ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 203
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 205

Returning From The Immortal World - 204


.......................................................................................................................................................................................

ร่างการของเธอสั่นสะท้านพร้อมท่าทางหวั่นวิตกขณะพูดออกมาอย่างน่าอนาถว่า

“นายงั้นหรอ......ที่เป็นคนลักพาตัวน้องฉันไป ?”

ถังซิ่วตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

“อื่ม โชคเขาของไม่ค่อยจะดีนักและเขาน่าจะตายไปแล้วแต่ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะเหงาเพราะฉันจะส่งเธอตามไปอยู่เป็นเพื่อนเขาเอง”

น้ำตาของซางดี่ขวินได้ไหลพรากพร้อมกับมองไปที่ถังซิ่วด้วยความเกลียดชัง เธอได้โห่ร้องออกมาว่า

“ทำไม !!!!! ไอ้ระยำ แกฆ่าน้องฉันทำไม ? ทำไมถึงไม่ฆ่าฉันแทน ? แกไอ้ชาติชั่ว........”

ถังซิ่วได้หยอกล้อเธอว่า

“อย่าโห่ร้องหรือด่าทอให้มันมากเลยนะ หากว่าเธอตายไปแล้วกลายเป็นวิญญาณร้ายไม่ได้ไปผุดไปเกิดจะทำยังไง ?”

ซางเฟิงเซี่ยนและคนอื่นๆเองก็ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาชัดเจน เขารู้แล้วว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเขาเป็นคนที่จัดการและทำลายตระกูลซางของพวกเขา ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้เองก็มีความแค้นฝังลึกกับซางดี่ขวินเช่นกัน

ซางเฟิงเซี่ยนได้มองไปที่ถังซิ่วก่อนที่จะหันกลับมาแล้วสาปแช่งออกมาว่า

“เกิดบ้าอะไรขึ้น ? พวกเธอสองพี่น้องไปเป็นศัตรูกับเขาได้อย่างไรกัน ?”

เสียงสาปแช่งของซางดี่ขวินได้หยุดลงก่อนที่จะหลับตาของเธอลง

ถังซิ่วได้หัวเราะเยาะพร้อมพูดว่า

“ไอ้สองพี่น้องนี่ใช่ลูกแท้ๆของนายแน่งั้นหรอ ? นายคือซางเฟิงเซี่ยนสินะ ฉันเองก็ได้อ่านรายงานเกี่ยวกับเรื่องของนายมาแล้วและสามารถบอกได้เลยว่านายเป็นคนมีความสามารถแต่ทำไมถึงได้ให้กำเนิดลูกโง่ๆมาสองคน ? แถมพวกมันยังเป็นคนชักนำหายนะไปสู่ตระกูลของแกด้วย”

ซางเฟิงเซี่ยนได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า

“แกฆ่าลูกฉันจริงๆงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“อื่ม น่าจะตายอนาถด้วย”

ซางเฟิงเซี่ยนได้บีบกำปั้นของเขาด้วยความเจ็บปวดแต่หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่ถังซิ่วพร้อมพูดว่า

“บอกฉันหน่อยสิว่านายและเธอมีความแค้นอะไรกันถึงกับต้องถอนรากถอนโคนตระกูลของฉัน”

ถังซิ่วก็ได้หัวเราะเยาะอีกครั้งพร้อมพูดว่า

“ก็ลูกๆสุดที่รักของนายได้จ้างมือสังหารจากต่างประเทศมาฆ่าฉันไงล่ะ ! นายเคยได้ยินเรื่องคนที่ตายอยู่หน้าโครงการเมืองประตูทิศใต้ไหม ? นั่นเป็นมือสังหารที่ลูกๆของนายจ้างมาแต่น่าเสียดายที่พวกมันอ่อนแอเหลือเกิน ไม่ใช่แค่ไม่สามารถฆ่าฉันได้แต่กลับถูกฉันฆ่าซะเอง”

ซางเฟิงเซี่ยนพูดออกมาด้วยความตกตะลึกว่า

“ที่แท้เรื่องการฆ่าที่นั่นคือนายเองงั้นหรอ ? ยิ่งไปกว่านั้นคือมันเกี่ยวข้องกับตระกูลเรา ? อื่ม ดูเหมือนว่าสิ่งที่นายพูดจะเป็นความจริงเรื่องที่ว่าฉันได้ให้กำเนิดตัวหายนะมา”

ถังซิ่วได้หัวเราะอีกครั้งพร้อมพูดว่า

“โอเค งั้นก็ถือสะว่าฉันเสร็จเรื่องที่ต้องคุยแล้ว พวกนายทั้งหมดจะไม่มีใครรอดออกไป หลงเจิ้งหยู หลังจากฆ่าพวกเขาหมดแล้วก็เอาไปโยนทิ้งกลางทะเลซะ”

หลงเจิ้งหยูได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ไม่ต้องเป็นห่วง พ่อของฉันได้เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว เราสามารถนำศพพวกเขาไปทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้”

ซางเฟิงเซี่ยนได้มองไปที่หลงเจิ้งหยูพร้อมพูดออกมาอย่างขมขื่นว่า

“ไม่คิดเลยว่าตระกูลหลงของเธอจะสามารถหาผู้ช่วยดีๆได้ พ่อของเธอได้สั่งให้เขาจัดการกับตระกูลของเราเพื่อขับไล่พวกเรางั้นหรอ ? เรื่องมือสังหารทั้งสามคนนั่นเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยแต่ฉันไม่เข้าใจว่าต่อให้ตระกูลหลงและตระกูลโอหยางร่วมมือกันก็ไม่น่าจะทำให้เราตกอยู่ในสถานการณ์นี้ได้”

หลงเจิ้งหยูอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า

“ซางเฟิงเซี่ยน นายคิดว่าหัวหอกในปฏิบัติการนี้คือตระกูลหลงของเรางั้นหรอ ? หากว่าพวกเรามีอำนาจขนาดนั้นแล้วทำไมเราถึงต้องปล่อยให้ตระกูลของนายอยู่ในเมืองนี้ได้นานขนาดนั้นกัน ?”

ซางเฟิงเซี่ยนเองก็ได้จ้องมองอยู่ก่อนที่จะถามออกมาอย่างสับสนว่า

“แล้วเป็นใครกัน ?”

หลงเจิ้งหยูได้ชี้ไปที่ถังซิ่วก่อนที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมพูดว่า

“ตระกูลซางของนายจะล่วงเกินใครก็ได้แต่ก็ไม่อาจล่วงเกินเขาได้ ฉันจะไขข้อสงสัยก่อนที่นายจะตายให้แล้วกัน นายรู้ไหมว่ามีกี่ขุมพลังที่ร่วมมือกันจัดการตระกูลนายกัน ?”

ซางเฟิงเซี่ยนเองก็ได้ถามออกมาว่า

“มีเท่าไหร่กัน ?”

หลงเจิ้งหยูตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

“หนึ่ง ตระกูลหลงของเรา สอง ลูกศิษย์ของเขาเฉินซีซ่ง สาม ตระกูลโอหยางจากเกาะจิงเหมิน สี่ เหมี่ยวเหวินถัง ห้า เซ่าหมิงเจิ้ง หก ตระกูลชูจากเมืองหลวง เจ็ด ตระกูลไป่จากเมืองหลวง แปด......”

ท่าทางของซางเฟิงเซี่ยนเปลี่ยนเป็นซีดเผือดในทันทีพร้อมกับสายตาที่หวาดผวาเมื่อได้ยินคำพูดของหลงเจิ้งหยู เขาได้ทันทีว่าตระกูลของเขามีชะตาที่จะต้องล่มสลายอย่างแน่นอนก่อนที่จะมองหลงเจิ้งหยูด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อพร้อมถามออกมาด้วยริมฝีปากที่สั่นเทาของเขาว่า

“ใครคือคนที่แปด ?”

หลงเจิ้งหยูได้ชี้ไปที่ถังซิ่วก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“บริษัทถังผู้สูงส่งนั้นเป็นของเขา แน่นอนอยู่แล้วว่านายคงไม่คิดว่าคังเซี่ยนทำงานให้เขาใช่ไหม ?”

“อะไรน่ะ ?”

ซางเฟิงเซี่ยนได้โห่ร้องออกมาด้วยความตกตะลึงพร้อมกับคนอื่นๆที่กำลังรู้สึกช๊อค

คังเซี่ยน !

ทำงานให้กับถังซิ่ว ?

นายใหญ่ของบริษัทถังผู้สูงส่งก็คือถังซิ่ว ?

