ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 117
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 119

Returning From The Immortal World - 118


.......................................................................................................................................................................................

ยิ่งเธอคิดเกี่ยวกับคำพูดของลูกชายมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่าคำพูดของเขานั้นจริง คนอื่นอาจจะไม่ค่อยรู้เรื่องแต่เธอรู้เรื่องครอบครัวของซูชางเหวินดี! แม้ว่าธุรกิจร้านอาหารของเธอจะดีและเจริญรุ่งเรือง..........แต่มันก็เป็นเพียงร้านอาหารเท่านั้น จะไปทำเงินได้ซักเท่าไหร่กันเชียว? มันจะไปเทียบกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ซูชาวเหวินมีได้อย่างไร เงินของเขาจะน้อยกว่าของเธอ?

หลังจากที่คิดถึงเรื่องนี้แล้วซูหลิงหยุนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า

"ลูกน้อย ดีจริงๆที่ลูกได้เรียนมาเยอะ แม่นั้นไม่ค่อยจะได้อ่านหนังสือเท่าไหร่และการศึกษาของแม่ไม่ดีเท่ากับลูก สิ่งที่ลูกพูดมานั้นสมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าเจตนาที่เขามาที่ร้านอาหารของเราไม่ได้เป็นเพราะจะมายืมเงินแต่เป็นการดูถูกแม่ ลูกวางใจได้เลยว่าแม่จะไม่ให้เขายืมเงินอย่างแน่นอน "

ถังซิ่วยกนิ้วโป้งขึ้นแล้วพูดว่า

"คุณแม่ แม่สามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจนก็ดีแล้ว ผมกลัวจริงๆที่แม่จะไม่เข้าใจและผมแม้กระทั่งเตรียมคำพูดไว้มากมายที่จะเถียงกับแม่! "

ซูหลิงหยุนพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

"แม่ดูคล้ายกับคนที่ไม่เข้าใจสาระสำคัญอะไรเลยใช่ไหมหละ!?"

ถังซิ่วตอบพร้อมกับหัวเราะว่า

"ไม่จริงหรอก ใครที่กล้าพูดแบบนั้นผมจะไปเตะเขา อย่างไรก็ตามแม่ยังจะทำบัญชีต่องั้นหรอ? "

ซูหลิงหยุนส่ายหัวและพูดว่า

"ไม่แล้วหละ ในเมื่อแม่เข้าใจทุกสิ่งแล้วแม่จะทำแบบนั้นทำไม?เรื่องนั้นช่างมันเถอะ,ลูกเพิ่งกลับมาที่นี่แล้วลูกหิวหรือยัง? แม่จะได้ไปปรุงอาหารอร่อยๆให้ลูกเพราะยังไงก็ตามอาหารนอกบ้านก็ไม่เหมือนรสชาติของครอบครัวเราแน่นอน "

ถังซิ่วตอบด้วยรอยยิ้มว่า

"ผมก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน ช่วงหลายวันมานี้ไม่มีอาหารไหนที่ผมคิดถึงเท่าอาหารของแม่เลย "

"ปากหวานจังนะเราหนะ!"

ด้วยคำพูดดังกล่าวจากถังซิ่วนั้นทำให้ซูหลิงหยุนมีความสุขเป็นอย่างมากและรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอสว่างขึ้น

ไม่นานหลังจากนั้น…

อาหาร4จานและซุปหนึ่งถ้วยถูกส่งไปที่ห้องอาหารส่วนตัวที่ถังซิ่วและแม่ได้รับประทานอาหารร่วมกันพร้อมพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของครอบครัวของพวกเขา หลังจากนั้นถังซิ่วก็กำลังจะกลับไป

"ก๊อกก๊อก…"

ประตูได้ถูกเคาะขณะที่ดิ่งซี่ผลักประตูเข้ามา เขาทักทายถังซิ่วและพูดด้วยเสียงต่ำว่า

"บอสใหญ่, ลูกชายของซูชางเหวินได้มาและกำลังเดินอยู่ในล็อบบี้ของเรา!"

ซูหลิงหยุนได้ถามออกมาด้วยความรู้สึกสับสนว่า

"เขามาทำอะไร?"

ซูหลิงหยุนไม่มีความรู้สึกที่ดีกับหลานชายของเธอนัก ก่อนหน้านี้เขาได้ใส่ร้ายลูกชายของเธอและบอกว่าเขาขโมยเงินไป3,000หยวน เธอเองก็โดนโจมตีในที่สาธารณะและแม้แต่ลูกชายของเธอเองก็ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุนี้

ถังซิ่วยืนขึ้นและพูดเบาๆว่า

"ฉันจะออกไปข้างนอกและต้อนรับมันเอง!"

ซูหลิงหยุนได้พูดอย่างรวดเร็วว่า

"ลูก แม้ว่าแม่จะไม่ชอบซูเชียงเฟยแต่ก็อย่าทำอะไรเกินเหตุหละเพราะยังไงเขาก็ยังเป็น ... "

ถังซิ่วได้ขัดจังหวะแม่ของเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกว่า

"แม่ ผมรู้ว่าแม่ต้องการจะพูดอะไร ผมจะไม่ทำร้ายเขาแต่ที่ร้านอาหารของเราไม่ต้อนรับเขา แม่ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ ผมยังมีวิจารณญาณอยู่บ้าง "

ซูหลิงหยุนพยักหน้าแต่ถึงกระนั้นเธอค่อนข้างไม่สบายใจและตามถังซิ่วไป

หลังจากที่ถังซิ่วออกมานั้น เขาก็เห็นซูเชียงเฟยกำลังพูดอะไรบางอย่างกับพนักงานเสิร์ฟ เขาเดินไปข้างหน้าของมันแล้วพูดด้วยโทนลึกว่า

"แกมาทำอะไรที่นี่?"

เมื่อเห็นถังซิ่วแล้ว ซูเชียงเฟยพูดด้วยความประหลาดใจว่

"ลูกพี่ลูกน้องคุณไม่ได้ ... "

"หุบปากของแกซะ!"

ถังซิ่วขัดจังหวะซูเชียงเฟยและพูดด้วยน้ำเสียงลึกๆว่า

"แกอย่างพูดเหมือนเราสนิทกันและยิ่งไปกว่านั้นคือร้านของเราไม่ต้อนรับแก อย่าบอกนะว่าแกลืมสิ่งที่ฉันเคยพูดไปแล้ว ? ถ้ามาที่นี่แล้วฉันเห็นแกหนึ่งครั้ง ฉันก็จะตีแกหนึ่งครั้ง "

คอของซูเขียงเฟยหดลง แม้ว่าเขาจะเต็มไปด้วยความแค้นต่อถังซิ่วแต่เมื่อนึกถึงคำพูดของพ่อของเขาก็ได้แต่บีบรอยยิ้มและพูดว่า

"ลูกพี่ลูกน้องโปรดอย่าทำอย่างนี้! เราเป็นครอบครัวเดียวกันและทุกอย่างเป็นแค่เรื่องตลกและทะเลาะกันระหว่างสมาชิกในครอบครัวเท่านั้น ฉันยอมรับว่าฉันได้ทำร้ายคุณ แต่คุณก็เป็นผู้ใหญ่ที่ใจกว้าง ได้โปรดลืมเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น "

ถังซิ่วพูดพร้อมหัวเราะ

"ช่างหัวคำพูดสวยหรูพวกนั้นเถอะ ครอบครัวของแกก็เป็นเรื่องของแก ของครัวของเราก็เป็นของเราและเราจะไม่ออกไปแสวงหามิตรภาพใดๆจากพวกแก ตอนนี้แกก็รีบไสหัวออกไปได้แล้วไม่อย่างนั้นฉันจะให้คนมาอัดแก "

ในวินาทีที่สูงพูดจบนั้น ดิ่งซี่และคนที่เหลือก็ได้ไปยืนล้อมซูเชียงเฟยไว้ ท่าทางของพวกเขาราวกับว่า พวกเขาพร้อมที่จะกระโจนใส่ซูเชียงเฟยอย่างโหดเหี้ยมเมื่อถังซิ่วได้ออกคำสั่ง

ท่าทางของซูเชียงเฟยเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดมากในขณะที่เขามองไปที่ดิ่งซี่และคนอื่นๆ นอกจากนี้เขายังมองไปที่ท่าทางที่เย็นชาของถังซิ่วแล้วในที่สุดเขาก็เกิดความก็กลัว เขาก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นซูหลิงหยุนนั้นเขารีบตะโกนว่า

"คุณป้า ผมเป็นหลานชายของป้านะ! ป้าคงจะไม่ขับไล่ผมออกไป? ผมยอมรับว่าก่อนหน้านี้ผมผิดไปและขอสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรอย่างนั้นอีกในภายหลัง "

ซูหลิงหยุนที่จิตใจอ่อนโยนนั้น เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ก็มีท่าทีลังเลทันที

ถังซิ่วตะโกนด้วยเสียงที่ลึกว่า

"ดิ่งซี่ พวกนายทุบตีมันแล้วเตะมันออกไปซะ อย่าลืมว่าตราบเท่าที่พวกนายไม่ฆ่ามันฉันจะรับผิดชอบเองถ้าแค่หักแขนและขาของมัน "

“รับทราบ!”

ดิ่งซี่และคนอื่นๆเริ่มถกแขนเสื้อของพวกเขาพร้อมกำลังจะลงมือ

นัยน์ตาของซูเชียงเฟยหดเล็กลงขณะที่เขาไม่รอคำตอบของซูหลิงหยุนพร้อมวิ่งออกไปนอกร้านอาหารโดยทันที ก่อนหน้านี้ไม่นานเขาเพิ่งถูกผู้ต้องหาทำร้ายและเขาก็ไม่อยากนอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาลอีกแล้ว

“ฮ่าๆๆๆ ...”

ทุกคนต่างมองไปซูเชียงเฟยที่กำลังวิ่งหนีก็ได้หัวเราะออกมาพร้อมคำพูดเยาะเย้ยเขา

"ซูชางเหวินนั้นเป็นสิ่งที่ชั่วช้าส่วนลูกชายของเขาก็ขี้ขลาด บอสน้อยของทำให้เขากลัวมาก! ไม่คิดเลยว่าเขาจะกลัวขนาดนี้ โอ้! ไม่คิดเลยว่าบอสใหญ่ของเราจะมีหลานชายแบบนี้? "

"ช่างน่าอับอาย! ชายหนุ่มที่หล่อเหลานั้นเหมือนไข่ที่แตกง่ายอย่างแท้จริง ฉันไม่รู้ว่าหัวของเขาจะไปกระแทกข้างประตูหรือไม่ เขารู้ดีว่าเราไม่ต้อนรับเขาที่นี่แต่ยังคงมาเพื่อจะโดนตบหน้ากลับไป! "

"บอสน้อยของเราน่ากลัวจริงๆ แค่สองสามคำก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาตกใจ จิตใจของบอสใหญ่ของเรานั้นดีเกินไปและเธอไม่สามารถทนต่อคำร้องขอและการสรรเสริญจากพวกเขาได้ ฉันอยากจะบอกว่าบอสน้อยของเราทำถูกต้อง คนที่นิสัยเสียก็ต้องได้รับการต้อนรับแบบนี้แหละถูกแล้ว!”

"เช่นเดียวกับลูกน้องเลียนแบบเจ้านาน พวกเขาก็เหมือนกับพ่อเหมือนลูก! ผู้ชายคนนั้นเป็นสายพันธุ์เดียวกันกับซูชางเหวินอย่างแน่นอน! "

“...”

ถังซิ่วหันศีรษะพร้อมมองไปที่ซูหลิงหยุนและเมื่อเห็นท่าทางที่น่าเกลียดบนหน้าของเธอ เขาก็โบกมือไปยังพนักงานเสิร์ฟไม่กี่คนในบริเวณใกล้เคียงโดยบอกพวกเขาว่าไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมสนุกและกลับไปทำงานของพวกเขา

"คุณแม่ เรามีเวลาและวันของเราและครอบครัวของพวกเขาก็มีของพวกเขา ยิ่งทำให้เราขุ่นเคืองมากขึ้นเท่าไรปัญหาที่เขาต้องเจอก็ยิ่งมากขึ้น ดังนั้นแม่จึงไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับพวกเขาอีกในอนาคต ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะต้องเจอปัญหาใหญ่ๆอย่างแน่นอนและปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่แม่จะสามารถช่วยได้แม้ว่าแม่จะต้องการก็ตาม "

ซูหลิงหยุนถอนหายใจลึกๆขณะพูดด้วยรอยยิ้มว่า

"แม่เข้าใจสิ่งที่ลูกกำลังพูด! แต่ ... ลืมมันไปเถอะ มันยากที่เราจะซ่อนตัวจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นแต่แม่จะไม่ไว้หน้าพวกเขาอีกแล้วในอนาคต "

ถังซิ่วพยักหน้าและก่อนที่เขาจะจากไปนั้นเขาได้เรียกบั่นโฉวและดิ่งซี่มาและสั่งให้ปกป้องแม่ของเขา ถ้ามีใครจากครอบครัวซูมาสร้างปัญหาอีกละก็ให้แจ้งเขาโดยทันที

ในตอนเย็น

ระหว่างทางกลับไปที่เมืองประตูทิศใต้นั้น ถังซิ่วได้รับโทรศัพท์จากหยวนชูหลิง เขารู้ว่าถังซิ่วเพิ่งกลับมาจากเกาะจิงเหมินและต้องการที่จะพบเขาทันที อย่างไรก็ตามเขายังอยู่โรงเรียนและไม่สามารถออกจากโรงเรียนได้ง่ายๆ ดังนั้นถังซิ่วบอกกับเขาว่าจะกลับไปที่โรงเรียนในวันพรุ่งนี้

ถังซิ่วสามารถเพิกเฉยต่อคนอื่นได้แต่เขาก็ไม่สามารถทำมันได้กับหยวนชูหลิง เพราะยังไงก็ตามหยวนชูหลิงนั้นเปรียบได้กับพี่น้องของเขาและช่วยเขาเอาไว้มากมาย บุญคุณเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกขอบคุณอย่างแท้จริง

ในความเป็นจริงหลังจากที่เขาได้กลับมายังโลกแล้วถังซิ่วได้หลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากได้ถูกหักหลังโดยเพื่อนรักของเขา มันทำให้หัวใจของเขามีอคติกับทุกคน

เขาไม่กลัวที่จะมีเพื่อนเพียงไม่กี่คน

แต่เขากลัวที่จะมีเพื่อนมากมายที่จะวางแผนต่อต้านเขา!

ถังซิ่วไม่ต้องการที่จะทำผิดซ้ำซากเช่นเดียวกับในอดีต

หลังจากที่กลับมาที่ประตูทางเข้าของวิลล่า มู่ขวินปิงก็ได้แจ้งเรื่องการมาถึงของสมุนไพรจากเกาะจิงเหมินและได้เซ็นรับของแล้วเอาไปไว้ที่โกดัง เมื่ออยู่ในช่วงที่เขากำลังเตรียมวัตถุดิบเพื่อที่จะกลั่นน้ำยาระฆังทองนั้น เธอก็ได้มาแจ้งเขาอีกครั้งว่าได้มีแขกมาเยี่ยมที่บ้าน

"แขกคือใคร?"

ถังซิ่วที่อยู่ในคลังสินค้าถามด้วยความรู้สึกงงงวย

เขาไม่มีเพื่อนมากมายและมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าเขาอาศัยอยู่ที่นี่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถรู้ได้ว่าใครมาเยี่ยมเขา

"เขาบอกว่าเขาชื่อหลงเซ้งหยู"

มู่ขวินปิงได้พูดออกมา

คิ้วของถังซิ่วขมวดเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าจะเป็นหลงเซ้งหยูที่มาที่นี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาเยี่ยมเยียนหลังจากที่ได้ให้วิลล่านี้แก่เขา

หลังจากที่ได้ไตร่ตรองแล้วเขาก็ได้ออกขากโกดังและเดินเข้าไปในห้องรับแขกของวิลล่า เขาเห็นหลงเซ้งหยูนั่งอยู่บนโซฟาและกำลังดื่มชา

"ทำไมถึงมาที่นี่?"

ถังซิ่วได้ไปนั่งฝั่งตรงข้ามของหลงเซ้งหยูและถามออกมา

หลงเซ้งหยูพูดด้วยเสียงหัวเราะว่า

"ฉันได้ยินมาว่านายได้กลับมาแล้วดังนั้นฉันจึงมาที่นี่และอยากจะคุยกับนาย เป็นอย่างไรบ้าง?ชินกับที่นี่หรือยัง? "

"ก็ไม่เลวนะ"

ถังซิ่วพูดเบาๆ

ก็ไม่เลวนะ?

หลงเซ้งหยูยิ้มฝืนๆอยู่ภายในใจ หากมีคนอื่นที่ได้รับวิลล่าแบบนี้แล้วละก็ พวกเขาจะต้องมีความสุขอย่างมาก แต่สำหรับถังซิ่วแล้วนี่มันกลับกลายเป็นว่า

"ก็ไม่เลวนะ"

"น้องถัง เหตุผลที่ฉันมองหานายที่นี่เป็นเพราะฉันมีอะไรที่จะพูดคุยกับนาย "

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

"นายมีอะไรก็พูดออกมาตรงๆเลย ฉันต้องทำอะไรอีกเยอะ ดังนั้นฉันมีเวลาไม่มากนัก "

หลงเซ้งหยูพยักหน้าแล้วพูดว่า

"เป็นเพราะว่าคังเซี่ยนได้ติดต่อมาถามฉันเรื่องของนาย ฉันถึงได้รู้ว่านายสามารถรับสมัครเธอมาเป็นลูกน้องได้แล้วและเมื่อวานนี้พ่อของฉันได้ให้ฉันมาถามนายว่าจะเป็นไปได้ไหมที่ตระกูลหลงของเราจะเพิ่มเงินเพื่อซื้อหุ้นในบริษัทของนาย "

"เป็นไปไม่ได้!"

ถังซิ่วส่ายหัวและปฏิเสธโดยตรง

หลงเซ้งหยูกลิ้งดวงตาของเขาและตอบอย่างเศร้าใจว่า

"ฉันรู้ว่านายจะพูดแบบนั้น ในเมื่อนายปฏิเสธแล้วก็ลืมมันไปเถอะ "

ถังซิ่วพูดต่อว่า

"นายเสร็จเรื่องแล้วหรือยัง? ถ้าหมดเรื่องแล้วนายก็กลับไปได้แล้ว " (*เดี๋ยวๆๆๆ บ้านนี้เขาให้เอ็งมานะ ไล่ยังกะหมูกะหมา 5555 )

หลงเซ้งหยูพูดอย่างรวดเร็วว่า

"ป่าว ฉันยังไม่ได้เริ่มพูดประเด็นสำคัญเลยด้วยซ้ำ! ในความเป็นจริงเป้าหมายหลักของฉันที่จะมาพบนายในวันนี้คือฉันต้องการที่จะร่วมมือกับนาย!ฉันได้พัฒนาโครงการใหม่เมื่อเร็วๆนี้และตราบเท่าที่นายสามารถช่วยฉันในการออกแบบพิมพ์เขียว ฉันจะให้หุ้นนาย10% เป็นอย่างไร ? "

คิ้วของถังซิ่วกระตุกแล้วถามว่า

"โครงการอะไร? แบบไหน?"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด