ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 86
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 88

Returning From The Immortal World - 87


กู่เสี่ยวเสวี่ยที่กำลังตื่นตระหนกอยู่นั้นได้สงบลงหลังจากได้ยินคำถามของเซ่าหมิงเซิงเธอตอบด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นว่า

"นายก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้วหนิ จะถามฉันทำไมหละ ?ถ้าถูดตรงๆนะระดับพลังบ่มเพาะของเขายังห่างกับนายมากแต่ใครจะไปคิดว่า..........เขาจะสามารถฝ่าเข้าไปถึงชั้นที่สี่ได้กัน! "

"มันเป็นชั้นที่สี่จริงๆเหรอ?"

เซ่าหมิงเซิงตกตะลึงถึงขีดสุดเพราะสิ่งที่เขาได้คาดเดานั้นได้รับการยืนยันแล้ว เขาเป็นคนที่คิดว่าตัวเองสามารถตัดสินคนได้เก่งแต่ตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าเขานั้นคิดผิดไปไกล เขารู้ว่าไม่สามารถตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกได้และเขาไม่สามารถวัดความลึกของแม่น้ำด้วยถังได้และครั้งนี้เขาคิดผิดไปอย่างมาก

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็พูดเสริมว่า

"ฉันเองก็ไม่ต้องการยอมรับมัน แต่ความจริงก็อยู่ต่อหน้าคุณแล้ว"

เซ่าหมิงเซิงได้กลืนน้ำลายของเขาและไม่สามารถพูดอะไรได้สักครู่ เขาเคยเห็นคนเก่งก่อนหน้านี้แต่สำหรับสัตว์ประหลาดอย่าง ถังซิ่วนั้น เขาไม่เคยได้ยินหรือเคยเจอมาก่อน

"ฉันสงสัยว่าเขาควรจะเป็นปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการค่ายกล!"

กู่เสี่ยวเสวี่ยลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะพูดต่อ

"อะไร บ้าไปแล้ว? นี่เรื่องล้อเล่นใช่ไหม?"

เหมี่ยวเหวินถังที่กำลังคลานขึ้นมาจากพื้นได้ร้องออกมาด้วยเสียงแหบ

กู่เสี่ยวเสวี่ยมองไปที่เขาด้วยความเย็นชาและพูดออกมาว่า

"ฮึม!ถ้าเขาไม่ใช่ปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการค่ายกลแล้วเขาจะฝ่าผ่านสามชั้นแรกของค่ายกลได้อย่างไร? ฉันเห็นว่าการระดับพลังบ่มเพาะของเขาไม่ได้มากไปกว่าฉันแน่นอน ข้อนี้ฉันสามารถยืนยันได้ ระดับพลังบ่มเพาะของพวกคุณนั้นสูงมากแต่คุณสามารถก้าวไปยังชั้นที่4ได้หรือไม่? "

“นะ-นี้ ...”

เหมี่ยวเหวินถังไม่รู้จะพูดอะไรเขารู้สึกราวกับว่าเขาโดนตบหน้าด้วยมือที่มองไม่เห็นทำให้เขารู้สึกอับอายและละอายใจ!

ห่างไปเพียงไม่กี่เมตร ...

เจี่ยหลุยเดามองไปที่ถังซิ่วด้วยท่าทางตะลึงงันปากของเขาอ้าค้างกว้างพอที่จะสามารถกลืนไข่เป็ดได้กงดาหลงศิษย์คนแรกของเขาที่ด้านข้างกระซิบ

"อาจารย์,ดูเหมือนว่าปรมาจารย์ถังนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!เขายังสามารถเดินเข้าไปในศูนย์กลางของค่ายกลได้อีก เมื่อเทียบกับชายสองคนก่อนหน้านี้ "

เจี่ยหลุยเดาค่อยๆหันศีรษะการแสดงออกที่ว่างเปล่าบนดวงตาของเขาลดลงอย่างมากในขณะที่เขาตอบด้วยน้ำเสียงขมขื่น

"แต่ฉันยังไม่ต้องการให้เขาก้าวต่อไปมากกว่านี้ถ้าเขายังคงก้าวต่อไปความเป็นไปได้ที่เขาจะบาดเจ็บก็จะมากขึ้น เขาอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ "

กงดาหลงได้ตกอยู่ในความเงียบ

ความกังวลของอาจารย์เขานั้นเป็นความจริง ถ้าถังซิ่วได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วการเล่นพนันจะต้องถูกเลื่อนออกไป พวกเขาอาจจะต้องจบชีวิตอย่างแน่นอน

ภายในค่ายกลพันโคจร...

ถังซิ่วเฝ้ามองฝูงหมาป่าที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข หากเป็นคนอื่นแล้วละก็พวกเขาจะต้องหวาดกลัวจนตัวสั่นแต่ว่าเขานั้นแตกต่างเพราะเขาเป็นผู้สร้างค่ายกลพันโคจรนี้และรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการทำลายค่ายกลนี้

“อ่าวู้วววววววววววววววววววววว...”

เสียงหอนของหมาป่ากลายเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยคลื่นเสียงโหยหวนแต่ก็เกิดเหตุการณ์ประหวาดๆขึ้นเพราะว่าฝูงหมาที่ห่างจากเขาไม่ไกลนั้นไม่ได้เข้ามาโจมตีถังซิ่วแม้แต่น้อยขณะที่ดวงตาสีเขียวที่เยือกเย็นของพวกมันกำลังจ้องไปที่ๆหนึ่งที่ไม่ใช่ถังซิ่วแต่เป็นมีดกองทัพของเขา

ค่ายกล

จุดสำคัญของค่ายกลคือความรู้เกี่ยวกับรูปแบบและจุดอ่อน

ไม่เพียงแต่ถังซิ่วนั้นจะรู้ถึงจุดอ่อนแต่เขาก็รู้ถึงโครงสร้างของรูปแบบ จุดที่ถูกแทงด้วยมีดกองทัพนั้นเป็นจุดอ่อน ตราบเท่าที่เขาไม่ได้ดึงมีดออกหมาป่าเหล่านั้นจะไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้แต่จุดสำคัญในการทำลายฤดูหนาวสังหารของชั้นที่สี่คือการทนต่อเวลา ตราบเท่าที่มีใครสามารถทนได้จนกว่าเวลาเท่าธูปไหม้หมดดอกแล้วละก็ ชั้นที่สี่นี้ก็จะสลายหายไปด้วยตัวมันเอง

ไม่นานหลังจากที่เวลาผ่านไปเท่าธูปไหม้หนึ่งดอก

“บิ๊สสสสสสสสสสส ...”

สภาพแวดล้อมโดยรอบเปลี่ยนไป โลกน้ำแข็งแตกออกและถูกแทนที่ด้วยเส้นทางสีเหลืองและมีแม่น้ำที่พลุ่งพล่านอยู่ตลอดเส้นทาง

ผู้ชายที่สวมเสื้อกันฝนถือคันเบ็ดเก่าๆขณะที่เขานั่งอยู่บนเรือเล็กๆในแม่น้ำเมื่อเห็นถังซิ่วแล้วเขาก็ได้เอาเรือเข้าเทียบท่าทันที

“คนพาย!”

ถังซิ่วพูดอย่างสงบ

ชายชรายิ้มและตอบกลับว่า

"ยินดีต้อนรับการมาถึงของคุณ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ให้บริการแก่คุณ "

ถังซิ่วกระโดดลงเรือและตอบอย่างสงบว่า

"ฉันต้องการข้ามแม่น้ำ"

"เยี่ยม!"

ชายชราพยักหน้าและยิ้ม

เรือล่องไปอย่างช้าๆเข้ากลางแม่น้ำ อย่างไรก็ตามชายชราก็หายตัวไปและถูกแทนที่ด้วยพายุที่กำลังโหมกระหน่ำ เรือเริ่มสั่นคลอนอย่างรุนแรงขณะที่ปลากระโถงดาบพุ่งขึ้นเหนือน้ำและเล็งไปที่ถังซิ่วในขณะเดียวกันกลุ่มของหงส์ไฟที่มีไฟลุกท้วมตัวที่อยู่บนท้องฟ้าก็ได้พุ่งเข้ามาหาถังซิ่วพร้อมกับกางเขี้ยวเล็บที่คมกริบของมัน

"ซิ่วน้อย,แม่คิดถึงลูก"

ภาพลวงตาปรากฏในสายตาของถังซิ่ว เขานั้นกำลังอยู่ที่บ้านและแม่ของเขากำลังหลั่งน้ำตาขณะที่เธอมาหาเขา

“ฮึ่ม ......”

ถังซิ่วเพียงแค่แสยะปากพร้อมปลดปล่อยกลิ่นอายออกมาพร้อมทำลายสภาพแวดล้อมในทันที เขามีประสบการณ์ภาพลวงตาในโลกแห่งความฝันนี้นับไม่ถ้วนแต่ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาเองก็อาจจะจมอยู่ที่นี้เป็นเวลานานเพราะแม้ว่าเขาจะรู้อย่างชัดเจนว่าแม่ของเขาเป็นเพียงภาพลวงตาแต่เป็นเพราะเขาคิดถึงแม่อย่างมากเขาถึงได้ฝังตัวเองลงในภาพลวงตาเหล่านี้อย่างไรก็ตามเขาได้กลับมาจากดินแดนแห่งนิรันด์แล้วและอยากเจอแม่ตอนไหนก็ได้ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ภาพลวงตาเหล่านี้อีกแล้ว

"หายไปซะ!!!!"

เขากวัดแกว่งมีดกองทัพอีกครั้งและพุ่งไปอย่างรวดเร็ว ระดับพลังของเขาในตอนนี้นั้นต่ำมาก ความแข็งแกร่งของเขาอาจจะพูดได้ว่ามีน้ำหนักแค่3,000ปอนด์ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะฆ่าปลากระโถงดาบและหงส์ไฟได้ความประมาทเพียงเล็กน้อยจะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงหรือเสียชีวิตได้ แต่ด้วยประสบการณ์การฆ่าฟันที่ชำนาญของเขาแล้วนั้นฉากดังกล่าวอาจเรียกได้ว่าเป็นของเด็กเล่นสำหรับเขา

นอกจากนี้จุดสำคัญที่ทำให้ผ่านชั้นนี้ไปได้นั้นไม่ใช่การฆ่าทั้งสัตว์ทั้งสองแต่เป็นการใช้เรือข้ามฝั่งแม่น้ำไปให้ได้อย่างรวดเร็ว

ด้านนอกค่ายกล...

กู่เสี่ยวเสวี่ยได้ตกตะลึงกับความเร็วที่น่ากลัวของถังซิ่วในการทำลายค่ายกลได้อย่างต่อเนื่อง เธอคิดว่าอย่างมากถังซิ่วอาจจะทำได้เพียงแค่ไปถึงชั้นที่สี่แต่เธอก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะฝ่าเข้าไปสู่ชั้นที่ห้าได้นั้นทำให้เธอรู้สึกทำอะไรไม่ถูกอีกครั้ง

เธอแข็งแกร่งมากจนถึงจุดที่เธอสามารถฆ่าถังซิ่วได้ด้วยการตบเบาๆเท่านั้นแต่เธอรู้ดีว่าตัวเองนั้นไม่สามารถทำได้อย่างที่ถังซิ่วทำ เธอได้เริ่มการท้าทายค่ายกลนี้ตั้งแต่อายุ10ขวบ เธอได้ท้าทายมันกว่าร้อยกว่าพันครั้งและไม่เคยเข้าไปถึงชั้นที่ห้ามาก่อน

ฉากโลกใบที่ห้าเป็นแบบไหน?

เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้!

แต่ไม่เคยเห็นมัน!

"ถึงแม้ว่าจะเป็นปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญค่ายกลก็ไม่น่าจะทำได้ถึงขั้นนี้ ?"

ความเสียใจเอ่อล้นอยู่เต็มอกของเธอ เนื่องจากเธอไม่ควรดูหมิ่นและแสดงออกถึงความรังเกียจต่อถังซิ่วเพราะความสามารถในการต่อต้านสวรรค์ที่ถังซิ่วได้แสดงนั้นมันได้ทำลายองค์ความรู้ทั้งหมดที่เธอมีมาก่อน

ในขณะนี้หน้าของเหมี่ยวเหวินถังได้ซีดเหมือนสีของกระดาษเขามองไปที่เซ่าหมิงเซิงและแทบจะไม่สามารถระงับตัวเองไม่ให้พาเขาหนีความอับอายนี้ไป

นี่เป็นความอับอายที่เขานำมาสู่ตัวเองและบัดนี้เขาได้ลิ้มรสความรู้สึกขมขื่นนี้มันขมซะยิ่งกว่าบอระเพ็ดซะอีก(*จิงๆเป็นชื่อยาจีนแต่เปลี่ยนละกัน)

“ไอดอล!”

เซ่าหมิงเซิงพึมพำพร้อมดวงตาที่ว่างเปล่า

แต่คำพูดของเขาก็เหมือนกับมีดแหลมคมที่คว้านหัวใจของเหมี่ยวเหวินถัง ความเจ็บปวดนั้นแทบทำให้เขาร้องไห้ออกมา

สำหรับผู้ชมถึงแม้ว่าจะมีผู้เข้าชมเหลืออยู่ไม่กี่คนแต่ส่วนใหญ่ยังคงรออยู่พวกเขาไม่ได้รู้ว่าถังซิ่วได้ไปถึงชั้นไหนแล้วแต่รู้ว่าเขานั้นเดินไปได้ไกลว่าเหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิงอย่างแน่นอน

“เป็นไปไม่ได้!”

เสียงตะโกนดังออกมาจากกู่เสี่ยวๆ

ในวินาทีต่อมาทุกคนก็พบว่าถังซิ่วกำลังเดิน7-8เมตรไปตรงจุดศูนย์กลางของค่ายกลนั้นอีกครั้ง

เซ่าหมิงเซิงหันหัวของเขาไปและรีบถามกู่เสี่ยวเสวี่ยอย่างรวดเร็วว่า

"มิสกู่,ถังซิ่ว,ขะ-เขา ... เขาประสบความสำเร็จอีกครั้งหรือ?"

กู่เสี่ยวเสวี่ยพยักหน้าและตอบด้วยการแสดงออกที่ชาเพราะเกิดจากอาหารช๊อคว่า

"ใช่!"

เซ่าหมิงเซิงพึมพำออกมาว่า

"ชั้นที่ห้า เขาผ่านชั้นที่ห้าไปได้จริงๆด้วย แล้วชั้นที่หกหละ? นี่........นี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ "

"มันน่ากลัว เขามันน่ากลัวเกินไปแล้ว!"

การแสดงออกที่ซับซ้อนปรากฏขึ้นเต็มดวงตาของกู่เสี่ยวเสวี่ย ความรู้สึกลึกซึ้งที่เต็มไปในหัวใจของเธอเมื่อมองไปที่ตัวของถังซิ่ว เธอนึกถึงตอนที่เจอเขาครั้งแรกจนถึงตอนนี้แต่เธอก็รู้ว่าเธอไม่สามารถมองทะลุเขาได้ นั้นเป็นเหมือนดั่งดวงจันทร์สะท้อนอยู่ในน้ำและปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายของภาพลวงตา

ไม่นานหลังจากนั้น…

ถังซิ่วออกมาจากค่ายกลพันโคจรพร้อมผิวที่ซีดลงเล็กน้อยแต่เขาไม่ได้รู้สึกเป็นทุกข์แม้แต่น้อย ในชั่วขณะที่เขาได้เดินออกมานั้น สายตากว่าร้อยคู่ก็ได้จับจ้องไปที่ตัวของเขา

"ตอนนี้ฉันมีคุณสมบัติพอที่จะเป็นแขกผู้มีเกียรติจากห้องอาหารร้อยงานฉลองได้หรือยัง?"

ถังซิ่วถามอย่างสงบเมื่อเขาเดินมาที่กู่เสี่ยวเสวี่ย

กู่เสี่ยวเสวี่ยพยักหน้าอย่างรวดเร็วขณะที่เธอได้สติพร้อมถามออกมาว่า

"ถังซิ่ว ระดับพลังบ่มเพาะคุณนั้นต่ำมากแต่คุณสามารถฝ่าเข้าไปในชั้นที่หกได้อย่างไร? ต้องรู้ก่อนนะว่าตั้งแต่ที่อาจารย์ของฉันได้วางค่ายกลเหล่านี้ไว้หลายสิบปีก่อน ถึงจะมีผู้ท้ายทายไม่มากแต่สองคนที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ยังไปได้ถึงแค่ชั้นที่สี่เท่านั้น ไม่มีใครเคยไปถึงชั้นที่หกได้เลยแม้แต่คนเดียว!!!!คุณทำอย่างนั้นได้อย่างไร?

ถังซิ่วตอบชิวๆว่า

"ไม่บอก "

"คุณ…"

หัวใจของกู่เสี่ยวเสวี่ยนั้นรู้สึกราวกับว่าเธอเป็นแมวที่ถูกจับได้พร้อมกำลังพยายามดิ้นรนและไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ แต่เธอก็หมดหนทางแม้ว่าเธอจะโกรธที่ได้รับการปฏิบัติที่ไม่แยแสเช่นนี้จากถังซิ่ว

ถังซิ่วไม่ได้มองที่เธออีก แล้วหันไปทางเซ่าหมิงเซิงและเหมี่ยวเหวินถังพร้อมพูดขึ้นว่า

"ฉันจะให้ใบสั่งยากับพวกคุณในภายหลัง แต่อย่าลืมคำพูดของพวกคุณหละ "

เขามองไปที่เจี่ยหลุยเดาและลูกศิษย์ของเขาที่กำลังตกใจอย่างสุดขีดและเดินไปทางป่าข้างนอกถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าอาจารย์ของกู่เสี่ยวเสวี่ยนั้นจะเป็นศิษย์รักของเขาหรือไม่แต่เขาเชื่อว่าทั้งคู่ต้องมีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นอน

ในตอนแรกที่เขาได้ยินข่าวว่าศิษย์รักของตัวเองนั้นยังปลอดภัย เขานั้นดีใจเป็นอย่างมากแต่หลังจากที่เขาได้ฝ่าค่ายกลพันโคจรนี้ออกมาแล้ว หัวใจของเขาก็รู้สึกสงบนิ่งเป็นอย่างมาก เมื่อคิดถึงเรื่องที่แม้แต่เพื่อนแท้และภรรยาของเขายังหักหลังเขาได้ลง ถ้าหากว่า............

เขาไม่อยากจะสืบค้นเรื่องนี้อีกต่อไปแล้วเขาไม่สามารถรับคลื่นกระแทกแบบนั้นได้อีกครั้งดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะยอมแพ้เกี่ยวกับเรื่องนี้

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเขาตอนนี้คือการบ่มเพาะตัวเองให้เขากลับไปสู่ระดับนิรันด์สูงสุดอย่างที่เขาเคยเป็นและเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ทุกคนที่ได้เคยทรยศหักหลังเขาไว้จะต้องจ่ายมันด้วยความทุกข์ทรมาน

หัวใจของเขาไม่ได้ทำจากเหล็กหรือหินแต่เขาก็ยังไม่ได้เป็นคนที่ง่ายที่จะหาเรื่องด้วยเขาจะไม่ยั่วยุคนอื่นแต่ถ้าคนอื่นยั่วยุเขาแล้วละก็พวกมันจะต้องจ่ายคืนสิบเท่า

เขาได้อธิษฐานขอพรถึงสวรรค์ทั้งมวลถึงพระผู้เป็นเจ้าและเทพทุกองค์เพื่อปกป้องและอวยพรให้เหล่าผู้ที่ทรยศและหักหลังเขาให้ยังคงปลอดภัยเสียจนกว่าจะถึงเวลาที่เขากลับไปเยี่ยมพวกมันและชำระหนี้ที่ค้างไว้ด้วยตัวเอง

(ใครที่ถามว่าทำไมตอนต่อไปติดรหัสนะครับ คือมันต้องอยู่ในกลุ่มลับอะครับหรือใครที่ไม่อยากจ่ายตังก็รอก็ได้ครับผม เพราะผมจะปลดให้ 1-2 วันตอนครับ ขอบคุณค๊าบบบ  ส่งข้อความมาทางนี้เลยครับ <a href="https://goo.gl/CeevTV">https://goo.gl/CeevTV</a>)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด