ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 101
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 103

Returning From The Immortal World - 102


"ก๊อกก๊อก…"

เสียงเคาะประตูได้ขัดจังหวะการสนทนาของเหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิง พวกเขามองไปที่กันและกันอย่างงงงวยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา ใครกันที่มาเคาะช่วงกลางดึกแบบนี้?

"ถังซิ่ว นายยังไม่นอน? ”

เมื่อเหมี่ยวเหวินถังเปิดประตูก็ต้องรู้สึกประหลาดใจที่เห็นถังซิ่วยืนอยู่ข้างนอก

ถังซิ่วได้ตอบว่า

"มีบางอย่างที่ฉันต้องการจะถามนาย"

เหมี่ยวเหวินถังตอบด้วยรอยยิ้มว่า

"เข้ามาพูดคุยกันข้างในเถอะ!"

หลังจากนั้นไม่นานถังซิ่วได้นั่งอยู่ที่ด้านตรงข้ามของพวกเขาและพูดว่า

"พวกนายสองคนบอกฉันเกี่ยวกับสถานะของตัวเองหน่อยได้ไหม? เพราะยังไงพรุ่งนี้เราก็ต้องไปยังอาณาเขตมังกรแห่งความชั่วร้ายและต้องสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน ตอนนี้ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกนายสองคนเลย "

เหมี่ยวเหวินถังยิ้มและตอบว่า

"ฉันคือผู้นำตระกูลเหมี่ยวจากเมืองชิงไห่และยังเป็นประธานของเหมี่ยวกรุ๊ป ท่านอาจารย์ของฉันคือนักพรตเอิ้นฮุ้ยและเขาเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีมานี้และตอนนี้ฉันเป็นผู้บ่มเพาะเร่ร่อน "

เซ่าหมิงเซิงก็พูดต่อว่า

"ฉันเป็นคนที่วสบายๆและเป็นบริษัทร่วมทุน จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ฉันเป็นผู้ฝึกวิทธยายุทธแต่บังเอิญไปพบตำราโบราณเกี่ยวกับการบ่มเพาะพลังดังนั้นจึงได้ก้าวเข้ามาสู่เส้นทางบ่มเพาะนี้"

ถังซิ่วพยักหน้าและพูดว่า

"ฉันเป็นนักเรียนมัธยมและกำลังจะเข้าร่วมการทดสอบเข้ามหาวิทยาลัย สำหรับเส้นทางการบามเพาะพลังนั้นมันค่อนข้างซับซ้อนมากดังนั้นฉันจะบอกพวกนายในภายหลังเท่านั้น "

เมื่อได้ยินคำพูดของถังซิ่วนั้นทำให้ทั้งสองรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย อย่างไรก็ตามพวกเขาเป็นคนที่มีประสบการณ์และฉลาดพอที่จะไม่ไปสืบค้นต่อไป

ถังซิ่วได้อธิบายเกี่ยวกับเหตุผลที่เขาเข้ามารบกวนในเวลาดึกแบบนี้

"พวกนายได้อยู่ในสังคมนี้มาหลายปีแล้วและสถานะของพวกนายเองก็ยังไม่ธรรมดา ดังนั้นฉันอยากจะถามพวกนายเกี่ยวกับวิธีการจัดการเกาะส่วนตัวได้อย่างไร? "

"นี้…"

พวกเขามองไปที่กันและกัน แม้ว่าพวกเขาจะสถานะที่ไม่ธรรมดาแต่ก็ไม่มีเกาะส่วนตัว ดังนั้นพวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าการจัดการของเกาะส่วนตัวเป็นอย่างไร?

ถังซิ่วถามด้วยความตกตะลึงว่า

"พวกนายทั้งสองคนไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้?"

"ค๊อก,ค๊อก, ค๊อก!"

เหมี่ยวเหวินถังไอแห้งๆไม่กี่ครั้งในขณะที่เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่ฝืนๆว่า

"เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามผมคิดว่าการจัดการเกาะส่วนตัวไม่ควรจะเป็นปัญหาที่ยากลำบาก ปัจจุบันนี้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคนรวยที่จะจัดการกับสิ่งต่างๆ นายสามารถใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อพ่อบ้านมืออาชีพและปล่อยให้เขาจัดการทุกเรื่องบนเกาะนี้ "

"พ่อบ้าน?"

ถังซิ่วตบหน้าผากของเขาขณะที่เขายังถอนหายใจ

เขาเองก็มีพ่อบ้านที่ยอดเยี่ยมเมื่อครั้งที่ยังอยู่ในดินแดนแห่งนิรันด์ซึ่งติดตามเขามานานกว่า6,000ปี เรื่องส่วนใหญ่ภายในอาณาเขตของเขาก็ถูกจัดการโดยพ่อบ้านคนนั้น

สิ่งเดียวที่เหลือ

คือเกี่ยวกับผู้สมัคร ...

ถังซิ่วปวดหัวเป็นอย่างมาก การจ้างพ่อบ้านนั้นเป็นวิธีที่ถูกต้องแต่เขาจะหาคนที่ซื่อสัตย์และมีความสามารถได้ที่ไหน? ยิ่งไปกว่านั้นคือ ให้ไปอยู่บนเกาะที่โดดเดี่ยวในมหาสมุทรแปซิฟิก?

เมื่อมองไปที่การแสดงออกของถังซิ่วแล้ว เหมี่ยวเหวินถังก็เข้าใจความคิดของเขา ในขณะที่เขาถามต่อว่า

"หรือจะให้ฉันช่วยนายหา? พ่อบ้านจากอังกฤษนั้นดีที่สุด ตราบเท่าที่นายมีเงินพอ นายก็สามารถจ้างพ่อบ้านที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกได้ "

ถังซิ่วส่ายหัวและพูดว่า

"เอาล่ะเราจะลืมเรื่องนี้ไปก่อนและพูดถึงเรื่องนี้ในภายหลัง!"

วันถัดไป…

เรือสินค้าจอดทอดสมออยู่ที่ท่าเรือของเกาะจิงเหมินแล้ว เหมี่ยวเหวินถังเป็นคนจัดการเรื่องเรือบรรทุกสินค้านี้จากเส้นสายของเขาบนเกาะจิงเหมิน มันมีไว้สำหรับขนสัตว์อสูรเหล่านั้นนอกเหนือจากกลุ่มของถังซิ่วทั้งสี่คนแล้วก็มีเรือลูกเรือกว่าหนึ่งโหลและพ่อครัว2คนเท่านั้น

ท้องฟ้าแจ่มใสยามลมเย็นพัดเบาๆ

ถังซิ่วมาที่ท้ายเรือเพียงลำพังแล้วนั่งขัดสมาธิบนดาดฟ้า เขาบ่มเพาะวิชาเชื่อมต่อศิลปะแห่งสวรรค์ แม้ว่าจะเป็นเวลากลางวันนั้นเขาก็ยังสามารถดูดซับแสงดาวได้บางส่วน ดวงดาวทั้ง9ภายในตัวของเขาปล่อยแสงประกายระยิบระยับในขณะที่ดูดซับพลังของดวงดาว

"ฮะ?"

ในช่วงระหว่างการบ่มเพาะนั้น ท่าทางของถังซิ่วนั้นก็เปลี่ยนไป

ก่อนหน้านี้เขาพบว่าพลังงานของดาวที่เขาดูดกลืนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการพลังไฟแต่วันนี้ดวงอาทิตย์ส่องสว่างและพลังของดวงดาวที่เขาดูดกลืนส่วนใหญ่มาจากแสงดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นพลังของธาตุไฟ

"สวรรค์และโลกแบ่งออกเป็นหยินและหยางขณะที่จักรวาลถูกแบ่งออกเป็น 2 เสา”

"การผสมผสานของหยินและหยางเป็นดั่งการที่อัญมณีที่ยังไม่ได้ถูกเจียนั้นสมบูรณ์"

ความคิดนี้เกิดขึ้นภายในจิตใจของเขา พลังของดาวที่เขาดูดกลืนเข้าไปในร่างกายก็กลายเป็นเหมือนเปลวไฟที่ลุกขึ้นและน้ำที่กำลังถูกต้ม ดาวทั้งเก้าดวงเปลี่ยนเป็นรูปแบบของการสร้างหยินและหยางในขณะที่ช่วงต่อไปดวงดาวทั้งหมดลุกโชนขึ้นและเปลี่ยนแปลงไป

ดวงดาวเหล่านั้นกลายเป็นลักษณะคล้ายหมอกเมื่อดาวเก้าดวงรวมเข้าด้วยกันในขณะที่หมอกสีเทาเริ่มถูกปล่อยออกมา ถังซิ่วสามารถควบคุมกระแสการไหลเวียนหมอกนั้นได้อย่างรวดเร็วและไหลเวียนไปยังเส้นพลังของเขาทั่วร่างกาย

"ฟ่อ…"

ร่างกายของถังซิ่วสั่นอย่างรุนแรงขณะที่อาการเจ็บปวดทะลักออกมาจากเส้นพลังของเขา ช่องว่างระหว่างผิวหนังของเขาและเนื้อเยื่อบางๆได้ถูกฉีกขาดออกมาง่ายดาย พลังฉีได้ทะลักออกมาและซ่อมแซมช่องว่างนั้นได้อย่างง่ายดาย เนื้อเยื่อของเขาเริ่มฉีกขาดอีกครั้งแล้วจึงได้รับการซ่อมแซมเช่นกัน

กระบวนการนี้ดำเนินต่อไปอีกครั้ง!

เข้าวังวลที่ไม่มีที่สิ้นสุด!

ถังซิ่วไม่สามารถรับรู้ได้ถึงเวลาและได้ลืมทุกอย่างเกี่ยวกับทางโลก

เขาเคยได้รับความเจ็บปวดที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่เขากล้าที่จะบอกว่าเขาไม่เคยได้เจอกับความเจ็บปวดอันน่ากลัวเช่นนี้มาก่อน ความเจ็บปวดเริ่มต้นมาจากเส้นพลังของเขาและต่อด้วยเนื้อหนังและเลือด ความเจ็บปวดนั้นแผ่ซ่านไปทั่วทุกหนแห่งแม้กระทั่งดวงวิญญาณของเขาเอง

ดาวหลายพันดวงอยู่ในส่วนลึกของจักรวาลที่กว้างใหญ่ได้ผสานเข้าด้วยกันแม้กระทั่งดาวที่มีแสงเพียงสลัวๆ การก่อตัวของมันราวกับเป็นตาข่ายขนาดมหึมาที่ปล่อยพลังงานออกมานับไม่ถ้วนและกระจายไปสู่โลกด้วยความรวดเร็ว

“บูม ...”

ในขณะนี้ความสว่างของดวงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาก็สูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นหลายองศาในระยะเวลาอันสั้นเพียง7-8ลมหายใจ

"เกิดอะไรขึ้น?"

"เกิดอะไรขึ้น?"

ในทุกมุมโลกผู้คนนับร้อยล้านคนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยการแสดงออกที่งงงวยและสับสน

ในน่านน้ำตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ...

ในเรื่อสินค้าที่ถังซิ่วได้นั่งอยู่นั้น ลูกเรือและพ่อครัวทั้งหมดได้แสดงท่าทางที่สับสน คลื่นความร้อนที่ถูกส่งออกมานั้นได้ทำให้ร่ายกายของพวกเขาเริ่มท่วมไปด้วยเหงื่อ พวกเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าอุณหภูมิในสภาพแวดล้อมกำลังสูงขึ้น

"นี่มันอะไรกัน คลื่นความร้อนมรณะนี้?"

"อึศักดิ์สิทธิ์ นี่มันแปลกเกินไปแล้ว! เกิดอะไรขึ้นกันแน่?"

"มิเตอร์วัดอุณหภูมิถึง37 องศาแล้ว เวรเอ้ย อุณหภูมิยังคงเพิ่มขึ้น 38 องศา ... 39 องศา ... นี่เกิดอะไรขึ้น? เป็นไปได้ไหมว่านี่เป็นจุดจบของโลก? 40องศา ... "

(*หึหึ ลองมาประเทศไทยสิ)

"เราควรทำอย่างไร ยังเดินทางต่อไปยังทะเลหรือไม่ "

"เราต้องรอก่อน!"

“...”

ภายในห้องโดยสารของเรือ นักพรตซือยี่,เหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิงรีบพุ่งตัวออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ในตอนที่พวกเขามาถึงที่ดาดฟ้าและเงยหน้าขึ้นมองไปยังดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าสีครามนั้น มันทำให้เกิดความกลัวภายในใจของพวกเขา นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นดวงอาทิตย์ที่ใหญ่ขนาดนี้ และเป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้สึกว่าดวงอาทิตย์ผิดปกติเช่นนี้ มันก็เหมือนกับว่าคลื่นความร้อนที่ไหลออกมาจากฟากฟ้าทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น

"ความผันผวนของพลังฉี?"

ท่าทางของพวกเขาในขณะนั้นได้เปลี่ยนไป พวกเขาเป็นผู้บ่มเพาะพลังและสามารถรู้สึกพลังฉีในสภาพแวดล้อมได้ พวกเขารู้สึกว่าก้อนพลังงานขนาดใหญ่เกิดขึ้นและกำลังแห่เข้าหาด้านหลังของเรือ

"ไปกันเถอะ!"

เหมี่ยวเหวินถังตะโกนออกมาพร้อมร่างกายของเขาที่พุ่งไปทางท้ายเรืออย่างรวดเร็วในทันที

อย่างไรก็ตามคลื่นของความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อได้ถูกส่งออกมาทางสายตาของพวกเขาเมื่อมาถึงที่ดาดฟ้าทางท้ายเรือ สายตาที่ตกใจของพวกเขาถูกยึดแน่นอยู่กับถังซิ่ว

"หรือว่า ... มันเพราะเขา?"

ริมฝีปากของเหมี่ยวเหวินถังกระตุกและขดตัวราวกับว่าเขากำลังเห็นผีอยู่ในถังซิ่ว บางทีถ้าเป็นคนอื่น เขาแทบจะไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงนี้ได้ แต่คนที่สร้างปรากฏการณ์ดังกล่าวทั่วโลกกลายเป็นถังซิ่ว แม้ว่าเขาจะเป็นพยานด้วยตาตัวเอง แต่เขาก็ยังไม่สามารถที่จะยอมรับมันได้

ร่างของเซ่าหมิงเซิงสั่นขณะที่เขาแทบจะไม่สามารถควบคุมแขนของตัวเองได้และชี้ไปที่ด้านหลังของถังซิ่วแล้วตะโกนด้วยความไม่สมัครใจว่า

"ขะ เขา ... เขาทำได้อย่างไร? ฉากที่เห็นนี่ ... มันน่ากลัวเกินไปแล้ว?! อุณหภูมิยังคงเพิ่มขึ้นมันไม่ดีแล้ว เราสามารถทนต่ออุณหภูมินี้ได้แต่ลูกเรือไม่สามารถรับมันได้แน่นอน "

เหมี่ยวเหวินถังรู้สึกราวกับว่าได้ถูกปลุกขึ้นจากความฝัน เขารู้สึกว่า เขาต้องวิ่งไปหาถังซิ่วและหยุดเขา

“ไม่!”

ดวงตาของนักพรตเฒ่าซือยี่แว๊บวาบขณะที่เขาพุ่งออกมาเพื่อขวางทางเหมี่ยวเหวินถังทันทีและพูดด้วยเสียงต่ำว่า

"ห้ามรบกวนเขา นี่อาจเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับเขา พวกเราส่งลูกเรือไปก่อนแล้วค่อยกลับมา "

"นี้…"

เหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิงได้มองที่กันและกันพร้อมพยักหน้าอย่างเงียบๆขณะที่พวกเขาใช้การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วพุ่งเข้าไปในตัวห้องโดยสารของเรือ หลังจากรู้ว่าเรือมีเรือสำรองแล้ว พวกเขาก็นำลูกเรือและพ่อครัวไปที่เรือและแล่นเรือออกไปไกล

ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น

พวกเขาทั้งสามได้สวมเสื้อชูชีพพร้อมว่ายกลับมายังเรือ

"นักพรตเฒ่า ตอนนี้เราควรจะทำอะไร? อุณหภูมิของพื้นที่ที่ห่างออกไปนั้นไม่สูงเท่ากับที่นี่ แต่ก็เกือบจะ40องศาแล้ว อุณหภูมิอย่างต่ำของที่นี่ก็50องศาแล้วเช่นกัน ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ ฉันก็กลัวว่าเราจะไม่สามารถต้านทานมันได้เช่นกัน "

เหมี่ยวเหวินถังที่กำลังยืนอยู่บนดาดฟ้าห่างจากถังซิ่วประมาณ20เมตรได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น

"บ่มเพาะพลัง!"

ท่าทางของนักพรตเฒ่าเปลี่ยนไปขณะที่นิ้วมือชี้ไปที่ที่ว่างข้างหน้าและเดินไป

เหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิงขมวดคิ้ว

บ่มเพาะ? นั่งสมาธิที่นี่? ณ ตอนนี้เนี้ยนะ?

เรื่องตลกบ้าอะไรกัน?

นักพรตได้นั่งขัดสมาธิขณะที่พูดด้วยเสียงต่ำอย่างชัดเจนว่า

"พวกคุณสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่หนะ? พวกคุณต้องการที่จะเสียโอกาสที่จะบ่มเพาะพลังที่ดีเช่นนี้ไป ? อุณหภูมิที่นี่อาจจะสูงมากแต่เรายังสามารถทนมันได้ ไม่ใช่ว่าพวกคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เคยฝึกมานานหลายทศวรรษแล้วงั้นหรอ?หรือพวกคุณไม่สามารถรับรู้ถึงพลังฉีที่เข้มข้นในอากาศได้? "

ร่างกายของเหมี่ยวเหวินถังและเซ่าหมิงเซิงสั่นสะเทือนพร้อมกับปรากฏใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขขึ้น

ใช่แล้ว!

พวกเขารู้สึกได้ถึงพลังฉีที่เข้มข้นเป็นอย่างมาก ความเข้มข้นนี้จะทำให้พวกเขาบ่มเพาะพลังได้เร็วกว่าสถานที่อื่นๆถึง10เท่า!

“บ่มเพาะพลัง”

ทันทีที่พวกเขานั่งขัดสมาธิและเริ่มการบ่มเพาะ

สวรรค์ได้มอบโอกาสให้พวกเขาแล้วและพวกเขาไม่ต้องการที่จะพลาดมันไป พวกเขาเป็นอัจฉริยะในการบ่มเพาะและหลังจากที่ได้ท้าทายค่ายกลพันโคจรมาแล้วมันก็ทำประโยชน์กับพวกเขาอย่างมาก พวกเขาต้องการที่จะสงบสติและบ่มเพาะพลังเพื่อมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามระดับพลังของพวกเขาเอง

</div>

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด