ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 31
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 33

Returning From The Immortal World - 32


 

เฉิงเยี่ยนหนาน ( ผญ ที่ปกป้องถังซิ่วในห้องเรียน)

หยวนชูหลิง (ไออ้วนเพื่อนสนิท)

ฮั่นชิงหวู (อาจารย์ประจำชั้นห้อง)

หลงเซ้งหลิน (ไอหัวโล้น ตอนที่ห้องเกม)

VW Touareg : <a href="https://goo.gl/zcWQrg">https://goo.gl/zcWQrg</a>

.......................................................................................................................................................................................

หลังจากที่ฮั่นชิงหวูได้ระบายความโกรธของเธอ ชั่วขณะหนึ่งเธอก็รู้ด้วยว่าเธอได้โทษความผิดไปที่หยวนชูหลิงและมองไปที่เขาด้วยท่าทางขอโทษ

คะแนนของหยวนชูหลิงอาจไม่เวอร์เหมือของถังซิ่ว แต่เขาก็ผ่านการสอบได้ด้วยคะแนน 476 คะแนนในการทดสอบรายเดือนนี้

เธอรู้ดีว่าความยากของการทดสอบรายเดือนก่อนนั้นยากแค่ไหน เด็กที่ได้คะแนนเกิน 550 นั้นมีแค่ 27คนจากทั้งระดับชั้นไม่ใช่จากชั้นเรียน , ด้วยคะแนน 476, หยวน ชูหลิง นั้นติดอันดับหนึ่งใน 300 ของนักเรียนทั้งหมด เขาก็เป็นหนึ่งในห้าของนักเรียนห้องสิบ ที่ติดหนึ่งใน 300 ของโรงเรียน

"หยวนชูหลิง , ถังซิ่วไม่ได้อยู่ในหอพักเมื่อคืนนี้ เขาขอลาหยุดในวันนี้ คุณรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงต้องลาหยุดไปอย่างรีบเร่ง? "

ฮั่นชิงหวูถาม

"ผม ... ผม ... อา ... ผมก็ไม่รู้ ... "

หยวนชูหลิงไม่รู้ว่าถังซิ่วหนีออกจากหอพักเมื่อคืนนี้ แต่เมื่อเขานึกถึงเหตุการณ์ที่ร้านอาหารของครอบครัวถังซิ่ว การแสดงออกของความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

"เธอโกหก เธอรู้เหตุผลแน่นอน! บอกฉันมาเดี๋ยวนี้! ถังซิ่วเจอปัญหาอะไรเหรอ? "

ฮั่นชิงหวู ถามอย่างหดหู่เพราะเธอสามารถเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางใบหน้าของหยวนชูหลิงได้

"หยวนชูหลิง ถ้าถังซิ่วนั้นเจอปัญหาจริงๆนายต้องบอกเรา! นายคงไม่อยากให้ถังซิ่วเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดใดๆ เหมือนอย่างตอนที่สอบเข้าโรงเรียนนี้ใช่หรือไม่ ?”

เมื่อได้ยินข้อความโต้ตอบระหว่างฮั่นชิงหวูและหยวนชูหลิง, เฉิงเยี่ยนหนานก็ได้เปล่งเสียงที่กังวลอยู่ในหัวใจของเธอออกมา

ความประหม่าเกิดขึ้นเต็มหัวใจของหยวนชูหลิง,  เมื่อเขาได้เห็นท่าทีที่ตึงเครียดบนใบหน้าของฮั่นชิงหวูและเฉิงเยี่ยนหนาน ภาพของร้านอาหารที่โดนทุบนั้นได้ฉายขึ้นมาในจิตใจเขาทันที

หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่หยวนชูหลิงเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านของถังซิ่ว

ฮั่นชิงหวูและเฉิงเยี่ยนหนานได้ยินก็ตกใจเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาได้ยินว่าร้านอาหารของถังซิ่วถูกทุบ พวกเขารีบลากหยวนชูหลิงออกนอกห้องเรียนและถามทางหยวนชูหลิง เพื่อพาพวกเขาไปที่ร้านอาหารของถังซิ่ว

ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถของฮั่นชิงหวูจอดที่ข้างถนน ข้างหน้าทางเข้าร้านอาหาร แต่เธอก็ตะลึงเมื่อเห็นสถานการณ์ที่วุ่นวายและมีชีวิตชีวาที่ร้านอาหาร

"หยวนชูหลิงนายแน่ใจหรือว่านายไม่ได้พาพวกเรามาผิดที่"

เฉิงเยี่ยนหนานรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติในขณะที่เธอถามด้วยความสงสัย

"อา ... ใช่ฉันมาที่นี่เมื่อ 2 วันก่อน ห้องโถงทั้งห้องถูกทุบเละและมีร่องรอยเลือดสาดกระจายเต็มห้องโถง หลังจากนั้นฉันก็เข้าไปและอัดคนสองคนในนั้นด้วยความโกรธ "

ความรู้สึกประหลาดใจอย่างเดียวกันนี้ก็เกิดขึ้นกับหยวนชูหลิง, พร้อมตอบคำถามของเฉิงเยี่ยนหนาน

แต่ฉากปัจจุบันอยู่ตรงหน้าเขาเกินกว่าจินตนาการของหยวนชูหลิงได้ เมื่อคิดถึงร้านอาหารถูกทุบเหลือเพียงซาก เป็นไม่ไม่ได้เลยที่จะสามารถเปิดได้ในไม่กี่วัน อย่างไรก็ตามร้านอาหารในตอนนี้ไม่ได้เปิดคำการอย่างเดียวเท่านั้น แต่ก็ยังคึกคักและมีชีวิตชีวา

"แผ่นไม้เนื้อแข็งเพื่อตกแต่งภายในร้านอาหารสำหรับ ผนังและฝ้าเพดานทั้งสามจะมีราคาอย่างต่ำ 200,000 หยวน พื้น 100 ตารางเมตรปูด้วยกระเบื้องเซรามิค Marco Polo มีค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 100,000 หยวน  ชุดโต๊ะ 30ชุด ไม้เนื้อแข็งและเก้าอี้ก็ไม่ต่ำกว่า 200,000 หยวน ในขณะที่เสื้อผ้านุ่มและอุปกรณ์ต้องมีค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 5 ถึง 600,000 หยวน

"แถมธุรกิจยังดูเฟื่องฟู ไม่เพียง แต่ 18 โต๊ะในร้านอาหารจะเต็ม แต่ยังมีพวกที่ยืนเรียงรายกันอยู่หน้าร้าน แม้ว่ากำไรของแต่ละโต๊ะจะมีเพียง 50 หยวน แต่กำไรสุทธิของร้านอาหารอย่างน้อยก็ถึง 20,000 หยวน ต่อวัน"

เมื่อหยวนชูหลิงยังคงสงสัยว่าห้องอาหารเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันได้ยังไง เสียงของฮั่นชิงหวูก็ดังขึ้นในหู

"หยวนชูหลิง เธอไม่รู้สึกว่าการโกหกของเธอไร้สาระเกินไปป่าวฮะ? ถ้าร้านนี้ของเป็นถังซิ่วจริงๆเขาจะต้องเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่ยากลำบากในโรงเรียนและไม่สามารถจ่ายเงินค่าเล่าเรียนได้อย่างไร "

หยวนชูหลิง ยังคงงงงวยอยู่ว่าทำไมครูประจำชั้นของเขา คำนวณค่าตกแต่งในห้องอาหารและกำไร, แต่ก็เสียงของฮั่นชิงหวูที่เย็นและเข้มงวดก็ดังขึ้น

"นะ.....นะ... นี่ ... ผมไม่รู้จริงๆว่ามันจะเป็นแบบนี้ได้อย่างไร แต่สิ่งที่ผมบอกคุณก่อนหน้านี้เป็นความจริง, จริงๆนะ!"

หยวนชูหลิงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

"ลงไปเดี๋ยวนี้!!! และกลับไปที่โรงเรียนด้วยตัวเธอเอง! ถ้าเธอไปสายในคาบเย็น ฉันจะให้เธอคัดพันบรรทัดวิจารตัวเธอเองเกี่ยวกับวิจารณ์และเสียใจ! "

ฮั่นชิงหวูไม่สนใจที่จะฟังคำอธิบายของหยวนชูหลิง ขณะที่เธอสั่งด้วยเสียงเย็นชา

( ทำเพื่อนรับกรรม 2 บทติดกันเลยแหะ )

"ผม ... ผมจะลงไปที่นั่นและมองหาเจ้าของเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ "

นี่เป็นครั้งแรกที่ หยวนชูหลิงเห็นฮั่นชิงหวูโกรธจัดมาก ภายใต้การจ้องมองที่รุนแรงของเธอหยวนชูหลิงได้ลงจากรถในขณะที่เขาพูดด้วยเสียงที่สั่นสะเทือน

ฮั่นชิงหวูเหยียบคันเร่งแม้ว่าหยวนชูหลิงยังพูดไม่เสร็จในขณะที่ VW Touareg ของเธอพุ่งออกไปในอย่างรวดเร็ว

(ครูห่าอะไรวะเนี้ย 555 ทิ้งนักเรียนเฉย)

จนเมื่อ VW Touareg จะหายไปจากสายตาของหยวนชูหลิงพึ่งรู้ว่ากระเป๋าตังและโทรศัพท์มือถือของเขาอยู่บนโต๊ะเรียนของเขา ทำให้เขาไม่ได้มีเงินติดตัวอยู่ในขณะนี้

"ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงในการเดินจากที่นี่ไปโรงเรียน แน่นอนฉันจะเข้าสายสำหรับคาบเย็น โว๊ะ ... ดูเหมือนว่าฉันจะต้องเขียนไอเรียงความวิจารณ์ตัวเอง ... "

หยวนชูหลิงคำนวณระยะทางจากร้านอาหารไปที่โรงเรียนและใบหน้าของเขากลายเป็นสีแตงโมแดงขม

“โอ้! หลิงน้อย นั้นเธอ ? ฉันคิดว่าฉันมองผิดไป เธอกำลังทำอะไรอยู่ข้างนอก? มานั่งนี่มา!”

เมื่อหยวนชูหลิงกำลังคิดว่าเขาจะต้องเข้าไปในร้านอาหารเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน แต่เขากลับได้ยินเสียงที่คุ้นเคยในหูของเขา

หยวนชูหลิง เงยหน้าขึ้นและเห็นคนที่เขารู้จักนั้นก็คือแม่ของถังซิ่ว , ซูหลิงหยุน,ความตื่นเต้นได้ปรากฏบนใบหน้าของเขาทันที เนื่องจากว่าตอนนี้ปัญหาสำหรับค่าเดินทางกลับไปโรงเรียนก็สามารถแก้ไขได้แล้ว

"คุณป้าครับ ป้าย้ายร้านนี้หรือ?"

หยวนชูหลิง ได้สังเกตเห็นซูหลิงหยุนและพบว่าเสื้อผ้าของเธอไม่ได้เปลี่ยนจากเครื่องแต่งกายของเมื่อวานนี้ เขาพึมพำออกมาจากหัวใจของเขาในขณะที่เขาถามด้วยความรู้สึกห่วงใย

"อ่าไม่, มันยังเป็นร้านเดียวกัน ฉันเพิ่งปรับปรุงใหม่อีกครั้ง แต่ฉันทำเครื่องเทศใหม่ๆและธุรกิจก็รุ่งเรืองเฟื่องฟู "

เมื่อได้ยินหยวนชูหลิงกล่าวถึงร้านอาหารเธอ รอยยิ้มที่มีความสุขได้ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของซูหลิงหยุน

เมื่อได้ยินคำตอบของซูหลิงหยุน , หยวนชูหลิงรู้สึกท้อแท้ เขาต้องการที่จะรู้เป็นอย่างมากว่าเงินที่ใช้ปรับปรุงร้านมาจากไหน แต่เพราะเขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับซูหลิงหยุนเขารู้สึกอึดอัดใจที่จะถามเกี่ยวกับเรื่องนี้

"คุณป้า, ถังซิ่วมีคะแนน 712 คะแนนในการทดสอบรายเดือนครั้งก่อนและเมื่อเทียบกับผู้ที่ได้ที่สอง,คะแนนของเขาสูงกว่าตั้ง 79 คะแนน ป้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความสำเร็จของเขาเลย "

หลังจากเงียบไปชั่วระยะหนึ่ง หยวนชูหลิงได้ตั้งใจเปลี่ยนหัวข้อไปที่ถังซิ่วเพื่อสืบสวนว่าซูหลิงหยุน รู้เรื่องสถานที่ของถังซิ่วหรือไม่

ในตอนแรกเขาอยากจะถามตรงๆเกี่ยวกับข่าวของถังซิ่วแต่เขากลัวว่าซูหลิงหยุน ไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องเกี่ยวกับการลาพักของถังซิ่ว เขาไม่อยากทำให้เธอต้องกังวลเกี่ยวกับถังซิ่ว เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการถามซูหลิงหยุน อ้อมๆ

"ซิ่วน้อย ได้ที่หนึ่งจริงๆหรอ ?! โอ้มันเยี่ยมมาก! ฉันรู้ว่าเขาจะไม่โกหกฉัน! "

เมื่อซูหลิงหยุนได้ยินว่าถังซิ่วได้ที่หนึ่ง แม้ว่าเธอจะมีความสุข แต่ความตื่นเต้นของเธอนั้นเป็นเรื่องปกติ

แต่เมื่อเขานึกถึงตอนที่ซูหลิงหยุนนั้นเชื่อว่าถังซิ่วจะได้รับคะแนนสูงสุด แม้ว่าผลการทดสอบรายเดือนจะยังไม่ออกมา, หยวนชูหลิงก็กลับมาเงียบอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามจากคำตอบของซูหลิงหยุน, หยวนชูหลิงเกือบที่จะแน่ใจแล้วว่าเธอยังไม่ทราบเรื่องของถังซิ่วเลย

หลังจากได้พูดคุยกับซูหลิงหยุนระยะหนึ่งแล้ว หยวนชูหลิงจึงขอค่ารถจากซูหลิงหยุน เพื่อกลับไปโรงเรียน

เมื่อเขากลับมาที่โรงเรียน, หยวนชูหลิงรู้สึกประหลาดใจที่พบว่ามีเด็กหนุ่มหัวล้านกำลังนั่งอยู่ที่ที่นั่งของถังซิ่ว,  เขายังรู้สึกว่าคุ้นเคยกับคนหัวล้าน

"หลงเซ้งหลิน นายมาโรงเรียนฉันมีเรื่องอะไรงั้นหรอ ?"

หลังจากสังเกตเห็นคนหัวล้านมานานแล้ว หยวนชูหลิงก็ถามด้วยความรู้สึกประหลาดใจและทักทายเขาอย่างอบอุ่น

"อะไรกัน ... ไออ้วนนายยังไม่ตายหรือเนี่ย? ฉันคิดว่านายจะฆ่าตัวตายหลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแล้วซะอีก "

หลงเซ้งหลินทักทายหยวนชูหลิง อย่างอบอุ่นหลังจากสังเกตเขาอย่างตั้งใจ

เมื่อได้ยินคำตอบของหลงเซ้งหลิน กล้ามเนื้อบนใบหน้าของหยวนชูหลิงกระตุกอย่างรุนแรงพร้อมกับที่เขาพูดว่า

"ไอเวรเอ๋ย! นายก็ยังไม่ตายหนิ,ดังนั้นแล้วฉันจะตายก่อนหน้านายได้อย่างไร? "

แม้ว่าเมืองสตาร์ซิตี้นั้นอาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่เล็กเช่นกัน

ตระกูลหลง สมควรได้รับการเรียกว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในจังหวัด ชวนฉิง, โดยมีทรัพย์สินกว่าหมื่นล้าน ในขณะที่กระตูลหยวน เป็นเพียงดาวรุ่งพุ่งแรงในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีทรัพย์สินน้อยกว่า 1% เมื่อเทียบกับตระกูลหลง

เมื่อเทียบกับตระกูลหลง ด้าน เบื้องหลังและทรัพย์สินนั้น ตระกูลหลง นั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าอยู่คนละโลกกับตระกูล หยวน,หยวนชูหลิงและหลงเซ้งหลินนั้นเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

อย่างไรก็ตาม หลายสิ่งหลายอย่างนั้นเป็นชะตาที่ถูกกำหนดโดยสวรรค์,มิตรภาพของหยวนชูหลิงและหลงเซ้งหลิน นั้นไม่ใช่เพราะครอบครัวของพวกเขา แต่มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่พวกเขาได้เรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกันและกลายเป็นเพื่อนร่วมชั้น

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนด้วยกันเพียงเวลาสั้นๆ แต่ทั้ง 2 คนได้สร้างมิตรภาพที่ลึกซึ้งซึ่งนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ระหว่างธุรกิจของครอบครัว

จนถึง 2 ปีที่ผ่านมาเมื่อพ่อแม่ของหยวนชูหลิงหย่าร้าง, หยวนชูหลิงเริ่มละทิ้งการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมซึ่งนำไปสู่การตัดสัมพันธ์ของพวกเขา

แต่มิตรภาพของทั้งสองคนไม่ได้จางหายไปตามกาลเวลา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เจอกันมาเป็นเวลา 2 ปี แต่ทั้งสองคนไม่ได้กลายเป็นคนแปลกหน้าและไม่คุ้นเคยกัน แต่กลับหันมาสนใจและอบอุ่นมากขึ้นกว่าเดิม

"ฉันกำลังมองหาถังซิ่วนายรู้หรือไม่ว่าถังซิ่วอยู่ที่ไหน? "

หลงเซ้งหลินถามหยวนชูหลิง อย่างตรงไปตรงมาหลังจากพูดคุยกันสักครู่

"นายมาหาลูกพี่ของฉันทำไม่? มีจุดมุ่งหมายอะไรที่จะต้องตามหาเขา? "

เมื่อได้ยินว่าหลงเซ้งหลินมาหาถังซิ่ว ท่าทางที่น่าประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยวนชูหลิง, ในความคิดของเขา คนสองคนนี้ไม่เป็นคนที่อยู่กันคนละโลก

"ถังซิ่วเป็นลูกพี่นาย ?"

ริมฝีปากของหลงเซ้งหลิน กระเพื่อมขณะที่เขาได้ยินคำตอบ ,ขณะที่เขานึกถึงเหตุการณ์ที่เขากำลังอ้อนวอนขอถังซิ่วหรือแม้แต่เรียกเขาว่า อาจารย์ ความเจ็บปวดเล็กน้อยเกิดขึ้นจากลำไส้ของเขา

"แน่นอนสมองของเขาฉลาดกว่าฉัน, คะแนนของเขาดีกว่าฉัน , เขาหล่อกว่าฉัน เขามีความจริงใจและซื่อสัตย์รวมทั้งดูแลเอาใจใส่กับเพื่อนของเขา ทำไมจะเรียกเขาว่าลูกพี่ไม่ได้หละ ? "

หยวนชูหลิงอธิบายอย่างอดทนเพราะเขาคิดว่าหลงเซ้งหลิน รู้สึกเหมือนว่าถังซิ่วไม่น่าจะเป็นลูกพี่ของเขา แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าหลงเซ้งหลิน กำลังหาเขาเพื่ออะไร

"เฮ้ยนายยังไม่ได้พูดถึงเหตุผลที่นายกำลังมองหาลูกพี่ของฉัน"

หยวนชูหลิงถามอย่างไม่สามารถช่วยได้ หลังจากที่เขาพบว่าหลงเซ้งหลินมึนเล็กน้อยหลังจากที่เขาพูด

"เหตุผลที่ฉันต้องการจะหาเขาคือ ฉันต้องการความช่วยเหลือของถังซิ่ว, นายเคยได้ยินเกี่ยวกับโครงการ หมู่บ้านหินล้อม หรือไม่? ตระกูลของฉันวางแผนที่จะปฏิรูปธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของเราให้กลายเป็นธุรกิจจัดเลี้ยงเพื่อการท่องเที่ยวและเล็งไปที่หมู่บ้าน เขาล้อมนั่น แต่เราไม่เคยคิดเลยว่าตระกูลอื่นๆก็เล็งที่นั้นอยู่เหมือนกัน ดังนั้นจึงตัดสินกันด้วยการพนัน  "

หลงเซ้งหลิน ไม่ได้ซ่อนอะไรจากหยวนชูหลิงเลยแม้แต่น้อย และบอกรายละเอียดเขาทั้งหมด

"เดี๋ยวๆๆๆ ! ฉันไม่เข้าใจ นายต้องการลูกพี่ช่วยนายเล่นการพนัน? ปัญหาคือเขาเป็นเด็กที่มีมารยาทดีและเป็นลูกรักของแม่ เขาไม่เคยเข้าไปในคาสิโนเลยและไม่มีทางที่เขาจะมีเทคนิคการเล่นการพนันอะไร "

ดวงตาของหยวนชูหลิงเบิกกว้างขณะที่เขาพูดด้วยความรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินคำอธิบายของหลงเซ้งหลิน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด