว่าชื่อนี้เป็นที่นิยมมากและผู้คนจำนวนมากมีชื่อนี้ เห็นแก่ชื่อของคุณฉันจะให้โอกาสพวกคุณซักครั้ง พรุ่งนี้เจอกันที่พาไรไดซ์คลับ "

"อย่าหนีไปไหนจนกว่าจะเจอกันหละ!"

ด้วยความที่กลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะเห็นถึงความตื่นเต้นของเขา เจี่ยหลุยเดาไม่รอถังซิ่วและรีบพูดออกไป

ชูนี่แสยะปากเบาๆพร้อมเดินไปทางห้องอาหารร้อยงานฉลองส่วนเฉินไกที่กำลังเดินตามหลังเขานั้นได้หันกลับมาแสดงท่าทางกรีดคอตัวเองไปที่เจี่ยหลุยเดาก่อนที่เขาจะจากไป

10 นาทีต่อมา ...

ภายในห้องรับประทานอาหารแบบส่วนตัวบนชั้นสองของห้องอาหารร้อยงานฉลอง ผู้จัดการร้านอาหารยิ้มในขณะที่ถือขวดไวน์มา เธอมองไปที่คนหลายคนก่อนที่วิสัยทัศน์ของเธอตกลงไปที่เฉินไก เธอยิ้มและกล่าวว่า

"นายน้อยเฉิน เร็วๆคุณไม่ค่อยมาที่ห้องอาหารนี้นัก หรืออาจจะเป็นเพราะว่าบริการของเรานั้นไม่ประทับใจ? "

เฉินไกรีบโบกมือพร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า

"ไม่ได้เป็นอย่างนั้นแน่นอนแต่เป็นเพราะเมื่อเร็วๆนี้ผมกำลังตกปลาและมีปลาใหญ่มาติดเบ็ดจริงๆด้วย ดังนั้นผมถึงได้ไม่มีเวลามาที่แห่งนี้ ดูสินี่คือแขกผู้มีเกียรติสองคนจากเมืองของจักรพรรดิ ผมได้มาพวกเขามาเยี่ยมที่นี้ พี่ชายชูและพี่ชายใบผมขอแนะนำเธอคือผู้จัดการร้านอาหารแห่งนี้ "

ชูยี่และใบเต่าเหลือบมองไปที่กันและกันพวกเขาเป็นคนฉลาดที่ได้หมกอยู่ในโลกธุรกิจมาเป็นเวลาหลายปี ประสบการณ์ได้ทำให้พวกเขาเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาสามารถบอกได้ว่าคนๆนี้ที่สามารถทำให้เฉินไกแนะนำด้วยตัวเองได้นั้นต่อให้เป็นแค่ผู้จัดการก็จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน

ทั้งสองคนได้พยักหน้าให้แก่ผู้จัดการ

ผู้จัดการร้านอาหารพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

"โอ้ยินดีตอนรับแขกผู้มีเกียรติทั้งสอง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันนี้มีแต่งานฉลองซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ก็น่าเสียดายที่คุณได้มาสายเกินไปและไม่มีโอกาสดูการแสดงที่ยิ่งใหญ่คืนนี้ ฉันกลัวว่ามันจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับคุณที่จะเห็นมันอีกแม้แต่ใน1-2 ปี "

เฉินไกสับสน

"การแสดงนั้นมันคืออะไร ? "

ผู้จัดการร้านอาหารตอบว่า

"นายน้อยเฉิน ในเมื่อคุณเป็นเป็นผู้อุปถัมภ์ของเราคุณควรจะรู้เกี่ยวกับค่ายกลพันโคจรของเราใช่ไหม? เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมามีผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยายุทธ3คนได้ท้าทายค่ายกลนั่น พวกเขาสองคนสามารถฝ่าเข้าไปที่ชั้น3ได้และกลายเป็นแขกผู้มีเกียรติของเราและอีกหนึ่ง ... "

ตอนนี้คำพูดของเธอหยุดลง

เฉินไกก็ลุกขึ้นยืนขณะที่ถามด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

"จริงเหรอ? มีคนผ่านไปได้?และถึง2คน?สุดยอด สุดยอดจริงๆ แล้วแขกผู้มีเกียรติทั้งสองนั้นได้จากไปแล้ว?ฉันต้องการไปเยี่ยมพวกเขาด้วยตังเอง! "

ผู้จัดการร้านอาหารตอบด้วยน้ำเสียงที่น่าเสียใจว่า

“พวกเขาจากไปแล้ว!”

ชูยี่ได้พูดขัดว่า

"เฮ๊ เฉินไกอย่าไปพูดแทรก เมื่อกี้เธอยังพูดไม่จบ”

ดวงตาของผู้จัดการร้านกลิ้งไปมาแล้วพูดต่อว่า

"อ๊ะผู้เชี่ยวชาญอีกคนที่ทำลายค่ายกลพันโคจรนั้นยังเป็นแค่เด็กอยู่ แต่เขาก็สามารถฝ่าผ่านไปได้ถึงชั้นที่5และหลังจากที่เขาเข้าสู่ชั้นที่หกแล้วเขาก็ออกมา จนถึงวันนี้เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุดในห้องอาหารร้อยงานฉลองของเรา แม้แต่นายหญิงน้อยของเราเองยังตกใจเลย "

"อะไร? นายหญิงน้อยไปดูการแสดงด้วยอย่างนั้นหรอ? "

เฉินไกพึ่งได้นั่งลงแต่เขาก็กระโดดขึ้นมาอีกครั้ง

"ใช่!"

ผู้จัดการร้านตอบ

ความรู้สึกเสียใจอย่างลึกซึ้งได้เกิดขึ้นบนใบหน้าของเฉินไกในขณะที่เขาพูดออกมาว่า

"เฮ้อ ถ้าผมรู้ก่อนหน้านี้ผมจะนำพี่ใหญ่ชูและพี่ใหญ่ใบมาที่นี่! เวรเอ๋ย! นี่มันเป็นเรื่องน่าเสียดายจริงๆ! "

ชูยี่ที่กำลังจ้องมองที่เฉินไกด้วยความโกรธได้หันไปมองที่ผู้จัดการร้านอาหารแล้วถามว่า

"คุณบอกว่าผู้เชี่ยวชาญคนนั้นเป็นเด็กหนุ่ม? เขาชื่อว่าอะไร?"

"ถังซิ่ว!"

ผู้จัดการร้านตอบด้วยรอยยิ้ม

"อะไรนะ?"

"เขาชื่อว่าอะไรนะ?"

ชูยี่และใบเต่าโห่ร้องออกมาแทนจะในเวลาเดียวกัน

การแสดงออกของความสับสนปรากฏขึ้นเล็กน้อยบนใบหน้าของผู้จัดการร้านอาหารขณะที่เขาพูดต่อว่า

"ใช่ชื่อของเขาคือถังซิ่ว! ฉันรับผิดชอบในการบันทึกการลงทะเบียนดังนั้นฉันจึงรู้ชื่อและอายุของเขา "

ชูยี่ได้ปิดตาของเขาสักครู่ก่อนที่จะเปิดมันขึ้นมาพร้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรออกไปยังหมายเลขหนึ่ง

"ใครกันเนี้ย? กำลังจะหลับฝันดีแท้ๆเชียวและคุณโทรมาหาฉันตอนนี้? "

เสียงโวยวายดังขึ้นจากโทรศัพท์

ชูยี่ได้พูดว่า

"นายน้อยหลงนี่ฉันเองชูยี่ อย่าพึ่งหลับฉันมีเรื่องบางอย่างอยากจะสอบถามคุณ "

"เรื่องอะไรหละ?"

ชูยีถามว่า

"ไอดอลที่คุณบูชาที่มีชื่อว่าถังซิ่วนั้นอยู่ไหนในตอนนี้?"

"ถังซิ่ว? อ่าดูเหมือนว่าเขาจะไปที่เกาะจิงเหมินนะ น้องชายของฉันได้บอกมาตอนที่ทานข้าวเย็นกันวันนี้ มีอะไรงั้นหรอ? ทำไมถึงถามเรื่องถังซิ่วในตอนนี้ล่ะ? "

รอยยิ้มที่ขมขื่นโผล่ขึ้นมาบนใบหน้าของชูยี่จากนั้นเขาก็เหลือบมองหน้าตาที่โง่เขลาที่อยู่บนใบหน้าของใบเต่าและพูดด้วยเสียงอันหดหู่ว่า

"ถ้าฉันเดาไม่ผิด วันนี้ฉันได้พบกับเขาและได้มีปัญหากันเล็กน้อย"

จิตวิญญาณของหลงเซ้งหยูราวกับกำลังตื่นตระหนกและถามอย่างรวดเร็วว่า

“เฮ้! มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ?”

จากนั้นชูยี่ก็ได้เล่าถึงเหตุการณ์ทั้งหมดก่อนที่เขาจะพูดว่า

"นายน้อยหลงคุณรู้บ้างไหมว่า อ่า! ไอดอลของคุณดูเหมือนว่าจะสร้างเรื่องที่น่าอัศจรรย์ที่ทำให้ทั้งเกาะสั่นคลอนได้เชียวหละ "

หลงเซ้งหยูได้พูดต่อว่า

"จากคำพูดของคุณแล้วมันควรจะเป็นเขา ถังซิ่วรู้จักเจี่ยหลุยเดาจริงๆ คุณจำได้ไหมว่าถังซิ่วเคยได้ช่วยฉันครั้งเดียว? เขาเป็นคนนั้นแหละที่เอาชนะเจี่ยหลุยเดาในการแข่งขันการพนัน ฉันไม่ได้คาดหวังว่าพวกเขาจะมีสายสัมพันธ์กัน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่มาก ฉันจะโทรหาถังซิ่วและบอกเขาเกี่ยวกับตัวคุณ แต่เกี่ยวกับจี้หยกนั่น ... "

"ฉันจะคืนมันให้เขา"

หลงเซ้งหยูพูดอย่างรวดเร็วว่า

"ไม่! ถังซิ่วอาจดูเหมือนเขาเป็นคนที่เป็นมิตรแต่ในกระดูกดำของเขานั้นเป็นคนที่หยิ่งผยองมาก ถ้าหากคุณให้จี้หยกเขาคืนแบบนี้นั่นเท่าแต่จะทำให้เขารู้สึกรังเกียจ ยิ่งไปกว่านั้นฉันขอแนะนำให้คุณไม่ตั้งใจยอมแพ้บนโต๊ะพนันเพราะเขาฉลาดมากและเขาจะมองมันออก เมื่อเขาตระหนักถึงเรื่องนี้แล้วเขาจะคิดว่าการชนะของเขาเป็นเพียงการหลอกลวง ความประทับใจของเขาเกี่ยวกับพวกคุณก็จะเลวร้ายลงยิ่งกว่าเดิมเท่านั้น "

"นี่ ... "

ทันใดนั้นชูยี่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าจี้หยกที่เขาพึ่งได้มากลายเป็นมันฝรั่งร้อนๆเขาจ้องไปที่เฉินไกด้วยแววตาที่โกรธจัดและพูดด้วยน้ำเสียงมืดมน

"ได้!ฉันรู้ว่าจะทำอย่างไรดีและขอบคุณ ราตรีสวัสดิ์"

ชูยี่สิ้นสุดการโทรและส่งผู้จัดการร้านอาหารออกไป เขามองไปที่ใบเต่าและกล่าวว่า

"คนที่เราพึ่งเจอวันนี้ต้องเป็นเขาไม่ผิดแน่ "

การแสดงออกของใบเต่ากลายเป็นซับซ้อนพร้อมพูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่ฝืนๆ

"ถังซิ่วคนนี้ทำให้เกิดพายุใหญ่ขึ้นทุกทีจริงๆ เราควรจะทำอะไรต่อไปในตอนนี้ดีหละ? "

ชูยี่ได้พูดตอบว่า

"ขอให้ทุกอย่างในวันพรุ่งนี้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้เราควรจะเข้าใกล้เขาและแสดงเจตนาดีของเรา "

"ตกลง!"

ใบเต่าพยักหน้าถึงแม้ว่าเขาจะยังยืนยันไม่ได้ว่าถังซิ่วได้รับสมัครคังเซี่ยน ยังไงถังซิ่วนั้นก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลงเซ้งหยูและพวกเขาเองก็เป็นเพื่อนของหลงเซ้งหยู จี้หยกอันเดียวมันไม่คุ้มค่าที่จะทำลายมิตรภาพของพวกเขา

เฉินไกก็ตะลึงในขณะที่เขามองไปที่ชูยี่และใบเต่า เขาไม่เคยฝันว่าทั้งสองคนนี้จะรู้จักกับเพื่อนของเจี่ยหลุยเดา สิ่งที่เขาวิตกที่สุดคือ พวกเขาต้องการจะแสดงเจตนาดีต่อถังซิ่ว ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกราวกับว่าความพยายามของเขาที่ประจบสอพลอชายทั้งสองได้กลายเป็นฝุ่นผงไปหมดแล้ว

"พี่ชายชู หรือว่าผมควรจะคืนจี้หยกและเงินที่ชนะมาให้พวกเขาไปทั้งหมด ? "

ถึงแม้ว่าเขาจะกังวลและเจ็บปวดเฉินไกก็ได้ถามออกมา

ชูยีส่ายหัวและพูดว่า

"ไม่ได้ เพียงแค่ทำตัวปกติในวันพรุ่งนี้ จงจำไว้ว่าอย่าให้เย่ไทฟูคนนั้นแกล้งยอมแพ้และเรื่องในวันนี้ห้ามบอกเขาโดยเด็ดขาด "

"นี่ ...... "

เฉินไกยิ้มภายในใจแม้ว่าเขาจะแสดงออกถึงความลังเลบนผิวนั้น

"เอาตามนั้นแล้วกัน"

ชูยีพูดด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่และมั่นคง

ในห้องpresidential suitในโรงแรมจาวิส ถังซิ่วกำลังฝึกทักษะการเล่นการพนันที่เจี่ยหลุยเดาได้สอนมา เขาฝึกซ้อมซ้ำๆในระยะเวลา3-4ชั่วโมงและได้เข้าใจถึงทักษะทั้งหมด

"นี่ไม่ใช่ความท้าทายเลย!"

ถังซิ่วสามารถขโมยไพ่และเปลี่ยนไพ่บัตรจากกองได้อย่างง่ายดาย ความเร็วของมือเขาเร็วมากและการควบคุมแรงที่แม่นยำ แม้ว่าเขาจะเล่นการพนันกับผู้อื่นและในคาสิโนแต่จะไม่มีใครสามารถรู้การกระทำของเขาได้

ทันใดนั้น.....

เขาก็นึกถึงวันที่เขามีแหวนมิติ ถ้าเขามีแหวนมิตินั้นเขาสามารถใส่เครื่องมือการพนันและสลับไพ่ได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าเขาจะโกง แต่ก็ไม่มีใครสามารถระแคะระคายได้

วันถัดไป…

ถังซิ่วตื่นขึ้นมาสายมากแต่เนื่องจาการพนันมีกำหนดเวลาไว้ตอนบ่ายสองเขาจึงตื่นนอนเวลาสิบโมง อารมณ์และจิตวิญญาณของเขาได้รับการฟื้นฟูแล้ว หลังจากอาบน้ำแล้วเขาเรียกเจี่ยหลุยเดาและกินอาหารกับคนทั้งห้าคน หลังจากนั้นพวกเขาก็ขับรถไปที่พาราไดซ์คลับในเกาะจิงเหมิน

ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา

ผู้คนที่ติดการพนันจำนวนมากที่เกาะจิงเหมิงนั้นต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับการพนันในพาราไดซ์คลับและเมื่อวานนี้หลังจากที่เจี่ยหลุยเดาได้หยุดเล่นกลางเกมและออกจากการพนันไป มันสร้างความสับสนวุ่นวายให้แก่ผู้คนจำนวนมากและพวกเขาได้ข้อสรุปว่าการแข่งขันรอบสุดท้ายจะจัดขึ้นในวันนี้

ด้วยข่าวลือดังกล่าว

เมื่อถังซิ่ว,เจี่ยหลุยเดาและลูกศิษย์ของเขาได้มาถึงพาราไดซ์คลับก็ได้มีฝูงผู้ชมจำนวนมากได้มารออยู่ที่นั่นแล้ว

"นี่ต้องเป็นไอห่าเฉินไกที่เป็นคนปล่อยข่าวแน่ๆ!มันตั้งใจที่จะให้เราอับอาย "

เจี่ยเย่ลี่ที่ไม่ใช่คนใจกว้างนั้นเมื่อเห็นฉากดังกล่าวมันจึงทำให้เขาพูดออกมาพร้อมขบฟัน

"หุบปาก"

แม้ว่าในใจของเจี่ยหลุยเดาเองก็คิดเช่นนี้อยู่ในใจ แต่ด้วยการปรากฏตัวของถังซิ่วนั้นเขาไม่อยากให้ถูกมองว่าพ่อกับลูกชายเป็นคนที่ใจแคบและไม่กล้าที่จะพูดมันออกมา เขาได้ตระหนักถึงบุคลิกของถังซิ่วดี ถ้าหากพฤติกรรมของพวกเขาแย่ถังซิ่วจะรู้สึกผิดหวังและไม่พอใจเป็นอย่างมาก

เมื่อฝูงชนได้เห็นการมาถึงของพวกเขาทั้งหมด พวกเขาได้กระซิบกันว่า

"คุณเห็นนั่นหรือไม่? คนนั้นคือเจี่ยหลุยเดาและทั้งสามคนที่อยู่ข้างๆเขาคือลูกศิษย์ของเขา ทางด้านขวานั้นเป็นไอ้ลูกชายระยำของเขาที่เป็นคนสร้างหายนะเหล่านี้ "

"ช่างเป็นโชคร้ายของเจี่ยหลุยเดาจริงๆ ตอนนี้กระดูกเฒ่าๆของเขากำลังโดนบดระเอียด ฉันหวังว่าฟันของเขาจะยังอยู่กับที่หลังจากที่ได้รับแรงกระแทกนั้น! แต่เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นใครกัน? ฉันไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลย! "

"พ่อได้ต่อสู้เพื่อสร้างอาณาจักจักรแต่กลับต้องมาเห็นลูกทำลายมัน ได้ลูกชายแบบนี้เหมือนเป็นปลิงดูดเลือดเขาเอง ถ้าฉันได้ลูกที่สร้างหายนะให้แก่ครอบครัวขนาดนี้ ฉันคงจะรัดคอเขาให้ตายไปแล้ว "

"มันน่าสังเวชและน่าสงสาร! ได้มีคนคำนวณไว้แล้วว่าในระยะเวลาสั้นๆ เจี่ยหลุยเดาได้เสียเงินไปกว่า 5-6ร้อยล้านแล้ว และได้ยินมาว่าเขาได้สูญเสียจี้หยกที่เป็นของดูต่างหน้าของภรรยาเขาไปแล้วด้วย "

"มีชนะก็ต้องมีสูญเสีย ถึงจะเป็นนักพนันมืออาชีพก็ต้องนั่งร้องไห้ซักวัน "

(ใครที่ถามว่าทำไมตอนต่อไปติดรหัสนะครับ คือมันต้องอยู่ในกลุ่มลับอะครับหรือใครที่ไม่อยากจ่ายตังก็รอก็ได้ครับผม เพราะผมจะปลดให้ 1-2 วันตอนครับ ขอบคุณค๊าบบบ  ส่งข้อความมาทางนี้เลยครับ <a href="https://goo.gl/CeevTV">https://goo.gl/CeevTV</a>)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด