Returning From The Immortal World - 134
.......................................................................................................................................................................................
ถังซิ่วขัดจังหวะคำพูดของเธอทันทีว่า
"ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าลูกค้าคือพระเจ้าไม่ใช่หรอและนี่คือสิงที่ฉันต้องการ ฉันหวังว่าคุณจะทำตามคำร้องของฉันได้แต่หากว่าศิษย์ของฉันไม่สามารถตามการเรียนการสอนได้ทันแล้วละก็ ถึงตอนนั้นเราค่อยมาคิดกันอีกทีว่าจะจัดการยังไง ส่วนเรื่องราคาก็ว่ามาได้เลย "
หลี่หลี่ปิงลังเลใจ เธอรู้สึกว่าถังซิ่วนั้นจริงจังเป็นอย่างมาก แต่เธอไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมชายหนุ่มคนนี้ถึงได้มั่นใจขนาดนี้
มันไม่ถูกต้อง!
เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไร?
ลูกศิษย์?!
หรือว่าที่จะจ้างไปสอนก็คือสอนให้ลูกศิษย์ของเขา?
ช่างเป็นคนที่แปลกจริงๆ !
เธอได้ตำหนิเขาอยู่ในจิตใจแต่ก็พยักหน้าแล้วพูดออกมาว่า
"ฉันเข้าใจความหมายของคุณ โปรดรอสักครู่และฉันจะพูดคุยเกี่ยวกับคำขอของคุณกับครูของเราในทันที เมื่อเราจัดตารางเสร็จแล้วเราจะให้คุณดูมันทันที! "
ถังซิ่วตอบกลับมาว่า
"ฉันต้องการให้ครูที่ดีที่สุดของคุณมาสอน หากว่าเอาคนที่ไม่เอาไหนมานั่นก็เท่ากับว่าคุณกำลังทำลายชื่อเสียงของโรงเรียนตัวเอง! "
"คุณ…"
หลังจากได้ยินคำพูดของถังซิ่วแล้ว หลีหลีปิงเกือบจะคิดว่าถังซิ่วมาที่นี่เพื่อก่อกวน เธอสูดหายใจเข้าและพูดว่า
"ไม่ต้องเป็นห่วง ครูของเรามีคุณสมบัติที่โดดเด่นและฉันจะเลือกคนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ "
หลังจากที่พูดเสร็จแล้วเธอก็หันกลับไปและเข้าไปข้างใน!
สายตาของถังซิ่วได้มองเธอทที่กำลังเดินจากไปแล้วหันมามองที่พนักงานที่กำลังเสิร์ฟชามาให้ เขาพยักหน้าให้เธอครั้งหนึ่งแล้วจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาคังเซี่ยนทันที
"บอส มีเรื่องอะไรงั้นหรอ?"
เสียงของคังเซี่ยนที่กำลังดูยุ่งๆได้ดังออกมาจากโทรศัพท์ เห็นได้ชัดว่าคังเซี่ยนกำลังอยู่ในที่ที่มีเสียงดังมาก
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
"ฉันมีเรื่องที่จะพูดคุยกับเธอ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนแล้ว?"
คังเซี่ยนตอบว่า
"ฉันอยู่ที่งานแฟร์! การจัดตั้งบริษัทของเรานั้นจำเป็นต้องมีบุคลากรเป็นจำนวนมาก ฉันได้นำคนมาจากเมืองหลวงแค่สามคนเท่านั้นและมันไม่ใกล้กับคำว่าพอเลยด้วยซ้ำ อา, บอกฉันมาว่าคุณอยู่ที่ไหนแล้วฉันจะไปเจอคุณ "
ถังซิ่วลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า
"ไม่เป็นไร! ตอนนี้ฉันดูแลเรื่องเล็กๆน้อยๆอยู่หากเสร็จแล้วฉันจะไปหาเธอเอง ฝากจัดการเรื่องงานแฟร์ด้วยแล้วกัน อา, ใช่ ส่งที่อยู่มาให้ฉันด้วย "
"ตกลง!"
คังเซี่ยนตอบด้วยรอยยิ้ม
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
หลี่หลี่ปิงได้นำชายและหญิงวัยกลางคนมาทั้งหมดสามคนพร้อมส่งแบบแผนการสอนให้กับถังซิ่วพร้อมกับพูดว่า
"นี่คือแผนการสอนที่เราจัดเตรียมความต้องการของคุณ แต่เราจำเป็นต้องอธิบายล่วงหน้าว่าคำขอของคุณแน่นและเวลาสั้นเกินไปมาก หลักสูตรรายวันมีเนื้อหากว้างมากดังนั้นฉันหวังว่าคุณจะเตรียมใจไว้แล้ว "
ถังซิ่วอ่านมันขณะที่เขาพยักหน้าและพูดว่า
"ฉันไม่เก่งเรื่องการสอนซักเท่าไหร่ คุณคิดว่าอันไหนดีก็เลือกอันนั้นเลย เราจะยึดตามแผนการสอนนี้ก่อนแล้วหลังจากนั้นค่อยๆปรับเปลี่ยนมันตามความเหมาะสมส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายหละ ? ฉันจะจ่ายให้คุณเลยตอนนี้ "
"นี่…"
หลี่หลี่ปิง ลังเลใจ
ลูกค้าที่หายากและยอดเยี่ยมอย่างถังซิ่วนั้นเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบเจอ คำร้องขอของเขาได้อยู่ไกลเกินกว่าเนื้อหาการสอนธรรมดาและมีความแตกต่างกันออกไปอย่างมาก เธอไม่รู้ว่าควรจะคิดราคาสำหรับค่าสอนนี้ยังไง
ถังซิ่วได้ถามต่อด้วยความสับสนว่า
"เป็นอะไรไปงั้นหรอ? คุณยังไม่ได้คิดคำนวณราคาอย่างงั้นหรอ?คุณไม่ใช่เจ้าของที่นี่งั้นหรอ?คุณไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าฉันต้องจ่ายเงินเท่าไหร่? "
หลีหลี่ปิงฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
"คุณถัง คำขอของคุณนั้นฉันเพิ่งจะเคยเจอเป็นครั้งแรกดังนั้นตอนนี้ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าเราควรเรียกเก็บเงินค่าการสอนเท่าไร เราจะให้พวกเขาไปสอนก่อนพรุ่งนี้และหลังจากนั้นก็ค่อยคำนวณราคากันอีกครั้ง! "
ถังซิ่วตอบทันทีว่า
"เยี่ยม เรื่องนี้ก็เอาตามที่คุณว่ามาแล้วกัน"
หลี่หลี่ปิงรีบพูดออกมาทันทีว่า
"อย่างไรก็ตามคุณสามารถจ่ายเงินมัดจำก่อนได้หรือไม่? เมื่อจบหลักสูตรในวันพรุ่งนี้เราจะเสนอราคาของเรา ถ้าคุณพอใจกับมันแล้วเราจะเซ็นสัญญา หากว่าไม่แล้วหลักสูตรของวันพรุ่งนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายและเราจะคืนเงินให้กับคุณโดยไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรแม้แต่เล็กน้อย "
"เท่าไหร่?"
ถังซิ่วได้ถามออกมา
หลี่หลี่ปิงเงียบครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า
"5,000 หยวนได้ไหมค่ะ?"
ถังซิ่วพยักหน้าและเอากระเป๋าสตางค์ออกมาและเตรียมพร้อมที่จะหยิบบัตรออกมาเพื่อรูดแต่เขาก็พบว่าเงินของเขานั้นน่าจะเพียงพอดังนั้นเขาจึงดึงเงินทั้งหมดออกมาและนับมันและยื่นให้เธอ
"เอานี่"
หลี่หลี่ปิงรับเงินสดมา5,000 หยวน เธอมองดูตอนที่ถังซิวนับเงินก่อนหน้านี้แล้วดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องนับซ้ำ พร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“คุณถังโปรดรอซักครู่ ฉันจะให้ฝ่ายการเงินออกใบเสร็จให้คุณทันที”
ถังซิ่วโบกมือแล้วพูดว่า
"ไม่จำเป็นต้องออกใบเสร็จรับเงิน นอกจากนี้เราไม่จำเป็นต้องเซ็นสัญญาใดๆเนื่องจากฉันคิดว่ามันไม่จำเป็น คุณให้บริการการศึกษาในขณะที่ฉันทำเช่นนี้สำหรับเด็ก ดังนั้นเราควรรักษาความไว้วางใจขั้นพื้นฐานที่สุดระหว่างเรา บอกราคาสำหรับค่าเรียนในวันพรุ่งนี้และฉันจะโอนเงินให้กับคุณโดยตรงส่วนคุณก็ส่งครูไปสอนเด็กๆทุกวัน "
หลี่หลี่ปืงถามออกมาว่า
"ที่อยู่ของคุณ?"
ถังซิ่วได้ตอบเธอว่า
"มันอยู่ใกล้ๆกับที่นี่ มันเป็นวิลล่าหลังสุดท้ายในเมืองประตูทิศใต้ อย่างไรก็ตามฉันยังคงมีบางอย่างที่ต้องจัดการดังนั้นฉันจะไม่รบกวนคุณอีกต่อไป ลาก่อน”
เมืองประตูทิศใต้?
วิลล่าหลังสุดท้าย?
นัยน์ตาของหลี่หลี่ปิงหดลงอย่างรวดเร็วขณะที่เธอมองไปที่หลังของถังซิ่วที่กำลังเดินไป หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ เธอเคยไปที่เมืองประตูทิศใต้เนื่องจากครอบครัวของเธอมีญาติสนิทที่ร่ำรวยที่อาศัยอยู่ที่นั่น เธอรู้ดีว่ามันเป็นโครงการหรูหราของเมืองสตาร์ซิตี้นี้
นอกจากนี้เมื่อเธอได้ไปเยี่ยมญาติของเธอนั้นยังได้ยินพวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งหนึ่งว่า วิลล่าที่ดีที่สุดนั้นเป็นคิงวิลล่าที่อยู่ลึกที่สุดของโครงการ
"คุณถัง ฉันจะไปส่งคุณ "
ท่าทางของเธอเปลี่ยนไปอย่างมากขณะที่เธอรีบเดินไปส่งถังซิ่วและปล่อยให้ครูวัยกลางคนอีกสามคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอมองกันและกันด้วยความประหลาดใจ
ถังซิ่วได้ปฏิเสธเธออย่างสุภาพแต่เธอก็ยังยืนยันที่จะไปส่งเขาถึงทางเข้าของโรงเรียนแล้วก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า
"คุณถัง โปรดเดินทางโดยสวัสดิภาพ "
ถังซิ่วพยักหน้าและภายใต้การจ้องมองของหลี่หลี่ปิงนั้นเขาได้ไปตรงข้ามถนนเพื่อเรียกรถแท็กซี่และออกไปจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว
"แปลกคน! เขาแปลกจริงๆ! เขาสามารถอาศัยอยู่ในวิลล่าที่หรูหราที่สุดในเมืองประตูทิศใต้ได้แต่เขากลับไม่มีรถและนั่งแท็กซี่?”
หลี่หลี่ปิงส่ายหัวของเธอขณะที่กำลังติในใจ
ที่งานแฟร์ของคนมีความสามารถในเมืองสตาร์ซิตี้
ในห้องโถงที่กว้างนั้นมีบูธอยู่หลายร้อยที่ถูกแออัดไปด้วยคน เนื่องจากงานแฟร์ครั้งนี้เป็นงานที่มีขนาดใหญ่ระดับประเทศที่จัดขึ้นที่จังหวัดชวนฉิง ดังนั้นในสถานที่แห่งนี้จะมีนักศึกษาที่จบมาใหม่กว่า10000คน คนว่างงานและคนมีความสามารถมากมายรวมอยู่ที่นี่
บริษัทถังผู้สูงส่งนั้นกำลังเตรียมที่จะจัดโครงสร้างของบริษัทและมันก็ค่อนข้างบังเอิญที่ได้พบกับงานใหญ่ครั้งนี้ ดังนั้นคังเซี่ยนจึงมีความคิดที่จะตั้งบูธไว้ในทำเลดีๆเพื่อคัดคนเขามาในบริษัท
เมื่อถังซิ่วได้มาถึงที่จัดงานนั้นเขาก็รู้สึกทึ่งกับฉากที่อยู่ตรงหน้าเขาทันที นี่เป็นตอนบ่ายแล้วแต่ข้างในยังคงแออัดกันอยู่
"ในปัจจุบันนี้นักศึกษาจบใหม่นั้นไม่ได้เป็นพวกที่มีมูลค่ามากที่สุด"
ถังซิ่วได้พูดออกมาเบาๆจากนั้นเขาก็พยักหน้าและจมอยู่ในห้วงความคิดของเขา นักเรียนจำนวนมากต้องอดทนต่อการเรียนเป็นเวลาหลายปีและในที่สุดพวกเขาก็เดินออกจากประตูเพื่อไปหาที่ทำงาน ก่อนหน้านี้นั้นการศึกษานั้นคือทางออกแต่ในปัจจุบันแม้ว่าจะมีการศึกษาระดับสูงหากไม่มีความสามารถที่แท้จริงก็เปรียบได้กับขยะ
ถังซิ่วได้พบกับบูธของบริษัทถังผู้สูงส่งตามที่คังเซี่ยนได้ส่งที่อยู่มาให้เขา
ภายในบูธสักสองสามตารางเมตรนั้นคังเซี่ยนและสาวสวยผมสีบลอนด์อีกคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะและสัมภาษณ์ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเหมือนนักเรียน นอกจากนี้ยังมีชายชาวต่างชาติอีกสองคนที่กำลังจัดระเบียบกองเอกสารในขณะที่คนหนุ่มอีกคนได้ต่อแถวคนที่ได้รับการสัมภาษณ์ สายตาของถังซิ่วกวาดไปมาและเห็นว่าคิวมีความยาวอย่างน้อยก็20เมตร
“บอส!”
คังเซี่ยนเรียกออกมาทันทีเมื่อมองเห็นถังซิ่ว
“บอส!”
สาวโลลิผมสีบลอนด์ก็ลุกขึ้นยืนและร้องเรียกออกมาขณะที่เธอมองไปที่ถังซิ่วด้วยสายตาที่สงสัยและกำลังสังเกตุถังซิ่ว
ถังซิ่วโบกมือและพยักหน้าต่อพวกเขาพร้อมพูดว่า
"คังเซียน เธอเอางานให้คนอื่นจัดการก่อน ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอ"
“ได้สิ!”
คังเซี่ยนพูดกับแอนดี้ที่อยู่ด้านข้างของเธอและปล่อยให้ชายหนุ่มสีบลอนด์ดวงตาสีฟ้าเข้มเข้ามาทำงานของเธอแทน จากนั้นเธอก็ทักทายกับถังซิ่วแล้วพาเขาเดินเข้าไปในบูธ
"บอส คุณต้องการจะบอกอะไรงั้นหรอ?"
ถังซิ่วดพูดออกมาว่า
"มีอยู่สองเรื่องที่ต้องบอกเธอและให้เธอเป็นคนจัดการ เรื่องแรกคือหลงเซ้งหยูจะโอนเงินบางส่วนมาให้ฉันซึ่งฉันเองก็ไม่รู้จำนวนที่แน่ชัดเหมือนกันแต่หากว่าเงินได้โอนมาแล้วนั้นฉันจะโอนมันไปให้เธอทันที ส่วนเรื่องที่สองนั้นคือ หลงเซ็งหยูและเพื่อนของเขาจากเมืองหลวงนั้นได้คิดจะจัดตั้งโครงการอะไรบ้างอย่างขึ้นที่เมืองนี้และพวกเขายังได้บอกว่าเงินลงทุนรวมนั้นประมาณ5พันล้านหยวนและจะมีการเพิ่มเงินทุนหากมีปัญหาทางการเงินในภายหลัง พวกเขาต้องการให้ฉันออกแบบสถาปัตยกรรมและสัญญาว่าจะให้หุ้น10% หลังจากที่ฉันให้แบบแปลนกับพวกเขาแล้วเรื่องหลังจากนั้นเธอจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด "
“10%?”
คังเซี่ยนมองไปที่ถังซิ่วด้วยการแสดงออกที่น่าทึ่งเพราะเธอรู้สึกทึ่งใจกับข่าวนี้เป็นอย่างมาก
การออกแบบพิมพ์เขียวสามารถรับหุ้นได้ถึง10%ของเงินลงทุน5พันล้านหยวน? เธอแทบจะไม่สามารถจินตนาการได้ว่าแบบแปลนแบบไหนที่มีค่าในราคาที่สูงขนาดนี้
"เจ้านายคุณแน่ใจหรือว่ามันเป็นหุ้นและไม่ใช่กำไรจากเงินปันผล?"
คังเซี่ยนถามทันที
ถังซิ่วตอบกลับแบบงงงวยว่า
"อะไรคือความแตกต่างระหว่างหุ้นกับเงินปันผล?"
คังเซี่ยนเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ตอนนี้เธอพบแล้วว่าเจ้านายของเธอไม่รู้เรื่องธุรกิจเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่เธอเรียบเรียงคำพูดของเธอไว้ในใจเธอก็พูดออกมาว่า
"หากว่าที่แห่งนั้นถูกสร้างแล้วยังไม่ได้ขายออกไปก็คือ คุณจะมีหุ้นที่มีมูลค่า10%ต่อมาถ้าอาคารนั้นได้ขายออกไปคุณก็จะได้รับ10%ของราคาขายทั้งหมด ถ้าหากว่ามันถูกสร้างมาเพื่อขายแล้วละก็ เงินนี้จะถูกหักออกจากเงินลงทุนในขณะที่10%ของกำไรของโครงการนั่นคือเงินปันผล ฉันคิดว่าคุณควรจะยืนยันเรื่องนี้ก่อนแล้วฉันจะได้รู้ว่าจะคุยกับพวกเขาได้อย่างไร "