ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 26
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 28

Returning From The Immortal World - 27


 

คำพูดของ หลงเซ้งหลินนั้นทำให้ดวงตาของถังซิ่ว สดใสขึ้นและช่วยไม่ได้เลยที่จะไม่ให้เขามองไปที่หลงเซ้งหลิน

สัญชาตญาณของถังซิ่ว สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าหลงเซ้งหลินไม่ได้เป็นคนที่ไม่สุภาพ ถึงแม้ว่าหลงเซ้งหลินนั้นจะทำตัวไร้ยางอาย แต่คำพูดการกระทำของเขาก็ไม่มีท่าทีนักเลงเลยแม้แต่น้อง

"นายคือคนที่แก้ปัญหาของฉันกับหลี่คังหลง ใช่มั้ย?"

ถังซิ่วหยุดเดินและก็ถาม

จริงๆแล้วหลงเซ้งหลินนั้นอยากจะส่ายหน้าบ่ายเบี่ยง แต่ภายใต้การจ้องมองของถังซิ่วนั้น , สุดท้ายแล้วเขาก็พูดความจริงว่า

"พี่ชาย, ห้องพนันนั้นมันไม่มีจรรยาบรรณในการทำธุรกิจ ดังนั้นผมจึงให้คำเตือนแก่พวกมัน, แต่ดูเหมือนว่าการกระทำของผมแทบจะไม่จำเป็นด้วยซ้ำเพราะต่อให้ผมจะไม่ได้ทำอะไรก็ตาม พี่ชายก็สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ,ไม่นะ! พี่ชาย, หรือว่าผมทำอะไรให้กวนใจพี่งั้นหรอ ? ? "

"แม้ว่าฉันจะสามารถแก้ปัญหากับห้องพนันนั้นได้ด้วยตัวฉันเอง แต่ยังไงฉันก็ยังติดหนี้นาย, ชื่อถังซิ่ว , ห้อง 10, นักเรียนมัธยมชั้นปีที่สามของโรงเรียนสตาร์ซิตี้ ถ้านายต้องการให้ฉันช่วยอะไรนายสามารถมาหาฉันได้ "

ถังซิ่วจ้องไปที่ หลงเซ้งหลินและตัดสินใจที่จะยอมรับเขาเป็นเพื่อน

"พี่ชายคุณสุภาพกับผมเกินไป ผมสกุล หลง ชื่อ เซ้งหลิน ผมเรียนที่โรงเรียนที่สองและผมก็อยู่ระดับมัธยมปีที่สาม, ผมจะไปเยี่ยมคุณในช่วงเวลาว่างของผม "

เมื่อได้ฟังคำพูดของถังซิ่วที่ดูเหมือนว่าเขากำลังจะจากไป, หลงเซ้งหลินก็รู้ตัวเมื่อควรจะต้องหยุดเมื่อไหร่และไม่กล้าที่จะยื้อถังซิ่วต่อไป

สำหรับหลงเซ้งหลินแล้ว , เขาไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในการสนิทสนมกับถังซิ่ว, แต่ยังรู้ที่อยู่ของถังซิ่ว เขาสามารถติดต่อกับถังซิ่วได้ง่ายขึ้น นี้เป็นความพยายามที่คุ้มค่า

หลังจากที่อำลาอย่างง่ายๆถังซิ่ว ไม่ได้ชักช้าอีกต่อไปและรีบไปกลับ

จ้องมองที่หลังของถังซิ่ว จนกระทั่งเขาค่อยๆเดินหายไปในความมืด รอยยิ้มที่น่าตื่นเต้นปรากฏบนใบหน้าของหลงเซ้งหลิน

"พี่สะใภ้, เรารอดแล้ว ตราบใดที่ถังซิ่วลงมือ, เรานั้นจะต้องสามารถครอบครองหมู่บ้านเขาล้อม (walled hill village ) ได้ "

หลงเซ้งหลินกำมือของเขาพร้อมโบกมือ , เขานั้นขึ้นรถสปอร์ตที่จอดอยู่ริมถนนและจากรีบไป

"นี้มันเหี้ยอะไรกันวะเนี้ย ! , เขาคือหลงเซ้งหลิน, พี่ใหญ่เฟย , นั้นมันหลงเซ้งหลิน! ถังซิ่วไปรู้จักกับเขาได้อย่างไร? นอกจากนี้แล้วหลงเซ้งหลินยังเรียก ถังซิ่ว ว่าเป็นพี่ชายได้อย่างไร? "

ในมุมที่ห่างไกล, ซู่ดวนซินได้เปล่งเสียงกรีดร้องเบาๆ

"เราควรจะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนอื่นใช่ไหม ? สถานะของหลงเซ้งหลินนั้นสูงมาก, เขาจะมาเล่นอะไรที่ห้องพนันกากๆอย่างที่นั้นได้ ? เขายังทำตัวติดดินเหมือนคนธรรมดา,  วัยรุ่นนั้นควรเป็นคนที่ดูเหมือนหลงเซ้งหลินและทำตัวเป็นตัวเขาใช่มั้ย? "

การแสดงออกด้วยความสับสนและสงสัยทำให้หน้าของทานหลีเขวียน นั้นทำให้เขาพูดด้วยเสียงไม่แน่ใจ

ขณะนี้ซูเชียงเฟยบีบกำปั้นไว้แน่น จนกระทั่งเล็บของเขาแทงฝ่ามือของเขาเอง , เขาก็ไม่ทราบว่าฝ่ามือของเขาได้เลือดออกแล้ว

รูปลักษณ์อาจคล้ายกันได้ชื่อนี้ก็ยังสามารถหลอกได้ แต่รถสปอร์ตนี้ไม่อาจแกล้งได้

เมื่อหกเดือนก่อนซูเชียงเฟยโชคดีมากที่ได้ไปงานเข้ารับพิธีสงฆ์ประจำปีของหลงเซ้งหลินกับพ่อของเขา, ครอบครัวของหลงเซ้งหลินนั้นได้เตรียมรถสปอร์ตโรลส์รอยซ์ แฟนท่อมเพื่อเป็นของขวัญประจำปีของเขาซึ่งมีป้ายทะเบียนรถนั้นเป็นวันเกิดของหลงเซ้งหลิน

ไม่ว่าจะเป็นรถสปอร์ตโรลส์รอยซ์ แฟนท่อมหรือหมายเลขทะเบียนรถหรืองานเลี้ยงสังสรรค์ที่เป็นระดับสูง ทุกอย่างนั้นเพื่อให้แขกทุกคนที่มาร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ นั้นได้เห็น, โดยเฉพาะสำหรับเด็กชายและเด็กหญิงทุกคนที่อยู่ในวัยเดียวกันกับหลงเซ้งหลิน ,พวกเขารู้สึกด้อยกว่าและมองเขาด้วยความอิจฉา

ดังนั้นแม้ว่าซู่ดวนซินและทานหลีเขวียน จะสงสัยว่าวัยรุ่นคนนี้เป็นหลงเซ้งหลินหรือไม่ แต่ซูเชียงเฟยค่อนข้างมั่นใจว่าวัยรุ่นหัวล้านคนนั้นคือ หลงเซ้งหลิน

"ถังซิ่วมันไปรู้จักหลงเซ้งหลิน ได้อย่างไร ? และความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ดูเหมือนจะไม่ใช่น้อยๆ, นี่เป็นปัญหาใหญ่อย่างแท้จริง จะยากมากที่จะจัดการกับถังซิ่วในต่อๆไป "

ระลึกถึงตัวนิสัยที่หยิ่งผยองของหลงเซ้งหลินและรู้ว่า หลงเซ้งหลินนั้นรู้จักกับถังซิ่ว , ซูเชียงเฟยรู้สึกราวกับว่าเขาตกอยู่ในห้วงความฝัน และมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะคิดว่ามันเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างหลงเซ้งหลินและถังซิ่ว , นอกจากนี้หลงเซ้งหลินก็เป็นคนที่เริ่มเข้าหา ถังซิ่ว ด้วยตัวเขาเอง

หลังจากออกจากห้องพนันแล้ว, ถังซิ่วก็ไม่ได้กลับไปโรงเรียนทันที , แต่กลับเดินตรงไปยังชานเมือง

เนื่องจากบ่มเพาะวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์ จึงทำให้ร่างกายของถังซิ่วเหมือนได้รับการเกิดใหม่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ฝึกทักษะการต่อสู้ใดๆ แต่ความเร็วของเขาก็เกินกว่าคนธรรมดาไปแล้ว

ตั้งแต่ที่เขาได้ตัดสินใจที่จะฝึกวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์ ถังซิ่วต้องเตรียมตัวอย่างเต็มที่

ในแนวทางการบ่มเพาะต่างๆ สิ่งที่ต้องให้ความสนใจโดยเฉพาะนั้นไม่มีอะไรต้องสนใจมากไปกว่า 4 อย่างนี้ ได้แก่ "วิธีการ", "คู่ร่วมฝึก(*เหมือนเมีย)", "ความมั่งคั่ง" และ "พื้นที่"

วิธีการนี้หมายถึง เทคนิคและวิธีการบ่มเพาะ, หากปราศจากสิ่งนี้ เขาก็จะเหมือนคนตาบอดที่ฝึกวิชา, วิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์นั้นเป็นบันทึกอันเก่าแก่ของเทคนิคการบ่มเพาะพลังของพระเจ้าที่ต่อสู้อย่างดุเดือดกับปีศาจอสูรในดินแดนแห่งนิรันดร์, ถังซิ่วมีเทคนิคการบ่มเพาะมากมายและวิทยายุทธเก็บไว้เต็มสมองของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

คู่ร่วมฝึกหรือสหาย , มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "การเรียนรู้โดยปราศจากเพื่อนจะส่งผลให้เกิดความเขลาและทำให้ความคิดที่แคบลง" โลกนี้เป็นโลกที่มีระดับต่ำเป็นอย่างมาก ดังนั้น ถังซิ่วจึงถูกกำหนดให้ไม่มีคู่ร่วมฝึกอยู่บนโลก อย่างไรก็ตามตั้งแต่ที่ว่า ถังซิ่วนั้นพึ่งเริ่มบ่มเพาะพลัง เขาก็ไม่สนใจต่อด้านนี้

ความมั่งคั่งหมายความว่ามันหมายถึงสถานการณ์ทางการเงิน  เพราะในระยะแรกของเส้นทางการบ่มเพาะ,  สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือเวลาและจิตใจจะถูกใช้สำหรับการฝึกซ้อม ดังนั้นจะไม่มีเวลาพอที่จะทำเงินได้และหากไม่มีทรัพยากร การบ่มเพาะของเขาจะเป็นเรื่องที่ยากมาก ผู้คนจากสมัยโบราณได้กล่าวว่า "หากไม่มีความมั่งคั่งก็จะไม่สามารถนำมาซึ่งสิ่งใดได้"

ที่ดินหมายถึงสถานที่บ่มเพาะที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่างกันซึ่งมีความกลมกลืนกับฮวงจุ้ยที่มีพลังงานฉีซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะของคนเป็นอย่างมาก

เกี่ยวกับวิธีการและคู่ร่วมฝึก , ถังซิ่วสามารถยกเว้นพวกนี้ได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะเพิ่มความมั่งคั่งและที่ดิน

ในช่วงเดือนนี้นั้น ยกเว้นช่วงเวลาที่เรียนถังซิ่วใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องสมุด

การที่ถังซิ่วหมกอยู่ในห้องสมุดนั้น เขาไม่ได้ศึกษาเรื่องเรียน แต่เพื่อการที่จะหาผู้ฝึกวิชาคนอื่นๆที่มีตัวตนอยู่บนโลก พร้อมหาที่เหมาะๆในการบ่มเพาะพลัง

แม้ว่าถังซิ่วจะอ่านหนังสือเกือบทั้งหมดในห้องสมุดแล้ว แต่เขาก็ยังไม่สามารถหาร่องรอยของผู้บ่มเพาะพลังอื่นๆได้ ซึ่งทำให้เขาสงสัยว่าไม่มีผู้บ่มเพาะพลังบนโลกนี้

อย่างไรก็ตามเขายังได้อ่านและอ่านหนังสือเกี่ยวกับวัฒนธรรมของมนุษย์ ,ประวัติศาสตร์,ภูมิศาสตร์, ชีวประวัติ และ หนังสืออื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทำให้เขาได้รับรู้พื้นที่ที่น่าจะมีความเป็นไปได้ในการบ่มเพาะพลัง

สถานที่นี้ไม่ได้อยู่ในเมือง แต่ตั้งอยู่ห่างจากเมือง 70 กิโลเมตร ซึ่งเรียกว่าหมู่บ้านเขาล้อม

วันนี้ถังซิ่วกำลังมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านเขาล้อม โดยเฉพาะเพื่อตรวจสอบและหาว่าที่นี่ เป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับบ่มเพาะหรือไม่, ถ้าหมู่บ้านนี้ เหมือนอย่างที่ถูกอธิบายไว้ในหนังสือ, ถังซิ่วตั้งใจจะสร้างถ้ำแห่งนิรันดร์ ของเขาเพื่อการบ่มเพาะพลังในที่นั้น

ครึ่งวันต่อมา , ร่างของถังซิ่วก็ปรากฏตัวขึ้นที่ยอดเขาของหมู่บ้านนี้, ในเวลานี้ถังซิ่วได้สำรวจสถานที่นี้อย่างสมบูรณ์แล้ว

มองไปที่ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยดวงดาวเหนือศีรษะของเขาราวกับว่าสามารถที่จะหยิบจับได้ด้วยมือของเขาและมองเมืองใหญ่ที่ไม่มีพลังงานวิญญาณแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม , เขายิ้มออกมาด้วยถึงใบหน้าที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

"เส้นชีพจรวิญญาณ ในหมู่บ้านนี้มีเส้นชีพจรจิตวิญญาณซ่อนอยู่ข้างใต้ ในเมื่อที่แห่งนี้มีชีพจรวิญญาณจึงน่าจะมีวัสดุล้ำค่า ฉันไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของน้ำยาปรับสภาพร่างกายเลย"

ยืนอยู่บนสุดขอบหน้าผาภูเขา, ถังซิ่วหันไปรอบๆอย่างมีชีวิตชีวามากพร้อมมองไปบนท้องฟ้า

ตั้งแต่ได้เกิดใหม่, ถังซิ่วกลัวเสมอว่ามือและเท้าของเขาถูกมัดไว้

มือนึงก็เพราะพลังวิญญาณของโลกนั้นมีอยู่เบาบางมากจนแทบจะไม่มี ทำให้เทคนิคการเพาะปลูกและทักษะการต่อสู้ลับทั้งหมดกลายเป็นขยะที่ไม่มีประโยชน์, นี้ทำให้เขาแทบจะร้องไห้

อีกมือนึงก็เพราะเขาบังเอิญได้รับสิทธิฝึกวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาเริ่มต้นที่จะบ่มเพาะวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์นี้เองและเขาก็ไม่สามารถที่จะควบคุมอะไรได้เลย

ถ้าเขาสามารถฝึกศิลปะล้ำเลิศนี้ในดินแดนแห่งนิรันดร์  ถังซิ่วจะมีความสุขอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามเนื่องจากพลังงานวิญญาณของโลกนี้เกือบจะไม่มีโดยสิ้นเชิง แล้วการบ่มเพาะวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์นี้ทำให้ ถังซิ่ว อยากจะร้องไห้และรู้สึกหมดหนทาง

แม้ว่าการบ่มเพาะวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์นั้นไม่จำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณใดๆ อย่างไรก็ตามจุดสำคัญในวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์ คือการที่ต้องใช้วัสดุอันล้ำค่าในการสร้างน้ำยาปรับสภาพร่างกาย ในขณะที่ส่วนผสมอันล้ำค่าเหล่านั้น สามารถจะพบได้แค่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ

อย่างไรก็ตาม ไม่มีพลังงานวิญญาณบนโลก ซึ่งหมายความว่าไม่มีวัสดุล้ำค่าในการสร้างน้ำยาปรับสภาพร่างกาย ดังนั้นเมื่อถังซิ่วบังเอิญเริ่มบ่มเพาะวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์ เส้นทางเดียวที่รอเขาอยู่ที่ปลายทางคือความตาย

ถังซิ่วมีความสุขอย่างมาก ตั้งแต่เขาได้เส้นชีพจรวิญญาณดังกล่าวในจังหวัด ชวนฉิง ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเขาล้อมนี้ นี่แสดงให้เห็นว่าเขายังสามารถหาสถานที่อื่นในโลกที่มีพลังงานทางวิญญาณ

"เส้นชีพจรวิญญาณนี้ ดูเหมือนว่าจะอยู่ภายใต้ก้อนหินนี้ แต่ฉันไม่รู้ว่าหมู่บ้านเขาล้อมนี้เป็นของใครหรือไม่, ไม่อย่างนั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องลำบากหน่อยๆ "

เนินเขาของหมู่บ้านเขาล้อมนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่ที่มีแปลกมากที่สุดในจังหวัดนี้ ถ้าเขาไม่พลิกผ่านหนังสือจำนวนมากในห้องสมุดของจังหวัด เขาจะไม่มีวันพบที่ดังกล่าวมีเหมือนดั่งเป็นแดนสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในจังหวัดชวนฉิง

หลังจากที่ตระหนักว่าใกล้จะเช้าแล้ว ถังซิ่วเริ่มต้นค้นหาวัสดุอันล้ำค่าที่จำเป็นในการเพาะปลูกขั้นแรกของวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์ - ร่างกายที่เกรี้ยวกราดแห่งดวงดาว

วิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์ ถูกแบ่งออกเป็นสี่ขั้น - ร่างกายที่เกรี้ยวกราดแห่งดวงดาว, สาระสวรรค์แห่งดวงดาว, การรวมตัวกันของดวงดาว และการผันแปลของดวงดาว

ขั้นแรกของ ร่างกายที่เกรี้ยวกราดแห่งดวงดาว นั้นประกอบไปด้วย ขั้นหล่อหลอมพลังฉี , เสริมสร้างผิวหนัง ,เสริมสร้างเลือดเนื้อ, เปลี่ยนแปลงกระดูก ,เปลี่ยนแปลงหลอดเลือด,เปลี่ยนแปลงไขกระดูก ,เปลี่ยนแปลงอวัยวะภายใน ,ส่งพลังฉีและเลือด ,ครอบครองดินแดน รวมทั้งหมดเป็น 9 ขั้น

วิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์นี้คือสิ่งที่เผ่าพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นสร้างขึ้นเพื่อที่จะได้ลบข้อเสียของเผ่าพันธุ์ตัวเองที่มีร่างกายอ่อนแอไม่สามารถเทียบกับเผ่าอสูรได้  ในแต่ละขั้นของวิชานี้นั้น ต้องมีร่างกายที่แข็งแรงซึ่งเสริมความแข็งแกร่งจากยาและแร่อันล้ำค่า

เงื่อนไขทางร่างกายที่วิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์ต้องการนั้นสูงเป็นอย่างมาก ,ถ้าเกิดว่าร่างกายนั้นไม่ถึงระดับความแข็งแกร่งตามต้องการของวิชา,ต่อให้จะฝึกวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์ได้รวดเร็วเท่าไหร่ก็ตาม สุดท้ายแล้วมันก็จะเป็นแค่การดูดกลืนพลังงานจากดวงดาวมากเกินไปเท่านั้น จนชะตาของเขาจะต้องจบลงที่การที่ร่างกายระเบิดพินาศ

ผู้ให้กำเนิดวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์นั้นได้กล่าวซ้ำๆไว้ว่าฝนการฝึกฝนขั้นแรก ร่างกายที่เกรี้ยวกราดแห่งดวงดาว นั้นจำเป็นจะต้องเตรียมยาและสมุนไพรล้ำค่าให้เพียงพอรวมไปถึงแร่ล้ำค่าและเครื่องในของสัตว์อสูร,แก่นของเลือด เส้นเลือด และอื่นๆเพื่อหล่อหลอมร่างกาย

(ผู้แต่งเรื่องนี้นี่ก็ย้ำจังเนอะไอเรื่องนี้เนี้ย ประโยคเดียวกันเปะๆกับบทที่ 5 )

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด