ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 102
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 104

Returning From The Immortal World - 103


.......................................................................................................................................................................................

เมืองของจักรพรรดิ

ตึกสูงราวกับเท้าของยักษ์ที่เหยียบอยู่บนพื้นพร้อมหัวที่อยู่สูงขึ้นไปบนฟ้า ภายในอาคารหนึ่ง แอนดี้เดินด้วยรองเท้าส้นสูงและเปิดประตูสำนักงานเข้าไป ความสูงของเธอมีเพียง1.58เมตรเท่านั้นพร้อมด้วยใบหน้าของชาวตะวันตกที่เหมือนตุ๊กตา ดูอ่อนโยนและน่ารักแต่ด้วยขนาดหน้าอกที่ตูมออกมานั้นมันคือทรวงอกที่งดงามอย่างแท้จริง

โลลิ!

หน้ามัธยม นมมหาลัย!

แอนดี้กำลังถือแฟ้มรายงานไว้ที่อกของเธอ ขณะที่เธอเดินมาที่โต๊ะและเคาะบนโต๊ะและพูดว่า

"เจ้านาย ผลการทดสอบของแล็บได้ออกมาแล้ว"

คังเซี่ยนก็ลุกขึ้นมาจากด้านหลังโต๊ะ ขณะที่กำลังหยิบแฟ้มที่แอนดี้ยื่นให้เธอ และพูดด้วยเสียงลึกๆว่า

"ผลลัพธ์เป็นยังไงบ้าง?"

แอนดี้ได้ตอบกลับว่า

"ไม่มีสารที่เป็นอันตราย เป็นส่วนผสมยาจีนที่มีประสิทธิภาพดีมาก "

"จริงเหรอ?"

ใบหน้าแห่งความสุขได้ปรากฏขึ้นที่ตัวคังเซี่ยนขณะที่เธอรีบเปิดแฟ้มรายงาน

แอนดี้นั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะและพูดด้วยเสียงหัวเราะว่า

"แน่นอนมันเป็นความจริง รายงานการตรวจสอบระบุไว้อย่างชัดเจน และตามคำสั่งของคุณฉันยังได้จดทะเบียนบริษัทที่สำนักการค้าและอุตสาหกรรม เจ้าของคือถังซิ่วและสำหรับข้อตกลงหุ้น คุณต้องลงนามด้วยตัวคุณเอง "

แสงสว่างวาบได้แว๊บผ่านดวงตาของคังเซี่ยนในขณะที่เธอถือแฟ้มรายงานพร้อมพูดออกมาว่า

"เราอาจต้องย้ายออกจากเมืองนี้เนื่องจากสำนักงานใหญ่ของบริษัทแห่งใหม่จะตั้งขึ้นที่เมืองสตาร์ซิตี้ เฟสแรกของการทำงานของเราคือการสรรหานักวิจัยเครื่องสำอาง การเช่าโรงงาน การจดทะเบียนแบรนด์เครื่องหมายการค้าและบรรจุภัณฑ์ของทั้งสองผลิตภัณฑ์และเราต้องเสร็จการเตรียมการขั้นตอนแรกภายใน 2 เดือนนี้ "

"ตกลง!"

แอนดี้โบกมือแบบ"ไม่มีปัญหา"

ขณะที่เธอพูดด้วยรอยยิ้มหวานๆว่า

"ฉันไม่ได้ทำงานมาสองสามเดือนแล้ว เราจึงสามารถเริ่มต้นเฟสแรกได้ซักที ฉันคิดว่าทั้งแจ๊คและครูสจะกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข พวกเขาจะต้องสรรเสริญนายใหญ่ในอนาคตของเราเป็นพระเจ้าอย่างแน่นอน "

คังเซี่ยนเองก็ตื่นเต้นเช่นกัน ในขณะที่เธอพูดด้วยเสียงกระหึ่มว่า

"นายใหญ่ของเรานั้นเป็นคนที่น่าสนใจมาก นอกจากนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันตื่นเต้นและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ในการเข้าสู่สถานที่ทำงานใหม่ๆ ฉันไม่ได้รู้สึกถึงความรู้สึกแบบนี้มานาน แต่ตอนนี้มันก็กลับมาอีกครั้ง "

แอนดี้นั้นรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับคนที่กำลังจะกลายเป็นนายใหญ่ของเธอ พร้อมมองไปที่คังเซี่ยนด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ แล้วถามเธอด้วยความสงสัยว่า

"เจ้านาย คุณไม่ควรจะติดต่อหานายใหญ่? ดูเหมือนว่าคุณยังไม่ได้ให้คำตอบที่แน่ชัดกับเขาใช่มั้ย? "

"ฮึ ... "

ท่าทางของคังเซี่ยนแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่งขณะที่เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า

"ขอโทษฉันลืมเรื่องนี้ได้อย่างไร? ฉันจะติดต่อเขาตอนนี้ "

หลังจากสักครู่ ...

ความโกรธเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคังเซี่ยนขณะที่เธอโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะและพูดว่า

"ติดต่อไม่ได้ ฉันค่อยโทรหาเขาคืนนี้! เธอเตรียมทุกอย่างที่เราต้องจัดการที่นี่ซะ เราจะเดินทางไปเมืองสตาร์ซิตี้ภายใน 2 วัน "

"ได้เลย!"

แอนดี้กระโดดออกจากเก้าอี้ของเธอราวกับลูกศรที่ถูกปล่อยออกจากคันธนูแล้วรีบวิ่งออกไปข้างนอกทันที

ทะเลทางตอนใต้ของจีน ...

เรือสินค้าที่กำลังหยุดอยู่ถูกปกคลุมด้วยคลื่นพลังของความร้อน ปลาที่อยู่ภายในระยะสิบกิโลเมตรจากตัวเรือได้รีบว่ายหนีกันอย่างรวดเร็วไปในทิศทางต่างๆ

ห้วงความคิดของถังซิ่วในตอนนี้นั้นสดใสและชัดเจนเป็นอย่างมาก เขาได้ฝึกสมาธิและบ่มเพาะพลังของเขา แม้ว่าดวงดาวทั้งเก้าดวงภายในร่างกายของเขาจะดูไม่มีชีวิตชีวาแต่พวกมันก็ดูดกลืนการไหลเวียนของพลังฉีที่อยู่รอบข้างเข้ามาอย่างต่อเนื่องในทุกทิศทุกทาง

ดูดกลืน!

หมุนเวียนและเปลี่ยนแปลง!

หมอกที่มีสีเทาได้เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ถังซิ่วตั้งชื่อมันว่าพลังแห่งดวงดารา พลังงานนี้ก็เหมือนกับพลังหยวนที่ผู้บ่มเพาะวิชาแห่งเซียนและวิชาแห่งนิรันด์ได้ปล่อยออก มันเป็นรากฐานพลังของการบ่มเพาะและเป็นแหล่งกำเนิดของพลังงานทั้งหมดของผู้บ่มเพาะ

พลังแห่งดวงดารานี้ได้ไหลเวียนผ่านเส้นพลังภายในร่างกายของเขาเพื่อขยายขนาดพร้อมด้วยการเพิ่มความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นของเส้นพลัง มันเป็นกระบวนการที่เจ็บปวด แต่ผลลัพธ์ก็ทำให้ถังซิ่วมีความสุขมาก

ห่างออกไป10เมตรจากถังซิ่ว นักพรตเฒ่าซือยี่,เหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิง กำลังนั่งขัดสมาธิเพื่อทุ่มพลังทั้งหมดในการดูดซับพลังที่ลอยอยู่ทุกทิศทางแม้ว่าความเร็วในการดูดซับของพวกเขาจะเร็วมากก็ตาม แต่มันก็เป็นเหมือนความพยายามที่ไร้ประโยชน์หากพูดถึงความหนาแน่นของพลังที่อยู่โดยรอบ

“พุสสสสสสส ...”

เหมี่ยวเหวินถังเป็นคนแรกที่เปิดตาของเขาในขณะที่ความประหลาดใจอย่างรุนแรงได้แทรกเข้ามาในดวงตาของเขา เขามองไปที่ถังซิ่วด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ

ตัดผ่าน!

มันเป็นเวลาเกือบ 2 ปีนับตั้งแต่ที่เขาได้ติดอยู่ในระดับก่อนหน้านี้ ไม่ว่าเขาจะบ่มเพาะมานานแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถฝ่ากำแพงนี้ไปได้

"ความเข้มข้นของพลังนี้อาจจะเทียบได้กับสรวงสวรรค์ในตำนานได้หรือไม่?"

หัวใจของเหมี่ยวเหวินถังเต็มไปด้วยความพึงพอใจในขณะที่เขาแอบพูดด้วยความชื่นชม

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ...

เซ่าหมิงเซิงได้ยังตื่นจากการทำสมาธิของเขา เพราะเขาเองก็พึ่งประสบความสำเร็จในการตัดผ่านระดับพลังของเขาเช่นกัน เขาก็เต็มไปด้วยความปีติยินดีและรู้สึกขอบคุณต่อถังซิ่ว ด้วย

"นายเองก็ตัดผ่าน?"

ท่าทางของเหมี่ยวเหวินถังเปลี่ยนไปขณะที่เอ่ยปากถามออกมา

เซ่าหมิงเซิงพูดอย่างประหลาดใจว่า

"อย่าบอกนะว่า คุณก็ด้วย ... "

เหมี่ยวเหวินถังพยักหน้าพลางพูดว่า

"การฝึกฝนและบ่มเพาะในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยพลังฉีแบบนี้คือความก้าวหน้าสองเท่าด้วยความพยายามเพียงครึ่งเดียว หลังจากติดแหงกอยู่2ปี ในที่สุดฉันก็สามารถตัดผ่านมันไปได้ "

เซ่าหมิงเซิงหันไปมองถังซิ่วขณะที่เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า

"ตอนนี้เราเป็นหนี้ถังซิ่วอย่างใหญ่หลวง! ถ้าไม่ใช่เพราะเขานั้นเราไม่สามารถรู้เลยว่าจะสามารถประสบความสำเร็จได้ตอนไหน "

"ใช่!"

เหมี่ยวเหวินถังเองก็เห็นพ้องกันแล้วพูดว่า

"ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสองถึงสามปี ไม่เคยคิดเลยว่าจะตัดผ่านได้ในเวลานี้"

หลังจากนั้นไม่นานนักพรตเฒ่าซือยี่ก็ได้ตื่นขึ้นจากการทำสมาธิพร้อมด้วยการแสดงออกถึงความขอบคุณในสายตาของเขาขณะที่มองไปที่ถังซิ่ว ก่อนที่จะหันไปมองที่เหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิง จากนั้นเขาก็พูดด้วยเสียงหัวเราะว่า

"ขอแสดงความยินดีกับท่านผู้เจริญทั้งสอง!"

เหมี่ยวเหวินถังหัวเราะแล้วตอบว่า

"เราควรจะพูดแบบเดียวกัน"

นักพรตเฒ่าซือยี่ตอบด้วยรอยยิ้มว่า

"ใช่ถ้าไม่ใช่เพราะคุณถังผู้เจริญแล้วละก็ พรตเฒ่าคนนี้ก็อาจจะไม่สามารถตัดผ่านได้ในระยะเวลาสั้นๆ อยากจะรู้จริงๆว่าคุณถังผู้เจริญนั้นบ่มเพาะวิชาแบบไหนกันถึงได้สร้างฉากที่หน้าอัศจรรย์แบบนี้ได้"

ในตอนเย็น…

พระอาทิตย์ได้ตกลงในขอบฟ้าทางทิศตะวันตก เนื่องจากพื้นผิวทะเลได้สะท้อนแสงจากท้องฟ้าสีแดงที่ขอบฟ้า อุณหภูมิที่ร้อนจัดในตอนกลางวันก็ค่อยๆลดลง ถังซิ่วผู้ซึ่งยังคงนั่งสมาธิได้ตื่นขึ้นมาจากการบ่มเพาะพลังของเขาพร้อมกับขนตาที่กำลังสั่นสะเทือน

"พวกนายทั้งสามคน ... "

ท่าทางที่สับสนฉับพลันได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของถังซิ่วหลังจากได้เห็นทั้งสามคนที่อยู่ใกล้ๆ

ร่างของเหมี่ยวเหวินถังได้เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆก่อนที่จะอยู่ตรงหน้าของถังซิ่วแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า

"เราได้บ่มเพาะพลังเสร็จแล้วและกำลังรอนาย จริงๆเราคิดว่านายจะใช้เวลาถึงหลายวันในการบ่มเพาะซะอีก ไม่คิดเลยว่าจะเสร็จไวขนาดนี้ "

ถังซิ่วลุกขึ้นและถามว่า

"มันเป็นการหลงอยู่ในห้วงความคิดและตระหนักได้ถึงบางสิ่ง ดังนั้นฉันจึงใช้เวลานานในการบ่มเพาะ เรามาถึงอาณาเขตมังกรแห่งความชั่วร้ายแล้วหรือยัง "

"ไม่!"

เหมี่ยวเหวินถังพูดในขณะที่ยิ้มอย่างฝืนๆออกมา

ถังซิ่วงงงวยและถามว่า

"ฉันฝึกมานานแค่ไหนแล้ว? ตอนนี้เย็นแล้ว เรายังไม่ถึงอาณาเขตมังกรแห่งความชั่วร้ายได้อย่างไร? นายไม่ได้บอกว่ามันอยู่ห่างออกไปเพียง1,000ไมล์ทะเลไม่ใช่? "

เหมี่ยวเหวินถังชี้ไปที่ทะเลขณะที่เขารู้สึกว่าตัวเองควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีแล้วอุทานออกมาว่า

"นายไม่เห็นหรือว่าเรือกำลังหยุดนิ่งอยู่กลางทะเล? ถ้านายไม่ได้บ่มเพาะพลังเสร็จในตอนนี้เนี่ย พวกเราสามคนก็กำลังที่จะส่งพวกลูกเรือที่เหลือกลับไปหมดแล้ว "

"เกิดอะไรขึ้น?"

ถังซิ่วไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นขณะที่เขาบ่มเพาะพลังอยู่

หลังจากนั้น ...

หลังจากที่ฟังคำบรรยายของเหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิง ถังซิ่วก็ตกตะลึงและมึนงงเนื่องจากอารมณ์ของเขาแปรปรวน เขาไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ทั่วโลกเช่นนี้

"อา! ใช่ ระดับการบ่มเพาะของฉัน! "

ถังซิ่วใช้พลังรับรู้ทางวิญญาณของเขาในการตรวจสภาพร่างกายของเขาทันที

ดวงดาวทั้งเก้าดวงสว่างขึ้นพร้อมกับแสงที่แพรวพราวอยู่ในจุดตันเทียนของเขา รอบๆดวงดาวเหล่านั้นมีหมอกสีเทารายล้อมอยู่นับไม่ถ้วนพร้อมกับพลังแห่งดวงดาราที่ไหลทะลักออกมาและเชื่อมโยงเส้นพลังทั้งหมดภายในร่างกายของเขาเอาไว้

นอกจากนี้

กระดูก เส้นเลือด อวัยวะภายในและกล้ามเนื้อของเขาได้รับการขัดเกลา ไม่ว่าจะเป็นความยืดหยุ่นหรือความแข็งแรงได้รับการปรับปรุงและก้าวกระโดดทั้งหมด มันราวกับว่าทุกส่วนของร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังที่ระเบิดได้ เขาเคยเป็นนิรันด์สูงสุดในดินแดนแห่งนิรันด์ดังนั้นเขาสามารถวัดระดับพลังของตัวเองได้อย่างแม่นยำ เขาแค่ขยับกำปั้นเบาๆและสามารถรับรู้ได้ถึงระดับความแข็งแกร่งที่เขาครอบครองอยู่ในขณะนี้โดยทันที

มันเป็น6,000ปอนด์! เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจความแข็งแกร่ง6,000ปอนด์นั้นหมายความว่าระดับพลังของเขานั้นเพิ่มขึ้นมาเท่าตัว เดิมทีเขาต้องบรรลุจุดสูงสุดของขั้นเสริมสร้างผิวหนังก่อนที่ความแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็น6,000 ปอนด์ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้นด้วยซ้ำแต่กลับมีพลังเทียบเท่ากับระดับนั้นแล้ว

"เมื่อตอนที่ฉันไปถึงขั้นเสริมสร้างผิวหนังแล้ว ระดับความแข็งแกร่งของฉันจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่กัน?"

ถังซิ่วแอบมองไปข้างหน้าและคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ภายในใจของเขา

หลังจากหนึ่งชั่วโมง

ทั้งสี่คนใช้อุปกรณ์GPSและพบลูกเรือทั้งหมดที่หิวโหยตลอดทั้งวันและพาพวกเขากลับมาที่เรือสินค้า พวกเขาไม่ได้อธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้และบอกพวกเขาเพียงว่าค่าตอบแทนของพวกเขาจะเพิ่มเป็นสองเท่าเมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นงานของพวกเขา

วันรุ่งขึ้นในตอนเย็น ...

เรือขนส่งสินค้าได้รีบแล่นไปที่อาณาเขตมังกรแห่งความชั่วร้ายและพบร่องทะเลขนาดเล็กที่อยู่ตรงกลางเกาะสามแห่ง แต่เพราะพวกเขาไม่รีบเร่งที่จะหาสัตว์อสูรในคืนนี้แต่กลับนั่งดื่มและกินกันอย่างเต็มที่ นั่นก็เพื่อรักษาความแข็งแรงและจิตวิญญาณพร้อมรอจนถึงพรุ่งนี้

ลมหนาวพัดไปขณะที่เงาของดวงจันทร์หมุนและเต้นอยู่บนฟ้า

ถังซิ่วยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือมองไปที่เกาะที่อยู่ห่างไปไม่ไกล มืด เขารู้สึกได้ถึงอันตรายภายในจิตใจ เขาไม่สามารถอธิบายความรู้สึกอันตรายนี้ได้อย่างชัดเจนว่าเป็นอย่างไร แต่มันมีอยู่จริง เขาสามารถบอกได้ว่าควรมีการดำรงอยู่ของสัตว์ที่น่ากลัวบนเกาะทั้งสามแห่งนี้และมันเป็นการดำรงอยู่ของสิ่งที่เขาไม่สามารถต่อต้านได้ ณ ตอนนี้

นอกจากนี้คือ

คนอื่นอาจจะไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความตายที่อยู่ใกล้ๆและมันก็ยิ่งแข็งแกร่งกว่าที่อื่นๆนั่นหมายความว่ามีสัตว์อสูรและผู้คนจำนวนมากตายที่นี่

"คุณถังผู้เจริญคิดว่าเกาะนี้เป็นอย่างไรบ้าง? "

พรตเฒ่าได้ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของถังซิ่วอย่างเงียบๆขณะที่เขาถามด้วยรอยยิ้ม

ถังซิ่วส่ายหัวและกล่าวว่า

"บางทีฉันอาจจะฝ่าเข้าไปในเกาะทั้ง3แห่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ตอนนี้ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากไปแต่ฉันไม่กล้าไปที่นั่น "

"ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้น?"

พรตเฒ่าถามกลับด้วยท่าทางสับสน

ถังซิ่วได้ตอบเขาว่า

"มีการวางค่ายกลฮวงจุ้ยบนเกาะทั้งสามเกาะนี้ ค่ายกลที่ถูกวางนี้มีความลึกซึ้งและใช้งานได้อย่างน่าอัศจรรย์ ถ้ามีคนลงบนเกาะเขาจะสบายดีตราบเท่าที่เขายังอยู่รอบๆแต่เมื่อเขาฝ่าลึกเข้าไป บางทีเขาอาจจะไม่สามารถกลับออกมาได้อีก "

"นั่นจริงหรือ?"

พรตเฒ่าที่วางแผนจะไปที่เกาะเพื่อล่าสัตว์อสูรนั้น หลังจากได้ยินคำพูดของถังซิ่วแล้ว ความรู้สึกของอันตรายได้ก่อตัวขึ้นในจิตใจของเขา เพราะยังไงทุกคนก็รู้ว่าถังซิ่วเป็นคนที่สามารถฝ่าเข้าไปในชั้นที่หกของค่ายกลพันโคจรได้ ซึ่งหมายความว่าความรู้ทางด้านค่ายกลของเขานั้นจะต้องชำนาญมากๆ ถ้าสิ่งที่ถังซิ่วได้พูดมาเป็นความจริง พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าไปในเกาะทั้งสามได้

"ใช่"

ถังซิ่วตอบอย่างสงบ

นักพรตเฒ่าซือยี่ได้เงียบไปเป็นระยะเวลานานก่อนที่เขาจะพูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นว่า

"ถ้าเป็นกรณีนี้ เราก็สามารถทำได้แค่เคลื่อนที่ไปรอบๆเกาะเท่านั้น ในความเป็นจริง ฉันนั้นได้รู้มาจากบันทึกโบราณว่าระดับสัตว์อสูรบนเกาะทั้งสามมีค่าสูงกว่าระดับสัตว์อสูรที่อยู่บริเวณรอบๆอย่างมาก "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด