Returning From The Immortal World - 181
.......................................................................................................................................................................................
แววตาของหวังหมิงได้ปรากฏความเย็นยะเยือกก่อนที่จะก้าวออกมาแล้วพูดว่า
“หมิ่นฉันยังพอว่าแต่แกกล้าหมิ่นหลันเถานั้นแกเชื่อไหมว่าฉันจะทำให้แกพิการ ?”
“ไอ้โง่”
ถังซิ่วพูดเยาะเย้ยออกมาพร้อมพูดว่า
“สังคมสมัยนี้ก็มีระบบของมัน นายคิดว่านายทำให้ฉันพิการแล้วมันอย่างไร ? นายมันไม่ต่างอะไรไปจากมดตัวน้อยในสายตาของฉันเลย นายคิดว่าความแข็งแกร่งอันน้อยนิดนั่นจะสามารถทำให้ฉันพิการได้ ? อย่าพูดเรื่องตลกหน่อยเลยหน่า”
ในขณะนี้เขวียนหน้าบากที่อยู่ในรถที่ได้ยินเสียงโต้แย้งกันนั้นก็ได้รีบวิ่งออกมาพร้อมมองไปที่หวังหมิงด้วยความโกรธ เขารู้ดีว่าถังซิ่วไม่จำเป็นต้องให้เขาปกป้องแต่ก็ยังตะโกนออกมาว่า
“แกคิดจะทำอะไร ?แกกล้ามากนะที่มาเหิมเกริมอยู่ตรงหน้าบอสของฉัน เชื่อไหมว่าฉันจะกระทืบแก ?”
“เอ่อออ ?”
ท่าทางของหวังเซียงเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นเขวียนหน้าบากพร้อมกับโห่ร้องออกมาว่า
“คุณ.....คะ คุณคือพี่ใหญ่เขวียน ? พี่ใหญ่เขวียนหน้าบาก ?”
เขวียนหน้าบากเองก็ได้หันไปมองที่หวังเซียงพร้อมกับถามออกมาว่า
“นายรู้จักฉันงั้นหรอ ?”
หวังเซียงที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถยืนยันตัวตนของเขวียนหน้าบากได้นั้นถึงกับสั่นสะท้านทันทีเมื่อได้ยินคำตอบนั้น เขาพยายามยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“พี่ใหญ่เขวียน ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคุณจริงๆ อ๊า ! เคยเห็นพี่อยู่กับบอสหลุยของผม ก่อนหน้านี้นั้นเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้น พี่ชายของผมไม่รู้ว่าเขาเป็นบอสของคุณ ผมจะพยายามแนะนำให้เขาทำงานกับพวกคุณเอง”
เขวียนหน้าบากเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ที่แท้นายก็เป็นคนของหลุยนั่นเอง ไอเวรนั่นมันเป็นคนไม่ดีนัก ได้ยินมาว่ามันเองก็กำลังเจอกันปัญหาใหญ่อยู่เหมือนกัน ในเมื่อบอสของฉันโปรดปรานพี่ชายของนายงั้นฉันจะบอกอะไรดีๆให้ นายควรจะรีบๆย้ายที่อยู่ซะ ไม่อย่างงั้น……..”
หวังเซียงเองก็ได้มีท่าทางเปลี่ยนไปพร้อมกับใบหน้าที่ซีดลงเรื่อยๆแล้วพูดว่า
“พี่ใหญ่เขวียน พี่หมายความว่าอย่างไรกัน ? พี….พี่ช่วยบอกให้ละเอียดกว่านี้สักนิดได้ไหม ?”
เขวียนหน้าบากเองก็ได้พ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า
“ไอ้หลุยนั่นได้ไปเกี่ยวข้องกับการผลิตยาเสพติดชนิดหนึ่งและกำลังจะถูกจับไปพร้อมๆกับลูกน้องของมัน ! ฉันมีเพื่อนในสถานีตำรวจและได้ยินเรื่องนี้มาในตอนที่ดื่มด้วยกันกับพวกเขา”
ร่างกายของหวังเซียงสั่นสะท้านทันที เขาเข้าใจคำพูดของเขวียนหน้าบากดี บอสหลุยนั้นได้ทำเรื่องชั่วร้ายมามากและเกี่ยวข้องกับการผลิตยาเสพติด เขาและเพื่อนๆเองก็ได้ทำเรื่องชั่วร้ายกับบอสหลุยมามากเช่นกัน หากว่า……….
ถังซิ่วได้โบกมือให้กับเขวียนหน้าบากพร้อมพูดว่า
“พอได้แล้ว เห็นไหมว่าเขากลัวหมดแล้ว! คิดว่าเป็นทหารชั้นดีแต่กลับกลายเป็นขยะธรรมดาๆ เอาล่ะ เราไปกันได้แล้ว”
“หยุดก่อน !”
เมื่อหวังหมิงเห็นว่าถังซิ่วได้หันหลังกลับไปนั้นจึงได้ตะโกนออกมาโดยทันที
ถังซิ่วได้หัวเราะเยาะออกมาพร้อมพูดว่า
“มีอะไรงั้นหรอ ? อยากจะลองดู ?”
หวังหมิงเองก็ได้พูดออกมาว่า
“กับร่างกายผอมแห้งของแกงั้นหรอ ? คิดว่าจะสามารถเป็นคู่มือให้ฉัน ? ฉันจะขอเตือนแกว่าอย่าได้กล้าดูหมิ่นหลันเถาอีกไม่เช่นนั้นแกจะต้องชดใช้อย่างสาสม”
ถังซิ่วได้กวักนิ้วเรียกเขาพร้อมกับพูดว่า
“ฉันจะให้โอกาสแก เรามาลองดูกันหากว่าฉันชนะแกก็ต้องติดตามฉันและบอกที่อยู่ของหลันเถาแต่หากว่าฉันแพ้แกก็จะไม่ใช่แค่ได้อัดฉันฟรีๆแต่ฉันเองก็จะช่วยไม่ให้น้องชายของแกใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในคุก แกคิดว่าไง ?”
น้องของเขาจะไม่ต้องเข้าคุก ?
หวังหมิงเข้าใจได้ถึงคำพูดที่ถังซิ่วจะสื่อทันทีพร้อมกับตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า
“แกคิดจะขู่ฉัน ? แกมันหน้าด้านและไร้ยางอายถึงที่สุด”
ถังซิ่วพูดออกมาเบาๆว่า
“จากที่ฟังคำพูดของแกฉันก็เข้าใจได้ถึงบางอย่าง แม้ว่าแกจะเป็นกองกำลังพิเศษแต่ก็เป็นแค่พวกธรรมดาๆในหน่วยเท่านั้น อย่างไรก็ตามมันแตกต่างจากพวกที่ได้ทำภารกิจลับมากมายพร้อมกับต้องตัดสินใจในช่วงเวลาเป็นเวลาตาย พวกเขาเป็นทหารที่แท้จริง เอาล่ะ เราไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ แกกล้าที่จะพนันกับฉันหรือเปล่า แกเลือกมา”
หวังหมิงได้ส่ายศีรษะพร้อมพูดว่า
“ฉันสามารถรับปากแกได้แค่ว่าหากว่าฉันแพ้ให้กับแกแล้วฉันจะทำตามทุกอย่างที่แกสั่งแต่สำหรับเรื่องที่อยู่และข้อมูลของหลันเถานั้นเป็นอะไรที่ฉันไม่สามารถเปิดเผยได้และยิ่งไปกว่านั้นคือฉันจะไม่ทำเรื่องที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน”
“ขี้ขลาด !”
ถังซิ่วเยาะเย้ยออกมาก่อนที่จะเดินไปที่รถของเขา
หวังหมิงได้กำหมัดของเขาแน่นพร้อมดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ หลังจากที่ถังซิ่วเดินไปได้3-4ก้าวนั้นเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที เขาได้มาปรากฏอยู่ตรงหน้าถังซิ่วภายในสองลมหายใจพร้อมกับปล่อยหมัดใส่หน้าของถังซิ่วอย่างรุนแรง
“ฮึ่ม……...”
ถังซิ่วได้หลบอย่างรวดเร็วพร้อมใช้มือข้างหนึ่งยกขาของเขาขึ้นมาแล้วชกไปที่หน้าอกของเขาโดยทันที หลังจากนั้นก็ได้ใช้ปลายเท้าของเขาเตะอัดไปที่หวังหมิงซ้ำอีกครั้งจนลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น
“นี่คือทั้งหมดของแกงั้นหรอ ?”
ถังซิ่วไม่ได้โจมตีต่อพร้อมกับมองด้วยความสมเพช
เขาเกิดความรู้สึกตกใจในความแข็งแกร่งของถังซิ่วแต่เพราะการที่เขาโดนดูถูกนั้นได้เป็นเหมือนแรงผลักดันที่ทำให้ความโกรธของเขาเพิ่มขึ้น เขากระโดดขึ้นมาจากพื้นพร้อมปล่อยหมัดไปที่ถังซิ่วอย่างรุนแรง
“ปึ้กกก”
ถังซิ่วได้ยื่นมือออกมารับหมัดของหวังหมิงก่อนที่จะส่ายศีรษะพร้อมยกเท้าขึ้นมาเตะไปกลางหน้าของของเขาแล้วพูดออกมาอย่างราบเรียบว่า
“พลังของเรานั้นแตกต่างกันเกินไป หากเทียบกับคนธรรมดานั้นนายอาจจะดูแข็งแกร่งกว่าพวกเขาแต่สำหรับฉันนายก็ไม่ได้แตกต่างไปจากมดเลยแม้แต่น้อย ฉันคงไม่เหลือบมองที่นายด้วยซ้ำหากว่าฉันไม่ได้กำลังขาดคน”
หวังหมิงพยายามยืนขึ้น
ความเจ็บปวดได้แผ่ไปทั่วหน้าอกของเขา ตัวของเขาเองก็ตระหนักถึงคำพูดของถังซิ่วดีว่าเขาไม่ได้มีความแตกต่างไปจากมดเลยด้วยซ้ำ ตลอดชีวิตที่ผ่านมานี่คงจะเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ทำให้เขาแพ้ได้อย่างน่าอนาถขนาดนี้
สำหรับเขาแล้ว หลันเถานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
แม้ว่าจะมีเขาเพิ่มขึ้น3-5คนก็ยังไม่ใช่คู่มือของหลันเถา
อย่างไรก็ตาม ! เขามั่นใจว่าต่อให้เป็นหลันเถาเองก็ไม่สามารถทำให้แพ้แบบไม่สามารถตอบโต้กลับได้ขนาดนี้ เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นแข็งแกร่งกว่าหลันเถาหลายเท่านัก
“นายเป็นใครกัน ?”
หวังหมิงได้เอามือมากุมหน้าอกของตัวเองไว้พร้อมมองไปที่ถังซิ่ว
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“หากว่าอยากจะรู้ว่าฉันเป็นใครก็จงติดตามฉันซะ ยิ่งไปกว่านั้นไม่ต้องกังวลเรื่องที่ผิดกฏหมายอย่างแน่นอนเพราะหากมีใครกล้าทำผิดกฎหมายในหมู่ผู้ติดตามแล้วล่ะก็ พวกเขาจะไม่ได้รับการละเว้นแม้แต่น้อย ผู้ติดตามที่ฉันต้องการคือคนที่ซื่อสัตย์และทำตามคำสั่งของฉันอย่างแน่วแน่”
ใกล้ๆกันนี้
หวังเซียงที่กำลังยืนอยู่ข้างๆเขวียนหน้าบากนั้นสามารถบอกได้ทันทีว่าถังซิ่วนั้นยั้งมือไว้ แม้ว่าเขาจะเป็นห่วงพี่ชายของเขาแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เขาเองก็รู้สึกช๊อคเพราะเขารู้ถึงความสามารถของพี่ชายตัวเองดี ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ถูกรุมโดยเหล่าอันธพาลหลายคนแต่พวกมันกลับถูกพี่ชายของเขาทุบตีจนสาหัส ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือฝ่ายตรงข้ามมีทั้งปืนและมีดแต่พี่ชายของเขากลับได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แล้วพี่ชายที่แข็งแกร่งของเขากลับถูกทุบตีโดยไม่สามารถตอบโต้ได้ เด็กหนุ่มคนนี้จะแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกัน ?
“พี่ใหญ่เขวียน บอสของคุณเป็นใครกัน ? ทำไมเขาถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้น ?”
หวังเซียงได้ถามออกมาด้วยเสียงกระซิบ
เขวียนหน้าบากเองก็ได้พูดออกมาอย่างเรียบเฉยว่า
“ไม่รู้เหมือนกัน”
ไม่รู้ ?
หวังเซียงเองก็ได้พูดออกมาด้วยความรู้สึกประหลาดใจว่า
“พี่ไม่รู้ได้อย่างไร ? พี่เป็นผู้ติดตามของเขาแล้วทำไมถึงไม่รู้ว่าเขาคือใคร ? พี่กำลังล้อเล่นใช่ไหม ?”
เขวียนหน้าบากเองก็ได้ตอบกลับว่า
“ฉันไม่รู้จริงๆแต่สิ่งที่ฉันรู้คือเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งและรวยมาก เขาเป็นเจ้าของบริษัทขนาดใหญ่ส่วนเรื่องที่เหลือนั้่นฉันไม่รู้เลยแม้แต่น้อย”
หวังเซียงได้ถามออกมาอีกครั้งว่า
“แล้วทำไมพี่ถึงกล้าที่จะไปทำงานกับเขา ?”
เขวียนหน้าบากได้หรี่ตาของเขาลงพร้อมกับพูดว่า
“บอสนั้นเป็นคนดีที่น่าเชื่อถือ ฉันเชื่อว่าการอยู่กับเขาต้องเป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน”
“..............”
คำตอบนี้ถึงกับทำให้หวังเซียงตกใจกลัว
ถังซิ่วได้มองไปที่หวังหมิงพร้อมกับพูดออกมาอย่างสงบว่า
“นายไม่จำเป็นต้องตอบอะไรทั้งนั้น ฉันต้องการทีมและหากว่านายตกลงก็พาหลันเถามาหาฉันที่สตาร์ซิตี้ ฉันอาศัยอยู่ในเมืองประตูทิศใต้ จำไว้ว่านายมีเวลาเหลือแค่สามวันเท่านั้น หากหลังจากนั้นแล้วต่อให้นายตกลงฉันเองก็จะไม่ยอมรับมันอีก”
หลังจากที่พูดจบถังซิ่วก็หันหลังกลับไปที่รถก่อนที่จะหันหน้ากลับมาพูดทิ้งท้ายไว้ว่า
“ฉันยังไม่ได้บอกเงื่อนไขไปสินะ หากว่านายเลือกที่จะติดตามฉัน ฉันสัญญาว่าน้องชายของนายจะมีที่ซุกหัวนอนและนายเองก็จะมีอนาคตที่ดีแน่นอน”
เสียงเครื่องยนต์สตาร์ท
สองพี่น้องได้มองที่รถโตโยต้าที่กำลังแล่นออกไปด้วยท่าทางที่สับสน หวังเซียงเองกำลังคิดถึงคำพูดของถังซิ่วอย่างถี่ถ้วนส่วนหลัวหมิงนั้นกำลังตกอยู่ในห้วงความคิดของเขา ,ใช้ชีวิตอยู่กับปืนและการนองเลือดจนถึงอายุ30ปีแต่หลังจากที่ต้องกลับมาใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาก็ทำให้เขารู้สึกอึดอัดอย่างมาก เขาต้องอดทนใช้ชีวิตไปวันๆ แต่ละวันนั้นผ่านไปช้าเหมือนหนึ่งปี นี่มันทุกข์ทรมานอย่างมาก
สามารถรู้ถึงตัวตนของหลันเถา ?
เด็กหนุ่มคนนี้เป็นใครกัน ?
ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปโดยทันที
หวังเซียงเองก็ได้สะกิดเขาด้วยข้อศอกพร้อมกับพูดว่า
“พี่ใหญ่ ผมรับประกันได้เลยว่าหากเราไปอยู่กับเขาคนนั้น พวกเราจะต้องมีอยู่มีกินอย่างแน่นอนเพราะผมรู้จักเขวียนหน้าบากดี เขาเป็นคนที่โหดร้านทารุณแต่กลับติดตามเขาคนนั้น ผมคิดว่าพี่น่าจะลองดูนะ”
“หุบปากซะ !”
หวังหมิงเองก็ได้ตะโกนออกมาด้วยเสียงโทนต่ำ
หวังเซียงได้พูดออกมาอย่างตัดพ้อว่า
“พี่ใหญ่ พี่ก็เห็นนิว่าเรายากจนแค่ไหน ทั้งตัวก็สกปรกพร้อมกับเงินเดือนที่น้อยนิด พี่อย่าบอกนะว่าพี่ไม่คิดถึงอนาคตเลย ? พี่ดูสิว่าผมนั้นยังหนุ่มยังแน่นแต่ก็ไม่มีอะไรแม้แต่น้อย แต่พี่ก็อายุ30แล้ว ภรรยาสักคนก็ยังไม่มี อย่าบอกนะว่าพี่จะให้ผมเป็นแบบพี่ ?”
“นี่…….”
หวังหมิงเริ่มเกิดความลังเล
น้องชายของเขาพูดถูกต้องแต่เขาไม่รู้ถึงภูมิหลังของเด็กคนนั้นแม้แต่น้อย ด้วยคำเชื้อเชิญ ด้วยสัญญา ด้วยความแข็งแกร่งของถังซิ่ว เขาจะต้องไปติดตาม ?
“พี่ใหญ่ หากว่าพี่ไม่ยอมตอบตกลง ผมจะไปที่หลุมศพของพ่อแม่และฟ้องพวกเขา”
หลังเซียงได้มองไปที่หวังหมิงด้วยความโกรธ
หวังหมิงเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ฉันขอเวลาหน่อย พี่จะไปที่เมืองสตาร์ซิตี้หลังจากที่พี่ได้คำตอบแล้ว แม้ว่าพี่จะต้องทำงานกับเขาแต่เราจะต้องสืบสวนเรื่องของเขาก่อน”
“ดี ผมจะไปกับพี่ !”
หวังเซียงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากขณะที่พูดออกมาอย่างไม่ลังเล
หลังหมิงเองก็มองไปที่เขาก่อนที่จะส่ายศีรษะแล้วพูดว่า
“นายไปที่นั่นไม่ได้ ฉันจะไปที่นั่นกับเพื่อนของฉัน นายจะต้องอยู่ที่เมืองนี้และทำตัวดีๆไม่เช่นนั้นหากว่าฉันได้ติดตามบอสที่ร่ำรวยแล้วฉันจะไม่มีทางพานายไปด้วยอย่างแน่นอน”
“พี่……………..”