ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 197
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 199

Returning From The Immortal World - 198


.......................................................................................................................................................................................

หลี่ฮงจี้ไม่ได้ออกไปจากโรงพยาบาลในคืนนี้เพราะว่าลูกสะใภ้ของเพื่อนเก่าเขาได้รับบาดเจ็บและตัวเขาเองกำลังนั่งปลอบเพื่อนของเขา

ในขณะนี้เขากำลังนำเพื่อนเก่าของเขาไปที่หน้าห้องผ่าตัดแล้วเห็นว่าการผ่าตัดได้เสร็จสิ้นลงแล้วจึงได้ถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“เป็นอย่างไรบ้าง ? การผ่าเอาตะปูออกมาเป็นไปได้ด้วยดีไหม ?”

หมอคนนั้นก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดว่า

“ตะปูได้ฝังอยู่ในที่ๆพิเศษมากครับ เราได้ลองหลายครั้งแล้วก็ไม่สามารถเอามันออกมาได้เลย ตอนนี้กำลังให้เลือดเธอแต่ภาวะของเธอเองก็ยังไม่คงที่”

ท่าทางของหลี่ฮงจี้เองก็เคร่งครึมโดยทันที เขามองไปที่เพื่อนเก่าของเขาที่หน้าซีดไปหมดแล้วไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดปลอบใจเขาอย่างไรดี

หมอคนนั้นก็ได้พูดต่อว่า

“ท่านผู้อำนวยการ เราควรจะส่งเธอไปที่โรงพยาบาลอื่นเช่นโรงพยาบาลของเมืองหลวง.....”

คำพูดของเขาหยุดอยู่ครึ่งท่อนเพราะเขาเองก็เข้าในถึงสถานการณ์ที่ว่าภาวะของเธอนั้นยังไม่คงที่และหากว่าบุ่มบ่ามเคลื่อนย้ายเธอก็อาจจะทำให้เธอตายได้

หลี่ฮงจี้ได้พูดออกมาว่า

“เราไม่สามารถเคลื่อนย้ายเธอได้ อย่างมากก็คำได้แค่ไปเชิญหมอชั้นยอดมาที่นี่ ฉัน.....”

ในจิตใจของเขาก็ปรากฏใบหน้าของถังซิ่วขึ้นมาทันทีก่อนที่จะเกิดประกายขึ้นในดวงตาของเขาพร้อมกับโทรหาถังซิ่วโดยทันที

โครงการเมืองประตูทิศใต้

ถังซิ่วที่กำลังนั่งคุยกับคังเซี่ยนอยู่นั้นก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเรียกเข้า เมื่อเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพบว่าเป็นหลี่ฮงจี้นั้นก็ทำให้คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันทันที

“มีเรื่องอะไรงั้นหรอ ?”

“ถังซิ่ว ตอนนี้โรงพยาบาลของเรานั้นมีผู้ป่วยร้ายแรง หมอที่เก่งที่สุดของที่นี่ก็ไม่สามารถรักษาได้ เธอ...เธอมาที่นี่หน่อยได้ไหม ? ได้โปรดช่วยมารักษาให้ด้วยเถอะ”

คำพูดของหลี่ฮงจี้นั้นแฝงไปด้วยคำขอร้อง

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง ?”

หลี่ฮงจี้ได้พูดออกมาว่า

“ตะปูได้ฝังอยู่ระหว่างหัวใจและเส้นเลือดใหญ่”

ถังซิ่วถอนหายใจก่อนที่จะพูดว่า

“รอฉันอยู่ที่นั่น”

หลังจากที่พูดจบเขาก็วางสายโดยทันที

คังเซี่ยนได้ถามออกมาด้วยความสับสนว่า

“บอส ดึกดื่นป่านี้แล้วยังออกไปข้างนอกอีกงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วฝืนยิ้มออกมาพร้อมพูดว่า

“ก่อนหน้านี้ได้ไปเป็นแพทย์รับเชิญที่โรงพยาบาลจีนของเมืองนี้และตอนนี้เองก็มีคนไข้ร้ายแรงที่รอการรักษาอยู่แต่หมอที่เก่งที่สุดของที่นั่นก็ไม่สามารถรักษาได้ เมื่อกี้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้โทรมาหาฉัน เธอช่วยไปส่งหน่อยสิ !”

คังเซี่ยนได้รู้อยู่แล้วว่าถังซิ่วนั้นมีความรู้ด้านการแพทย์เพราะเธอได้ยินมาว่าอาการป่วยแปลกๆของกู่หยินนั้นได้ถูกถังซิ่วรักษาแต่เธอไม่คิดเลยว่าคนไข้ร้ายแรงที่แม้กระทั่งหมอที่เก่งที่สุดของโรงพยาบาลก็รักษาไม่ได้แต่ผู้อำนวยการกลับโทรมาหาเขาด้วยตัวเอง อย่าบอกนะว่าความสามารถด้านการแพทย์ของเขามีมากกว่าหมอที่เก่งที่สุดในโรงพยาบาล ?

“ฉันจะไปส่งคุณเอง !”

คังเซี่ยนได้พยักหน้าตกลง

ผ่านไปไม่นานพวกเขาก็ได้ไปถึงที่โรงพยาบาล

“บอส ฉันจะไปกับคุณ ก่อนหน้านี้ก็รู้ว่าคุณมีความสามารถด้านการแพทย์แต่ยังไม่เคยเห็นกับตาสักครั้ง ฉันอยากได้รับประสบการณ์ด้วยตัวเอง”

คังเซี่ยนได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่สดใส

ถังซิ่วได้ถามกลับไปว่า

“เธอไม่เหนื่อยงั้นหรอ ?”

คังเซี่ยนได้ตอบกลับไปว่า

“ไม่มีครั้งไหนที่รู้สึกเหนื่อยเลยเมื่อได้อยู่กับคุณ”

“ขี้ประจบ !”

เมื่อพูดจบถังซิ่วก็ได้เดินเข้าไปที่ตึกหลักของโรงพยาบาล คังเซี่ยนที่ได้ล๊อครถแล้วก็รีบตามเขาไปทันที

ที่ชั้นสี่ของโรงพยาบาล

หลี่ฮงจี้เองก็กำลังมองไปที่นาฬิกาส่วนเพื่อนเก่าของเขาได้ถามออกมาอย่างกระวนกระวายว่า

“ระดับของหมอที่เพื่อนเก่าได้เชิญมานั้นสูงขนาดไหนกัน ?”

หลี่ฮงจี้ได้ตอบกลับไปว่า

“เขาเป็นปรมาจารย์ด้านแพทย์แผนจีนที่แข็งแกร่งกว่าฉันมากส่วนเรื่องการผ่าตัดนั้นฉันยังไม่แน่ใจนักแต่คิดว่าน่าจะสามารถเอาตะปูนั่นออกมาได้”

แพทย์แผนจีน ?

ความรู้สึกกังวลของชายคนนั้นได้เพิ่มขึ้นยิ่งกว่าเดิม

เมื่อร่างของถังซิ่วได้ปรากฏสู่สายตาของหลี่ฮงจี้นั้น แม้ว่าเขาจะแก่แล้วแต่ก็ยังคงรีบวิ่งไปทักทายอย่างตื่นเต้นว่า

“ถังซิ่ว คนที่ได้รับบาดเจ็บกำลังอยู่ในห้องผ่าตัด หมอของเราได้ลองไปหลายวิธีแล้วแต่ก็ไม่สามารถที่จะผ่าเอาตะปูนั่นออกมาได้เลย เธอพอจะมีวิธีไหม ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ฉันยังไม่ได้เห็นอาการของคนไข้เพราะฉะนั้นคงไม่สามารถตอบได้ นำทางไปสิ !”

หลี่ฮงจี้ได้พยักหน้าตกลงพร้อมพูดว่า

“ตามฉันมา”

ในขณะที่ถังซิ่วได้เข้าไปนั้น คังเซี่ยนและญาติคนอื่นๆได้ถูกกันไว้ข้างนอกส่วนในห้องผ่าตัดนั้นหลี่ฮงจี้เองก็ได้เหลือไว้เพียงแต่หมอไม่กี่คนเท่านั้น

ถังซิ่วที่กำลังตรวจอาการนั้นก็ขมวดคิ้วพร้อมถามออกมาทันทีว่า

“ตะปูนี่เขาไปอยู่ในตัวเธอได้อย่างไรกัน ?”

หมอที่เข้าใจสถานการณ์ก็ได้ตอบกลับไปว่า

“เธอได้เดินผ่านเขตก่อสร้างแล้วเกิดอุบัติเหตุปืนยิงตะปูลั่น ! มันก็ผ่านมากว่า7-8ชั่วโมงแล้ว”

ถังซิ่วได้พยักหน้าพร้อมพูดว่า

“นายพยุงเธอให้นั่งไว้”

“นี่......”

หมอหลายคนได้มองไปที่หลี่ฮงจี้ด้วยท่าทางลังเล

หลี่ฮงจี้ได้พูดด้วยเสียงโทนต่ำว่า

“ทำตามที่หมอถังสั่ง”

หมอทั้งหมดก็ได้พยุงคนไข้คนนั้นขึ้นนั่ง

ถังซิ่วได้หยิบมีดผ่าตัดขึ้นมาอย่างสบายใจพร้อมกับตรวจสอบแผลที่เกิดจากการเย็บของการผ่าตัดก่อนหน้านี้พร้อมกับผ่าไปที่รอยเย็บนั้นทันที

เลือด! มันพุ่งออกมาเหมือนน้ำพุ

ท่าทางของถังซิ่วเองก็ยังคงสงบอยู่พร้อมกับเปิดแผลอย่างรวดเร็วก่อนที่จะมองหาตะปูอันนั้นพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งจับไหล่ของเธอไว้แล้วต่อยไปที่กลางหลังของเธอขณะที่พลังแห่งดวงดาราได้ถูกส่งผ่านหมัดเหล่านั้นเข้าไป

พลังแห่งดวงดาราก็เหมือนกันพลังหยวนแต่หนาแน่นกว่ามาก พวกมันทั้งคู่มีคุณสมบัติในการรักษาเหมือนกัน ถังซิ่วได้ส่งพลังเหล่านี้เข้าไปในร่างกายของเธอ ขณะที่หมอคนอื่นๆเองก็กำลังหวาดผวากับการกระทำของเขานั้น เขาได้เอามือไปวางไว้ที่หลังของเธอก่อนที่จะควมคุมพลังงานเหล่านั้นให้ปกป้องหัวใจของเธอขณะที่ต่อยไปที่หลังของเธอซ้ำ

หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที

ถังซิ่วก็ได้พยุงตัวของเธอกลับลงมาในท่านอนก่อนที่ส่งพลังงานเข้าไปทางบาดแผลของเธอพร้อมกับล้วงเข้าไปในแผลนั้น ไม่มีใครเห็นว่าถังซิ่วกำลังใช้พลังแห่งดวงดาราปกป้องเส้นเลือดใหญ่ของเธอขณะที่เขาใช้มือเปล่าๆดึงตะปูออกมา

“เคร้ง.....”

ตะปูยาวหลายเซ็นได้ถูกโยนลงในกระโถน

ถังซิ่วมองไปทางหมอที่กำลังหวาดผวาพร้อมพูดด้วยเสียงต่ำว่า

“งานของฉันเสร็จแล้ว ฉันไม่ได้ทำอะไรกับเส้นเลือดใหญ่และหัวใจของเธอ งานที่เหลือก็ฝากพวกนายแล้วกัน รีบๆเย็บแผลแล้วหยุดเลือดเธอ! อ่อ อย่าลืมการฆ่าเชื้อล่ะ”

หลี่ฮงจี้เองก็กำลังตกตะลึงกับวิธีการของถังซิ่วเช่นกันขณะที่เขารู้สึกเหมือนมีอะไรมาติดที่คอหอยของเขา ขณะที่ได้ยินคำพูดของถังซิ่วนั้นก็เหมือนกับเป็นการปลุกเขาขึ้นจากฝันก่อนที่จะมองไปที่หมอรอบๆข้างแล้วตะโกนออกมาว่า

“จะยืนจ้องกันอยู่ทำไมเล่า! ทำตามที่หมอเทวะพูดสิ!!”

“..... ได้ ได้ ได้เลย !”

พวกเขาได้หยิบผ้าพันแผลและสิ่งต่างๆพร้อมเริ่มทำการฆ่าเชื้อและเย็บแผลของเธอ ขณะที่พวกเขากำลังให้ออกซิเจนกับเธอนั้นก็ได้หนีบเครื่องมือมากมายไว้กับเธอ

เครื่องได้แสดงให้เห็นว่าสภาพร่างกายทุกอย่างของเธออยู่ในสภาวะปกติแล้ว

เมื่อพวกเขาเห็นข้อมูลเหล่านี้แล้วก็ต้องรู้สึกโล่งอกในทันที ตอนนี้พวกเขากำลังมองไปที่ถังซิ่วผู้ซึ่งกำลังล้างมือด้วยใบหน้าราบเรียบอย่างสบายใจด้วยความรู้สึกช๊อค พวกเขาไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้แม้แต่น้อย

วิธีการเมื่อครู่นี้มัน !

มันแหวกแนวเกินไปแล้ว !

ถ้าเป็นพวกเขาเองก็คงไม่มีใครกล้าลองวิธีเหล่านั้นอย่างแน่นอน !

หลี่ฮงจี้ที่ได้เดินตามถังซิ่วที่ออกจากห้องผ่านตัดขณะที่มองไปที่การแสดงออกถึงความกังวลบนหน้าญาติๆของเธอและท่าทางซีดเผือดของเพื่อนเก่าเขาแล้วก็ได้หันไปมองที่ถังซิ่วก่อนที่จะหันกลับมาแล้วพูดว่า

“นายไม่ต้องเป็นกังวล ! คุณหมอถังได้เอาตะปูออกมาจากแผลและจากข้อมูลนั้นก็แสดงให้เห็นว่าเธอกำลังอยู่ในภาวะพ้นขีดอันตรายแล้ว มันไม่มีอะไรที่ต้องกังวลอีกต่อไป ฉันจะให้หมอและนางพยาบาลคอยเฝ้าเธอตลอด24ชั่วโมง”

ชายวัยกลางคนก็ได้จ้องมองอย่างไม่อยากจะเชื่อพร้อมกับพูดออกมาว่า

“เอาออกแล้วงั้นหรอ ? เพื่อนหลี่ ! อย่าโกหกฉันเลย.....นี่......หมอตัวน้อยคนนี้เข้าไปนานแค่ไหนกัน ? มันเพิ่งจะผ่านไป5นาทีกว่าๆ ? เขาจะเอาตะปูเหล่านั้นออกมาจากลูกสะใภ้ฉันได้อย่างไร ?”

หลี่ฮงจี้ก็ได้พูดออกมาขณะที่ถอนหายใจว่า

“หมอถังนั้นเป็นหมอเทวะของโรงพยาบาลเรา หากว่าไม่มีเหตุร้ายแรงจริงๆเราก็จะไม่ไปรบกวนเขาเพราะเขามักจะยุ่งอยู่เสมอ คนที่เป็นคนที่ช่วยชีวิตลูกสะใภ้ของนายและเป็นคนที่นายควรจะรู้สึกขอบคุณที่สุดก็คงเป็นเขา”

หมอเทวะ

ริมฝีปากของชายแก่คนนั้นก็กระตุกเล็กน้อยก่อนที่จะมองไปที่ลูกชายของเขาแล้วพูดว่า

“ทำไมยังไม่คุกเข่าขอบคุณหมอเทวะที่ช่วยชีวิตภรรยาลูกไว้อีกล่ะ ?”

ชายคนนั้นเองก็กำลังจะทำแบบนั้นเช่นกันแต่ถังซิ่วก็ได้โบกมือพร้อมกับมองไปที่หลี่ฮงจี้แล้วพูดว่า

“ฉันเป็นหมอและปณิธานสูงสุดของผู้เป็นหมอคือการรักษาผู้ป่วย ไม่จำเป็นต้องแสดงความขอบคุณหรอกเพราะมันเป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำอยู่แล้ว !”

คังเซี่ยนที่ยืนอยู่ใกล้ๆนั้นถึงกับหงายเงิบขณะที่มองไปที่ถังซิ่ว เธอเพิ่งจะตระหนักได้ว่าตัวเองรู้จักถังซิ่วน้อยแค่ไหนเพราะชื่อเสียงของโรงพยาบาลแห่งนี้นั้นสามารถเรียกได้ว่าเป็นอันดับต้นๆของเมืองนี้ บาดแผลที่หมอที่ดีที่สุดของที่นี่ก็ยังไม่สามารถรักษาได้แต่ถังซิ่วกับใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการรักษา เขาช่างดูลึกลับจริงๆ

เธอมองไปที่ถังซิ่วแล้วรู้สึกเหมือนว่าบนหัวของถังซิ่วนั้นมีมงกุฎอยู่และนั่นเป็นเหมือนมงกุฎของเทพเจ้า (*ไอวงกลมๆที่เวลาโงกุนตายแล้วมันจะมีโผล่อยู่บนหัวอะ แอดไม่รู้เรียกว่าอะไร <a href="https://l.facebook.com/l.php?u=http%3A%2F%2Fvignette3.wikia.nocookie.net%2Fdeathbattlefanon%2Fimages%2F3%2F32%2FGoku_SS1-3.png%2Frevision%2Flatest%3Fcb%3D20150925011535&amp;h=ATNqAtobvDl2eYs3Yuji8Q5YNvz3eNG_KgoaaPxh7VaoFHdc0mTJvOCdXzALOWRXqENhlt8Jhl0JqoanWcwoyv3v5Rk1dWJjWTgJ-ga1iKfvTfnqoqQ52sIG238Z-m_wqwzBTytur3qA" target="_blank" rel="noopener noreferrer">คลิกดูภาพปลากรอบ</a> )

ถังซิ่วได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วมองไปที่เวลาก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“หากไม่มีอะไรแล้วก็ขอตัว !”

หลี่ฮงจี้รีบวิ่งไปขวางถังซิ่วไว้โดยทันทีก่อนที่จะถามออกมาว่า

“ถังซิ่ว เธอเองก็ได้สอบเสร็จแล้ว เธอสามารถมาที่นี่ได้อีกครั้งเลย ?”

ถังซิ่วได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบกลับไปว่า

“ช่วงนี้ยังไม่ค่อยวางเท่าไหร่ รอไปก่อนช้าสุดก็ประมาณหนึ่งเดือนถึงครึ่งเดือนแล้วฉันจะมาประจำที่นี่อีกครั้ง”

หลี่ฮงจี้ที่ได้ยินคำสัญญาของถังซิ่วเช่นนั้นก็รู้สึกมีความสุขอย่างมากก่อนที่จะพูดว่า

“ได้ยินอย่างนั้นฉันก็สบายใจ ไปกันเถอะ ! ฉันจะไปส่งเธอเอง”

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดว่า

“คุณแก่แล้ว ไม่จำเป็นหรอก รีบๆกลับบ้านไปพักผ่อนซะ”

หลังจากพูดจบเขาก็ได้เดินออกไปพร้อมคังเซี่ยนโดยทันที

เมื่ออกไปด้านนอกของโรงพยาบาลคังเซี่ยนที่ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับก็ได้มองไปที่ถังซิ่วพร้อมถามออกมาว่า

“บอส คุณทำได้อย่างไร ? ต้องเข้าใจก่อนนะว่าคุณเข้าไปในห้องผ่าตัดเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด