Returning From The Immortal World - 218
.......................................................................................................................................................................................
ซางซินหยาได้ข่มความรู้สึกโกรธเอาไว้ในใจก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ฉันตกลง นาทีละ100 นายเอาโทรศัพท์มา !”
“...”
ถังซิ่วได้ยื่นโทรศัพท์ของเขาไปให้เธอ
ซางซินหยาที่ได้โทรศัพท์ไปนั้นก็ได้เดินออกไปข้างๆพร้อมโทรไปหาเบอร์หนึ่งพร้อมพูดอะไรบางอย่าง หลังจากที่เธอวางสายและกำลังจะเอาโทรศัพท์มาคืนนั้นก็นึกขึ้นถึงเรื่องความลับที่ถังซิ่วพูดมาก่อนหน้านี้ได้จึงได้เปิดประวัติผู้โทรทันที
หลังจากผ่านไปสองนาทีเธอก็เห็นประวัติการโทรทั้งหมดพร้อมด้วยชื่อที่เธอคุ้นเคย
โอหยางลูลู่ ?
เฉินซีซ่ง ?
ชูยี่ ?
ไป่เถา ?
เธอจำเบอร์ของโอหยางลูลู่ได้ดีและเธอก็เปิดดูประวัติทันทีและเมื่อเห็นที่ตัวเลขเหล่านั้นก็ทำให้เธอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อจริงๆ
เบอร์นี่มัน.....
จริงๆงั้นหรอ ?
ซางซินหยาได้หันหน้ากลับมามองที่ถังซิ่วก่อนที่จะเดินกลับมาหาเขาแล้วถามออกมาว่า
“นายชื่อว่าอะไร”
ถังซิ่วก็ได้ตอบกลับไปว่า
“ก่อนที่จะถามชื่อคนอื่นก็ควรจะมีมารยาทในการแนะนำตัวเองก่อนนะ”
ลมหายใจของเธอหยุดชะงักลงก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า
“นายมันตัวประหลาดจริงๆ ช่างมันเถอะ ฉันชื่อซางซินหยาเป็นนักร้อง นายล่ะ ?”
“ถังซิ่ว เป็นนักเรียน!”
ซางซินหยาเองก็ได้พูดออกมาว่า
“เห็นแล้วว่านายยังเด็กฉันก็พอจะเดาได้ว่านายน่าจะเป็นนักเรียน อย่างไรก็ตามนายรู้จักกับโอหยางลูลู่ด้วยงั้นหรอ ? เธอเป็นคนของเกาะจิงเหมิน อย่าบอกนะว่านายก็เป็นคนของที่นั่น ?”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“เปล่า เราเป็นแค่เพื่อนกัน”
ซางซินหยาเองก็ได้ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า
“นายกับโอหยางลูลู่เป็นเพื่อนกันงั้นหรอ ? ทำไมฉันไม่เห็นเคยได้ยิน ?”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“บางที่เพราะฉันอาจจะไม่ค่อยสำคัญในหัวใจของเธอดังนั้นจึงไม่มีค่าพอที่จะพูดถึง เอาล่ะ ช่วงเวลาของคำถามจบลงแล้ว เธอน่าจะเอาโทรศัพท์คืนมาให้ฉันได้แล้ว ? ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกี้เธอใช้ไป4นาที เอามา400หยวน ขอบคุณ”
ซางซินหยาได้ยื่นโทรศัพท์กลับไปให้ถังซิ่วก่อนที่จะพูดออกมาเสียงเบาๆว่า
“นั่น.....เรามาพูดอะไรกันหน่อยได้ไหม ? ฉันและนายเองก็เป็นเพื่อนของโอหยางลูลู่ดังนั้นมันเป็นโชคชะตาที่เราต้องมาเจอกัน”
ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมพูดว่า
“เอามาให้ครบทุกหยวน ! เอาเงินมา !”
ซางซินหยาเองก็โกรธเป็นอย่างมากก่อนที่จะพูดว่า
“นายจะไถเงินจนตายเลยหรือไง ห๊า ?”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“เงินตราเป็นสิ่งที่ดี มันสามารถใช้ซื้อเครื่องดื่ม ซื้ออาหาร เลี้ยงดูพ่อแม่ เลี้ยงดูลูกสะใภ้ เลี้ยงดูลูก.......”
“พอ พอ พอ !!!!!!”
ซางซินหยาได้พูดออกมาโดยไม่รู้ว่าควรจะหัวเราหรือร้องไห้ดี
“ใครจะไม่รู้บ้างหละว่าเงินเป็นสิ่งที่ดี ! แต่ยังไงเราก็เป็นเพื่อนของโอหยางลูลู่เหมือนกันนะ ยิ่งไปกว่านั้นฉันเองก็รู้จักกับไป่เถาและชูยี่เช่นกันแม้กระทั่งนายใหญ่ของบริษัทร้อยคุณธรรมเภสัช เฉินซีซ่งก็ด้วย เรามีเพื่อนร่วมกันตั้งหลายคน ไม่เคยได้ยินคำพูดที่ว่าเพื่อนของเพื่อนก็คือเพื่อนงั้นหรอ ? ในเมื่อเราเป็นเพื่อนกันก็อย่าพูดถึงเรื่องเงินเลย มันทำร้ายความรู้สึกของฉัน”
ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาเหมือนคนบ้าก่อนที่จะถามว่า
“เรารู้จักกันงั้นหรอ ?”
“เฮื้อกก....”
ซางซินหยานั้นถึงกับเหวอไปโดยทันที
ถังซิ่วได้พูดต่อว่า
“อย่าได้คิดจะสร้างความสัมพันธ์กับฉัน เอาเงินมาได้แล้ว เร็วๆ !”
ซางซินหยาได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยความโกรธอีกครั้ง เธอได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“ฉันไม่มีเงิน กระเป๋าเงินของฉันหายไปไม่เช่นนั้นฉันคงไม่มาแอบอยู่ที่นี่หรอก”
ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า
“เธอจะไม่จ่ายหนี้งั้นหรอ ?”
ซางซินหยาก็ได้ตอบกลับไปด้วยความโกรธว่า
“นายคิดว่าฉันเหมือนคนที่ไม่จ่ายหนี้งั้นหรอ ?”
ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยใบหน้าที่จริงจังว่า
“ดูจากการกระทำของเธอแล้วฉันว่าน่าจะใช่ !”
เมื่อได้ยินคำพูดของถังซิ่วนั้นก็ทำให้อารมของเธอปั่นป่วนทันที เธอรีบแบมืออกมาแล้วพูดว่า
“เอาโทรศัพท์ของนายมา ฉันจะโทรศัพท์”
ถังซิ่วได้พูดต่อว่า
“เงินก่อนหน้านี้เองก็ยังไม่จ่ายแล้วทำไมฉันต้องให้เธอล่ะ ? นี่ยังไม่รวมเรื่องที่เธอแอบดูรายชื่อผู้ติดต่อของฉันเลยนะ ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับเธอ!!!”
ซางซินหยาเองก็ได้โกรธจัด
“ใครจะอยากไปดูกันเล่า !!!! เอาโทรศัพท์มา!!หากว่าอยากจะได้เงินก็ส่งมันมา”
ถังซิ่วเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะยื่นโทรศัพท์ให้กับเธอ
ซางซินหยาที่ได้รับโทรศัพท์มานั้นก็กดโทรหาโอหยางลูลู่โดยทันทีหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงตอบรับที่ดังออกมาเพราะเธอกดเปิดลำโพง
“สุดที่รัก คิดถึงฉันหรอ ? ฉันเองก็คิดถึงคุณเหมือนกัน ! หรือว่าใจเราตรงกันนะ ?”
ซางซินหยาถึงกับหวาดผวาส่วนถังซิ่วเองก็รู้สึกหมดหนทางเช่นกัน
“แค่ก แค่ก....”
ซางซินหยาได้ไอออกมาหลายครั้งก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ลูลู่ นี่ฉันซางซินหยา”
“อ๊า..... ? ซินหยา ? เธ ...เธอ ....ทำไมถึงได้ใช้เบอร์ของถังซิ่งโทรมาได้ล่ะ ? เธอ....อ๊ากกก น่าขายหน้า! เรื่องเมื่อกี้นั้นเป็นเรื่องหยอกล้อเท่านั้น ! อ๊า.....”
เสียงครางที่ช๊อคของโอหยางลูลู่ได้ดังออกมาจากปลายสาย
ซางซินหยาเองก็ได้พูดขึ้นว่า
“ไม่ต้องเป็นห่วง! เราเป็นพี่น้องกันฉันจะไม่หัวเราะเธอหรอก ! อย่างไรก็ตามเธอรู้จักกับถังซิ่วนี่จริงงั้นหรอ ? ฟังจากคำพูดของเธอแล้วดูเหมือนว่าจะรู้จักเขาดี ?”
โอหยางลูลู่ได้ตอบกลับไปว่า
“รู้จักดีไหมไม่รู้แต่ฉันรู้ทั้งหมดว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในหัว ......”
เสียงของเธอได้หยุดลงเพราะเธอเพิ่งตระหนักว่าคำพูดของเธอมันสามารถทำให้เข้าใจผิดได้อย่างง่ายดาย
ซางซินหยาเองก็ได้รู้สึกแปลกๆก่อนที่จะหันกลับไปสังเกตถังซิ่วแล้วพูดออกมาว่า
“ดูเหมือนว่าเธอจะสนิทสนมกับเขาน่าดูจริงๆ เขาน่าจะไว้หน้าเธออยู่บ้างใช่ไหม ? ช่วยฉันหน่อยสิเมื่อกี้ฉันเพิ่งยืมโทรศัพท์มาจากเขาและกำลังโดนเขาถูกขูดเลือดขูดเนื้อ เธอช่วยพูดกับเขาหน่อยสิว่าฉันจะคืนเงินให้เขาในภายหลัง”
โอหยางลูลู่เองก็ได้พูดออกมาด้วยความเขินอายว่า
“ซินหยาเธออย่าพูดไร้สาระ!ฉันและถังซิ่วเป็นเพื่อนกันเท่านั้น ! ยังไงก็ตามเธอรู้จักเขาได้ยังไง ? แล้วเธออยู่ที่ไหน ?”
ซางซินหยาก็ได้ตอบกลับไปว่า
“สนามบินเมืองสตาร์ซิตี้ เจอกันโดยบังเอิญ”
โอหยางลูลูเองก็ได้ถามออกมาว่า
“แล้วถังซิ่วไปที่สนามบินทำไมกัน ?”
ซางซินหยาเองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“เธอถามฉันแล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง ? เธอรีบๆบอกเขาหน่อยสิ”
โอหยางลูลู่ได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“เธอส่งโทรศัพท์กลับไปให้เขา ! ฉันจะบอกเขาเอง”
ซางซินหยาเองก็ได้ส่งโทรศัพท์กลับไปให้ถังซิ่วก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“นายไปคุยกับเธอ !”
ถังซิ่วได้รับโทรศัพท์กลับมาพร้อมมองไปที่สายตาหงุดหงิดของซางซินหยา เขาพูดออกมาว่า
“ลูลู่ คราวหน้าคราวหลังก็ระวังคำพูดของเธอบ้างเดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิดกัน คำพูดก่อนหน้านี้นั้นฉันได้ยินหมดแล้ว ในเมื่อเขาเป็นเพื่อนกับเธอก็ช่างมันเถอะ ! เอาล่ะ แค่นี้นะ”
โอหยางลูลู่ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว นายจะมาที่เกาะจิงเหมินนี่งั้นหรอ ? หากว่านายจะมาที่นี่ฉันจะได้ไปรอรับที่สนามบิน”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“ป่าว ฉันจะไปที่จินซิตี้ !”
โอหยางลูลู่เองก็ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า
“ไปทำอะไร ? มีเรื่องอะไรดีที่นั่นงั้นหรอ ?”
ถังซิ่วก็ได้ตอบกลับไปว่า
“มันทีสิ่งของที่ฉันต้องการอยู่ !”
โอหยางลูลู่ก็ได้ถามขึ้นมาว่า
“นายจะให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม ?”
ถังซิ่วตอบกลับอย่างขบขันว่า
“เธออยู่ที่เกาะจิงเหมิน ฉันอยู่เมืองสตาร์ซิตี้ เธอจะไปยังไง ? เธอไปจัดการเรื่องของธุรกิจของเราเถอะจะได้เห็นผลลัพธ์เร็วๆ อ่อใช่ หากว่าเธอมาที่นี่ก็ให้ไปหาคังเซี่ยนเลยแล้วกัน ตอนนี้คังเซี่ยนเป็นผู้มีอำนาจเทียบเท่าฉัน”
โอหยางลูลู่ได้พูดออกมาว่า
“ฉันไม่ไปเจอเธอได้ไหม ? อ๊า ยัยนั่นมันคิดไม่ซื่อกับนาย”
ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า
“เธอคิดไม่ซื่อกับฉันยังไงกัน ?”
“นี่.....”
โอหยางลูลู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะโอดโอยออกมาว่า
“ฉันคิดว่าเธอมักจะอยู่กับนายและมีจุดประสงค์ที่ชั่วร้ายแถมรูปลักษณ์ของเธอเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าฉันเลย ฉันคิดว่าเธอเสแสร้งเกินไป”
ถังซิ่วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาพร้อมกับพูดว่า
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเธอเป็นเหมือนนางสนมที่กำลังอิจฉากันนะ ? จะสร้างฮาเร็มที่แย่งชิงความโปรดปรานกันก็ดีเหมือนกัน เอาล่ะฉันต้องรีบขึ้นเครื่องแล้ว”
ซางซินหยาที่นั่งฟังบทสนทนาของพวกเขานั้นก็รับรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนรักของเธอนั้นหลงรักถังซิ่วเข้าให้แล้ว เธอรู้จักกับโอหยางลูลู่มากว่า7-8ปีแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นลูลู่แสดงท่าทางแบบนี้ต่อหน้าผู้ชาย
เมื่อเห็นว่าถังซิ่ววางสายแล้วนั้นเธอเองก็รู้สึกเริ่มสนใจในตัวของถังซิ่วแล้วเช่นกัน เธอถามออกมาว่า
“ฉันไม่คิดเลยว่าเพื่อนรักของฉันที่หยิ่งยโสเองก็ยังจะมีใจให้กับนาย ถังซิ่ว นายไปที่จินซิตี้ทำไมงั้นหรอ ? ฉันเองก็จะไปที่นั่นเหมือนกันแต่น่าเสียดายที่เอกสารหายไปทั้งหมดไม่เช่นนั้นก็คงได้ไปกับนาย”
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“ไม่ไปน่ะดีแล้ว ฉันเป็นคนที่ไม่ชอบเป็นที่สังเกตและไม่ต้องการให้คนคอยจับจ้อง !”
ซางซินหยาเองก็ถึงกับหมดคำพูดทันที
ยอดชายอย่างถังซิ่วนี่เธอไม่รู้เลยว่าควรจะพูดอะไรกับเขาดี !
ถังซิ่วได้ยืนขึ้นก่อนที่จะพูดว่า
“เอาล่ะ เดี๋ยวก็ต้องขึ้นเครื่องแล้ว ฉันไปล่ะ !”
เมื่อพูดจบเขาก็เขาเงินออกมา200หยวนก่อนที่จะวางไว้บนโต๊ะแล้วพูดว่า
“กาแฟนี้ถือว่าฉันเลี้ยงและหากว่าในชีวิตนี้ยังมีโอกาสได้เจอกันอีกก็เอาเงินมาชดใช้ฉันด้วยล่ะ”
“เดี๋ยวก่อน !”
ซางซินหยาที่ได้เห็นการกระทำของถังซิ่วนั้นก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากก่อนที่จะพูดต่อว่า
“ฉันถามคำถามอะไรหน่อยได้ไหม ?”
ถังซิ่วก็ได้ตอบกลับมาว่า
“ว่ามาสิ”
ซางซินหยาเองก็ได้ถามต่อว่า
“ก่อนหน้านี้ฉันเองได้เห็นประวัติการโทรของนายและเห็นชื่อเฉินซีซ่งอยู่ นายสนิทกับเขางั้นหรอ ?”
ถังซิ่วก็ได้ตอบกลับไปว่า
“ก็พอใช้ได้ !”
ซางซินหยารีบพูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“ในเมื่อนายสนิทกับเขาฉันขอช่วยอะไรหน่อยได้ไหม ? ฉันต้องการจะคุยกับเขาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย เขาดูเหมือนจะเป็นคนที่งานยุ่งตลอดเวลาแม้จะนัดเขาเองก็ยังต้องรอตั้งหลายวัน”
ถังซิ่วก็ได้ถามขึ้นมาว่า
“ไม่ใช่ว่าเธอก็รู้จักเขางั้นหรอ โทรหาเขาก็จบแล้ว !”
ซางซินหยาได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“โทรแล้วและไปพบแล้วด้วยแต่เขาไม่ว่างเลย”
ถังซิ่วได้ถามต่อว่า
“เธอจะให้ฉันช่วยอะไรงั้นหรอ ?”
ซางซินหยาเองก็ได้พูดว่า
“ฉันรู้ว่าบริษัทของเขานั้นทำเกี่ยวกับสมุนไพรและฉันต้องการสมุนไพรล้ำค่าตัวหนึ่ง ฉันจะพูดกับนายตรงๆว่าพ่อของฉันป่วยด้วยโรคประหลาดๆและต้องการสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์นี้”
ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า
“ต้องการสมุนไพรอะไร ?”
“แม่น้ำอสรพิษ”
ซางซินหยาได้ตอบกลับไป
ท่าทางของถังซิ่วเปลี่ยนไปทันทีก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“สมุนไพรนี้มีไว้รักษาแค่โรคเดียวเท่านั้นและมันคือโรคมิติเพลิง อย่าบอกนะว่าพ่อของเธอเป็นโรคนี้ ?”