ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 130
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 132

Returning From The Immortal World - 131


.......................................................................................................................................................................................

ด้วยการพลิกฝ่ามือของเขา

มีดกองทัพได้ปรากฏขึ้นในมือของเขา จากนั้นเขาก็หัวเราะเยาะอีกครั้ง

"ฉันจะให้ทางเลือกกับแก จะให้ฉันตัดขาของแกทั้งสองข้างหรือจะเป็นมือของแกดีหละ ? แน่นอนอยู่แล้วว่าแกสามารถเลือกขาหนึ่งข้างและมือหนึ่งข้างได้เช่นกัน "

ไทหลงก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นเขาตระหนักว่ายังมีผู้เชี่ยวชาญอีกสี่คนจากสำนักมังกรรุ่งโรจน์อยู่ กำลังใจของเราเริ่มกลับมาเป็นปกติในขณะที่เขาพูดด้วยการเยาะเย้ยว่า

"แกมันบ้า! แกคิดว่าแกสามารถจัดการลูกน้องของฉันได้ แล้วมันเป็นยังไงกันหละ?! แกเคยได้ยินเกี่ยวกับสำนักมังกรรุ่งโรจน์ไหม?!ชายทั้งคนนี้เป็นผู้ฝึกสอนจากที่นั้นที่ฉันจ้างมาเพื่อจัดการกับแกโดยเฉพาะ ถ้าแกรู้จักลิมิตก็ขอโทษฉันซะแล้วเราจะจบเรื่องนี้ มิฉะนั้นฉันจะทำให้แกร้องไห้อย่างแน่นอน "

สำนักมังกรรุ่งโรจน์?

นี่เป็นครั้งแรกที่ถังซิ่วได้ยินชื่อโรงเรียนการต่อสู้นี้ เขาส่ายหัวอย่างสงบแล้วพูดว่า

"ฉันเป็นแค่นักเรียนมัธยม ไม่เคยได้ยินชื่อพวกนั้นหรอก ฉันมีความแค้นกับไทหลงเท่านั้น พวกแกทั้งสี่อย่าได้เข้ามายุ่มย่ามไม่อย่างงั้นฉันก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าพวกแกจะไม่ได้รับบาดเจ็บ "

เฟย์เขวียนก้าวออกมาข้างหน้าสองก้าว เขามองอย่างเย็นชาไปที่ถังซิ่วแล้วพูดว่า

"แกซ่อนตัวอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นแกควรได้ยินคำพูดของเราที่ว่า เมื่อเราได้รับเงินมาแล้วเราก็จะต้องทำตามสิ่งที่เขาเรียกร้อง ฉันได้ยินมาว่าแกเป็นผู้เชี่ยวชาญส่วนเราก็ผู้ฝึกวิทยายุทธ เราอยากจะได้รับคำชี้แนะจากแก "

ถังซิ่วส่ายหัวและตอบอย่างสุภาพว่า

"ข้อห้ามที่ผู้ฝึกวิทยายุทธต้องหลีกเลี่ยงคือการต่อสู้เพื่อตัดสินว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน การฝึกวิทยายุทธนั้นมีไว้เพื่อปกป้องคนที่แกรักรอบๆตัว แต่พวกแก ... ทุกคนไม่สมควรที่จะเป็นผู้ฝึกวิทยายุทธแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าสำนักมังกรอะไรนั่นจะเน่าเสียจริงๆ ในเมื่อพวกแกทำตัวกร่างกันนักฉันก็จะจัดการพวกแกแล้วต้องไปเยี่ยมสำนักของแกสักหน่อย "

"หากว่าแกยังสามารถรอดออกไปได้ละก็นะ!"

เฟย์เขวียนได้พยักหน้าให้กับคนที่เหลือขณะที่ทั้งสี่คนนั้นพุ่งตรงไปยังถังซิ่วแต่ยังไม่ได้เริ่มโจมตี พวกเขาทำเพียงแค่ล้อมรอบถังซิ่วและกำลังหาช่องโหว่เท่านั้น

แม้ว่านิสัยของพวกเขาอาจจะไม่ดี แต่พวกเขาก็รู้ความจริงที่ว่าพวกเขาไม่สามารถประมาทผู้เชี่ยวชาญได้แม้แต่น้อย เพราะหากทำเช่นนั้นแล้วชะตากรรมของพวกเขาก็จะต้องจบแบบอนาถอย่างแน่นอน ถังซิ่วที่สามารถทุบตีชายหนุ่มกว่า20คนให้สาหัสได้นั้นมันทำให้พวกเขาไม่สามารถลดการป้องกันลงได้แม้แต่น้อย

รุมงั้นหรอ?

ถังซิ่วแค่รู้สึกสมเพศออกมาในขณะที่เขาหายตัวไปแล้วปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของชายที่อยู่หน้าเขาพร้อมกับเหวี่ยงหมัดที่รุนแรงใส่จมูกของเขาอย่างจัง

"ปัง…"

แขนของชายนั้นได้ยกขึ้นมาได้ครึ่งหนึ่งก่อนที่จะส่งเสียงร้องที่เจ็บปวดออกมา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พบว่าหน้าอกของเขาได้ทุกชกอย่างรุนแรง ความรุนแรงนั้นทำให้เขารู้สึกถึงรสหวานของเลือดที่กระอักออกมาทางลำคอของเขา ตอนนี้เขาได้หมุนเคว้งอยู่กลางอากาศพร้อมกระอักเลือดออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“กระจอกหน่า”

ถังซิ่วหลบไปด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงการชกและเตะจากชายอีกสองคน เขาปล่อยการโจมตีออกไปตรงๆและล้มพวกเขาทั้งสองได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขารู้สึกประหลาดใจมากที่สุดคือเฟย์เขวียนที่ยังสามารถยืนอยู่ได้ ถ้าตามหลักการเรียกของผู้ฝึกวิทยายุทธแล้วแม้ว่าเฟย์เขวียนนั้นยังไม่ได้ถูกเรียกว่าเป็นปรมาจารย์แต่ก็ใกล้จะถึงจุดนั้นแล้ว หากเขาใช้เวลาอีกเล็กน้อยเพื่อฝึกฝนแล้วละก็ เขาจะต้องยืนอยู่บนจุดของสุดของผู้ฝึกวิทยายุทธได้อย่างแน่นอน

"พวกแกไม่ใช่คู่มือของฉัน!"

ถังซิ่วหมุนไปได้ข้างพร้อมปล่อยลูกเตะออกมาเพื่อเตะไปที่เฟย์เขวียนให้กระเด็นออกไป เท้าทั้งสองข้างของเขานั้นใช้พลังเพียงแค่1/10เท่านั้น แต่มันก็ยังหนักกว่าหลายพันปอนด์และเฟย์เขวียนไม่สามารถหลบมันได้ เขาทำได้แค่ยกแจนขึ้นมาป้องกันมันเท่านั้น แต่แขนของเขาที่เพิ่งยกขึ้นมาไม่ทันไรนั้นได้หักเป็นหลายส่วนทันทีเมื่อได้รับแรงกระแทกของลูกเตะที่ถังซิ่วส่งออกมา

"หยุด!"

เฟย์เขวียนได้เอาแต่หลบการโจมตีของถังซิ่วด้วยความยากลำบาก

ถังซิ่วไม่สนใจคำพูดของเขาแม้แต่น้อย เขารู้อยู่แล้วว่าเฟย์เขวียนนั้นได้ตระหนักว่าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอนและต้องการที่จะหยุดเรื่องนี้ เพื่อนของศัตรูก็คือศัตรูและยิ่งไปกว่านั้นคือเฟย์เขวียนนั้นได้รับเงินเพื่อทำร้ายคนอื่นมาแล้ว เขาจะต้องได้รับผลตอบแทนหากไม่สามารถทำงานให้ลุล่วงได้

"ปัง…"

ถังซิ่วเตะหน้าอกของเขาจากด้านข้างขณะที่ตามมาด้วยเสียงของซี่โครงที่แตกหัก ถังซิ่วจับไปที่แขนของเขาแล้วบิดมันอย่างรุนแรงและหักมือของเขาทิ้งอย่างไม่ลังเล

“อ๊ากกกก...”

ความเจ็บปวดที่สุดจะทนได้ทำให้เฟย์เขวียนนั้นกรีดร้องออกมาอย่างน่าอนาถ

ถังซิ่วตบเขาอัดลงไปกับพื้นพร้อมพูดด้วยคำเยาะเย้ยว่า

"ในฐานะของลูกผู้ชาย แกก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ตั้งแต่ตอนที่แกได้ตกลงกับไทหลงแล้วก็น่าจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากแกล้มเหลว ตอนนี้ฉันได้ให้บทเรียนแกโดยการทำลายมือของแกแล้ว ถ้าหากพวกแกยังกล้าที่จะทำเรื่องชั่วร้ายอีกละก็ ฉันจะหักทั้งขาและแขนของแกให้หมด"

หลังจากพูดจบแล้วถังซิ่วก็ไม่ได้สนใจเสียงร้องโหยหวนของพวกเขาทั้งสี่คนอีกต่อไป ตอนนี้เขาได้พุ่งตรงไปที่ไทหลงที่กำลังวิ่งหนีห่างออกไปกว่าสิบเมตรด้วยใจหน้าที่หวาดกลัว

"ตั้งแต่ที่แกมาถึงที่นี่แล้วก็อย่างหวังว่าจะออกไปได้ในสภาพที่สมบูรณ์ "

ถังซิ่วได้พูดออกมาขณะที่เคลื่อนไหวดั่งสายฟ้าและปรากฏตัวที่ด้านหลังของไทหลง ก่อนที่จะส่งหมัดชุดไปที่หลังของเขาอย่ารุนแรงซึ่งทำให้เขาลอยไปไกลว่า6-7เมตรและล้มลงอยู่ที่พื้นอย่างรุนแรง

"สุดยอด เร็วโครตๆ!"

แม้ว่าเฟย์เขวียนกำลังได้ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่สายตาของเขาก็ยังคงล๊อคไปที่ตัวของถังซิ่ว ตั้งแต่ที่ต่อสู้มาเมื่อกี้นี้เขาก็รู้แล้วว่าถังซิ่วนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมากแต่เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าถังซิ่วจะรวดเร็วถึงขั้นนี้ ในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่เห็นภาพติดตาของถังซิ่วเท่านั้น

เขาไม่อยากจะเชื่อว่าร่างกายของมนุษย์จะสามารถเข้าถึงความเร็วขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?! แม้กระทั่งปรมาจารย์ก็ยังไม่สามารถที่จะรวดเร็วได้ขนาดนี้ เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เสียใจที่ได้ไปรับงานนี้มา

ก่อนหน้านี้ที่เขาเพิ่งเริ่มปกปิดความจริงไว้แล้วแอบออกมารับงานส่วนตัวนี้เขาได้คิดถึงชะตากรรมแบบนี้ไว้ก่อนแล้ว แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วถึงขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาได้พ่ายแพ้ในเงื้อมมือของเด็กหนุ่มอายุประมาณ20 ปีเท่านั้น

ถังซิ่วเดินไปทางไทหลงแล้วดึงมันขึ้นมาจากพื้นดินพร้อมตบอย่างไร้ความปราณีหลังจากนั้นก็ได้บิดและหักแขนและขาทั้งสองของเขาก่อนที่จะใช้เท้าเหยียบหน้ามันจมลงไปในพื้นดิน ต่อมาเขาก็ได้พูดอย่างเย็นชาว่า

"สกุลไท่ ตอนที่แกได้ทำร้ายผู้อื่น แกเคยคิดสักนิดไหมว่าสักวันหนึ่งแกจะจบลงแบบนี้?"

"ถ้าแกกล้าจริงก็ฆ่าฉันสิ!"

ไทหลงยังคงไม่ยอมแพ้ ทั้งขาทั้งแขนของเขาหักทั้งหมด เขาที่ตกอยู่ภายใต้ความเจ็บปวดดังกล่าวทำให้เขาโห่ร้องออกมาอย่างโอดครวญ

ในทางตรงกันข้ามกันนั้น ถังซิ่วได้ชักมีดออกมาและตัดหูของไทหลงออกในพริบตาขณะที่เขากำลังมองไปที่เลือดที่กระฉูดออกมาพร้อมเยาะเย้ยออกมาว่า

"สมกับที่เป็นคนไม่ยอมแพ้จริงๆ? ฉันหละชอบจริงๆที่จะทรมานคนแบบแก พูดประโยคเมื่อกี้ออกมาอีกสิ ฉันเองก็กำลังคิดอยู่ว่าการลงมีดครั้งต่อไปจะตัดหูอีกข้างของแกดี ? หรือว่าจะตัดจมูกแกหละ ? ควักตาแกออกมาดีไหม ? มีตัวเลือกเยอะจริงๆเลย พูดออกมาอีก!!!! เร็วสิๆแกเป็นอะไรไปหละ? “

ไทหลงที่กำลังถูกเหยียบหน้าจมดินอยู่นั้นได้รู้สึกอุ่นๆที่หูของเขาและได้ตระหนักว่าหูของเขาข้างหนึ่งได้หายไปแล้วนั้นความดื้อดึงของเขาได้หายไปในพริบตา เขารู้ได้ทันทีว่าถังซิ่วนั้นเป็นปีศาจที่เลือดเย็นและเหี้ยมโหดเกินไป

เขายังหนุ่มนะ!

เขามีอายุเพียง40ปีเท่านั้น เขาได้ทำงานหนักและไขว่คว้าความมั่งคั่งมาได้มากมาย หากเขาต้องมาถูกถังซิ่วฆ่าตรงนี้แล้วบริษัทที่เขาใช้ครึ่งค่อนชีวิตสร้างมาหละ ความมั่งคั่งของเขาหละ ทุกอย่างมันจะเป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น มันเหมือนยกให้คนอื่นฟรีๆเลยไม่ใช่หรอ

เขาไม่ต้องการเช่นนั้น!

เขากลัวที่จะตาย!

การที่ได้ยินคำพูดของเขานั้นทำให้ต่อมความกลัวของเขาแตกอย่างฉับพลัน หัวใจของเขานั้นรู้สึกหวาดกลัวถึงขั้นที่ว่ามันกำลังแข็งทื่อ

"ค๊อก,ค๊อกกก ... ขอร้อง ได้โปรด – โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันขอร้องงงง!ฉันจะยอมรับข้อเรียกร้องของคุณทุกอย่างและจะไม่กล้าไปล่วงเกินคุณอีกต่อไปแล้ว "

ไทหลงขอร้องออกมาด้วยเสียงที่กำลังแหบขณะกระอักเลือดออกมา

ถังซิ่วได้เลื่อนเท้าของเขาออกจากหัวของไทหลง เขาดึงตัวมันขึ้นมาอีกครั้งแล้วยิ้มเยาะว่า

"แกกล้าขอร้องฉันงั้นหรอ? แกกล้าทำร้ายแม่ฉันและคนของฉันยังไม่พอ แกยังกล้าอวดดีและกำแหงถึงขั้นที่ส่งคนไปที่โรงพยาบาล ทำไมตอนนั้นถึงไม่คิดถึงเรื่องนี้หละ แล้วตอนนี้มาขอร้องฉันทำไมงั้นหรอ ห๊ะ? "

"ฉันผิดไปแล้ว!กรุณายกโทษให้ฉันเถอะนะ ได้โปรด"

ไทหลงกระอักเลือดออกมาอีกครั้งพร้อมมองไปที่ถังซิ่วอย่างหวาดกลัว

ถังซิ่วพ่นลมหายใจออกมาแล้วพูดว่า

"เอาจริงๆแล้วฉันเองก็ไม่อยากฆ่าแกเหมือนกัน แต่ฉันกลัวว่าการปล่อยเสือกลับไปในภูเขานั้นจะเป็นเหมือนกันเหลือรากของหายนะไว้ให้กับตัวฉันเอง ไหนนายลองบอกมาหน่อยสิว่าฉันควรจะทำยังไง ? อ่อใช่ นายลองมองไปรอบๆสิ เขากำลังอยู่บนภูเขาและมันเป็นสถานที่ที่ดีเลยทีเดียวหากว่าฉันจะฆ่าแกแล้วทำลายศพแล้วลบร่องรอย "

นัยน์ตาของไทหลงหดตัวลงอย่างรวดเร็ว

"ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นเลย! ฉันไม่เคยมีความคิดที่จะแก้แค้นคุณอยู่แล้ว มองมาที่ฉันสิ คุณคิดว่าฉันกล้าที่จะแก้แค้นอีกงั้นหรอ ? ตราบเท่าที่คุณปล่อยฉันไปฉันจะให้ทุกๆอย่างที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉันแก่คุณแล้วจะรีบย้ายออกไปจากเมืองนี้อย่างแน่นอน ฉันจะไม่กลับมาที่นี่อีกแน่นอน!”

ถังซิ่วเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เขาค่อยๆส่ายหัวแล้วพูดออกมาว่า

"แกเป็นคนร่ำรวย แม้กระทั่งปีศาจก็สามารถทำตามอำนาจของเงินได้เช่นเดียวกับคนทั้งสี่นี้ แกสามารถใช้เงินจ่ายเงินเพื่อจ้างพวกกระจอกเหล่านี้มาได้อีกครั้งและฉันเองก็ไม่อยากจะเป็นเป้าของคนเหล่านี้ตลอดเวลาหรอกนะ "

"ฉันจะให้เงินทั้งหมดแก่คุณด้วย!" (*อนาถชิบ ถูกปล้นชัดๆ55555 )

ไทหลงร้องออกมาดังๆ

ปากของถังซิ่วยกตัวขึ้นเป็นรอยยิ้มพร้อมพูดออกมาว่า

"ในกรณีนี้ฉันก็จะยอมรับมันแล้วกัน แกรู้จักหลงเซ้งหยูไหม? "

ไทหลงรีบพยักหน้าแล้วพูดว่า

"รู้จัก ! เขาเป็นผู้จัดการทั่วไปของหลงกรุ๊ปซึ่งฉันเคยร่วมมือจัดการโครงการต่างๆกับพวกเขามาบ้างแล้ว "

ถังซิ่วพูดต่ออย่างไม่แยแสว่า

"หลังจากที่แกกลับไปแล้วก็โอนทรัพย์สินทั้งหมดภายใต้ชื่อของแกไปให้เขาซะ ส่วนเรื่องที่เหลือฉันจะจัดการเอง "

"คุณรู้จักหัวหน้าหลงด้วย? คุณมีความสัมพันธ์ยังไงกับเขากัน? "

ไทหลงรีบถามออกมา

ก่อนหน้านี้นั้นเขามีความคิดที่จะแก้แค้นอยู่ภายในใจและมันจะเป็นการตอบโต้อย่างบ้าคลั่ง อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินถังซิ่วพูดถึงหลงเซ้งหยูนั้น ราวกับว่าศีรษะของเขาได้ถูกราดให้ตื่นโดยน้ำเย็นและลบความคิดนั้นไปในทันที

ถังซิ่วพูดเบาๆว่า

"ก็นับได้ว่าเขาเป็นเพื่อนคนนึง"

ไทหลงรู้เรื่องภายในหลงกรุ๊ปดีและตระหนักได้ดีถึงพลังอำนาจของตระกูลหลง เมื่อได้ยินคำพูดของถังซิ่วได้ทำให้เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากภายในหัวใจของเขา ในตอนนี้เขาไม่สามารถรู้สึกอะไรได้นอกนอกความเสียใจ หากว่าก่อนหน้านี้เขารู้ว่าถังซิ่วนั้นเป็นเพื่อนของหลงเซ้งหยูนั้น ต่อให้เขามีความกล้าเพิ่มขึ้นสักสิบเท่า เขาก็จะไม่กล้าที่จะทุบร้านอาหารของถังซิ่วหรือทำร้ายแม่และคนของถังซิ่วอย่างแน่นอน

มันเป็นวงจรของเหตุและผล!

ทุกอย่างจะต้องมีผลลัพธ์ที่ตามมาเสมอ!

ไทหลงรู้สึกเหมือนว่าวิญญาณของเขาได้หลุดออกจากร่างไปแล้ว เขาเขี่ยความคิดที่จะตอบโต้ถังซิ่วทิ้งไปทันที หากว่าเขายังคงอยู่ในเมืองนี้แล้วนั้นคนที่เขาได้เคยล่วงเกินไว้จะกลับมาล้างแค้นเขาอย่างบ้าคลั่งแน่นอน นั้นเป็นเหตุให้เขาเงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดออกมาว่า

"ฉันจะโอนทรัพย์สินทั้งหมดของฉันไปยังหัวหน้าหลงทันทีเพราะถึงต่อให้ฉันจะแอบเก็บไว้บางส่วนเขาก็สามารถตรวจสอบได้อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนนี้ฉันได้กลายเป็นคนพิการไปแล้ว หลังจากกลับไปแล้วฉันจะให้ภรรยาของฉันพาออกจากเมืองนี้โดยทันที "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด