ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 176
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 178

Returning From The Immortal World - 177


.......................................................................................................................................................................................

ถังซิ่วในตอนนี้นั้นไม่ได้สนใจอะไรเลยแม้แต่น้อยเพราะเขาหวังเพียงเรื่องเดียวว่าจะต้องแย่งเอาหินนภามาจากเจ้ากิเลนนั่นให้ได้ มันคงจะพอสำหรับเขาในระยะยาวเลยทีเดียว เรื่องที่สองคือการทำเงิน ตอนนี้เขาก็ได้มีหนี้เพิ่มขึ้นอีก200ล้านแล้ว เขาตั้งใจว่าจะต้องหาเงินมาให้ได้

“ฉันได้รับเงินของนายมาแล้ว ถามหน่อยสิว่าพวกนายรวยไหม ?”

ถังซิ่วได้มองไปที่พวกเขาทั้งสองด้วยรอยยิ้มอีกครั้งเพราะเขายังมีเทคนิคที่ดีกว่าการจับสัตว์นั่นหลายเท่า เขาตัดสินใจแล้วว่าจะขายมันหากเซ่าหมิงเจิ้งและเหมี่ยวเหวินถังเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพื่อเอาไปใช้หนี้

เหมี่ยวเหวินถังถามออกมาด้วยความสับสนว่า

“ก็พอมีอยู่บ้าง ตอนนี้นายขาดเงินมากเลยงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“มากๆเลยล่ะ”

เหมี่ยวเหวินถังได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“หากต้องการเงินก็สามารถเอาของพวกเราไปได้ก่อนเลย”

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดออกมาว่า

“หากว่าพวกนายมีเงินเหลือเยอะฉันเองก็ตั้งใจที่จะทำการแลกเปลี่ยนกับพวกนายอีกครั้งแต่สิ่งที่ฉันสงสัยคือนายมีเงินพอหรือเปล่า”

เหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเจิ้งได้มองไปที่กันและกันก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“1.5พันล้านมันไม่เป็นปัญหาสำหรับฉัน”

“พันล้าน”

ถังซิ่วได้แสดงออกถึงความรู้สึกมีความสุขขณะที่เขาพูดออกมาว่า

“ฉันต้องการจะขายเทคนิคการบ่มเพาะพลังของนิรันด์ให้แก่พวกนายในราคา2.5พันล้าน เป็นไง ?”

เทคนิคการบ่มเพาะพลังของนิรันด์?

เหมี่ยวเหวินถังได้แสดงใบหน้าที่ลำบากใจพร้อมพูดออกมาว่า

“เพื่อนถัง หากว่าเป็นอย่างอื่นนั้นพวกเรายินดีที่จะรับมันอย่างแน่นอน อย่างเช่นวิธีจับสัตว์ก่อนหน้านี้ พวกเรานั้นเป็นผู้บ่มเพาะพลังแห่งเซียนและต่างคนก็มีเทคนิคเป็นของตัวเองแล้ว ต่อให้นายขายให้กับเราก็ไม่มีทางที่พวกเราจะนำมาฝึกได้จริงไหม ?”

เซ่างหมิงเจิ้งเองก็ได้พยักหน้าพร้อมพูดว่า

“การจะบ่มเพาะด้วยสองเทคนิคควบคู่กันไปนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และความสามารถของพวกเรานั้นก็มีจำกัดเช่นกัน”

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมพูดออกมาว่า

“พวกนายฟังฉันให้ดีๆ ฉันไม่ได้พูดว่าเทคนิคบ่มเพาะแห่งเซียนแต่เป็นเทคนิคบ่มเพาะแห่งนิรันด์”

เหมี่ยวเหวินถังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า

“เพื่อนถัง นายพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน ? ในโลกนี้มันจะไปมีเทคนิคแบบนั้นได้อย่างไรกัน ?”

ถังซิ่วได้โบกมือเรียกพนักงานเพื่อขอกระดาษและปากกาก่อนที่จะบรรจงเขียนเทคนิคง่ายๆลงไปบนกระดาษเหล่านั้นพร้อมกับส่งมันไปให้เหมี่ยวเหวินถังแล้วพูดต่อว่า

“นายลองดูเทคนิคนี่แล้วกัน หากพวกนายคิดว่ามันไม่คุ้มกับเงิน2.5พันล้านแล้วฉันเองก็หมดคำพูดจริงๆ”

ตอนนี้เหมี่ยวเหวินถังเองนั้นก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก่อนที่เขาและเซ่าหมิงเจิ้งจะตั้งใจมองไปที่เทคนิคเหล่านั้น

หลังจากผ่านไป30วินาที

พวกเขาเริ่มรู้สึกประหลาดใจ

หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที

ท่าทางของพวกเขาเริ่มกระสับกระส่าย

หลังจากผ่านไปสองนาที

พวกเขายืนขึ้นขณะที่สั่นไปทั้งตัวพร้อมกับจ้องไปที่เทคนิคตรงหน้าอย่างไม่ลดละ

หลังจากผ่านไปห้านาที

พวกเขาได้หันไปมองที่ถังซิ่วด้วยความยากลำบากและไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เป็นเวลานาน

“นาย ..... นายต้องการจะขายเทคนิคนี้ให้พวกเราในราคา2.5พันล้านแน่งั้นหรอ ?”

สุดท้ายเสียงสั่นเทาของเหมี่ยวเหวินถังก็ได้ดังขึ้น

“ใช่ !”

ถังซิ่วพยักหน้าอย่างสงบ

เหมี่ยวเหวินถังได้ทุบโต๊ะพร้อมกับโห่ร้องออกมาอย่างดังว่า

“ซื้อ ซื้อ 2.5พันล้าน พวกเราจะซื้อมันอย่างแน่นอน พวกเราจะโอนเงินไปให้นายภายใม่กี่วัน”

เซ่าหมิงเจิ้งเองก็โห่ร้องออกมาเช่นกัน

“ไม่จำเป็นต้องใช้หลายวัน ฉันจะโทรไปหาผู้จัดการให้โอนเงินไปให้นายทันที !”

เขวียนหน้าบากที่ได้ยินเสียงดังจากเหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเจิ้งนั้นก็ได้ตกใจในทันที

ชายที่กำลังนั่งดื่มอยู่กับเขานั้นก็ได้พูดขึ้นว่า

“โต๊ะข้างๆนี้มันพูดเรื่องอะไรกัน แกทำให้ฉันตกใจจนเหล้าหกหมดแล้ว”

ชายอีกคนหนึ่งก็ได้ตะโกนขึ้นว่า

“อย่ามาพูดไร้สาระเลยหน่า โอ้อวด2.5พันล้านอะไรกัน ? มีเงินเยอะขนาดนั้นแล้วจะมาที่นี่ทำไม ? รวยล้นฟ้าขนาดนั้นแต่กลับมานั่งที่ร้านแบบนี้ ?”

เขวียนหน้าบากเองก็ได้มองไปที่เซ่าหมิงเจิ้งและเหมี่ยวเหวินถังด้วยความโกรธแต่หลังจากที่เขาได้กวาดสายตาไปที่คนถัดไปและเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของถังซิ่วนั้นนัยน์ตาของเขาก็หดเล็กลงทันที

ในพริบตานั้น ! เขวียนหน้าบากได้กระโดดออกจากเก้าอี้พร้อมกับปรบมือเสียงดังและสาปแช่งออกมาว่า

“พวกแกพูดบ้าอะไรกันอยู่น่ะห๊ะ พวกแกดื่มมากเกินไปแล้ว ? พวกเขาจะพูดอะไรนั้นเป็นเรื่องที่พวกนายจะยุ่ง ?”

ชายทั้งสองนั้นตกใจเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่เข้าใจว่าเขวียนหน้าบากกำลังทำอะไรอยู่กันแน่

เขวียนหน้าบากไม่ได้สนใจท่าทางงงงวยของพวกเขาแม้แต่น้อยก่อนที่จะรีบวิ่งไปที่เจ้าของร้านนี้แล้วซื้อเหล้าที่ดีที่สุดมาสองขวดแล้วเดินมาที่ถังซิ่วด้วยรอยยิ้มพร้อมพูดว่า

“ขอโทษที่เพื่อนของฉันนั้นสร้างปัญหา นี่ถือเป็นการชดใช้สำหรับการล่วงเกินของพวกเขา พวกคุณนั้นเป็นผู้สูงส่งอย่าลดตัวลงมาอยู่ในระดับเดียวกับเราเลย”

พี่น้องของเขวียนหน้าบากนั้นถึงกับหวาดผวาในทันทีที่เห็นการแสดงออกของเขาก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“พี่เขวียน นายเปลี่ยนเป็นคนใหม่เร็วเกินไปแล้ว ? ก่อนหน้านี้นายเป็นคนที่บ้าบิ่นเป็นอย่างมาก ตอนนี้กลับกลายเป็นแบบนี้ไปซะแล้ว ? ขอโทษพวกเขา ? มันต้องเป็นพวกเขาสิที่ต้องมาขอโทษเรา”

“นายหุบปากเดี๋ยวนี้ !”

เขวียนหน้าบากได้ตะโกนออกมาอย่างดัง

เหมี่ยเหวินถังและเซ่าหมิงเจิ้งเองก็งงกับการกระทำของเขาเพราะพวกเขาเป็นฝ่ายผิดที่ส่งเสียงดังเมื่อครู่นี้แต่ทำไมถึงได้รับคำขอโทษ ? มันจะต้องมีเรื่องอะไรซ่อนอยู่อย่างแน่นอน

ถังซิ่วพูดออกมาเบาๆว่า

“ช่างมันเถอะ อย่างไรก็ตามฉันรู้สึกพึงพอใจกับการเปลี่ยนแปลงของนายมาก”

ท่าทางของเขวียนหน้าบากเองก็เปลี่ยนไปเป็นมีความสุขอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมพูดว่า

“ขอบคุณความใจกว้างของพี่ชาย พี่น้องของฉันนั้นเป็นคนแบบนี้แหละ ฉันจะให้พวกเขามาชนแก้วดีไหม ?”

ขณะที่ปากเขาพูดออกมาอย่างงั้นแต่ใจของเขาต้องการที่จะออกจากที่นี้ให้เร็วที่สุดเพราะเขาได้เคยสัมผัสกับความป่าเถื่อนของถังซิ่วมาก่อนแล้ว

ถังซิ่วส่ายหน้าขณะที่พูดว่า

“ไม่จำเป็นหรอก จริงๆแล้วฉันเองก็ยังมีเรื่องที่ต้องพูดกับนาย หลังจากที่พวกเขากลับไปแล้วก็มาหาฉันซะ”

“อะไรนะ ?”

เขวียนหน้าบากเองนั้นหวาดผวาโดยทันที เขาพยายามบีบเอาใบหน้าที่ยิ้มแย้มออกมาจากท่าทางที่น่าเกลียดของเขาเพราะเขาอยากจะหนีไปแต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของถังซิ่วและทำได้เพียงแค่พยักหน้ายอมรับมันเท่านั้น

หลังจากที่เขวียนหน้าบากได้เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของเขาแล้วนั้น พี่น้องของเขาก็ได้ถามออกมาทันทีว่า

“พี่ชายเขวียน เด็กนั่นเป็นใครกัน ? เวลาที่พี่มองเขานั้นยังกับว่าพี่เห็นผีอย่างงั้นแหละ ? ทำไมต้องรู้สึกหวาดผวาอย่างงั้นด้วย ?”

เขวียนหน้าบากได้พยายามกลืนน้ำลายของเขากลับลงไปก่อนที่จะเหลือบมองไปที่ถังซิ่วและเห็นว่าเขาไม่ได้มองมาทางนี้พร้อมพูดออกมาว่า

“ฉันจะบอกอะไรพวกนายให้อย่างหนึ่ง เห็นแขนนี่ไหม !! ท่านผู้นั้นเป็นคนหักมันเองและเห็นลูกน้องของฉันที่นอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ไหม !! ท่านผู้นั้นก็เป็นคนมอบให้ ยิ่งไปกว่านั้นคือฉันได้เอาปืนจ่อไปที่เขาแต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะเขาได้ พวกนายคิดว่าจะสามารถเป็นคู่มือให้เขาได้ไหมล่ะ ?”

“เฮือกกกก”

ชายคนนั้นได้มีท่าทีเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

พวกเขาได้ฟังการอธิบายของเขวียนหน้าบากแล้วก็พบว่าจะได้มาเจอกับปีศาจตัวนั้นในที่แห่งนี้ ชายที่เป็นคนตะโกนก่อนหน้านี้ก็ได้มีเม็ดเหงื่อปรากฏขึ้นเต็มหน้าผากของเขา

“ฉันเคยเห็นเพื่อนของเขามาก่อน พวกเขาพักอยู่ที่โรงแรมในเมืองนี้และยิ่งไปกว่านั้นคือพวกเขามีผู้คุ้มกันอยู่มากมาย อย่างไรก็ตาม......”

ชายคนนั้นต้องการพวกอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดดีไหม

เขวียนหน้าบากได้ถามออกมาอย่างสับสนว่า

“อะไร ?”

ชายคนนั้นก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ฉันไม่รู้ว่าพวกเขานั้นมีเบื้องหลังยังไงแต่จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน พวกผู้คุ้มกันของเขานั้นได้เข้าไปยังภูเขาแต่ต้องกลับออกมาด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสหรือล้มตายเพราะภรรยาของฉันเป็นพนักงานต้อนรับอยู่ที่โรงแรม เธอได้เห็นศพของคนมากมายที่ถูกหามขึ้นรถไปส่วนคนที่บาดเจ็บก็ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงแรมแห่งนั้น”

“มันพิลึกเกินไป ?”

เขวียนหน้าบากและคนอื่นๆเองก็รู้สึกช๊อคขณะที่ได้ยินเรื่องเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ! สิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขามีความสุขนั้นคือการที่ยังไม่ได้ไปล่วงเกินถังซิ่ว

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง

ถังซิ่วมองไปที่เหมี่ยวเหวินถังพร้อมกับเขวียนหน้าบากที่กำลังนั่งรอเขาอยู่แล้วพูดขึ้นว่า

“พวกนายกลับไปก่อน ! ฉันมีเรื่องส่วนตัวที่ต้องจัดการ”

“ได้ !”

เหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเจิ้งได้ตกลงพร้อมกับเดินกลับไปทางโรงแรม พวกเขาไม่กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของถังซิ่วเพราะเขานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

ในร้านอาหารกลางแจ้ง

ถังซิ่วได้โบกมือเป็นนัยๆให้เขวียนหน้าบากมานั่งพร้อมพูดออกมาว่า

“นั่งสิ !”

เขวียนหน้าบากเองก็ยิ้มออกมาขณะที่ถามว่า

“พี่ชาย นายต้องการให้ฉันอยู่เพราะมีเรื่องอะไรอย่างงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“การเปลี่ยนแปลงของนายเป็นอะไรที่ฉันรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก มันแสดงให้เห็นว่านายเชื่อฟังคำสั่งสอนของฉันและฉันเตรียมที่จะให้โอกาสนาย”

เขวียนหน้าบากตอบกลับด้วยความสับสนว่า

“โอกาส ? โอกาสอะไรอย่างงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“ฉันได้ยินมาว่านายกำลังจะบ่มไวน์ แถมนายมีความสามารถมากด้วย ?”

เขวียนหน้าบากได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ฉันได้รับการสืบทอดวิธีบ่มไวน์มาจากพ่อก่อนที่จะอายุ25 และหลังจากที่เขาตายฉันก็ได้ละทิ้งมันพร้อมกับหมกตัวอยู่กับอันธพาลเหล่านั้น หลังจากผ่านไปสักพักจึงได้ขึ้นเป็นหัวหน้าของพวกเขา ฉันก็ยังคงเป็นคนไม่เอาไหนและต้องสร้างปัญหามากมายในอนาคตอย่างแน่นอนถ้าหากว่าไม่ได้รับคำชี้แนะจากนาย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด