ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 77
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 79

Returning From The Immortal World - 78


.......................................................................................................................................................................................

ในวิลล่าของเขา,ถังซิ่วนั่งขัดสมาธิอยู่หน้าระเบียงห้องนอนของเขาพร้อมกับรับรู้ถึงทุกสิ่งที่อยู่ภายในร่างกายของเขาหลังจากที่ได้บ่มเพาะมาไม่กี่วันดวงดาวทั้ง9ดวงที่อยู่ภายในตัวของเขานั้นยิ่งเปล่งแสงมากขึ้นเรื่อยๆเขาสามารถรับรู้ได้ถึงพลังที่เพิ่มมากขึ้นดั่งคลื่นที่ถาโถมเข้ามาแม้ว่าเขากำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ก็ตามพลังเหล่านั้นได้ไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างกายของเขา

เขารู้ว่ามันจำเป็นอย่างมากที่เขาจะต้องไปถึงขั้นเสริมสร้างผิวหนังของการบ่มเพาะพลังเขาได้วางแผนว่าหลังจากที่เขาได้ช่วยจัดการปัญหาของเจี่ยหลุยเดาแล้วเขาจะใช้พลังทั้งหมดของเขาเพื่อหาสมุนไพรและหินวิญญาณที่จำเป็นแต่ถ้ามันยากเกินไปที่จะหาทั้งหมดมาได้ในเวลาสั้นๆเขาก็จะไปขอความช่วยเหลือจากเฉินซีซ่งแทน

“การเลือกที่จะเดินอยู่บนเส้นทางการบ่มเพาะนั้นมักจะเต็มไปด้วยอันตรายและความยากลำบากแต่มันเป็นเส้นทางทุกข์ยากที่ฉันไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ฉันจะต้องเข้มแข็งเข้าไว้เพื่อที่จะเดินบนเส้นทางนี้อย่างสุกใสได้อีกครั้ง”

ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขานั้น มันหาได้ยากมากที่เขาจะรู้สึกลำบากใจจากการที่ไม่มีทรัพยากรบ่มเพาะพลัง ทว่าทรัพยากรบนโลกนั้นมีอยู่น้อยมากหากว่าเขาต้องการที่จะบ่มเพาะวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์นั้นเขาจะต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ได้ทรัพยากรที่เขาจำเป็นต้องใช้มา แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากมากก็ตามแต่เขาเป็นดั่งนกอินทรีที่จะต้องพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องและโบยบินอย่างกล้าหาญต้านทานกระแสลมที่ถาโถมเข้ามา เขาเชื่อว่าไม่มีอะไรจะทำให้เขาสับสนได้แม้จะต้องเจอกับความทุกข์ยากก็ตาม

“ฮึ่ม?”

“เขาสามารถรับรู้ถึงการมาของเฉินซีซ่งด้วยพลังรับรู้ทางวิญญาณของเขา”

ที่ชั้นแรก

เฉินซีซ่งได้สำรวจการตกแต่งโดยรอบของบ้านหลังนี้ด้วยความรู้สึกประหลาดใจเขายอมรับว่าบ้านของเขายังไม่ได้ดูดีเท่าวิลล่าหลังนี้เลยเขาทำได้เพียงแค่รู้สึกอิจฉาหลงฮานเหวินที่มีลูกชายที่ดีและตาที่หลักแหลมพร้อมด้วยการตัดสินใจในการลงทุนที่แม่นยำและเด็ดขาดอาจจะเรียกได้ว่าเขาเป็นนักธุรกิจหัวกะทิที่มากด้วยความสามารถ

“ในที่สุดนายก็มา”

ถังซิ่วเดินลงมาจากชั้นบนด้วยท่าทางไม่แย่แส

เฉินซีซ่งรู้สึกแน่นอยู่ภายในใจของเขาพร้อมกับทักทายอย่างเคารพ

“ท่านอาจารย์!”

ถังซิ่วไม่ได้ปฏิเสธการเรียกของเฉินซีซ่ง เขาเดินไปที่โซฟาในห้องนั่งเล่นแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า

“ฉันนั้นได้มีศิษย์อย่างไม่เป็นทางการอยู่มากมายและฉันก็รับรู้ถึงความยากลำบากในการฝึกพวกเขาดังนั้นฉันจึงไม่ได้มีเวลามากสำหรับการที่ต้องมาฝึกฝนลูกศิษย์แต่ฉันมีคำถามจะถามนายก่อนที่นายจะเคารพฉันเป็นอาจารย์”

“ได้โปรดกล่าวมา!”

เฉินซีซ่งรีบพูดอย่างรวดเร็ว

เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าถังซิ่วนั้นจะรับลูกศิษย์มาหลายคนแล้วด้วยอายุที่ยังน้อยเช่นนี้ นั้นก็หมายความว่าเขามีศิษย์พี่อยู่จำนวนหนึ่งแล้ว?

ถังซิ่วตอบกลับว่า

“ไม่จำเป็นต้องรีบ,ฉันอยากจะถามนายนิดหน่อยถ้าหากคำตอบของนายทำให้ฉันพอใจ นับจากนี้นายก็จะเป็นศิษย์ของฉันแต่ถ้าไม่,นายก็ต้องกลับไปและต้องไม่เผยแพร่ทุกสิ่งทุกอย่างที่นายเห็นและได้ยินในวันนี้ให้กับคนภายนอก”

จิตใจของเฉินซีซ่งสั่นไหวในทันทีพร้อมตอบว่า

“ได้โปรดถามมาเลย,ผมจะตอบมัน”

ถังซิ่วชี้ขึ้นไปด้านบนและบอกว่า

“นายเชื่อเกี่ยวกับเรื่องที่ว่ายังมีสวรรค์ที่อยู่เหนือเหล่าสวรรค์ทั้งปวงและการดำรงอยู่ของตัวตนที่อยู่เหนือกว่าโลกของเรา?”

เฉินซีซ่งได้ตอบเขากลับว่า

“แน่นอน!จักรวาลนั้นกว้างใหญ่ไพศาลใครจะไปรู้ว่าจะมีอารยธรรมและโลกอื่นๆอยู่มากมายแค่ไหน”

ถังซิ่วส่ายหัวและบอกว่า

“สิ่งที่ฉันหมายถึงนั้นไม่ใช่จักรวาลแต่เป็นห้วงมิติ,นายเคยได้ยินเกี่ยวกับโลกที่เกี่ยวกับผู้เป็นนิรันดร์ที่อยู่สูงกว่าโลกของเราหรือดินแดนแห่งปีศาจ,ดินแดนแห่งผู้เป็นนิรันดร์หรือดินแดนของเหล่าทวยเทพไหม?นายคิดว่ามีการดำรงอยู่ของพวกเขาในห้วงมิติเหล่านั้นไหม?”

เฉินซีซ่งคิดอย่างหนักก่อนที่เขาจะตอบอย่างช้าๆว่า

“ผมไม่รู้”

ถังซิ่วถามอีกครั้งว่า

“ถ้ามิติเหล่านั้นมีจริงนายจะสามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ไหม?”

เฉินซีซ่งพยักหน้าอย่างไม่ลังเล

“มีสิ่งแปลกประหลาดมากมายนับไม่ถ้วนอยู่ในเอกภพอย่างไร้ที่สิ้นสุด ถ้ามองในมุมมองที่กว้างขึ้นเช่นการดำรงอยู่ของปีศาจ,ผู้เป็นนิรันดร์และทวยเทพนั้นก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ถ้าสิ่งเหล่านั้นมีอยู่จริงผมก็สามารถยอมรับมันได้อย่างแน่นอน”

ถังซิ่วก็ยังคงถามต่อไปว่า

“คำถามต่อไป,นายรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับผู้ที่เลือกเดินบนเส้นทางการบ่มเพาะพลังแห่งเซียน?”

ผู้บ่มเพาะพลังแห่งเซียน?

หรือว่าอาจจะเป็น..........

สมองของเขาทำงานอย่างรวดเร็วพร้อมตอบอย่างเคร่งครึมว่า

“ผู้บ่มเพาะพลังเหล่านั้นในความคิดของผม พวกเขาเหล่านั้นเป็นเหมือนตำนาน ผมเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพวกเขาแค่จากเรื่องเล่าหรือในนิทานเท่านั้นแต่ผมยังไม่เคยเห็นพวกเขาตัวเป็นๆในชีวิตจริง ผมได้ยินมาว่ามันมีอยู่สองที่ที่อาจจะมีการดำรงอยู่ของเทพเจ้าเหล่านี้แต่ผมก็ไม่สามารถที่จะยืนยันมันได้”

ถังซิ่วได้ถามเขาต่อว่า

“ที่ไหน?”

“ชิงไห่และทิเบต”

เฉินซีซ่งได้ตอบเขากลับไป

ถังซิ่วพยักหน้าเบาๆและพูดว่า

“ต่อให้ฉันสอนบางอย่างแก่นายแต่มันก็จะไม่ทำให้นายประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ ถ้ารู้อย่างนั้นแล้วนายยังจะอยากเคารพฉันเป็นอาจารย์อีกไหม”

เฉินซีซ่งได้ตอบโดยไม่จำเป็นต้องคิดเลยว่า

“ตราบใดที่ผมสามารถฝึกฝนและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับวิทยายุทธของผม ผมจะเคารพคุณเป็นอาจารย์”

ถังซิ่วชี้ไปที่ประตูและตอบว่า

“ฉันเข้าใจคำตอบของนายแล้ว นายสามารถออกไปได้แล้ว”

เฉินซีซ่งมองด้วยความงุนงงขณะที่เขารู้สึกได้ถึงความเย็นที่กำลังแผ่ไปทั่วร่างกายของเขา เขาไม่รู้เลยว่าคำตอบของเขานั้นผิดตรงไหนถึงขนาดที่ทำให้ถังซิ่วไม่ยอมรับเขาเป็นลูกศิษย์

“คุณสามารถบอกผมได้ไหมว่าคำตอบของผมตรงไหนที่ทำให้คุณรู้สึกไม่พอใจ?”

ถังซิ่วตอบเขากลับว่า

“ลูกศิษย์ของฉันนั้นไม่จำเป็นต้องมีวิทยายุทธแต่สิ่งที่เขาต้องมีนั้นคือหัวใจที่แข็งแกร่งและแน่วแน่ หัวใจที่ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก กล้าที่จะฝ่าฟันโชคชะตาของตัวเองตั้งแต่แรกเริ่ม ลูกศิษย์ของฉันนั้นจะได้เรียนรู้วิชาบ่มเพาะพลังที่สามารถกำหนดชะตาสวรรค์ได้ทว่าหากนายไม่ระวังละก็นายจะรู้สึกเหมือนถูกจองจำอยู่ในนรกอเวจีที่ไม่สามารถไถ่บาปได้อย่างชั่วกัลปาวสานจะให้พูดง่ายๆก็คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเป็นลูกศิษย์ของฉันนั้นคือหัวใจที่แน่วแน่ตามมาด้วยพรสวรรค์และความประพฤติ”

เฉินซีซ่งรีบคุกเข่าลงต่อหน้าถังซิ่วและพูดออกมาอย่างแน่วแน่ว่า

“ผมมีหัวใจที่แน่วแน่นั้นอย่างแน่นอน ต่อให้ผมต้องต่อสู้กับสวรรค์ถ้าหากผมสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ผมก็จะไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว”

ถังซิ่วได้มองลึกลงไปในตัวของเขาก่อนที่เขาจะเงียบอยู่นานและพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า

“ไปชงชามาซะแล้วคาราวะฉันเป็นอาจารย์ของนาย”

“นี่คุณ......อ่าได้เลย ผมจะไปเดี๋ยวนี้”

เฉินซีซ่งตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจ

คาราวะเป็นอาจารย์!

นี้เป็นพิธีการอย่างง่ายในการขอเป็นศิษย์และใช้เวลาเพียงแค่สองนาทีเท่านั้น

ถังซิ่วโบกมือให้เฉินซีซ่งไปในที่โซฟาตรงกันข้ามกับเขาหลังจากนั้นเขาจึงพูดขึ้นว่า

“ในความเป็นจริงนั้นต่อให้นายได้ฝึกวิชาบ่มเพาะพลังจากฉัน ความสำเร็จของนายนั้นจะไม่สามารถขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้ต้นเหตุมาจากอายุของนาย มันจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆหากนายต้องการที่จะไต่ขึ้นไปถึงความเป็นอมตะได้ นายมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะขึ้นไปสู่นิรันด์สูงสุดแต่ในเมื่อนายได้ฉันเป็นอาจารย์แล้วละก็ฉันยืดอายุของนายและทำให้นายแข็งแกร่งขึ้น”

“ขึ้นไปสู่ความเป็นอมตะ ? นิรันด์สูงสุด?”

ดวงตาของเฉินซีซ่งสั่นไหวด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

ถังซิ่วพูดด้วยน้ำเสียงลึกว่า

“ใช่แล้ว,ฉันเป็นผู้บ่มเพาะพลังแห่งเซียนและฉันไม่ได้เป็นฝึกวิทยายุทธที่นายพูดถึงเส้นทางทั้งสองนั้นแตกต่างกันอย่างมากและสิ่งที่ฉันจะสอนให้นายนั้นคือวิชาการบ่มเพาะพลังแห่งนิรันด์และสอนแนวทางบ่มเพาะแก่นายส่วนเรื่องความสำเร็จของนายนั้นจะขึ้นอยู่กับโชคชะตาและความพยายามของตัวนายเอง”

นี่คือความโชคดี ! นี้มันโชคดีเป็นอย่างมาก !

เฉินซีซ่งนั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมากจนถึงขั้นที่เขาอยากจะตะโกนออกมาดังๆแต่เขาก็ไม่กล้าเพราะถังซิ่วนั้นกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขานั่นเอง ผู้บ่มเพาะพลังแห่งเซียนนั้นเขาเคยได้ยินแต่ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆซักครั้ง ตัวตนที่เป็นเหมือนตำนานนี้ยิ่งใหญ่ดั่งภูเขาสูงเป็นสิ่งที่เขาได้แต่ใฝ่ฝันถึง

“ขอบคุณมากครับท่านอาจารย์ ! ผมจะตั้งใจฝึกฝน!”

เฉินซีซ่งคุกเข่าให้ถังซิ่วอีกครั้งพร้อมก้มหัวคาราวะเขาสามครั้งด้วยความนอบน้อมและความเคารพ

คิ้วของถังซิ่วขมวดพร้อมพูดด้วยความรู้สึกไม่ค่อยพอใจว่า

“นับแต่นี้ต่อไปอย่าได้ก้มหัวคาราวะฉันง่ายๆอย่างงี้ สิ่งที่ฉันจะสอนนายได้นั้นมีไม่มากถ้าหากนายมีข้อสงสัยหรือติดขัดอะไรก็สามารถมาหาฉันได้”

หลังจากนั้นไม่นาน.............

ถังซิ่วได้เลือกหนึ่งในวิชาบ่มเพาะพลังให้แก่เฉินซีซ่งในสายตาของเหล่านิรันด์สูงสุดวิชานี้นั้นอาจจะไม่สามารถทำให้พวกเขารู้สึกสนใจได้แต่ทว่าหากเป็นเพียงเหล่านิรันด์ธรรมดานั้นวิชาบ่มเพาะนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดวิชาแห่งพระเจ้าก็ว่าได้

มันใช้เวลาถึงสี่ชั่วโมงในการสอนวิชาบ่มเพาะพลังนี้เหตุมาจากระดับพลังของถังซิ่วในตอนนี้นั้นยังต่ำเตี้ยเรี่ยดินเป็นอย่างมาก เขาไม่สามารถที่จะใช้พลังวิญญาณสลักแนวทางการบ่มเพาะนี้ไปในตัวเฉินซีซ่งได้ตรงๆดังนั้นเขาจึงทำได้แค่สอนแบบปากเปล่าเท่านั้น

“เยี่ยม วิชาบ่มเพาะพลังก็ได้สอนนายไปแล้วหลังจากที่นายได้เดินบนเส้นทางบ่มเพาะพลังจริงๆแล้วฉันจะสอนความรู้อย่างอื่นให้แก่นายเช่นการปรุงยา,ค่ายกลและอื่นๆแต่อย่าลืมเชียวหละว่าการบ่มเพาะนั้นไม่ใช่อะไรที่ควรจะเร่งรีบมิเช่นนั้นนายจะต้องตายจากการที่พลังฉีระเบิดออกแน่นอน”

“ผมจะปฏิบัติตามคำสอนของอาจารย์อย่างเคร่งครัดครับ”

เฉินซีซ่งตอบด้วยความเคารพ

ถังซิ่วได้โบกมือและพูดต่อว่า

“ดี ตอนนี้นายก็กลับไปได้แล้วอย่าลืมหละว่าเรื่องในวันนี้นายไม่สามารถแพร่งพรายกับคนอื่นโดยเด็ดขาดถึงแม้จะเป็นคนรักของนาย”

“ครับ”

เฉินซีซ่งพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่เขาได้ส่งเฉินซีซ่งกลับไปแล้ว เขาได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและพบว่ามีข้อความที่ยังไม่ได้อ่านอยู่ดังนั้นเขาจึงได้เปิดอ่านมันและหลังจากที่เขาอ่านเสร็จแล้วนั้นเขาพึ่งจะตระหนักได้ว่าเขาได้ให้บัตรประชาชนแก่กงดาหลงไปเมื่อช่วงบ่ายแต่เขาไม่นึกเลยว่าเขานั้นจะจองตั๋วเครื่องบินในรอบเช้าวันรุ่งขึ้นเลย

“มันจะรู้สึกยังไงกันน้าเวลาขึ้นเครื่องบิน~?มันจะรู้สึกเหมือนตอนที่เราเหาะอยู่บนดาบหรือเปล่า?”

ถังซิ่วคิดไปคิดมาอยู่ซักครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะรู้สึกหิว เขาได้เดินไปที่ห้องครัวอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งยิ้มอย่างเศร้าๆเมื่อพบว่าภายในห้องครัวนั้นไม่มีของกินอยู่เลยและนั้นรวมไปถึงในตู้เย็นด้วยเช่นกัน

“บ้านหลังนี้ไม่มีความรู้สึกถึงครอบครัวเลย ถ้าคุณแม่อยู่ที่นี้ด้วยก็คงดี ถึงแม้บ้านหลังนี้จะเล็กก็ตามแต่ถ้ามีสมาชิกในครอบครัวคนอื่นอยู่ด้วยมันคงจะรู้สึกอบอุ่นเป็ฯอย่างมาก”

เขาได้ถอนหายใจหลายครั้งเนื่องจากเรื่องนี้ หลังจากนั้นเขาก็ได้พบกับเมนูที่แปะอยู่ที่ผนังห้องหลังโต๊ะโดนบังเอิญ มันมีอาหารหลากหลายรูปแบบอยู่ในเมนูเหล่านั้นและแต่ละอย่างนั้นหรูหราเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขาได้อ่านเมนูพวกนั้นหมดแล้วเขาก็ได้ตระหนักว่าเมนูเหล่านี้นั้นถูกเตรียมขึ้นโดยสำนักงานบริหารเพื่อเขาโดยเฉพาะด้วยเหตุผลที่ว่าเขามักจะออกไปหาอาหารกินภายนอกและไม่มีคนเตรียมอาหารให้กับเขาดังนั้นพวกเขาเลยทิ้งเมนูไว้ให้เขาที่นี้เลย

“มันเป็นอย่างที่พูดเลยจริงๆว่า เราจะได้รับในสิ่งที่เราได้จ่ายไป จากบริการและความเอาใจใส่ของสำนักงานบริหารของวิลล่านี้เป็นอะไรที่ดีเยี่ยมเป็นอย่างมาก”

ถังซิ่วได้เผยรอยยิ้มออกมาจางๆหลังจากนั้นเขาจึงได้โทรสั่งอาหารเหล่านั้น

20นาทีต่อมา............

เสียงออดหน้าบ้านของเขาก็ดังขึ้น ถังซิ่วได้เดินออกไปแล้วพบว่าอาหารของเขาได้มาถึงแล้วและคนที่มาส่งอาหารนั้นไม่ใช่ใครอื่นแต่กลับเป็นหลงเซ้งหลิน

“นายมาที่นี้ทำไม ?”

ถังซิ่วถามออกมาด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

หลงเซ้งหลินรีบตอบอย่างตื่นเต้นว่า

“พี่ชายถัง ผมมาที่นี่เพื่อมาหาคุณโดยเฉพาะแต่เมื่อกี้ผมเห็นเด็กส่งอาหารอยู่ข้างนอกดังนั้นผมจึงได้จ่ายค่าอาหารแก่เขาไปและให้เขากลับไปแล้ว”

ถังซิ่วตอบอย่างช่วยไม่ได้ว่า

“เฮ๊พวก ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่านายตามหลอกหลอนฉันเหมือนผีเลยหละนายตามฉันมาทั้งวันแล้วยังไม่พอนี่ยังจะมาหาฉันในตอนกลางคืนอีกงั้นหรอ? หรืออยากจะนอนกับฉันกันหละ ?”

หลงเซ้งหลินพยายามส่ายหัวแต่ความรู้สึกตื่นเต้นก็ยังปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขาอย่างไม่ลดละ

“พี่ชายถังมันไม่ใช่เรื่องไหนเลยที่ผมมาหาพี่ในตอนนี้พี่จำได้ไหมว่าพี่พึ่งให้ใบสั่งยาแก่ผมไปเมื่อช่วงบ่ายวันนี้?หลังจากนั้นผมก็รีบไปหาตัวยาเหล่านั้นและกลับบ้านไปเพื่อให้สาวใช้ต้มมัน หลังจากที่ผมได้ดื่มมันไปนั้นผมรู้สึกราวกับว่าเป็นคนละคนกันเลยและโชคดีที่ตอนนั้นมีสาวคนหนึ่งเข้ามาพอดีและผมได้****กับเธอ พี่คิดว่าผลลัพธ์เป็นยังไงหละ ? นั้นมันเป็นปาฏิหาริย์ชัดๆ !!! ผมทนได้ถึง20นาที!ไม่ได้โกหกพี่เลยนะผมนั่งจับเวลาเพื่อการนี้โดยเฉพาะมันได้20นาทีเปะๆ!!!”

“แกบ้าหรือเปล่าเนี้ย!!! เรื่องอย่างนี้ก็ต้องมาบอกฉันด้วย ?”

ถังซิ่วไม่รู้ว่าเขาควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีในตอนนี้พร้อมกับความรู้สึกเหวอเมื่อได้ยินคำพูดของหลงเซ้งหลิน

หลงเซ้งหลินรีบส่ายหน้าของเขาทันทีพร้อมตอบว่า

“ไม่ ไม่ ไม่ ! มันเป็นเรื่องสำคัญมาก พี่ชายที่ผมเร่งรีบมาหาพี่ตอนนี้เพราะผมได้พบกับโอกาสทำเงินได้อย่างมหาศาล”

“โอกาส ?”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด