ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 124
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 126

Returning From The Immortal World - 125


.......................................................................................................................................................................................

ถังซิ่วรู้สึกประหลาดใจสักครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพยักหน้า เขาก็นึกถึงบรรทัดที่กล่าวว่า

"การมีเอกสารและข้อมูลประจำตัวจะทำให้การเดินทางรอบโลกเป็นไปได้ง่ายมากและจะเป็นเรื่องยากมากที่จะทำหากปราศจากมัน" คำพูดนี้คือท่อนที่เปลี่ยนมาจากคำพูดที่ว่า "การมีเงินหนึ่งนั้นจะทำให้การเดินทางรอบโลกเป็นไปได้ง่ายมากและจะเป็นเรื่องยากมากที่จะทำหากปราศจากมัน“นี่เป็นเพียงคำอธิบายเปล่าๆที่แสดงถึงความสำคัญของเอกสารในสังคมปัจจุบัน”

ในยุคนี้นั้นเพียงแค่หน้าตาหรือชื่อเสียงนั้นไม่เพียงพอแต่ยังต้องมีใบรับรอง

"ในเมื่อคุณเป็นคนจัดการเรื่องเหล่านี้แล้ว ฉันเองก็รู้สึกโล่งใจ แล้วจะรอฟังข่าวดีจากคุณ "

ถังซิ่วพูดอย่างสงบก่อนที่จะเดินออกไป

หลี่ฮงจี้มองไปที่การแสดงออกของถังซิ่วนั้นก็ทำให้เขาต้องฝืนยิ้มออกมา ผู้อำนวยการของโรงพยาบาล,ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของมหาวิทยาลัย,ปรมาจารย์ในวงการแพทย์และผู้สืบทอดฉายาหมอศักดิ์สิทธิ์กลับต้องมายอมจำนนต่อหน้าถังซิ่ว

"ไอเด็กหัวแข็งเอ้ย!”

ถึงแม้ว่าการพัฒนาจิตใจของเขาจะดีอยู่บ้างแต่ก็ไม่สามารถอดกลั้นคำพูดนี้ออกมาได้

ถังซิ่วมองไปที่บั่นโฉว,ดิ่งซี่และคนอื่นๆพร้อมกับการจากไปของผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการพร้อมพูดออกมาว่า

"ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะบอกรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับไอ้ไทหลงว่ามันมีความขัดแย้งกับพวกนายอย่างไร?ถึงขั้นที่กล้าจะทุบตีแม่ของฉัน? "

ความโกรธบางส่วนถูกเปิดเผยอยู่บนใบหน้าของบั่นโฉวขณะที่เขาพูดออกมาว่า

"ตอนเที่ยงวันที่เรากำลังช่วยกันที่ร้านอาหารของเมื่อวานนี้ เนื่องจากเรามีแขกจำนวนมากที่กำลังรอคิวอยู่นานดังนั้น ไทหลงที่ได้นำคนมาทานอาหารที่ร้านของเรานั้นไม่มีที่ว่าง เขาจึงได้บังคับให้เราไล่ลูกค้าออกไปโต๊ะนึงแต่บอสใหญ่ไม่ต้องการทำเช่นนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ไอ้ไทหลงเริ่มลงมือทำร้ายผู้คน ในขณะนั้นเราทั้งสี่คนอยู่ในร้านอาหารดังนั้นเราจึงไม่ได้สู้กับพวกเขา นั่นเป็นเหตุให้บอสใหญ่ได้รับบาดเจ็บ "

"หลังจากนั้น! พวกเขาก็ไล่แขกในร้านออกไปจนหมดพร้อมกับทุบทำลายร้านอาหารของเรา หลังจากที่เราส่งบอสใหญ่ไปที่โรงพยาบาลแล้วกำลังเตรียมที่จะออกไปซื้อสิ่งของรายวันที่จำเป็น เราก็ถูกทำร้ายโดยคนกว่า20คนที่ประตูหน้า ดังนั้นเราจึงได้กลับมาที่โรงพยาบาลหลังจากถูกทำร้ายอย่างทารุณ "

"ไอ้ไทหลงคนนั้นยังได้บอกอีกด้วยว่าจะต้องให้บอสใหญ่คุกเข่าขอร้องและชดเชยการที่ทำให้มันเสียอารมณ์ ไม่อย่างนั้นมันจะไม่ให้เราออกจากโรงพยาบาลนี้อย่างแน่นอน หากว่าเราออกไปหนึ่งครั้งมันก็จะทุบตีเราหนึ่งครั้ง หลังจากที่ดิ่งซี่ได้ลองออกไปนั้นก็ทำให้เขาถูกทุบตีอย่างทารุณ "

ถังซิ่วยิ้มออกมาด้วยความโกรธขณะที่เขาพูดออกมาว่า

"ดีดีดี! พวกมันกล้าดีจริงๆ!?พวกมันกล้าข่มเหงคนอื่นๆและพวกมันยังกล้าที่จะข่มเหงมากยิ่งขึ้น!พวกนายทั้งสี่คนอยู่ในโรงพยาบาลให้หมด ฉันจะเป็นคนเก็บกวาดมันเอง "

บั่นโฉวรีบพูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

"บอส คุณต้องระมัดระวังให้มาก ผมรู้ว่าคุณมีพลังและทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากแต่ไทหลงเองก็มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน ผมได้ส่งคนลืมประวัติของเขามาแล้ว เขาเป็นคนที่มีอำนาจและอิทธิพลมากในเมืองนี้ เขาไม่เพียงแต่เป็นผู้รับเหมาหลักที่มีอำนาจเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มอันธพาลที่อยู่ภายใต้เขา "

ถังซิ่วหรี่ตาลงขณะพ่นลมหายใจออกมาแล้วพูดว่า

"แค่ฉันคนเดียวก็พออยู่แล้วบางทีมันน่าจะทำให้ฉันพอมีอะไรแก้เบื่อบ้าง พวกนายไม่ต้องกังวลอะไรมากนัก ในโลกนี้นั้นคนที่เป็นศัตรูกับถังซิ่วคนนี้ได้มีอยู่ไม่มากนักหรอก "

เขาไม่ได้โอ้อวด แม้ว่าระดับบ่มเพาะของเขาจะไม่สูงมากนักแต่ทักษะในการฆ่าล้างของเขานั้นเรียกได้ว่าไม่เป็นสองรองใคร เขายังมีทักษาที่ทำให้สามารถล่องหน,ยันต์จูโจมหรือแม้กระทั่งพิษร้าย เขาสามารถฆ่าศัตรูเหล่านั้นนับพันด้วยทักษะพิษของเขาเพราะเขาเคยเดินทางไปทั่วดินแดนแห่งนิรันด์และไปหมกอยู่กับชนชั้นต่ำสุดในสังคมที่ต่ำสุดที่ใช้เทคนิคและวิธีการมากมายเหล่านี้

"บอกข้อมูลของมันมาให้ฉันอย่างระเอียด "

"ตกลง!"

10 นาทีหลังจากที่ถังซิ่วได้รับข้อมูลเกี่ยวกับไทหลงนั้น เขาไม่ชอบที่จะเป็นฝ่ายรับ การจัดการกับศัตรูนั้นจะต้องเป็นฝ่ายรุกด้วยตัวของเขาเอง นี่คือสไตล์ของถังซิ่ว

หลังจากออกจากแผนกผู้ป่วยในแล้ว ถังซิ่วก็ต้องปวดหัวเป็นอย่างมากเพราะเขาไม่มีรถและการจัดการเรื่องนี้ก็ไม่สะดวกหากไม่มีมัน ดังนั้นเขาคิดว่าหลังจากที่เขาได้สอบเข้ามหาลัยเสร็จแล้ว เขาควรจะต้องไปสอบใบขับขี่ดีไหม?

"ฮะ?"

เมื่อถังซิ่วเพิ่งเดินออกจากทางเข้าด้านหน้าของโรงพยาบาลนั้นก็สามารถมองเห็นเด็กหนุ่มบางคนที่กำลังมองมาที่เขา ถังซิ่วสามารถรู้ได้ทันทีว่าภายใต้แขนเสื้อของพวกเขานั้นกำลังซ่อนอาวุธบางอย่างไว้เช่นกระบองและอื่นๆ

"ควรจะเป็นพวกมัน!"

ท่าทางของถังซิ่วเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกในขณะที่เขารีบเดินเข้าไปหาอันธพาลคนหนึ่งและตะโกนขึ้นว่า

"ไอ้******* มึงมานี่เดี๋ยวนี้!"

ถังซิ่วยืนอยู่ห่างจากชายคนนั้นกว่า6-7เมตรในขณะที่เขาชูนิ้วกลางขึ้นมาเพื่อยั่วยุ

ชายหนุ่มที่มีผมยาวย้อมผมสีม่วงเทาและสวมต่างหู เขาหน้าตาไม่หล่อและมีแผลเป็นที่ทำเหมือนเครื่องหมายความภูมิใจที่อยู่บนใบหน้าของเขา สิ่งที่น่ารังเกียจที่สุดจากเขาก็คือเขามีกลิ่นฉุนของน้ำหอมและยังสวมคอนแทคเลนส์

"เรียกน้องสาวของ*****หรอ?"

ชายหนุ่มจ้องมองมาที่ถังซิ่วขณะที่เขาดินเข้ามาช้าๆ

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

"ฉันไม่ต้องการที่จะจำคนผิด ดังนั้นขอถามแกคำถามหนึ่ง แกเป็นคนของไทหลงใช่ไหม ? ถ้าใช่ก็ไปเรียกพวกที่เหลือแล้วตามฉันมา "

ชายหนุ่มคนนั้น จ้องมองอย่างไร้ความรู้สึกชั่วครู่หนึ่งขณะที่เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งทันทีแล้วพูดออกมาว่า

"เห้ พี่น้อง พวกนายได้ยินสิ่งที่ไอเด็กห่านี้พูดมาเมื่อกี้หรือเปล่า?เขาต้องการให้เราตามเขาไป?ฮ่าๆๆๆ ... เออใช่ ปู่ของแกคนนี้เป็นคนของพี่หลง ในเมื่อแกรู้ว่าเราเป็นคนของพี่ชายหลงแล้วทำไมถึงยังไม่คุกเข่าต่อหน้าเราอีกหือ? ไหนลองเรียกปู่สิ! "

"แกโชคดีนะที่ที่นี้เป็นหน้าโรงพยาบาล"

ถังซิ่วพ่นลมหายใจออกมา

ชายหนุ่มคนนั้นกลิ้งตาขึ้น เขามองไปที่ถังซิ่วราวกับว่าเขากำลังมองไปที่คนงี่เง่า วัยรุ่นมากกว่า20คนที่อยู่รายล้อมนั้นต่างก็ปล่อยเสียงหัวเราะเยาะเย้ยออกมา พวกเขาไม่ได้จริงจังกับถังซิ่ว พวกเขาแค่คิดว่าถังซิ่วนั้นเป็นผู้ป่วยทางจิตที่เข้าโรงพยาบาลผิดเท่านั้น

"เฮ้ ไอโง่, โรงพยาบาลโรคจิตอยู่ตรงวงเวียนด้านตะวันออก สถานที่แห่งนี้เป็นโรงพยาบาลแพทย์จีน ถ้าสมองของแกมีปัญหาก็รีบไปที่โรงบาลโรคจิตซะ! ปู่แกคนนี้ไม่มีความสนใจที่จะทุบตีเด็กบ้าหรอกนะ! "

เพื่อที่จะยั่วให้พวกเขาโกรธ ถังซิ่วได้พยายามที่จะทำให้พวกเขาล้อมรอบตัวเขาเพื่อที่จะรุมเขาในที่สาธารณะจากนั้นเขาก็พูดอย่างไม่แยแสว่า

"แกนั่นแหละที่เป็นโรคจิตแม้กระทั่งทั้งครอบครัวของแกนั้นเป็นคนบ้า พวกแกทุกคนควรจะเป็นอันธพาลใช่ไหม?ถ้างั้นบรรพบุรุษ18ชั่วโครตของพวกแกก็เป็นคนบ้าทั้งหมด”

"อะไรนะ?"

ชายหนุ่มเหล่านั้นตกตะลึงพร้อมมองกันและกันด้วยความว่างเปล่า พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าถังซิ่วจะกล้าที่จะสาปแช่งพวกเขา หลังจากนั้นไม่กี่วินาที วัยรุ่นหนุ่มตัวสูงที่กำลังดื่มนมถั่วเหลืองได้ทุบกล่องนมไปทางถังซิวขณะที่เขายกขาขึ้นเพื่อเตะเขา

"ฮึ……"

ถังซิ่วหักตัวหลบกล่องนมถั่วเหลืองที่ถูกโยนมา เจตนาฆ่าภายในใจของเขาได้เพิ่งขึ้นอย่างมากมายลูกเตะของเขานั้นเร็วกว่าของฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างมากพร้อมเตะอัดไปที่หน้าอกของเขา

“พุฟฟฟฟฟ ......”

มีเลือดพุ่งออกมาจากปากของชายหนุ่มคนนั้น ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวเมื่อร่างกายของเขาลอยขึ้นไปถึง7-8เมตร ถึงแม้ว่าถังซิ่วไม่ได้เตะให้เขาตายแต่ก็ได้สร้างความเสียหายร้ายแรงต่ออวัยวะภายในทั้งหมดในร่างกายของเขา นั้นทำให้ตกเป็นลมอยู่กลางอากาศพร้อมตกลงมากระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง

มีอันธพาลหนุ่มกว่า20คนในพื้นที่นี้ได้สติขึ้นทันทีหลังจากได้เห็นเพื่อนของพวกเขาถูกจัดการอย่างง่ายดายโดยถังซิ่ว แต่พวกเขาก็ยังคิดว่าถังซิ่วนั้นมีแค่สองมือสองเท้าแล้วจะมาสู้อะไรกับพวกเขาพร้อมกันได้อย่างไร

"อ้าเขวียน,ฮูไซ,ดาหลง,เสี่ยวหยางพวกนายสี่คนไปสั่งสอนไอเด็กเวรนั่นหน่อยสิ มันกล้าที่จะลงมือกับพี่น้องของเรา ฉันเองก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าเขามีน้ำยาซักเท่าไหร่กัน! "

ชายหนุ่มอายุประมาณ30ปีที่กำลังเอนตัวอยู่นั้นได้มองไปที่ถังซิ่วอย่างเย็นชาพร้อมออกคำสั่งให้คนไปสั่งสอนถังซิ่ว

“ดี!”

ชายหนุ่มทั้งสี่คนดึงท่อเหล็กออกมาจากแขนเสื้อของพวกเขาพร้อมกันแล้วล้อมรอบถังซิ่วอย่างรวดเร็ว พวกเขาเคลื่อนไหวแทบจะพร้อมกันโดยการเหวี่ยงท่อนเหล็กไปที่ถังซิ่วอย่างรุนแรง

"ไอพวกกระจอก พวกแกประเมินตัวเองสูงไป"

เท้าของถังซิ่วได้เคลื่อนอย่างรวดเร็วพร้อมพุ่งไปอยู่ตรงหน้าของอ้าเขวียนในพริบตา ฝ่ามือนับไม่ถ้วนของเขาได้ละเลงไปที่หน้าของอ้าเขวียนอย่างรุนแรง ในขณะที่ฟันของเขาได้หลุดออกมานั้น ถังซิ่วได้ใช้เท้าเตะไปที่เขาซ้ำอีกทีพร้อมหลบการโจมตีจากท่อเหล็กทั้งสามอย่างง่ายดาย ถังซิ่วใช้สไตล์ที่เรียบง่ายที่สุดคือหมัดตรง,เหวี่ยง,กระโดดเตะและเขาได้ใช้เวลารวมกันไม่ถึงห้าวินาทีก็ทำให้อันธพาลที่เหลือนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น

และ!

นอกจากนี้เขายังไม่ปราณีแม้แต่น้อย ทุกคนที่ถูกเขาเก็บกวาดไปเมื่อครู่นั้นต่างกระดูกหักระเอียดทั้งหมด

นัยน์ตาของชายวัย30ได้หดตัวลงอย่างรวดเร็วขณะที่มองไปที่ถังซิ่วซึ่งกำลังแสดงพลังที่ไร้เทียมทานออกมา บนใบหน้าของเขานั้นได้เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันทีพร้อมพุ่งเข้าไปหาถึงซิ่วแล้วตะโกนออกมาว่า

"พวกแกทั้งหมดรุมมัน!!! ทำให้มันพิการไปซะ! "

ถังซิ่วไม่ได้ขยับแม้แต่หางตาของเขาด้วยซ้ำ เขาเร่งความเร็วของเขายิ่งกว่าเดิม

ผู้คนที่เดินผ่านโดยรอบเหมือนมีสัญชาตญาณในการรับชมความสนุกสนานและความวุ่นวาย พวกเขาได้เฝ้ามองฉากที่ถังซิ่วกำลังถูกรุมโดยชายหนุ่มกว่า20คน หลังจากที่ถังซิ่วได้ทุบตีอันธพาลเหล่านั้นให้นอนจมกองเลือดอยู่ห้าคนแล้วนั้น ผู้ชมทั้งหลายต่างแสดงความรู้สึกตกใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก พวกเขาเห็นว่ามีชายหนุ่มเกือบ20คนที่ติดอาวุธกำลังรุมถังซิ่วและนั่นทำให้พวกเขารู้สึกกระวนกระวายใจและเป็นห่วงเขา

"ชายหนุ่มคนนั้นโชคร้ายจริงๆ เขาไปสร้างปัญหาใหญ่แบบนั้นได้อย่างไร? เขาต่อสู้ได้ดีมากถึงแม้จะสามารถคว่ำอันธพาลกว่า5คนได้ในหนึ่งลมหายใจ แต่ตอนนี้มันเป็นเกือบ20คน มันไม่ใช่ความแข็งแกร่งของคนคนหนึ่งที่จะสามารถต่อสู้ได้! "

"คนพาลเหล่านี้มันอุกอาจเกินไปแล้ว พวกมันกล้าก่ออาชญากรรมร้ายแรงดังกล่าวข้างหน้าประตูโรงพยาบาล พวกเขาไม่กลัวว่าจะถูกลงโทษตามกฎหมายหรือ? "

"คุณไม่รู้หรือว่าเรื่องเดียวกันนี้ได้เกิดขึ้นในตอนเช้าเช่นกัน ชายหนุ่มคนหนึ่งถูกตีที่หน้าทางเข้าของโรงพยาบาลและดูเหมือนว่าเหล่าร้ายพวกนั้นเป็นคนที่ทำมัน! แต่โรงพยาบาลก็ไม่ได้ทำอะไร! "

"พวกเขาจะสามารถเข้ามายุ่งได้อย่างไร? พวกนี้มันตีกันอยู่ข้างนอกของโรงพยาบาลยังไงหละ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อถึงเวลาที่หน่วยรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลมานี่ พวกอันธพาลเหล่านั้นก็คงจะหนีไปหมดแล้ว จะไปหาพวกมันได้จากไหนหละ? วันนี้ตำรวจก็ได้มาแล้วเข่นกันแต่คนเหล่านั้นได้วิ่งหนีไป “

"ฉันอยากจะช่วยชายหนุ่มคนนั้นและขับไล่พวกอันธพาลเหล่านั้นออกไป มันกล้ามากที่จะก่ออาชญากรรมในตอนกลางวันแสกๆแบบนี้ "

“...”

ถังซิ่วได้ลงมืออย่างรวดเร็วมาก เขากำลังรู้สึกเหมือนชกกับก้อนเนื้อ ความเร็วของเขานั้นดั่งสายฟ้าถึงแม้ว่าเขาจะใช้พลังเพียงแค่10%เท่านั้นแต่ภายในไม่กี่วินาทีอันธพาลกว่า20คนก็ได้ลงไปจมกองเลือดอยู่ที่พื้นทั้งหมดและนั่นรวมไปถึงคนที่พอมีพื้นฐานด้านวิทยายุทธก็ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงพร้อมกับกระอักเลือดออกมา

ร่างกายของวัยรุ่นหนุ่มเหล่านี้ต่างนอนขดตัวอยู่ทั่วทุกหนแห่งพร้อมโอดครวญอย่างน่าอนาถ พวกเขาทุกคนกำลังอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชมาก ท่อเหล็กได้ตกลงอยู่ข้างๆตัวพวกเขาพร้อมด้วยของมีคมที่สามารถมองเห็นได้ทั่วทุกที่

ในขณะนี้!

ฉากรอบข้างทั้งหมดนั้นเข้าสู่ความเงียบเหมือนดั่งป่าช้า ดวงตาของผู้ชมที่เฝ้ามองอยู่รอบๆนั้นเบิกกว้างเหมือนไข่ห่านพร้อมกับขยับมือมากุมปากของพวกเขาไว้

มันเป็นฉากที่น่าตกใจ!

ทุกๆคนสามารถรู้สึกถึงเสียงหัวใจของพวกเขาที่กำลังเต้นถี่ขึ้นได้ ร่างกายของพวกเขากำลังอ่อนลง ความรู้สึกกลัวและสยดสยองเช่นเดียวกับเกลียวคลื่นได้โหมกระหน่ำใส่จิตใจของพวกเขาทุกคน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด