ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 148
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 150

Returning From The Immortal World - 149


.......................................................................................................................................................................................

ซูชางเหวินมองไปที่พยาบาลคนนั้นก่อนที่จะขู่ว่า

“หากว่าเธอขอโทษพวกเราในตอนนี้แล้วไสหัวไปอย่างเชื่อฟังฉันก็จะถือซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอรอให้รองผู้อำนวยการเพื่อนของฉันมาก่อนเถอะแล้วเธอจะต้องชดใช้ไม่น้อยเลยล่ะ ยังจะยืนอยู่ทำไมเล่า !! ไสหัวออกไปสิ !!!”

ใช้อำนาจข่มเหง ?

หลังจากที่เธอเห็นซูชางเหวินโทรไปหารองผู้อำนวยการนั้นเธอก็โกรธเป็นอย่างมากแต่เธอไม่เชื่อว่ารองผู้อำนวยการจะน่ากลัวกว่าผู้อำนวยการแน่นอน ดังนั้นเธอจึงรีบวิ่งออกไปพร้อมตะโกนอย่างดังว่า

“หัวหน้าแผนกค่ะ หัวหน้าแผนก อยู่ไหม ? มีคนกำลังสร้างปัญหาค่ะ !!!”

ห้องของหัวหน้าแผนกนั้นได้ได้อยู่ห่างออกไปสามห้องจากห้องของซูหลิงหยุนเท่านั้นเมื่อได้ยินเสียงของนางพยาบาลคนนั้น ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปทันทีพร้อมรีบพุ่งออกมาจากห้องของเขาทันที

ต้องรู้!

ว่าที่นี่คือแผนกวีไอพีและแต่ละคนที่สามารถพักที่นี่ได้ได้นั้นเป็นตัวตนที่อยู่เหนือเขามากและหากว่าที่นี่เกิดเรื่องขึ้น เขาจะต้องไม่สามารถมีชีวิตต่อไปได้แน่นอน

“มีเรื่องอะไรงั้นหรอ ?”

หลังจากที่เขาเห็นนางพยาบาลคนนั้น ท่าทางของเชาก็เปลี่ยนไปหนักกว่าเดิมเพราะเธอเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบซูหลิงหยุน

นางพยาบาลคนนั้นรีบพูดออกมาทันทีว่า

“หัวหน้า มีคนบางคนได้มาสร้างปัญหาให้แก่ผู้ป่วยและฉันได้บอกให้พวกเขาออกไปแต่พวกเขากลับข่มขู่ฉันและบอกว่าจะให้รองผู้อำนวยการหลุยมาจัดการกับฉัน คุณต้องจัดการพวกเขานะ !! พวกเขาได้รังแกฉันและคนไข้……..”

หัวหน้าแผนกได้เปลี่ยนเป็นโมโหทันทีเพราะแม้ว่าคนที่มีสร้างปัญหานั้นจะเป็นคนรู้จักของรองผู้อำนวยการแต่เขาก็ไม่ได้กลัวแม้แต่น้อยเพราะว่าใครกันหละที่ปกป้องซูหลิงหยุน ? ผู้อำนวยการ !!! ในโรงพยาบาลนี้ใครมีอำนาจมากที่สุด ? แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเป็นผู้อำนวยการ

แต่อย่างไรก็ตาม !

เขาเองก็มีสมองและไม่ต้องการที่จะล่วงเกินรองผู้อำนวยการง่ายๆดังนั้นเขาจึงรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมกับโทรหาผู้อำนวยการทันที

“ใครกัน ?”

เสียงของหลี่ฮงจี้ได้ถูกส่งผ่านออกมาทางโทรศัพท์

หัวหน้าแผนกรีบพูดออกมาทันทีว่า

“ท่านผู้อำนวยการ ผมเสี่ยวหวาง หัวหน้าแผนกผู้ป่วยภายใน อ๊า! ผมมีเรื่องที่สำคัญจะรายงานและต้องขอความคิดเห็นจากท่าน”

หลี่ฮงจี้รีบพูดออกมาทันทีว่า

“มีเรื่องอะไรงั้นหรอ ?”

หัวหน้าแผนกได้รีบพูดอย่างรวดเร็วว่า

“ท่านผู้อำนวยการ ก่อนหน้านี้ผมได้รับรายงานว่ามีคนบางคนได้เข้ามาสร้างปัญหาในห้องผู้ป่วยวีไอพีและมากไปกว่านั้นคือเขาของก็มีเบื้องหลังอยู่บ้างและป่าวประกาศว่ารู้จักกับรองผู้อำนวยการและต้องการจะไล่นางพยาบาลคนนั้นออกไป ท่านลองดูสิ ........”

หลีฮ่งจี้โกรธเป็นอย่างมากพร้อมพูดออกมาว่า

“ต่อให้เป็นเทพองค์ไหนก็ตามแต่ถ้ามาสร้างปัญหาในโรงพยาบาลก็จะต้องถูกเตะออกไป นายเรียกหน่วยรักษาความปลอดภัยหรือยัง ? บอกให้พวกเขารีบๆโยนพวกเขาออกไปซะ!!”

“รับทราบ”

หัวหน้าแผนกผู้ป่วยภายในมีความสุขเป็นอย่างมากพร้อมกับพูดต่อว่า

“ท่านผู้อำนวยการ ผมคิดว่าท่านน่าจะจัดการกับรองผู้อำนวยการหลุยเช่นกัน!”

“ฉันจะโทรหาเขาเอง!”

หลี่ฮงจี้พูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ

หัวหน้าแผนกรีบพูดต่อว่า

“งั้นผมก็ต้องขอรบกวนท่านผู้อำนวยการด้วยนะครับ อ่อใช่ครับ คนที่มาสร้างปัญหานั้นได้ก่อเรื่องขึ้นในห้องของซูหลิงหยุน”

“อื้ม ฉันเข้าใจแล้ว !”

หลี่ฮงจี้รีบวางสายทันทีก่อนที่จะโทรออกไปหารองผู้อำนวยการหลุยแต่ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปทันทีเพราะใบหน้าหนึ่งได้ปรากฏขึ้นมาในจิตใจของเขาอย่างกะทันหัน

ซูหลิงหยุน?

นั่นไม่ใช่แม่ของถังซิ่ว ?

หลี่ฮงจี้รีบยืนขึ้นทั้งๆที่ยังไม่ได้โทรศัพท์ด้วยซ้ำพร้อมรีบวิ่งออกไปจากห้องของเขาทันที

ในห้องของผู้ป่วยวีไอพีนั้น ซูชางเหวินกำลังมองไปที่หัวหน้าแผนกขณะที่คิ้วของเขาได้ขมวดเข้าหากันแต่เขาก็ยังไม่ได้แสดงความอ่อนแอออกมาแม้แต่น้อยเพราะเพื่อนของเขาที่เป็นรองผู้อำนวยการนั้นคอยหนุนหลังเขาอยู่พร้อมกับมองไปที่หัวหน้าแผนกแล้วพูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า

“เห็นว่านายนั้นสวมเสื้อโคชสีขาวและนั่นก็หมายความว่านายคงเป็นหัวหน้าของแผนกนี้สินะ ? โรงพยาบาลของนายนี่มันยังไงกัน ? ใช่อำนาจแม้กระทั่งนางพยาบาล ? ฉันต้องการมาเยี่ยมน้องสาวของฉันไม่ได้ ?”

“ท่านได้โปรดระวังคำพูดของตัวเองด้วย”

ท่าทางของหัวหน้าแผนกได้เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันทีก่อนที่เขาจะหันไปมองที่นางพยาบาลคนนั้น

นางพยาบาลคนนั้นรีบพูดออกมาว่า

“หัวหน้าค่ะ คนพวกนี้นั้นทำเกินไปแล้ว พวกเขาไม่ได้มาแค่สร้างความอับอายให้แก่คุณซูเท่านั้นแต่ยังต้องการยึดร้านอาหารของเธอด้วยและฉันคิดว่าเธอนั่นต้องการจะพักผ่อนจึงได้ให้พวกเขากลับไปแต่พวกเขากลับดุด่าฉันละขู่ฉันด้วย คุณดูสิว่าคุณซูกำลังร้องไห้เพราะพวกเขา”

หัวหน้าแผนกได้มองไปที่ซูหลิงหยุนด้วยความรู้สึกสงสารที่มีพี่ชายแบบนี้

“คุณทั้งสองด้วยเหตุที่ว่านี่เป็นแผนกวีไอพีและผู้ป่วยไม่ต้องรับพวกคุณทั้งสอง ดังนั้นโปรดกลับไปแต่โดยดีและยิ่งไปกว่านั้นผู้ป่วยของเรานั้นมีอำนาจมากกว่ารองผู้อำนวยการหลุยด้วย”

ซูชางเหวินพูดพลางเยาะเย้ยว่า

“หากว่าฉันจำไม่ผิดนั้น รองผู้อำนวยการต้องเป็นคนดูแลโรงพยาบาลแห่งนี้และเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุด ? นายไม่มีคุณสมบัติพอที่จะไล่ฉันออกไปจากที่นี่และหากว่านายอยากจะพูดอะไรอีกละก็ นายก็รอจนกว่ารองผู้อำนวยการจะมาถึงที่นี่แล้วกัน !!”

หัวหน้าแผนกรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า

“ขอโทษด้วยที่ต้องทำให้คุณผิดหวังเพราะว่ารองผู้อำนวยการนั้นเป็นคนที่ยุ่งมากและคงไม่สามารถมาที่นี่ได้”

คิ้วของซูชางเหวินขมวดเข้าหากันทันทีพร้อมพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า

“อย่าเหิมเกริมให้มันมาก เขาจะมาที่นี่ได้ไหมนั้นไม่ใช่เรื่องที่นายจะตัดสิน ฉันได้โทรไปหาเขาแล้วเมื่อกี้และได้รับการยืนยันว่าเขากำลังรีบมาที่นี่ ฉันล่ะอยากจะรู้จริงๆว่าเมื่อเขามาที่นี่แล้วนายยังจะกล้าพูดคำก่อนหน้านี้อยู่ไหม”

หัวหน้าแผนกไม่ได้สนใจในคำพูดของซูชางเหวินอีกต่อไปพร้อมกับเดินไปทข้างเตียงของซูหลิงหยุนด้วยรอยยิ้มและถามออกมาด้วยความเป็นห่วงว่า

“คุณซู ตอนนี่คุณนั้นกำลังได้รับบาดเจ็บอยู่และกำลังเศร้า ต่อให้คุณถังไม่สะดวกที่จะมาที่นี่แต่เราก็จะไม่นั่งดูเรื่องนี่อยู่เฉยๆแน่นอน”

ซูหลิงหยุนได้หยุดร้องไห้พร้อมพยักหน้าอย่างเงียบๆ

คุณถัง ?

สองสามีภรรยาได้มองหน้ากันด้วยความสับสน คนที่หัวหน้าแผนกพูดถึงนั้นคือใครนะ ? อย่าบอกนะว่าถังซิ่ว ? นี่มันเรื่องจริง ? ถังซิ่วนั่นก็เป็นเพียงแค่เด็กมัธยมเท่านั้นและต่อให้มันจะพอมีความสัมพันธ์นิดหน่อยกับนายใหญ่ของหลงกรุ๊ปและนายใหญ่ของบริษัทร้อยคุณธรรมก็ตามแต่มันก็คงไม่สามารถทำอะไรได้อย่างแน่นอน

ซางเหม่ยหยุนรีบถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“คุณถังที่หัวหน้าแผนกพูดถึงเมื่อกี้คือไอเด็กเปรตถังซิ่วงั้นหรอ ?”

ซูหลิงหยุนที่อยู่บนเตียงนั้นได้คำรามออกมาด้วยความโกรธเหมือนสิงโตว่า

“ฉันไม่อนุญาตให้เธอมาดุด่าลูกของฉันนะ !!! เธออกไปเดี๋ยวนี้ !! ออกไป !!!!”

ซางเหม่ยหยุนหัวเราะออกมาพร้อมพูดว่า

“ฉันจะด่าลูกชายระยำของเธอแล้วมันทำไมกัน ? ไอเด็กกำพร้าพ่อนั่นเธอไม่รู้หรอว่าสมองมันต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน”

“ใครกันที่กล้ามาสร้างปัญหาที่นี่ ?”

เสียงได้ดังออกมาจากหน้าประตูพร้อมกับหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยเฉินเต่าที่เดินมาพร้อมกับลูกน้องอีกหลายคน

หัวหน้าแผนกได้มองไปที่คู่สามีภรรยาด้วยความเกลียดชังพร้อมพูดออกมาว่า

“เป็นพวกมัน ลากพวกมันออกไปซะและหากว่าพวกมันกล้าขัดขืนก็ทุบตีพวกมันซะ ต่อให้กระดูกมันหักก็ไม่เป็นไร ฉันจะรับผิดชอบเอง”

หลังจากที่ได้ยินคำสั่งนั้น เฉินเต่าได้เหวี่ยงหมัดไปที่หน้าของซูชางเหวินทันทีพร้อมกับดึงคอเสื้อของเขาและลากออกไปนอกห้องเหมือนหมาที่ตายแล้ว

“หยุดเดี๋ยวนี้ !”

รองผู้อำนวยการหลุยได้วิ่งมาพร้อมกับหมอวัยกลางคนสองคนและหลังจากที่ได้เห็นฉากตรงหน้าเขาก็โกรธเป็นอย่างมากพร้อมตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว

เฉินเต่าเองก็จ้องมองอยู่ครู่หนึ่งเพราะเขาเองก็รู้จักรองผู้อำนวยการดีแต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะมาด้วยตัวเอง เขาหันกลับไปมองที่หัวหน้าแผนกพร้อมปล่อยคอเสื้อของซูชางเหวินทันที

รองผู้อำนวยการได้มองอย่างอาฆาตไปที่เฉินเต่าพร้อมหันไปมองซูชางเหวินด้วยรอยยิ้มพลางพูดขอโทษออกมาว่า

“บอสซู ต้องขอโทษด้วยที่หน่วยรักษาความปลอดภัยของเรานั้นไม่ค่อยมีสมองและได้ลงมือกับนายไป เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงไปเลยเพราะฉันจะจัดการชดใช้ให้นายอย่างสมน้ำสมเนื้อแน่นอน”

หัวหน้าแผนกได้เดินออกมานอกห้องพร้อมกับมองไปที่รองผู้อำนวยการด้วยความรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คิดเลยว่ารองผู้อำนวยการจะมาที่นี่ด้วยตัวเองแต่ยังไงก็ตาม เขาก็พูดออกมาด้วยความกล้าหาญว่า

“รองผู้อำนวยการ ผมหวังว่าคุณจะไม่เข้ามายุ่งเรื่องนี้ คู่สามีภรรยานี้ได้เข้ามาสร้างปัญหาในห้องของผู้ป่วยวีไอพีและทำให้ผู้ป่วยอยู่ในสภาวะหวั่นวิตกเป็นอย่างมาก”

รองผู้อำนวยการพูดออกมาด้วยความโกรธว่า

“บอสซูได้โทรมาเล่าให้ฉันฟังก่อนหน้านี้แล้วว่าเขาแค่ต้องการมาเยี่ยมน้องสาวเท่านั้น อย่าบอกนะว่าฉันฟังผิดไปงั้นหรอ ? พยาบาลคนที่ขวางทางและสร้างความลำบากให้พวกเขาอยู่ไหนกัน ? แล้วโรงพยาบาลของเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ?”

หัวหน้าแผนกได้เถียงออกมาว่า

“รองผู้อำนวยการ คุณไม่สามารถฟังความข้างเดียวได้เพราะผมได้เห็นมากับตาว่าพวกเขาสองคนได้สร้างความอับอายให้แก่ผู้ป่วยและยัง.................”

รองผู้อำนวยการตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า

“นายไม่ต้องมาสอนอะไรฉัน ผู้ป่วยและพวกเขานั้นมีเรื่องภายในครอบครัวของตัวเอง โรงพยาบาลของเรานั้นควรเข้าไปยุ่ง ? นายมีคุณสมบัติอะไรที่จะมาสั่งสอนฉัน ? นายคิดว่านายกำลังพูดอยู่กับใครกัน !”

เขาได้โกรธเป็นอย่างมาก

เขานั้นเป็นถึงรองผู้อำนวยการและหากว่าไม่มีอะไรผิดพลาดนั้นเขาจะต้องได้ขึ้นเป็นผู้อำนวยการอย่างแน่นอนและตอนนี้กลับมีคนที่กล้าท้าทายอำนาจของเขา นั่นมันทำให้เขารู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมากและต้องการที่จะเชือดไก่ให้ลิงดูเพื่อเพิ่มความน่าเกรงขามของภาพลักษณ์ของเขา

“หัวหน้าหวาง ฉันคิดว่าคุณได้ดำรงตำแหน่งนี้มานานเกินไปแล้วและฉันคิดว่าถึงเวลาที่นายควรจะเปลี่ยนได้แล้ว ฉันจะเป็นคนรายงานเรื่องนี้ไปให้ท่านผู้อำนวยการเองและหวังว่านายคงจะเตรียมตัวเตรียมใจไว้นะ”

รองผู้อำนวยการได้พูดออกมาด้วยท่าทางเยาะเย้ย

หัวหน้าแผนกได้เงียบไปครู่หนึ่งพร้อมพูดออกมาว่า

“ไม่จำเป็นต้องให้คุณลำบากไปรายงานหรอกเพราะผมได้รายงานให้ท่านผู้อำนวยการฟังเรียบร้อยแล้ว”

“นี่มันเยี่ยมไปเลย!!!!!”

ขณะที่คำพูดของหัวหน้าแผนกได้จบลงนั้นได้มีเสียงที่น่าสะพรึงดังออกมาจากทางเดินพร้อมกับหัวหน้าระดับสูงของโรงพยาบาลสี่คนได้เดินมาพร้อมกับหลี่ฮงจี้ที่เป็นคนพูดและยังคงพูดต่อว่า

“รองผู้อำนวยการหลุย ตอนนี้นายยังไม่ได้เป็นผู้อำนวยการแล้วนายคิดว่านายจะไปเอาอำนาจนั้นมาจากไหน? นายคิดว่านายอยากจะไล่หัวหน้าแผนกก็ไล่ได้ ? รอให้ถึงวันที่นายได้นั่งในตำแหน่งของฉันก่อนนายถึงจะมีคุณสมบัติพอที่จะพูดคำนั้นได้ หัวหน้าแผนกได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังหมดแล้วและไม่ว่าจะเป็นนาย,ฉันหรือต่อให้เป็นคนอื่นๆก็ตามแต่คนที่มีอำนาจมากที่สุดในที่นี้คือผู้ป่วยของเรา”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด