ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 33
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 35

Returning From The Immortal World - 34


.......................................................................................................................................................................................

ในชั่ววินาทีที่ถังซิ่วกลิ้งตัวไปด้านหน้ามีเส้นหวายที่หนาเท่าขนาดถังฟาดไปที่เขา

ถ้าเขาไม่รีบกลิ้งตัวไปนั้น เขาจะต้องถูกฟาดลอยไปแน่นอน

"ฮิสสสส  ... ฮิสสสส"

หลังจากล้มเหลวในการเหวี่ยงถังซิ่ว, ก็มีเสียงออกมาจากปากของมันอย่างโกรธ

สิ่งที่จู่ ๆ ก็แอบโจมตีถังซิ่วนั้น,เป็นงูยักษ์ที่ใหญ่มาก

การโจมตีของงูหลามยักษ์นั้นไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำความเสียหายให้แก่ถังซิ่วได้แล้วนั้น มันยังได้รับบาดเจ็บที่ตา, ที่เกิดจากกการเตะกองไฟของถังซิ่ว

ราวกับว่าถังซิ่วนั้นยั่วยุความโกรธของมัน ร่างกายของงูหลามก็ยกขึ้นไปในอากาศสูงราวกับว่ามันกำลังบินอยู่ ปากของมันพ่นหมอกสีแดงเข้ม ปกคลุมรอบๆ รัศมี 10 เมตร, ร่างของพุ่งใส่ถังซิ่วดังลูกธนูที่พึ่งถูกยิงออกมา

ถึงแม้เขาจะกลั้นลมหายใจ แต่ถังซิ่วก็ยังคงรู้สึกวิงเวียนอยู่พักหนึ่ง หมอกสีแดงกลายเป็นพิษที่รุนแรงอย่างมาก มันไม่จำเป็นต้องเข้าไปในร่างกายโดยการหายใจ แต่สามารถเจาะผ่านชั้นผิวหนังของมนุษย์ได้

ถังซิ่วไม่ต่างจากคนธรรมดาในขณะนี้ เขาเพียงแต่พยายามที่จะเดาทางและระวังการโจมตีของมัน ดังนั้นการกลั้นลมหายใจของเขานั้นดีมากแต่ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาในตอนนี้นั้น เขาไม่สามารถที่จะปิดกั้นรูขุมขนของเขาได้

ขณะที่กลิ้งไปมาเพื่อหลบหลีกการโจมตีของงู , ถังซิ่วได้เอากริชสามแฉกออกมาจากกระเป๋านักเรียนและแทงเขาอย่างรุนแรงที่ด้านหลังของงูหลามนั้น

แม้ว่าเขาจะหลบหนีการโจมตีของงูหลามได้อีกครั้ง, แต่ใบหน้าของเขาก็ดูน่าเกลียดมาก

แม้ว่าถังซิ่ว ยังคงปิดปากและจมูกของเขาพร้อมอาศัยพลังใจของเขาที่จะไม่หายใจหลังจากการเคลื่อนไหวที่รุนแรง แต่รูขุมขนบนร่างกายของเขาก็เปิดออกทำให้หมอกพิษซึมเข้าไปในร่างกายของเขาและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

"เวรเอ้ย ฉันต้องรีบจัดการไอเจ้านี้โดยไว ไม่อย่างงั้นฉันจะเป็นคนที่ตายอยู่ที่นี้ !”

รู้สึกถึงพิษที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างของเขา แววตาของเขากลายเป็นเย็นเฉียบ พร้อมจิตใจของเขากลายเป็นเคร่งขรึม

ในช่วงต่อมาถังซิ่วคว้าสมุนไพรจำนวนมาก

เขารีบเคี้ยวสมุนไพรและรีบลงไปยังกองไฟ

ขณะที่ทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่เท้าของเขา เนื่องจากการยืนบนกองไฟ, ถังซิ่วจ้องที่งูหลามด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

ก่อนหน้านี้ถังซิ่วมาที่หมู่บ้าน เขาล้อมนี้เพื่อหาสัตว์ร้าย แต่เขาไม่ได้คำนวณเกี่ยวกับอันตรายและความเสี่ยงที่เกิดจากสัตว์ร้าย และงูหลามนี้,ชัดเจนอยู่แล้วว่ามันเกินกว่าความเสี่ยงที่เขาคาดไว้และเขาไม่ได้เตรียมพร้อม

ถังซิ่วเคยชินกับการมีพลังใน ดินแดนแห่งนิรันดร์ ทำให้เขามั่นใจในการเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายแปลก ๆ ดังนั้นเขาจึงยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาวะปัจจุบันได้อย่างเต็มที่

โชคดีที่ถังซิ่ว ได้เลือกสมุนไพรบางชนิดที่มีฤทธิ์ในการล้างพิษเมื่อเขาปีนขึ้นเขา ,เพื่อป้องกันไม่ให้เขาถูกวางยาพิษ ถึงแม้ว่าสมุนไพรเหล่านี้จะไม่สามารถกำจัดสารพิษในร่างกายของเขาได้ แต่สามารถยับยั้งได้ชั่วคราว

เหตุผลที่ทำไมถังซิ่วถึงกระโดดขึ้นไปบนกองไฟนั้น ไม่ได้เป็นเพราะเขาต้องการทรมานตัวเอง แต่เป็นเพราะเขาถูกบีบบังคับให้ทำเช่นนั้น

กองไฟนั้นมีอิทธิพลกับพิษสีแดงนั้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่ามันไม่มีหมอกพิษสีแดงนั้นอยู่รอบกองไฟเลย

“ฮิสสสส! ฮิสสสสส!”

งูหลามดำนั้น เห็นได้ถึงเจตนาของถังซิ่ว พร้อมกับที่หางของมันฟาดไปอย่างรุนแรงที่ถังซิ่ว

ร่องรอยของประกายตาที่เจ้าเล่ห์ของงูหลามดำนั้นฉายออกมาในขณะที่ถังซิ่ว กระโดดสูงขึ้นไปในอากาศเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของ งูนั้น

ตามมาด้วยเสียง “แบง” กองไฟก็ลอยขึ้นไปในอากาศโดยไม่มีไม้ชินไหนนเหลือไฟติดอยู่เลย

ปรากฏว่างูนั้นพุ่งเป้าไปที่กองไฟบนพื้นดินไม่ใช่ถังซิ่ว

"สัตว์ชั่วร้าย ดูเหมือนว่าแกจะเข้าสู่ขั้นการรวมวิญญาณ แล้วซินะ ฉันจะไม่ยอมให้แกมีชีวิตอยู่ได้ !"

เมื่อได้เห็นความฉลาดดังกล่าวจากงูนั้น ถังซิ่วก็แสดงออกถึงความตกใจและปรากฏความน่ากลัวขึ้นบนหน้าเขา จิตสังหารที่รุนแรงได้พวยพุ่งออกมาจากตัวเขา

ตั้งแต่ถังซิ่วสามารถซ่อนตัวอยู่ภายในกองไฟได้ เขาก็สามารถป้องกันการโจมตีของงูที่ทำลายกองไฟได้

ด้วยประสบการณ์การต่อสู้อันยาวนานของถังซิ่ว เขาได้หลบการโจมตีของงูหลามดำและในขณะเดียวกันก็พลิกตัวและ แทงกริชสามแฉกของเขาลึกไป 7 นิ้วใต้หัวของงูนั่น

งูดำที่น่าสงสารที่กำลังตกใจหลังจากที่ทำลายกองไฟนั้น, อยู่ดีๆก็รู้สึกเจ็บออกมาจากร่างกายของมัน นั้นทำให้ร่างกายของมันแข็งถือ

ถังซิ่วนั้นได้ดึงมีดออกมาและแทงซ้ำไปซ้ำมา

หลังจากโดนแทงซ้ำกัน 3 ครั้ง , งูหลามดำพึ่งจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงขณะที่ม้วนตัวและพลิกหางของมันเพื่อพยายามจับถังซิ่ว

ตอนนี้ ,ถังซิ่วนั้นได้ทำแผลขนาด 7 นิ้วไว้ใต้หัวของงูนั่น ทำให้ตอนนี้เลือดไหลออกมาจากบาดแผลของงูหลามไม่หยุด

ถังซิ่วนั้นได้ศึกษาวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์มานับไม่ถ้วนในหลายชาติในอดีตของเขา ถึงขั้นที่ฝังแน่นจนกลายเป็นสัญชาตญาณของเขา

สิ่งสำคัญแรกนั่นคือแก่นวิญญาณที่หลั่งออกมาจากแผลนั้นถือเป็นส่วนสำคัญมากๆ ถังซิ่วก็ไม่อยากพลาดแม้สักนิดเดียว

ถังซิ่วอ้าปากงับไปที่แผลของงูนั้นเพื่อดูดเอาแก่นวิญญาณออกมาด้วยความไวดั่งสายฟ้า

ในขณะเดียวกันมือของ ถังซิ่วได้ยึดมั่นไว้กับร่างของ งู เพื่อป้องกันไม่ให้เขาหลุดออกจากตัวงูหลาม

งูหลามนั้นไม่ได้คาดไว้ว่า การต่อสู้กำลังจะจบรวดเร็วขนาดนี้และมันอาจจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

เมื่อตระหนักว่ามันกำลังเสียความได้เปรียบในการต่อสู้กับมดเช่นนี้ ถึงขั้นที่เป็นอันตรายต่อชีวิตมัน ,มันรู้สึกตื่นตระหนกมาก

ตามมาด้วยเสียง “แบง” หางของงูนั้นได้ฟาดไปที่แขนของถังซิ่ว ด้วยความเจ็บปวดนั้นทำให้ถังซิ่ว หน้าบิดเบี้ยวทันที

ในความเป็นจริงหางของงูนั้นพยายามที่จะโจมตีที่หัวของถังซิ่ว แต่ในขณะนั้นเขาไม่ลังเลที่จะโยกหัวของเขาไปด้านข้างและหลบการโจมตีนั้น

"สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าชั้นไม่สามารถจัดการแกได้ !"

ถังซิ่วเห็นได้ชัดว่า งูหลามนั้น ได้หักแขนของเขาแล้ว

เขาทนกับความเจ็บปวดพร้อมแววตาที่ดุร้าย

ในเวลาไม่กี่วินาทีเขาจับมีดไว้ด้วยฟันขณะที่แทงแผลก่อนหน้าของ งูหลามดำนั่นอย่างรวดเร็ว

เมื่อมีดนั้นแทงเข้าไปแล้วถังซิ่ว ยังคงดูดซับแก่นวิญญาณของ งูหลามดำ อีกครั้ง

ภายใต้ความเจ็บปวด, งูหลามดำกลิ้งไปมาพร้อมพ้นความพิษสีแดงออกมาทั่วทุกที่

เมื่อ งูหลามดำได้สะสมความแข็งแกร่งไว้เพื่อเตรียมใช้หางของมันโจมตีที่ถังซิ่วอีกครั้ง, ถังซิ่วโกรธเคืองมากในขณะที่เขาใช้ปากของเขาเพื่อหมุนกริชเข้าไปในร่างของมัน

ภายใต้การเคลื่อนไหวของมีด, ความแข็งแกร่งที่สะสมไว้ของมันหายหมดไปในทันทีเหมือนการโจมตีของมันนั้นได้รับการแก้ทางแล้ว

เมื่อรู้ว่าหางของมันไม่สามารถโจมตีถังซิ่วได้อย่างแล้ว งูนั่นก็บ้าคลั่งพร้อมเอาร่ายกายฟาดไปตามหินและต้นไม้

ถังซิ่วได้สังเกตเห็นสภาพแวดล้อมอย่างรอบคอบแล้ว เขารีบแอบและหลบทุกครั้งที่งูนั่นพยายามจะฟาดเขากับหินหรือต้นไม้ เขาพยายามที่จะลดความเสียหายทางร่างกายให้ได้มากที่สุด ในขณะเดียวกันที่กำลังดูดเอาแก่นวิญญาณออกมาจากตัวมัน

เมื่อ ถังซิ่ว ดูดเอาแก่นวิญญาณมันออกมาแล้ว งูหามดำนั่นรู้สึกเหมือนว่าร่างกายของมันอ่อนแอลงอย่างมาก

ในที่สุด เมื่องูดำ ดูเหมือนจะรู้ว่าชะตาชีวิตของมันอาจจะสิ้นสุดลงแล้ว มันเลิกต่อสู้อย่างดุเดือด แต่ขยับตัวและพุ่งตัวอย่างรุนแรงตรงไปยังทิศทางที่เฉพาะเจาะจง

เมื่อร่างของถังซิ่วบินขึ้นไปในอากาศ เขาก็ตื่นตระหนกอย่างมากพร้อมใบหน้าของเขาที่ซีดลง

ปรากฏว่าคราวนี้งูนั้นไม่ได้คิดจะชนกับหินหรือต้นไม้ไปพร้อมกับร่างกายเขาอีกแล้ว แต่มันกำลังพุ่งไปที่เนินเขาเพื่อกระโดดลงไป

งูหลามดำ เหมือนว่าจะตระหนักแล้วว่ามันไม่สามารถทำอะไร ถังซิ่วได้และแม้กระทั่งมันก็อาจสูญเสียชีวิตของมัน มันไม่ลังเลที่จะเลือกที่จะพินาศไปพร้อมกับถังซิ่ว

“นี้ฉันจะต้องตายไปพร้อมไองูนี้ ?”

ในขณะที่กำลังได้ยินเสียงลมที่เจาะเข้ามาในหูเขา พร้อมมองพื้นที่เต็มไปด้วยความมืด ความรู้สึกสิ้นหวังพุ่งออกมาจากหัวใจเขา

“ไม่ ! ในที่สุดก็ได้มาที่โลกนี้แล้ว ได้อยู่กับแม่แล้ว ฉันจะต้องรอด !!!!”

ในชั่วขณะต่อมาถังซิ่วได้ปรับอารมณ์ของเขาพร้อมแววตาที่แน่วแน่

ถังซิ่วเอากริชออกมาและในวินาทีต่อมา เขาก็ดึงตัวเองออกจากร่างของ งูหลาม

ในตอนนี้นั้นมันไม่เหลือแรงพอที่จะต่อต้านอะไรได้อีกแล้ว มันได้แต่ทนมองถังซิ่วสร้างบาดแผลร้ายแรงบนร่างของมัน

อย่างไรก็ตาความตึงเครียดได้ปรากฏบนใบหน้าของถังซิ่ว เพราะว่านอกเหนือจากรอบแทง 7 นิ้วก่อนหน้านี้แล้ว เขาไม่สามารถที่จะสร้างบาดแผลใดๆให้กับงูนั้นได้เลย

ถังซิ่วตระหนักแล้วว่าวันนี้นั้น นอกจากรอยแผลที่สร้างขึ้นโดยบังเอิญและการรับมือกับงูนี้อย่างไม่ได้เตรียมการนอกจากเขาจะไม่สามารถสร้างบาดแผลให้มันได้ เขานั้นจะต้องทำให้เขาอาจจะเสียชีวิตได้

ถังซิ่ว เหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง เขาตกลงมากับงูนี้มากกว่า 100 เมตรแล้ว ตอนนี้ถังซิ่วนั้นสามารถที่จะมองเห็นบ้านเรือนและตีนเขาแบบลางๆแล้ว

“ร่างกายของฉันตอนนี้ ไม่ต่างกับร่างกายของมนุษย์ ตกลงจากที่สูงด้วยความเร็วระดับนี้ ร่างฉันจะต้องกลายเป็นเศษเนื้อแน่ๆ”

เมื่อเห็นว่าร่างกายของเขานั้นกำลังใกล้จะถึงพื้นเรื่อยๆแล้ว ในหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวลที่เกิดขึ้น ดวงตาของขาคมเหมือนดั่งนกอินทรีที่กับยังมองอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะหาโอกาสรอด

มองไปที่พื้นดินด้านล่างถังซิ่วสามารถมองเห็นได้เพียงหินเท่านั้น ไม่มีต้นไม้หรือหนองน้ำ, ทำให้ถังซิ่วเกือบจะตกอยู่ในความสิ้นหวัง

เมื่อถังซิ่วกำลังคิดว่าความตายของเขาใกล้เข้ามาแล้ว น้ำฝนก็ตกลงมาอย่างนุ่มนวลงบนใบหน้าของเขาทำให้เขาจ้องมองเปล่าๆอยู่ชั่วครู่หนึ่ง

ฝนจะตกได้ไงในขณะที่ท้องฟ้าแจ่มใส

ความรู้สึกงงงวยเต็มไปทั้งดวงตาของถังซิ่ว , ขณะที่มองขึ้นไปบนฟ้าและเห็นท้องฟ้ากว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงจันทร์แพรวพราวที่สว่างอยู่เหนือศีรษะของเขา

"ฉันเจอแล้ว !!!"

สายตาของถังซิ่วสว่างขึ้นเมื่อเขาพบว่าน้ำที่หยดลงบนใบหน้าเขาไม่ใช่หยาดฝนตก แต่เป็นแก่นวิญญาณที่ไหลออกมาจากร่างของ งูหลามดำ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด