Returning From The Immortal World - 128
.......................................................................................................................................................................................
เฉินเต่าก็ได้ตอบด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นว่า
"หัวหน้าเฉิงไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากจะบอกคุณ แต่ฉันไม่สามารถบอกคุณได้! คุณเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจดังนั้นโปรดอย่าทำให้เราต้องลำบากใจเลย แต่ผมสามารถบอกคุณได้อย่างหนึ่งว่าเด็กหนุ่มที่ถูกรุมทำร้ายคนนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย นี่มันเป็นเพียงแค่เรื่องเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อยและทุกสิ่งทุกอย่างได้รับการแก้ไขแล้ว "
เฉิงเสวี่ยเหม่ยได้หันไปส่งสัญญาณทางสายตาไปให้ตำรวจคนอื่นๆจากนั้นก็พูดขึ้นว่า
"หัวหน้าเฉิน ฉันไม่เข้าใจเลยว่ามันจะลำบากสำหรับคุณยังไง ฉันเพียงหวังแค่ว่าคุณจะสามารถบอกความจริงแก่ฉันได้ เราเป็นตำรวจแผนกอาชญากรรมและเรามีความรับผิดชอบในการรักษาระเบียบทางสังคมเช่นเดียวกับการลงโทษพวกเนื้อร้ายเหล่านี้ตามกฎหมาย "
เฉินเต่าเงียบครู่หนึ่งแล้วค่อยๆพูดว่า
"เจ้าหน้าที่เฉิง ถ้าคุณอยากรู้เรื่องนี้จริงๆแล้วละก็คุณก็สามารถไปตรวจสอบเรื่องทั้งหมดได้เลย ! แต่ฉันสามารถบอกคุณไว้ก่อนเลยนะว่า ไม่ว่าคุณจะได้ผลลัพธ์อะไรหลังจากการสอบสวนแล้วแต่มันก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรา "
หลังจากที่พูดจบแล้ว เขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับเฉิงเสวี่ยเหม่ยอีกต่อไปพร้อมเดินออกไปทันที ใจหัวใจของเขานั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าการจะสืบสวนเรื่องนี้นั้นง่ายเป็นอย่างมากแต่ในเมื่อบุคคลระดับสูงของโรงพยาบาลได้สั่งการลงมาแล้วว่าห้ามพูดถึงเรื่องรูปลักษณ์ของถังซิ่ว ถึงแม้ว่าตำรวจพวกนี้จะสามารถเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้แต่ก็คงไม่ง่ายที่จะรู้ว่าเด็กหนุ่มนั้นคือเขา
10 นาทีต่อมา ...
ตำรวจหลายคนได้เดินมาที่เฉิงเสวี่ยเหม่ยพร้อมกับท่าทางที่แปลกๆและหนึ่งในนั้นได้พูดออกมาว่า
"หัวหน้า เราเพิ่งเสร็จสิ้นการตรวจสอบอย่างละเอียด มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกรุมทำร้ายโดยชายหนุ่มกว่า20คนแต่ผลลัพธ์นั้นกลับกลายเป็น... ไม่ใช่ว่าเด็กหนุ่มคนนั้นได้รับบาดเจ็บ แต่กลับเป็น ... "
เมื่อเห็นว่าเขาลังเลที่จะพูดแล้ว เฉิงเสวี่ยเหม่ยได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงโทนต่ำโดยทันทีว่า
"กลายเป็นอะไร?พูดออกมาให้เร็วๆ!"
ตำรวจคนนั้นได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
"คนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้นไม่ใช่เด็กหนุ่มแต่กลับกลายเป็นชายหนุ่มกว่า20คนที่รุมทำร้ายเขา พูดอีกอย่างก็คือ เด็กหนุ่มคนเดียวได้ทำร้ายร่างกายอันธพาลกว่า20คนจนบาดเจ็บสาหัวและตอนนี้คนเหล่านั้นได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งนี้ "
"คุณกำลังล้อเล่นอยู่ใช่ไหม?"
ดวงตาของเฉิงเสวี่ยเหม่ยเบิกกว้างขึ้นขณะที่จ้องมองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ตำรวจคนนั้นได้พูดต่อ
"ฉันไม่ได้ล้อเล่นกับคุณนะหัวหน้า! นี่เป็นผลจากการสอบสวนของเรา เว้นเสียแต่ว่าเราได้ตีความว่าคำสารภาพของทุกคนผิดไป แต่แน่นอนว่าความเป็นไปได้ที่มันจะเกิดขึ้นนั้นเกือบจะเป็นศูนย์ "
เด็กหนุ่มคนเดียวรับมือกับชายกว่า20คน?
ปากของเธอกระตุกอยู่หลายครั้งก่อนที่คลื่นของความรู้สึกตกใจได้โหมกระหน่ำเข้าสู่จิตใจของเธอ สิ่งที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นทุกปีส่วนของปีนี้นั้นมีมากมายเช่นกัน เธอระลึกได้ถึงเหตุการณ์ของถังซิ่วที่เป็นเพียงเด็กมัธยมที่สามารถฆ่าอาชญากรระดับสูงของทางการได้ภายในโรงเรียนของเขา เธอยังได้ระลึกถึงคดีฆาตกรรมในอู่ซ่อมรถยนต์ ...
"ฮึ……"
ขณะที่เธอถอนหายใจออกมานั้น เฉิงเสวี่ยเหม่ยได้ถามออกมาว่า
"แล้วพวกคุณสืบเรื่องของอันธพาลเหล่านั้นแล้วหรือยัง?"
ตำรวจคนหนึ่งได้ตอบกลับมาว่า
"เราได้ทำการสืบสอบเรียบร้อยแล้ว พวกชั่วเหล่านี้เกือบทั้งหมดนั้นเป็นปลาเน่าของสังคม พวกเขามักจะอยู่ด้วยกันบ่อยๆ สร้างเรื่องชกต่อยและทำสิ่งเลวร้ายมากมาย และนอกจากนี้พวกเขายังเป็นลูกน้องของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เจียงฉานซึ่งนายใหญ่ของพวกเขาคือไทหลง "
"ไทหลง?ใช่คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆ่ายกครัวหลายคดีแต่ก็ยังไม่มีหลักฐานใดๆที่สามารถเชื่อมโยงกับชายคนนั้นได้ใช่หรือไม่? "
คิ้วของเฉิงเสวี่ยเหม่ยยกขึ้นก่อนที่เธอจะถามออกมา
"ใช่แล้ว มันนั่นแหละ!"
ตำรวจคนนั้นพูดด้วยเสียงโทนต่ำ
เฉิงเสวี่ยเหม่ยพ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า
"เนื่องจากเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เราจะไปที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์เจียงฉานในตอนนี้เพื่อฟังคำอธิบายจากเขา "
บริษัทอสังหาริมทรัพย์เจียงฉาน
ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองสตาร์ซิตี้ที่อยู่ใกล้กับถนนเช่าหนาน ที่นี้มีอาคารสูงหลายสิบชั้นทั้งหมดทรัพย์สินของบริษัททั้งหมด ภายในทางเข้าของอาคารนั้นมีหน่วยรักษาความปลอดภัยเฝ้าอยู่ด้วยกันทั้งหมดสี่คนที่กำลังลาดตระเวนอย่างกระตือรือร้นและเดินไปเดินมา
ชายหนุ่มตัวโตสองคนได้วิ่งออกมาจากตึกอย่างเร่งรีบ พวกเขามีลักษณะที่ดุร้ายพร้อมดวงตาเย็นชาของพวกเขาที่กวาดไปทั่วบริเวณโดยรอบอยู่ครู่หนึ่ง
"พี่ใหญ่ฮู่ พี่ใหญ่ป้าง"
เมื่อได้ชายหนุ่มทั้งสองแล้วนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสี่คนได้ทำความเคารพ
ชายทั้งสองไม่ได้มองไปที่พวกเขาแม้แต่น้อยก่อนที่จะรีบวิ่งไปที่ลานจอดรถ พวกเขามีงานใหญ่ที่ต้องจัดการและนายใหญ่ของเขากำลังรอพวกเขาอยู่
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากที่จอดรถประมาณ10เมตร ก็ได้ดินเสียงดังมาจากข้างหลังว่า
"เดี๋ยวก่อน แกคิดว่าแกเป็นใครหนะห๊ะ?ที่นี่คือบริษัทอสังหาริมทรัพย์เจียงฉานและไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามา แสดงบัตรพนักงานของแกมาสิไอโง่?แกได้ยินหรือเปล่าเนี้ย? "
คนที่กำลังจะเข้ามาที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์เจียงฉานนั้นคือถังซิ่ว หลังจากที่เขาได้สืบภูมิหลังของไทหลงแล้วนั้น เขาก็ได้รีบมาที่นี่ทันที เขาต้องให้มันชดใช้และสำนึกถึงผลที่ตามมาสำหรับความเจ็บปวดที่มันทำกับแม่เขาไว้
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำสอบสวนที่ข่มขู่ของเจ้าหน้าที่เหล่านั้น ถังซิ่วไม่ได้แสดงความโกรธแม่แต่น้อยแต่ตอบกลับพวกเขาด้วยกำปั้นที่ซัดเข้าไปตรงหน้าของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างรุนแรง
"ปังปัง …"
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นได้กรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวชในขณะที่เขาโดนส่งลอยขึ้นไปบนฟ้าจากนั้นก็ตกลงมากระแทกกับพื้นถนนอย่างรุนแรง
"ไอ้ระยำ แกต้องการที่จะสร้างปัญหาอย่างงั้นเรอะ?"
เจ้าหน้าที่อีกสามคนได้ตะโกนออกมาทันที
ถังซิ่วยิ้มออกมาอย่างปีศาจก่อนที่เขาจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าและกระแทกหมัดใส่ใบหน้าของพวกเขาอย่างไร้ความปราณีซึ่งทำให้พวกเขาทั้งสามคนลอยขึ้นไปและตกลงมากระแทกกับพื้นเช่นเดียวกับคนก่อนหน้านี้
ชายร่างสูงสองคนที่อยู่ในที่จอดรถมองไปที่กันและกันพร้อมวิ่งกลับมาที่ประตูทางเข้าของบริษัท พวกเขาเป็นคนสนิทที่เชื่อถือได้ของไทหลง พวกเขาได้ผ่านร้อนผ่านหนาวในสนามรบมามากและมีประสบการณ์พอที่จะจัดการผู้เชี่ยวชาญ4-5คนได้สบายๆ
นี่ยังไม่รวมถึงปืนที่เหน็บอยู่ที่เอวของพวกเขา ถ้าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะเด็กหนุ่มคนนั้นได้ อย่างเลวร้ายที่สุดพวกเขาก็แค่ยิงเด็กคนนั้นซะ ในขณะนี้พวกเขาได้คาดเดาถึงตัวตนของถังซิ่วแล้วว่า เขาน่าจะเป็นคนๆเดียวกันกับคนที่ส่งอันธพาลทั้ง20คนให้ไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ในโรงพยาบาล
ในล็อบบี้ชั้นหนึ่งของบริษัท,ถังซิ่วเดินไปที่แผนกต้อนรับส่วนหน้าด้วยท่าทางเย็นเฉียบและน่ากลัว เขาพูดกับสองสาวสวยที่หน้าตากำลังซีดลงว่า
"ไอ้ไทหลงมันอยู่ที่ไหน?"
ผู้หญิงสองคนส่ายหัวอย่างเร่งรีบ
ผู้หญิงคนหนึ่งได้พูดว่า
"เราไม่รู้ ตั้งแต่ที่เจ้านายได้ออกไปเมื่อช่วงเช้านี้ เขาก็ยังไม่ได้กลับมาอีกเลย"
เขาไม่อยู่ที่นี่?
หน้าผากของถังซิ่วเริ่มเหี่ยวย่นพร้อมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงลึกๆว่า
"เอาเบอร์มันมาให้ฉัน! และที่ตั้งของห้องทำงานมันอยู่ที่ไหน? "
"ทะ -ที่ ... ชั้น12"
ผู้หญิงคนนั้นตัวสั่นด้วยความกลัวขณะที่เธอตอบและมองไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูทั้งสี่คนที่กำลังหมดสติ
ถังซิ่วตะโกนออกมาอย่างดุร้ายอีกครั้งว่า
"กูบอกให้เอาเบอร์มันมา!!!!!"
ผู้หญิงคนนั้นตอบด้วยความขมขื่นว่า
"นะ-นี่ ... ทะ-ท่าน เราไม่รู้เบอร์โทรศัพท์ของนายใหญ่จริงๆ ถ้าคุณต้องการจะทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณจำเป็นต้องไปพบกับผู้จัดการของเรา "
ถังซิ่วครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วรีบเดินออกไป เขาขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น12 ในไม่ช้าเขาก็พบสำนักงานที่มีประตูติดแท็กป้าย "ผู้จัดการ " เขาเตะประตูออกและมองไปรอบๆสองสามครั้งในขณะที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินมาข้างหลังเขา
"คุณคือใคร?"
ถังซิ่วหันไปรอบๆและเห็นสาวรูปร่างสมส่วนที่ใช้เครื่องสำอางหนา เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชาแล้วเดินไปนั่งตรงเก้าอี้ของเจ้านาย
"เธอไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร เธอไปเรียกไอ้ไทหลงมาตอนนี้ บอกมันว่าเจ้าหนี้ของมันได้มาถึงแล้วและให้มันเสนอหน้าของมันออกมาเดี๋ยวนี้ "
"คุณกล้าสาปแช่งเจ้านายของเรา? คุณต้องการที่จะตาย? "
หญิงสาวโห่ร้องออกมาด้วยความโกรธ
ถังซิ่วได้ตอบเธอว่า
"ฉันจะบอกเธฮอีกครั้ง ! ฉันจะให้เวลาเธอแค่ครึ่งนาที หากว่าฉันยังไม่พอใจแล้วละก็ ฉันจะโยนเธอลงไปจากชั้น12นี่แหละ รีบไสหัวไปโทรเร็วๆสิวะ! "
หญิงสาวมองไปที่ถังซิ่วผู้ซึ่งมีหน้าตาที่มืดมน หลังจากที่เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็พูดออกมาด้วยความโกรธว่า
"แกกล้าดีหนิ แกรอฉันอยู่ตรงนี้แหละ ฉันจะโทรหานายใหญ่ทันที ระวังไว้เถอะเมื่อนายใหญ่กลับมาแล้วละก็ เขาจะจัดการแกอย่างแน่นอน "
"พังพอนที่อยู่ในรูเดียวกัน!"
เมื่อมองไปที่ท่าทางของหญิงสาวคนนั้น ถังซิ่วแอบพ่นลมหายใจออกมา
ที่ห้องอาหารหลงนั้น
ไทหลงได้ส่งคนที่เขาไว้วางใจกลับไปทำบางสิ่งบางอย่างและให้กลับมาอย่างรวดเร็ว เขาได้เชิญใครบางคนจากสำนักมังกรรุ่งโรจน์มา
"ริ้งงงงงงงงงงงงง ริ้งงงงงงงงง ... "
โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นและไทหลงรีบหยิบมันขึ้นมา เขาคิดว่านั่นเป็นการโทรมาจากเพื่อเก่าของเขาที่ชื่อซันดาซี่ แต่เมื่อเขาเห็นผู้โทรเข้ามาที่หน้าจอเขากลับเป็นผู้จัดการที่บริษัทนั้น เขาก็รู้สึกค่อนข้างใจร้อนทันทีเพราะสิ่งสำคัญที่เขาต้องทำ หลังจากที่เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเขาก็พูดด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า
"ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำในตอนนี้ ถ้าคุณไม่มีสิ่งสำคัญอะไรก็รอให้ฉันกลับไปก่อนแล้วค่อยรายงาน"
“นายใหญ่ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่นี่ ไอเด็กที่ไหนไม่รู้ได้บุกเข้ามาในบริษัทของเราและตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ของคุณ! เขาขอให้ฉันโทรหาคุณและบอกว่าเจ้าหนี้ของคุณได้มาถึงแล้วและต้องการให้เสนอหน้ามาหาเขาเพื่อชำระหนี้เดี๋ยวนี้”
เจ้าหนี้?
ไทหลงสบถออกมาด้วยความโกรธว่า
"ไอ้ระยำตัวไหนที่มันกล้ามาหาเรื่องไทหลงคนนี้? พ่อใหญ่คนนี้มีเจ้าหนี้อยู่มากมายแต่ใครกันที่กล้าบุกเข้าไปในบริษัทของพ่อใหญ่คนนี้?เธอ…"
คำพูดของเขาชะงักไปกะทันหัน
ในความคิดของเขานั้น ตอนนี้เขาได้ตระหนักถึงเป้าหมายในการเชิญคนจากสำนักมังกรรุ่งโรจน์ทันที หลังจากที่เขาเงียบๆไปสักครู่เขาก็ถามขึ้นว่า
"มันเป็นใคร? มันชื่ออะไร?"
ผู้จัดการได้กระซิบว่า
"เขาเป็นเด็กหนุ่ม ฉันไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร"
ไทหลงตะโกนด้วยความโกรธออกมาว่า
"ถ้าเธอไม่รู้ เธอก็ไปถามมันสิอีโง่?!"
ผู้จัดการได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะตอบกลับมาว่า
"เขาฝากบอกมาว่าถ้าคุณต้องการที่จะรู้ชื่อของเขา คุณต้องกลับมาที่นี่ทันที เมื่อเขากระทืบคุณ ... จนคุณช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้วเขาจะบอกชื่อของเขากับคุณ! "
"ไอ้ระยำเอ้ย!"
ไทหลงวางสายทันทีพร้อมสาปแช่งออกมา
"โอ๊ะพี่ไท อะไรที่ทำให้คุณรู้สึกโกรธมากขนาดนี้?! คุณต้องการให้ฉันช่วยเชิญคนจากสำนักมังกรรุ่งโรจน์ ฉันก็เชิญมาแล้วทั้งสี่คนและพวกเขาก็ถือว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งเลยทีเดียว! "
ซันดาซี่เป็นชายอ้วนวัยกลางคนที่มีดวงตาที่เล็กมากๆ
ไทหลงที่เห็นซันดาซี่ซึ่งข้างหลังเขาก็มีคนเดินตามมาสี่คนนั้น ความหวังของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นในทันทีทันใด ในขณะที่เดินไปหาพวกเขาและพูดว่า
"เพื่อนเก่า ครั้งนี้ฉันต้องขอบคุณจริงๆ เราจะพูดถึงเรื่องของเราในภายหลัง ตอนนี้ฉันมีสิ่งสำคัญที่ต้องทำและเหตุผลที่ฉันต้องการเชิญผู้เชี่ยวชาญทั้งสี่จากสำนักมังกรรุ่งโรจน์มานั้น ฉันขอพูดอะไรแบบตรงไปตรงมาเลยแล้วกัน "
"ตกลง!"
ชายทั้งสี่จากสำนักมังกรรุ่งโรจน์ได้พยักหน้าและตอบกลับโดยทันที
ซัยดาซี่ไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับเรื่องระหว่างไทหลงและคนเหล่านี้ดังนั้นเขาจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า
"ดี งั้นคุณก็คุยธุระของพวกคุณไปแล้วกัน ฉันยังมีเรื่องอื่นที่ยังต้องไปจัดการและคงไม่สามารถอยู่ต่อได้ , บอสไท แล้วฉันจะรอสายจากคุณ "
"อืมมม!"
ไทหลงได้พยักหน้า