ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 68
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 70

Returning From The Immortal World - 69


 

.......................................................................................................................................................................................

ถังซิ่วฟังคำพูดของกงดาหลงอยู่เงียบๆความหนาวเย็นในดวงตาของเขาค่อยๆหายไปจากน้ำเสียงของเขา,เขาสามารถบอกและรู้สึกถึงความรู้สึกที่แท้จริงของกงดาหลงรวมถึงความห่วงใยต่ออาจารย์ของเขาเจี่ยหลุยเดา

ความมั่งคั่ง ?!

เขาไม่ได้สนใจเรื่องความมั่งคั่งที่จะให้เขา,เขาใช้มันเพียงการสำหรับสนับสนุนทรัพยากรสำหรับการบ่มเพาะของเขาอย่าว่าแต่สิบล้านเลยแม้จะเป็นจำนวนเงินที่มากกว่านี้มันก็เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่ได้ทุกอย่างที่เขาคิดไว้ในใจ

แต่มันเป็นความกตัญญู!

สิ่งที่เขาสนใจก็คือความกตัญญูของกงดาหลง!

สุภาษิตได้กล่าวว่าในสิ่งนับไม่ถ้วนของทุกสิ่งความกตัญญูเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

สิ่งที่สำคัญที่สุดของแต่ละคนคือความกตัญญูนี่เป็นรากฐานสำคัญของศีลธรรมและคุณธรรมคนอย่างกงดาหลงเป็นคนมีคุณธรรมอย่างแท้จริงที่ถังซิ่วนั่งมักจะยกขึ้นหิ้งเขาไม่สามารถกลับคำมั่นที่เขาเคยให้ไว้และได้ให้ความสำคัญต่อกงดาหลงเพียงเพราะคำมั่นสัญญานี้

(*มันคงไปสัญญากับใครไว้ในโลกนู้นมั้งว่าจะไม่ฆ่าคนดี)

"ก็ดี,ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?"

"สนามบินเมืองสตาร์ซิตี้!"

ถังซิ่วพูดว่า

"ผมจะไปที่ตลาดสมุนไพรของเมืองในตอนนี้ผมจะรอคุณ,โทรหาผมอีกครั้งในภายหลังแล้วกัน "

การโทรสิ้นสุดลง

ถังซิ่วได้รับโทรศัพท์ของหลงเซ้งหลินเขารู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อคุยโทรศัพท์ดูเหมือนเขาจะรู้ถึงการกระทำของถังซิ่วในวันนี้เมื่อเขารู้ว่าถังซิ่วกำลังทานอาหารในร้านสถานที่ดื่มนิรันดร์เขานั้นรีบวางสายและรีบตรงมาที่ถังซิ่วโดยทันที

ถังซิ่วรีบทานอาหารเสร็จแล้วก็จ่ายเงินก่อนที่เขาจะออกจากร้านไปเขาตั้งใจจะกินอาหารก่อนและหารถแท็กซี่ไปที่ตลาดสมุนไพรเมืองสตาร์ซิตี้อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้ที่สะกดรอบตามเขานั้นเหมือนกับก้างปลาที่ติดอยู่ในคอหอยเขา,เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจถ้าไม่จัดการปัญหานี้ให้เสร็จก่อน

ถังซิ่วระบุทิศทางอย่างรวดเร็วและเดินไปยังที่ห่างไกลในขณะที่ใช้พลังรับรู้ทางวิญญาณของเขาเพื่อตรวจสอบคนเหล่านั้นที่ติดตามเขาจากด้านหลังเมื่อเขาพึ่งเข้าร้านอาหารนั้นเขาเห็นเพียงแค่3คนที่ติดตามเขาแต่ตอนนี้ตัวเลขได้เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันถึง14คน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกสงบก็คือผู้ที่ติดตามเขาเดินลวกๆและรอยเท้าของพวกเขาไม่มั่นคงหากพวกเขาเป็นเหมือนฆาตกรที่มีค่าหัวเขาอาจจะต้องใช้กำลังอย่างเต็มที่และระมัดระวังอย่างไรก็ตามการจัดการกับนักเลงข้างถนนพวกนี้เป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา

10 นาทีต่อมา

ถังซิ่วเดินเข้าไปในตรอกที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านสถานที่แห่งนี้ไม่ค่อยมีเสียงดังมากนักเมื่อเทียบกับถนนที่คึกคักก่อนหน้านี้

เบื้องหลังเขา,เด่าบ่าลีดูมีความสุขมากเขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าถังซิ่วจะไม่กลับไปที่เมืองประตูทิศใต้และจะมาถึงที่นี่หลังจากทานอาหารนี่มันเป็นโอกาสที่สวรรค์ประทานให้!

"ไล่ตามเขา!"

พร้อมด้วยคำสั่งของเด่าบ่าลีวัยรุ่นกว่าโหลนึงที่กระจัดกระจายอยู่รอบตัวเขารีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อไปยังถังซิ่วมีไม่กี่คนวนไปรอบๆเพื่อขัดขวางเส้นทางหลบหนีของถังซิ่วให้ติดอยู่ในวงล้อมของพวกเขา

"พวกนายเป็นใคร?"

ถังซิ่วที่โดนล้อมรอบถามออกมาแต่การแสดงออกของเขาเย็นชาเป็นอย่างมาก

ตาของเด่าบ่าลีจ้องมองมาที่ถังซิ่วเขาไม่ได้ออกคำสั่งให้โจมตีเขาแต่กลับกลายเป็นตรวจสอบเขาแทนเขาได้แต่แอบคิดเพราะการรุมทำร้ายคนก่อนหน้านี้ของเขาเป้าหมายมักจะแสดงความกังวลและความกลัวออกมาอย่างไรก็ตามวัยรุ่นที่อ่อนเยาว์ตรงหน้าเขาตอนนี้สงบอย่างผิดปกติและดูไม่เหมือนว่ากลัวพวกเขาเลย

"ดูเหมือนว่าเด็กน้อยคนนี้จะไม่ธรรมดาก็ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะกลายเป็นศัตรูของกู่หยูเต่า"

เด่าบ่าลีหันศีรษะและมองไปที่แก๊งของเขาในขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงลึก

"จับมัน! ถ้ามันไม่ขัดขืนก็แค่หักขามันก็พอ "

“ได้เลย!”

มีรอยยิ้มที่ดุร้ายโผล่ออกมาจากใบหน้าของหนุ่มอันธพาลเหล่านี้ขณะที่พวกเขาพุ่งตรงไปยังถังซิ่ว

ดวงตาของถังซิ่วสว่างไสวพร้อมกับเคลื่อนไหวดั่งสายฟ้าวัยรุ่นทั้งสองตรงหน้าของเขาถูกอัดลอยขึ้นฟ้าด้วยกำปั้นของเขาในตอนที่เขาหันกลับมาได้เตะชายหนุ่มอีกคนหนึ่งลอยไปเหมือนกันและร่างของชายคนนั้นได้ไปกระแทกกับเพื่อนของเขาตรงหน้าและตกลงไปกับพื้น

"ปัง! ปัง ...!”

วัยรุ่นทั้งหมด13คนรุมถังซิ่วและเขาใช้เวลาเพียงครึ่งนาทีสำหรับการเก็บกวาดพวกเขาสำหรับเขาแล้วเหล่านักสู้วัยหนุ่มก็เปรียบเหมือนกับหมอนนุ่มอย่างไรก็ตามเนื่องจากเขายังไม่ทราบถึงตัวตนและคนที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา,เขาไม่ต้องการที่จะฆ่าพวกนักเลงพวกนี้

เขาไม่กลัวที่จะฆ่าแต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะเพิ่มปัญหาที่ไม่จำเป็นสำหรับตัวเอง

นอกจากนี้เขายังคาดเดาได้ว่าผู้ร้ายที่จ่ายเงินให้คนพาลเหล่านี้เพื่อเข้าโจมตีเขาเป็นใครอย่างไรก็ตามเขาจำเป็นต้องยืนยันข้อสงสัยของเขา

ร่างกายของเด่าบ่าลีแข็งอยู่กับที่ มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะยกมือขึ้นเพื่อถูตาเพื่อยืนยันว่าฉากที่เขาเห็นไม่ใช่ภาพลวงตา

นั่นมันเป็นสมาชิกแก๊ง13คน!

จะเป็นไปได้ยังไงที่สมาชิกแก๊ง13คนของเขาถูกทุบตีโยนลงกับพื้นได้อย่างง่ายดาย?แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยได้รับการฝึกเป็นพิเศษหรือมีทักษะศิลปะการต่อสู้ขั้นพื้นฐานแต่พวกเขาก็ยังเคยติดตามเขาพร้อมในต่อสู้นับไม่ถ้วนและมีประสบการณ์การต่อสู้ที่มากมาย!

นี้มันเป็นไปได้ยังไง

ไอเด็กเวรนี้มันแข็งแกร่งอย่างงี้ได้ยังไง ?

เด่าบ่าลีก้าวถอยหลังไปไม่กี่ก้าวในขณะที่เขาจ้องที่ถังซิ่วด้วยท่าทางที่น่าสะพรึงกลัวในใจของเขาตัวเขาเองก็ได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เหมือนกันเขาสามารถรับมือกับ3-4คนแม้ว่าเขาจะต้องพยายามอย่างมากก็ตามแต่13คน?เขาจะต้องถูกทุบในเวลาเพียงแค่ไม่ถึงนาที

ปรมาจารย์!

ถังซิ่วนี้เป็นผู้ปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในหมู่ผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงเขาไม่เคยเจอกับคู่ต่อสู้ที่ทรงอำนาจเช่นนี้!

บนหลังคาอาคาร3ชั้นบริเวณใกล้เคียงกู่หยูเต่าและฮีกังได้เปลี่ยนตำแหน่งเพื่อพวกเขาเพื่อที่จะสามารถมองเห็นตรอกระยะไกลได้อย่างชัดเจนพวกเขากำลังยืนอยู่บนขอบบนหลังคาและมองผ่านกล้องส่องทางไกลพวกเขากำลังทำหน้าเหวอกับฉากที่ถังซิ่วได้อัดวัยรุ่นทั้ง13คนลงกับพื้น

ขะ-ขะ- เขา ... เขาเป็นเทพสงครามที่จุติลงมา? จ....จะมีคนที่มีพลังมากเช่นนั้นได้ยังไงกัน? คนๆเดียว ... สู้กับ13คนที่มีประสบการณ์คนพวกนั้นเป็นพวกอันธพาลพวกที่เก็บค่าคุ้มครอง,เป็นอันธพาลรับจ้างคนเหล่านั้นจะโดนทุบตีอย่างน่าอดสูขนาดนี้ได้อย่างไร?

"กู่หยูเต่าโห่ร้องออกมาอย่าง

ปากของฮีกังกระตุกอย่างรุนแรงสองสามครั้งและแอบระงับความกลัวไว้ในใจจากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงขมขื่นว่า

"แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นเทพสงครามที่จุติลงมาแต่มันก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนักเขาน่ากลัวเกินไปแล้ว!เขาสามารถทุบตีคนเหล่านั้นลงกับพื้นนี่เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือ? "

ผิวของกู่หยูเต่าเริ่มซีดเซียวลงเขาได้ส่งคนไปตรวจสอบภูมิหลังของถังซิ่วหมดแล้วเขารู้ว่าถังซิ่วนั้นมาจากครอบครัวธรรมดา,ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเปลี่ยนจากนักเรียนอัจฉริยะกลายเป็นคนโง่แม้ว่าล่าสุดจะดูเหมือนว่าเขาจะฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงนอกจากทักษะการเล่นการพนันที่น่าอัศจรรย์ของเขาที่ทำให้หลงเซ้งหยูปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดีนอกจากนั้นแล้วดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีความสามารถอื่นๆอีกแล้ว

แต่ ... แต่มันจะกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?

"นายน้อยกู่,เราจะทำยังไงต่อดี ?"

ฮีกังระงับความกลัวในหัวใจเขาขณะที่ถามด้วยเสียงกระซิบ

ความซีดเซียวปกคลุมใบหน้าของกู่หยูเต่าและเขาพูดทั้งที่กำลังขบฟันอยู่หลังจากนั้นในไม่กี่วินาที

"แม้ว่าเขาจะสามารถต่อสู้ได้แต่มันจะทำได้ถึงไหนกันเชียวเขาสามารถรับมือกับอันธพาล13คนแต่เขาจะสามารถรับมือกับผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้13คนได้ไหมหละ? ฮึ้ม…"

ฮีกังรู้สึกประหลาดใจ

"นายน้อยกู่หรือคุณหมายความว่าจะหา ... "

กู่หยูเต่ายิ้มเยาะ

"ใช่,ไอเจ้าพวกที่อยู่บริษัทรักษาความปลดภัยเป่งมักจะไม่ค่อยถูกเรียกใช้มากนักบางทีหลูฟูซ่งคงจะมีความสุขมากที่ได้รับรายได้เพิ่ม! "

ฮีกังลังเลและพูดว่า

"นายน้อยกู่แต่ถ้าคุณต้องการจะจ้างคนเหล่านั้นผมเกรงว่าค่าใช้จ่ายจะสูงมากถ้าผู้จัดการทั่วไปรู้เรื่องนี้ ... "

"ฉันจะไม่ใช้เงินจากบริษัทฉันจะจ่ายมันด้วยเงินของฉันเอง "

แม้ว่าเสียงของเขาจะมีพลังแต่หัวใจของเขากำลังเลือดออกเพราะเขาไม่รู้เลยว่าเขาจะต้องใช้เงินเท่าไรเพื่อจ้างไอพวกนั้นจาก บริษัทรักษาความปลอดภัยเป่ง........แต่เขาต้องการล้างความอัปยศของเขาและทำให้ถังซิ่วต้องชดใช้ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะขายรถPorscheของเขาอย่างลับๆ

ตรอกที่ห่างออกไป ...

ถังซิ่วมองหน้าเด่าบ่าลีด้วยท่าทางเย็นชาเขาพลิกข้อมือของเขาและชักมีดกองทัพที่ได้มาหลังจากฆ่าพวกอาชญากรออกมาอย่างรวดเร็ว

"เรื่องนี้ทำให้ฉันอารมณ์เสียมากถ้าพวกแกไม่คิดจะปริปากเพื่อขายมันฉันก็จะไม่ซื้อมันเหมือนกันแต่ถ้าพวกเหี้*ๆอย่างพวกแกต้องการทำร้ายฉัน,ฉันก็จะคืนมันกลับไปให้พวกแกสองเท่าพวกแกต้องการที่จะทำลายขาของฉันใช่มั้ย?ถ้างั้นเอาอย่างงี้เป็นไง?ฉันจะทำลายทั้งแขนและขาพวกแกให้หมดแต่จริงๆฉันไม่ต้องการมีปัญหามาก,ถ้าพวกแกบอกฉันว่าไอ้บ้าที่ไหนจ้างแกมาฉันให้คำมั่นว่าพวกแกจะไม่ต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่บนรถเข็นคนพิการแน่นอน! "

ถังซิ่วพูดด้วยท่าทางสบายๆแต่เนื้อหามันเหมือนกับว่าฟ้าผ่าลงกลางหัวใจของเด่าบ่าลีทำให้มันพังพินาศ

ใช้เวลาที่เหลือของชีวิต ... บนรถเข็นคนพิการ?

เขากลัวอะไรมากที่สุด?แน่นอนการเป็นคนพิการและใช้เวลาที่เหลือของชีวิตของเขาบนรถเข็นคนพิการเขาเคยทำเรื่องชั่วช้ามามากมายและทำร้ายผู้คนจำนวนมากในปีนี้คนเหล่านี้เกลียดเขาแต่ก็ไม่กล้าที่จะแก้แค้นเพราะเขาผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ที่น่าเกรงขามและมีสมาชิกแก๊งหลายคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาแต่ถ้าแขนขาของเขาพิการไปพี่น้องของเขาจะเหมือนกับหนูที่ทิ้งเรือที่กำลังจะจมไว้เมื่อถึงเวลานั้นคนนับไม่ถ้วนจะมาหาเขาและแก้แค้น

เมื่อต้นไม้ล้มลงลิงก็จะกระจัดกระจายออกไป,ถ้ากำแพงได้พังลงเขาจะถูกล้างแค้นโดยทุกคน

เขา รู้ตัวดีว่าถ้าถึงเวลานั้นแล้วเขาอาจจะต้องตาย

ด้วยความคิดแบบนั้นในใจเขาจึงได้แต่ขบฟันและตอบว่า

"คุณแน่ใจนะ?"

ถังซิ่วพูดเบาๆว่า

"แน่นอนอยู่แล้ว"

เด่าบ่าลีพูดด้วยเสียงต่ำว่า

"กู่หยูเต่า"

เป็นมันจริงๆ !

ถังซิ่วได้แอบถอนใจตัวเอง,นอกจากนี้เขายังได้สังเกตใบหน้าของกู่หยูเต่าจากการพูดคุยเมื่อเขาได้พบกันเขารู้ทันทีว่าวัยรุ่นคนนี้นั้นเป็นคนใจแคบและมักจะแก้แค้นแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยถังซิ่วรู้ดีว่าเขาไม่ได้ไปยุแหย่มันและไม่แม้กระทั้งสนใจมันเลยแต่กลับกลายเป็นว่าเขาได้สร้างความแค้นขึ้นในเรื่องนั้น

"ทำลายแขนของแกแล้วไสหัวไปซะ!"

ความรู้สึกที่หนาวเหน็บเอ่อขึ้นจากหัวใจของเด่าบ่าลีเขามองไปที่มีดกองทัพในมือของถังซิ่วก่อนที่เขาจะดึงกริชออกจากเอวอย่างเงียบๆจากนั้นก็แทงแขนซ้ายของตัวเองโดยไม่ลังเลเลย

“พุฟฟฟฟ ......”

เลือดพุ่งออกมาทันทีเมื่อกริชถูกดึงออกมา

ในขณะนี้ร่างของหลงเซ้งหลินปรากฏที่ทางเข้าของตรอกเมื่อเขาเห็นฉากที่เกิดขึ้นผิวของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากในขณะที่เขารีบเร่งฝีเท้าอย่างรวดเร็ว

"พี่ถังเกิดอะไรขึ้น?"

ถังซิ่วตอบเบาๆว่า

"ก็แค่ตัวตลกบางตัวเท่านั้นพวกมันเป็นอันธพาลที่ใครบางคนจ้างมาเพื่อหักขาฉันแต่ฉันได้เก็บกวาดพวกมันหมดแล้ว "

หลงเซ้งหลินมองไปที่พวกอันธพาลวัยหนุ่มที่กำลังโอดครวญด้วยความเจ็บปวดอยู่ทั่วทุกหนแห่งดวงตาของเขาสว่างไสวขณะที่เขาร้องออกมาดังๆด้วยความแปลกใจ

"พี่ถัง,พ-พวกเหี้*พวกนี้ ... พ- พี่เป็นคนทุบตีพวกเขาทั้งหมดด้วยตัวเอง?"

"ใช่!"

ถังซิ่วพยักหน้า

หลงเซ้งหลินใช้มือของเขาถูหัวโล้นๆของตัวเองในขณะที่เขาตะโกนด้วยความชื่นชมและการแสดงออกที่ไม่อยากจะเชื่อ

"สุดยอด!!! นี้มันสุดยอดชิบหายเลย!!!สมกับเป็นพี่ชายของหลงเซ้งหลินคนนี้!นี้มันสุดยอดเกินไปแล้ว!10...13! ไม่, ไม่, ไม่, ยังมีไอบัดซบเด่าบ่าหลีอีกคนที่พี่เป็นคนจัดการ!ผม ...ผมจะบูชาพี่จนกว่าผมจะตาย! "

"ไปไกลๆเลยไป๊... "

ถังซิ่วได้แต่หัวเราะพร้อมยิ้มอย่างตลกๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด