Returning From The Immortal World - 215
.......................................................................................................................................................................................
“เป็นไปไม่ได้ ! ไม่มีทางเป็นไปได้ ตระกูลซางอยู่มากว่าหลายสิบปี มันจะเป็นไปได้ไงที่จะถูกโค่นลงโดยเด็กหนุ่มที่ไม่มีพื้นหลังอะไรเลย”
ฮูหว่านจุนได้เดินกลับเข้าไปในห้องของเขาด้วยท่าทางโง่งมและไม่ได้หันไปสบตาใครสักคนแม้แต่น้อย
ฮูซินหมิงเองก็ได้ขมวดคิ้วโดยทันทีขณะที่เห็นท่าทางซีดเซียวของลูกชาย เขามองไปที่ลูกชายอย่างหงุดหงิดเพราะวันนี้เขาได้เชิญผู้ถือหุ้นในบริษัทมาที่นี่แต่ลูกชายของเขากลับทำหน้าทำตาแบบนั้น มันทำให้เขาขายหน้าเป็นอย่างมาก!
“หว่านจุน เป็นอะไร ?”
เมื่อฮูหว่านจุนได้ยินพ่อของเขาเรียกก็ได้สติกลับมาทันทีพร้อมกับพยายามบีบเอารอยยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“ผม......ผมได้สร้างปัญหาเข้าให้แล้ว !”
ฮูซินหมิงเองก็ได้ถามด้วยเสียงโทนต่ำว่า
“ปัญหาอะไร ? ไหนลองพูดมาสิ ?”
ฮูหว่านจุนก็ได้เล่าเรื่องทั้งหมดที่เพิ่งจะเจอไปก่อนหน้านี้ให้เขาฟังพร้อมกับพูดว่า
“พ่อ ไอ้ถังซิ่วนั้นบอกว่าหากเราไม่เอาเงินให้มัน ชะตากรรมของตระกูลเราก็จะจบไม่ต่างไปจากตระกูลซางคือการที่หายไปจากโลกนี้ตลอดกาล เขาได้บอกให้ผมจ่ายเงินเขา 11 ล้านหยวน”
“อะไรนะ ?”
ท่าทางของฮูซินหมิงเองก็เปลี่ยนไปเป็นน่าเกลียดทันทีพวกผู้ถือหุ้นเองก็มองไปที่กันและกันด้วยท่าทางงงงวยและไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
ชายวัยกลางคนก็ได้พูดขึ้นว่า
“เด็กหนุ่มที่ชื่อถังซิ่วนี้มีความแค้นกับตระกูลซางงั้นหรอ ?”
ฮูหว่านจุนก็ได้พูดขึ้นว่า
“มีครับ ถังซิ่วได้ทุบตีซางดี่ขวินและซางหยงจินดังนั้นเธอจึงได้ให้คู่มั่นมาจัดการกับถังซิ่ว คู่มั่นของเธอเป็นคนของสำนักมังกรรุ่งโรจน์แต่ผลสุดท้ายคือเขาไม่สามารถทำอะไรถังซิ่วได้แม้แต่น้อยแต่ยังลากสำนักตัวเองให้พบกับหายนะ สุดท้ายแล้วผู้นำสำนักได้จ่ายค่าชดใช้ให้เขาเป็นเงินกว่า100ล้านหยวน หลังจากนั้นซางดี่ขวินเองก็ยังไม่ยอมแพ้และได้จ้างมือสังหารมาจากต่างประเทศแต่ผลสุดท้ายคือพวกเขาเหล่านั้นกลับกลายเป็นศพอยู่หน้าโครงการบ้านของถังซิ่ว”
ผู้ถือหุ้นกว่า7-8คนนั้นได้เคร่งเครียดโดยทันที พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าคดีที่เกิดขึ้นที่โครงการเมืองประตูทิศใต้นั้นจะมาจากเหตุนี้
ท่าทางของฮูซินหมิงเองก็น่าเกลียดเป็นอย่างมาก ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอยู่หลายครั้ง เขาได้ถามออกมาด้วยเสียงต่ำว่า
“ถังซิ่วคนนั้นอยู่ที่ไหน ?”
ฮูหว่านจุนเองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“น่าจะอยู่ในห้องส่วนตัวสักห้อง”
ฮูซินหมิงเองก็ได้พูดว่า
“พาฉันไปพบเขา”
“คุณพ่อ......”
ฮูหว่านจุนได้เรียกออกมาอย่างเร็ว
ฮูซิงหมิงเองก็ได้ตะโกนออกมาอย่างดังว่า
“บอกให้ไปไงเล่า !”
ฮูหว่านจุนเองก็ได้แต่ก้มหัวแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ที่ทางเดินนั้นฮูซินหมิงได้ง้างมือแล้วตบไปที่หน้าของลูกชายอย่างรุนแรงพร้อมตะโกนออกมาว่า
“บอกมาสิ !ว่าแกกับเจ้าสกุลถังนั้นมีความขัดแย้งอะไรกัน ?”
ฮูหว่านจุนเองก็ได้เอามือมากุมหน้าของเขาไว้แล้วตอบอย่างขมขื่นว่า
“ก่อนหน้านี้เราได้มีเรื่องขัดแย้งกันแต่มันก็จบลงไปแล้ว ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ซางดี่ขวินเป็นคนทำ”
ฮูซินหมิงได้คว้าเอาสมุดเช็คออกมาจากเสื้อของเขาพร้อมเขียนใบสั่งเงินออกไป21ล้านหยวน เขาให้ลูกชายไปถามหาว่าถังซิ่วนั้นอยู่ที่ห้องส่วนตัวห้องไหนกันเพราะเขาเห็นชะตากรรมของตระกูลซางดีและรู้ว่านอกจากถังซิ่วแล้วยังมีตระกูลหลงและตระกูลอื่นๆที่อยู่เบื้องหลังอีก เขาไม่ต้องการทำให้ตระกูลของเขาต้องจบลงเหมือนตระกูลซาง
ในหัวใจของเขานั้นคนที่เขาเกลียดที่สุดไม่ใช่เหล่าคนที่ลงมือกับตระกูลซางแต่เป็นตระกูลซางเสียเอง เขาเกลียดซางเฟิงเซี่ยนเป็นอย่างมากเพราะเขาได้ทำสัญญาไปและเสียเงินไปฟรีๆถึง2พันล้านหยวน !!!!
แต่ตอนนี้คนในตระกูลซางเองก็หายตัวไปกันหมด เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะไปลงความแค้นนี้กับใครดีแต่เขาเองก็ไม่กล้าที่จะสร้างข้อผิดพลาดเหมือนตระกูลซางเพราะอย่างน้อยๆก็จะมีถังซิ่วและตระกูลหลงที่พร้อมจะจัดการกับเขา
ในห้องส่วนตัว
เฉินเหว่ยกำลังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยแต่เธอเองก็ไม่ได้รสชาติอะไรเลยแม้แต่น้องเพราะเธอเอาแต่จ้องไปที่หน้าประตูทางเข้า
ในที่สุดเธอก็ได้วางตะเกียบในมือลงพร้อมกับจ้องไปที่ถังซิ่วแล้วถามออกมาว่า
“นายบอกว่าพวกเขาจะมางั้นหรอ ?”
ถังซิ่วได้ตอบกลับอย่างสงบว่า
“ต้องมา !”
เฉินเหว่ยเองก็ได้ถามออกมาว่า
“ทำไมนายถึงได้มั่นใจนักล่ะ ?”
ถังซิ่วเองก็ตอบกลับไปว่า
“เพราะพวกเขากลัวฉันไงล่ะ !”
เฉินเหว่ยนั้นถึงกับทึ่งขณะที่เธอได้ยินคำตอบของถังซิ่วพร้อมกับส่ายศีรษะแล้วพูดว่า
“ฉันล่ะไม่เข้าใจนายเลยจริงๆ ! ฮั่นชิงหวูบอกฉันมาแค่ว่านายเป็นนักเรียนธรรมดาๆเท่านั้นและนอกจากจะเรียนดีแล้วก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นเลยแต่เมื่อฉันได้อยู่กับนายและจากประสบการณ์ของเมื่อวานและวันนี้ก็ทำให้ฉันรู้สึกว่านายดูลึกลับเป็นอย่างมาก”
ถังซิ่วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาพร้อมกับพูดว่า
“เธอไม่ใช่โคนันนะ ! อย่าได้ถามหรือสงสัยอะไรเยอะแยะ กินข้าวเยอะๆไม่ว่าอีกฝ่ายจะมาหรือไม่เดี๋ยวเราก็จะได้รู้คำตอบเอง”
เฉินเหว่ยได้พยักหน้าขณะที่หยิบตะเกียบขึ้นมาเพื่อจะทานอาหารต่อแต่ก็ได้มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับพนักงานที่เดินเข้ามาและพูดว่า
“สวัสดีคุณถัง ข้างนอกนี้ได้มีนายใหญ่ของฮูกรุ๊ป ฮูซินหมิงและลูกชายของเขามาเพื่อพบกับคุณ คุณจะอนุญาตให้พวกเขาเข้ามาหรือไม่ ?”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“ให้พวกเขาเข้ามา !”
“ครับผม !”
พนักงานคนนั้นได้หันหลังและเดินกลับออกไป
ไม่นานนักฮูซินหมิงและฮูหว่านจุนก็เดินเข้ามาพร้อมกับสายตาที่กวาดไปหาเฉินเหว่ยก่อนที่จะไปหยุดอยู่ที่ถังซิ่วพร้อมเดินมาตรงหน้าเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของคุณถังมานานในที่สุดก็ได้เจอตัวจริงเสียที สมแล้วที่เป็นมังกรในหมู่คน ผมฮูซิงหมิงผู้นำตระกูลฮู”
ถังซิ่วได้มองไปที่เขาก่อนที่จะโบกมืออย่างไม่แยแสแล้วพูดว่า
“ฉันรู้ว่านายมาที่นี่เพื่ออะไร เอาเงินมาแล้วไปซะ !”
ท่าทางของฮูซินหมิงนั้นชะงักทันทีก่อนที่จะระงับอารมณ์ที่น่าอับอายนี้ เขาได้ยื่นเช็คไปให้แก่ถังซิ่วพร้อมฝืนยิ้มออกมา
“คุณถัง ลูกชายของผมนั้นไร้เดียงสาถึงได้กล้าที่จะล่วงเกินคุณและเพื่อนของคุณ ผมขอให้คุณยกโทษให้เขาด้วย นี่เป็นเงิน21ล้านบวกกับบัตรเงินสดของคุณรวมเป็น22ล้านหยวน เป็นเงินแสดงคำขอโทษจากตระกูลของเรา ผมหวังว่าคุณคงจะไม่คิดเล็กคิดน้อย”
ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า
“ฉันรู้ว่าตระกูลของนายได้ทำสัญญากับตระกูลซางไว้และเสียผลประโยชน์ไปมหาศาลดังนั้นฉันจะเตือนอะไรนายอย่างสุภาพ จะเป็นเพื่อนหรือทำงานกับใครก็ให้ดูดีๆเหมือนกับที่ต้องสอนลูกชายของนาย อย่างให้เขาใช้แต่อำนาจของตระกูลโอ้อวดไปวันๆ บางครั้งเรื่องเล็กๆก็สามารถสร้างหายนะให้กับทั้งตระกูลได้เหมือนกับพี่น้องตระกูลซางนั่น เอาล่ะ อะไรที่ควรจะพูดก็ได้พูดไปหมดแล้ว นายออกไปได้แล้ว !”
นัยน์ตาของฮูซินหมิงนั้นหดเล็กลงพร้อมกับใจของเขาที่รู้สึกหวาดผวาหลังจากที่ได้ยินคำพูดของถังซิ่ว ก่อนหน้านี้เขาไม่มั่นใจว่าถังซิ่วนั้นอยู่เบื้องหลังจากโค่นล้มตระกูลซางแต่หลังจากที่ได้ยินเขาพูดถึงเรื่องสัญญานั้นเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าตระกูลซางได้ถูกทำลายลงภายใต้กำมือของเขาอย่างแน่นอน
“ได้ ได้ ผมเข้าใจแล้ว !”
ฮูซินหมิงได้พยายามยิ้มออกมาหลังจากนั้นเขาก็ได้มองตาขวางไปที่ลูกชายของเขา
ณ ตอนนี้
เฉินเหว่ยนั้นหวาดผวาเป็นอย่างมาก เธอไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่ถังซิ่วพูดนั้นจะเป็นความจริง ฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่เพียงเสียเงินเท่านั้นแต่กลับเพิ่มเงินเป็นเท่าตัว
หลังจากที่ภายในห้องเหลือเพียงเธอและถังซิ่วนั้น เฉินเหว่ยเองก็ได้เอามือท้าวคางพร้อมกับมองไปที่ถังซิ่วแล้วพูดออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า
“นี่ตระกูลฮูยอมเสียเงินจริงๆงั้นหรอ ? ยิ่งกว่านั้นคือผู้นำตระกูล ? ไม่ใช่ว่านายให้พวกเขาจ่าย11ล้านงั้นหรอ ? ทำไมพวกเขาถึงจ่ายกลับมาตั้ง 22 ล้านล่ะ ?”
ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า
“ก็นับว่าฮูซินหมิงนั้นเป็นคนที่มีไหวพริบดี เรื่องนี้ช่างมันเถอะ เอาบัตรเอทีเอ็มของเธอมาแล้วฉันจะฝากเงินให้2ล้านสำหรับค่ารักษาพยาบาลส่วนที่เหลือนั้นเป็นของฉัน”
เฉินเหว่ยเองก็ได้นิ่งค้างก่อนที่จะรีบส่ายศีรษะทันทีแล้วพูดว่า
“ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่ต้องการ ! พวกเขาไม่เต็มใจที่จะให้มาที่แต่รับมาก็เพราะนายต่างหาก”
ถังซิ่วได้ยิ้มแล้วพูดออกมาว่า
“ฉันขอคืนคำพูดก่อนหน้านี้”
เฉินเหว่ยได้ถามออกมาด้วยความสับสนว่า
“คำพูดไหน ?”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“เรื่องที่สมองของเธอน่าจะมีปัญหา”
เฉินเหว่ยเองก็นิ่งไปพร้อมกับอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยออกมาว่า
“นายหาเรื่องตายงั้นหรอ ? นี่นายกล้าที่จะลามปามฉันแล้วงั้นเรอะ ! อย่างไรก็ตามนายเป็นใครกันแน่ ? สามารถทำให้ผู้นำตระกูลใหญ่ยอมก้มหัวขอโทษด้วยตัวเอง ? แถมยังแสดงความหวาดกลัวว่านายจะเอาคืนพวกเขาน่ะ ? แล้วตระกูลซางที่นายพูดถึงนั้นแข็งแกร่ง ?”
ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาพร้อมพูดว่า
“ฉันเป็นแค่เด็กนักเรียนคนหนึ่งเท่านั้นส่วนเรื่องที่ทำไมพวกเขาต้องมาขอโทษนั้นก็เพราะพวกเขารู้สึกสำนึกผิดและแน่นอนว่าต้องมาขอโทษเรา !ส่วนเรื่องตระกูลซางนั้นฉันหวังว่าเธอจะไม่ถามถึงมันอีก แต่ละอย่างที่ฉันพูดในวันนี้นั้นฉันหวังว่าเธอจะลืมมันซะ”
มุมปากของเฉินเหว่ยได้ยกขึ้นก่อนที่จะพูดออกมาอย่างหงุดหงิดว่า
“ทำดีแล้ว ทำดี ในเมื่อนายไม่อยากจะพูดฉันก็จะไม่ถาม !”
“ก๊อก ก๊อก”
ประตูห้องส่วนตัวได้ถูกเคาะ
ถังซิ่วได้หันไปตามแหล่งเสียงก็พบว่าหลงเจิ้งหยูกำลังยืนกอดอกอยู่ที่หน้าประตู ถังซิ่วได้รีบโบกมือแล้วถามออกมาว่า
“นายรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่ ?”
หลงเจิ้งหยูเองก็ได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“นายสร้างเรื่องใหญ่ขนาดนี้แล้วฉันจะไม่รู้ได้อย่างไร ?”
ถังซิ่วตอบกลับไปว่า
“หยุดเลยนะ มีอะไรก็พูด !”
หลงเจิ้งหยูได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ก่อนหน้านี้ได้ไปเจอเข้ากับฮูซินหมิงโดยบังเอิญ หน้าของเขานั้นดำคล้ำยังกับถ่านหิน ฉันได้ไปถามเขาและพบว่าลูกชายตัวดีของเขาได้มาล่วงเกินนายและเพิ่งเสียเงินไปเมื่อครู่นี้ !”
ถังซิ่วก็ได้ยิ้มออกมาพร้อมพูดว่า
“คนที่ทำตัวแย่ก็จะได้รับแต่สิ่งแย่ๆ ฮูซินหมิงคนนี้วางตัวเป็นดังนั้นเรื่องในวันนี้ถึงจบลงตรงนี้ ช่างมันเถอะ ทานอาหารไหม ? จะไม่ทานด้วยกัน ?”
หลงเจิ้งหยูได้มองไปที่เฉินเหว่ยอย่างสงสัยพร้อมกับถามออกมาว่า
“คนนี้คือ....”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“เธอเป็นแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น รอจนถึงพรุ่งนี้แล้วนายก็จะไม่ได้เจอเธออีกตลอดชีวิตดังนั้นไม่จำเป็นต้องรู้หรอก !”
“นายนั่นแหละคนแปลกหน้า !!!!!”