เขาเป็นใครกัน ?

เขาถึงสามารถทำให้เธอยอมทำงานเพื่อเขาได้ ?

ซางเฟิงเซี่ยนเองก็ได้ถามออกมาต่อว่า

“ขุมพลังเหล่านี้ร่วมมือกันก็เพราะเขางั้นหรอ ?”

หลงเจิ้งหยูได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

“ใช่ ทั้งหมดเป็นเพราะเขา หากว่าเป็นคนอื่นก็คงไม่สามารถรวมขุมพลังเพื่อจัดการตระกูลของนายได้มากขนาดนี้”

ถังซิ่วได้โบกมือไปมาก่อนที่จะพูดว่า

“หลงเจิ้งหยู จะพูดมากไปทำไมกัน ? พวกเขาเป็นคนที่กำลังจะตายก็รีบๆส่งพวกเขาไปสบายซะแล้วเราจะได้รีบๆแบ่งทรัพย์สินกันเสียที เราเองก็ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำนะ ฉันไม่มีเวลาว่างมาสนใจตระกูลกระจ้อยร่อยพวกนี้หรอกนะ”

ตระกูลกระจ้อยร่อย?

คนจากตระกูลซางเองก็รู้สึกหวาดผวาอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นหนึ่งในตระกูลซางก็ได้พูดออกมาว่า

“คุณถัง นี่เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้นและคิดว่าคนที่สมควรจะถูกลงโทษควรจะเป็นแค่หลานดี่ขวิน พ่อของเธอไม่ได้รับรู้เรื่องนี้แม้แต่ต้องและฉันคิดว่าถ้าเขารู้เขาจะต้องห้ามเธออย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นคือเราเองก็ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับคุณ คุณจะช่วยปล่อยพวกเราไปได้ไหม ? คุณอยากจะเอาทรัพย์สินอะไรก็เอาไปได้เลยและยิ่งไปกว่านั้นฉันจะให้เงินเก็บทั้งหมดแก่คุณเช่นกัน”

คนตระกูลซางอีกคนก็ได้พูดออกมาว่า

“ฉันเองก็รวยมากและต้องการใช้เงินเพื่อขอซื้อชีวิต อย่าฆ่าเราเลย หลังจากนี้พวกเราเองก็จะไม่มีเงินพอที่จะทำอันตรายอะไรคุณอยู่แล้ว เราจะออกห่างคุณให้ไกลที่สุดและไม่พบคุณอีกเลย หากว่าคุณยังไม่หายแค้นก็ฆ่าซางดี่ขวินได้เลย ! เธอเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ เธอมันเป็นคนชั่วช้า”

“พวกคุณ......”

ซางดี่ขวินได้มองออกไปอย่างไม่อยากจะเชื่อเพราะคนที่พูดนั้นเป็นถึงลุงและป้าแท้ๆของเธอ เธอไม่คิดเลยว่าเพื่อที่จะรักษาชีวิตของตัวเองพวกเขาถึงกับยอมขายหลานแท้ๆของตัวเอง

ซางเฟิงเซี่ยนรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมากเมื่อเห็นพี่น้องของเขาทำแบบนี้แต่เขาเองก็ไม่อยากตาย เขายังอยากมีชีวิตรอด

ลูกของเขาก็ตายแล้ว

หากว่าเขาตายไปอีกคนก็คงจะไม่เหลือใครที่จะสืบสกุลต่อแล้ว

ดวงตาของเขากลายเป็นแดงก่ำก่อนที่จะมองไปที่ซางดี่ขวินด้วยความโกรธ เขามองไปที่ถังซิ่วพร้อมพูดว่า

“ถังซิ่ว ทำอะไรก็ต้องได้รับผลกรรมเสมอ แม้ว่าซางดี่ขวินจะเป็นลูกของฉันก็จริงแต่ก่อนหน้านี้เธอได้จ้างมือสังหารไปฆ่านายและน่าจะคิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมาเมื่อล้มเหลวแล้ว หากว่าการที่นายทำลายตระกูลของฉันแล้วยังไม่สาแก่ใจก็ฆ่าเธอซะ ! ฉันหวังเพียงแค่ว่านายจะสามารถเว้นชีวิตคนเหล่านี้ได้ หลังจากนี้เราจะออกจากเมืองนี้แล้วจะไม่ให้นายเห็นหน้าเราอีกเลย”

“คุณพ่อ.......”

ซางดี่ขวินได้กระอักเลือดออกมาคำโตขณะที่มองไปที่พ่อแท้ๆของเธอเพราะเธอยังพอเข้าใจว่าทำไมลุงและป้าแท้ๆถึงได้ขายเธอเพราะมันเป็นความเห็นแก่ตัวของมนุษย์

อย่างไรก็ตาม !

ซางเฟิงเซี่ยนนั้นเป็นพ่อแท้ๆของเธอ เขายอมปล่อยให้เธอตายเพื่อมีชีวิตรอดงั้นหรอ ?

หมดหวัง!

เธอรู้สึกหายใจลำบากเป็นอย่างมาก

เธอรู้สึกเศร้าเสียใจที่ต้องเกิดมาในครอบครัวที่โลภในชีวิตแต่กลับกลัวความตาย พวกเขาไม่มีเกียรติแม้แต่น้อย

ซางดี่ขวินเองก็กลัวตายแต่เธอรู้อยู่แล้วว่าเธอไม่มีทางรอดไปได้จึงได้พูดออกมาด้วยความเกลียดชังต่อครอบครัวของเธอว่า

“ถังซิ่ว ยังไงฉันก็ต้องตายอยู่แล้วถ้างั้นวันนี้ฉันจะบอกนายเองว่าคนที่สั่งฆ่านายไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้น พวกเขาเองก็ด้วยเพราะนายเป็นคนช่วยตระกูลหลงให้ชนะการพนันครั้งนั้น อำนาจของฉันเองก็มีไม่เยอะและนายคิดหรือว่าฉันจะมีปัญญาไปติดต่อมือสังหารจากต่างประเทศมาได้ ? พวกเขาเป็นคนแนะนำฉันไปจ้างมือสังหารมาฆ่านาย!”

“ไอ้ระยำ พูดไร้สาระ !”

“แกมันโยนความผิด!”

“พูดอะไรโกหก คนไร้ยางอาย!”

“สารเลว....”

ท่าทางของคนตระกูลซางได้เปลี่ยนไปทันทีก่อนที่จะโห่ร้องออกมาด้วยความโกรธ

ซางเฟิงเซี่ยนเองก็ไม่ได้พูดอะไร เขาได้แต่มองไปที่ลูกสาวของเขา

ถังซิ่วที่กำลังดูหมากัดกันอยู่นั้นก็ทำได้แต่ส่ายศีรษะ เขาไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้แต่สิ่งเหล่านี้เองก็ช่วยเพิ่มการตัดสินใจให้เขาฆ่าพวกเขาทันที

“หลงเจิ้งหยู ที่นี่ฝากนายด้วยแล้วกัน”

หลงเจิ้งหยูตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

“ไม่ต้องห่วง! ฉันจะจัดการอย่างสะอาดและไม่ให้เหลือร่องรอยแม้แต่น้อย”

“รอก่อน !”

ซางเฟิงเซี่ยนได้ตะโกนออกมาอย่างดัง

ถังซิ่วได้หยุดเท้าของเขาพร้อมกับหันมามองแล้วถามออกมาว่า

“ยังมีอะไรจะพูดงั้นหรอ ?”

ซางเฟิงเซี่ยนได้พูดออกมาว่า

“หากว่านายปล่อยพวกเราไปฉันจะให้เงินนาย เงินก้อนโต!!!”

ถังซิ่งเองก็กำลังขาดเงินอยู่เช่นกันแต่เขาจะไม่ปล่อยซางเฟิงเซี่ยนไปแน่ๆ อย่างไรก็ตามการที่คนยื่นเงินออกมาก่อนจะตายนั้นเป็นสิ่งที่เขาขาดคิดไว้แต่แรกแล้วจึงได้ถามออกมาว่า

“นายคิดว่าชีวิตของนายมีค่ามากแค่ไหนกัน ?”

ซางเฟิงเซี่ยนตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า

“3พันล้าน ฉันพร้อมที่จะขอซื้อชีวิตของพวกเราด้วยเงิน3พันล้าน นี่เป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ฉันซ่อนเอาไว้และไม่มีใครรู้ ตราบใดที่นายปล่อยพวกเราไปฉันจะให้เงินทั้งหมดนั่นทันที”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด