ตอนที่แล้วNYSS บทที่ 1: เก้าหยางข้ามเวลา (ส่วนที่ 1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปNYSS บทที่ 3: ชายชราลึกลับ (ส่วนที่ 1)

NYSS บทที่ 2: เก้าหยางข้ามเวลา (ส่วนที่ 2)


NYSS บทที่ 2: เก้าหยางข้ามเวลา (ส่วนที่ 2)

 

มีบางอย่างอยู่ในแท่งน้ำแข็ง

 

หยางติงเทียนรีบไปดูใกล้ๆอย่างตื่นเต้น เขายังมองเห็นไม่ชัด นี่เป็นน้ำแข็งชิ้นเดียวที่เป็นสีฟ้าแทนที่จะเป็นน้ำแข็งใสเหมือนในถ้ำทั้งหมด แม้ว่าหยางติงเทียนได้ละลายน้ำแข็งส่วนใหญ่ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ชัดเจนพอที่จะมองผ่าน

 

หยางติงเทียนโอบรอบเสาและเริ่มสั่นสะท้าน เขาคงจะถูกแช่แข็งไปแล้วถ้าร่างเก้าหยางของเขาไม่ร้อนเหมือนเตาไฟ

 

เขารู้สึกหนาวขึ้นและหนาวขึ้นจนแทบจะทนไม่ไหว

 

เขากอดเสาน้ำแข็งไว้เช่นนั้นเพียงสองชั่วโมง หยุดพักเล็กน้อยทุกครึ่งชั่วโมง น้ำแข็งค่อยละลายทีละนิ้ว ขณะที่หยางติงเทียนเข้าใกล้แกนกลางมากขึ้น มันก็หนาวยิ่งขึ้น

 

หยางติงเตียนสั่นสะท้านอย่างต่อเนื่องหลังจากผ่านไปห้าชั่วโมง และเขาเกือบจะหน้ามืดไปชั่วขณะ เขาดื้อรั่นแม้จะว่าการกอดน้ำแข็งเป็นเวลานานเสี่ยงต่อชีวิต หยางติงเทียนเป็นคนแข็งแกร่ง และเขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าเขาจะบรรลุเป้าหมาย

 

"มีคนอยู่ข้างในงั้นเหรอ" หยางติงเทียนดีใจอย่างมาก ในที่สุดแท่งน้ำแข็งก็เกือบละลายหมดแล้วและมันก็ใสชัดเจน

 

มันเป็นเรื่องแปลกที่พบคนถูกแช่แข็งในถ้ำลึกพันเมตร

 

น้ำแข็งนั้นมีชายแก่ที่มีผมสีขาวมีเคราที่พันกันเหมือนวัชพืชอยู่ภายใน อายุที่แท้จริงของเขาดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ที่จะตัดสินได้จากภายใต้ริ้วรอยเหี่ยวย่นทั้งหมด เขาดูเหมือนขอทานแก่สกปรก แม้ว่าเสื้อผ้าของเขาจะไม่ขาด แต่มือที่โผล่ออกมาทั้งผอมและเหี่ยวแห้งเหมือนกิ่งไม้ที่ตายแล้ว เขามีกลิ่นอายที่มืดมน

 

หยางติงเทียนพบว่าช่างน่าผิดหวังที่บุคคลนี้อาจถูกแช่แข็งตายเป็นเวลานาน อีกทั้งเหตุผลที่เขาถูกผนึกในน้ำแข็งก็ยังไม่ทราบแน่ชัด

 

ในที่สุดหยางติงเทียนก็ตัดสินใจที่จะเอาชายชราออกมาจากน้ำแข็งแม้ว่าเขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้ในตอนนี้

 

หยางติงเทียนทนความหนาวเย็นที่แพร่กระจายลึกลงไปในกระดูกและกอดน้ำแข็งเย็นเยียบที่น่าหวาดหวั่นจนร่างกายของเขาเริ่มสั่นสะท้าน

 

ถึงตอนท้ายภารกิจการหลอมละลายนี้ก็ท้าทายการตัดสินใจของคนๆหนึ่งถึงระดับที่ความหนาวยะเยือกก็ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้อีกต่อไป ในที่สุดหยางติงเทียนก็ไม่สามารถยืนหยัดต่อไปจนเขาหน้ามืดเกือบเป็นลม

 

"แคร็กกก ... " ก่อนที่เขาจะเป็นลมก็มีเสียงแตกหัก น้ำแข็งชั้นสุดท้ายที่ปกคลุมร่างชายชราได้แตกกระจายอย่างสมบูรณ์จนกระทั่งแท่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ได้หายไป

 

ความหนาวเสียดกระดูกหายไปแล้วและหยางติงเทียนก็ค่อยๆฟื้นฟูความร้อนของเขาคืนมา สิ่งเดียวก็คือเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ในขณะนี้ หยางติงเทียนนอนอยู่บนชายชราอยู่อย่างนั้น กลิ่นของชายชราค่อนข้างเหม็น แม้ว่าจะไม่ได้เหม็นมาก แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้คนรู้สึกอึดอัด

 

ทันใดนั้น ชายชราที่อยู่ตรงหน้าของเขาก็ลืมตาขึ้น หยางติงเทียนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที

 

หรือเขาทำเป็นแกล้งตาย ไม่ใช่ว่าเขาตายไปแล้วหรอกหรือ

 

จากนั้นชายชราที่มืดหม่นนี้ก็ยื่นมือที่ผอมแห้งออกมาบีบคอของหยางติงเทียน เล็บยาวของเขาเหมือนมีดแหลมทิ่มเข้าไปในเส้นเลือดใหญ่ของหยางติงเทียน ดวงตาของเขาดูเย็นชาพ่ายแพ้ ขณะที่ใบหน้าชราของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาตะโกนอะไรบางอย่างใส่หยางติงเทียน

 

เสียงของเขาแหลมฟังเหมือนเสียงมีดขูดไปบนกำแพง อย่างไรก็ตามหยางติงเทียนก็ไม่อาจเข้าใจแม้เพียงสักคำที่เขาพูด นี่เป็นภาษาที่หยางติงเทียนไม่เคยเจอมาก่อน

 

ชายชรายิ่งโกรธเป็นอย่างมากเมื่อหยางติงเทียนไม่ตอบสนอง จากนั้นเขาก็พูดสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้อีกครั้ง แต่คราวนี้ฟังดูเหมือนว่าเขากำลังตั้งคำถามอย่างจริงจังกับหยางติงเทียน

 

“ผม ผมไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไร” หยางติงเทียนตอบ

 

หลังจากฟังคำตอบของหยางติงเทียนแล้วเขาก็รู้สึกตื่นเต้นและถามคำถามต่อไปเรื่อยๆ จากนั้นเขาก็ขยับใบหน้าชราและน่าเกลียดเข้ามาใกล้กับหยางติงเทียนและตั้งคำถามไม่หยุด ในเวลานั้นเล็บของเขาก็เจาะลึกเข้าไปในคอของหยางติงเทียน

 

หยางติงเทียนพลันรู้สึกเจ็บปวด เลือดสดไหลลงมาจากคอของเขา หยางติงเทียนใช้พลังงานในร่างหมดแล้วและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ในเวลานี้

 

จากนั้น ชายชราก็ถามอีกคำถาม

 

หยางติงเทียนยิ้มอย่างเจ็บปวดและกล่าวว่า “ผู้เฒ่า ผมไม่สามารถเข้าใจที่ท่านพูดได้เลยจริงๆ”

 

ชายชราโกรธขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งเกาะไปบนคอของหยางติงเทียนอีกครั้ง ทิ้งบาดแผลลึกที่เผยให้เห็นเนื้อของเขาและทำให้เลือดไหลไม่หยุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจากนั้นเขาก็ถามอะไรบางอย่างอีกครั้ง ซึ่งหยางติงเทียนก็ยังไม่อาจเข้าใจ

 

ชายชราโกรธยิ่งขึ้นกว่าเดิมในคราวนี้ เขาบีบคอหยางติงเทียนและถามเขาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบกว่าเดิม

 

แม้ว่าหยางติงเทียนจะไม่เข้าใจสิ่งที่ชายชราพูด แต่เขาก็สามารถเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพยายามแสดงออก หากเขายังคงปฏิเสธที่จะพูด เขาอาจถูกบีบคอจนตายได้

 

หยางติงเทียนพลันแสดงรอยยิ้มอันขื่นขม "ผมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยชีวิตคุณ แต่คุณกำลังบีบคอผมจนตาย ทำไมผมต้องทำอย่างนี้ด้วย”

 

ชายชรายังคงไม่เข้าใจสิ่งที่หยางติงเทียนพูด แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คำตอบที่เขาต้องการ เขาเปล่งเสียงหัวเราะโหดเหี้ยมแล้วใช้มือบีบคอของหยางติงเทียนให้แน่นขึ้น

 

หยางติงเทียนพยายามจะหายใจ ดวงตาของเขาถลนลิ้นจุกปาก เขาพยายามแทบตายเพื่อช่วยชีวิตชายชรา แต่ตอนนี้กลับถูกบีบคอให้ตาย เขาไม่มีแรงแม้จะเสียใจ

 

"ผมตายได้ แต่ไม่ใช่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจอธิบายได้ยามโกรธ” หยางติงเทียนจึงกัดฟัน โดยไม่ทราบว่ามีพลังมาจากไหน เขายกขาขึ้นและเตะอากาศไปมา

 

“ปัง…” เขาเตะโดนอกชายชรา

 

“แครก…” มีเสียงบางสิ่งแตกหักชัดเจน คล้ายกับเสียงเหยียบกิ่งไม้หัก มันเป็นเสียงกระดูกซี่โครงของชายชราที่เพิ่งหักจากการเตะ หยางติงเทียนไม่ได้แข็งแรงมากขนาดนั้น แต่กระดูกของชายชรานั้นบอบบางและแห้งเหี่ยวจนแตกง่ายจากการเตะ ดูเหมือนว่าชายชราจะใช้กำลังทั้งหมดเพื่อใช้ในการบีบคอหยางติงเทียน เมื่อเขาล้มลงจากการเตะ หยางติงเทียนก็เป็นอิสระ

 

หยางติงเทียนก้าวถอยหลังทันทีและรักษาระยะห่างให้ไกลจากชายชรา สุดท้ายเขาก็เอนตัวพิงกำแพงถ้ำ สูดหายใจลึก มองดูบาดแผลบนร่างกายและคอยจับตาดูชายชราที่น่ากลัวนั้น

 

เลือดจากบาดแผลหลายแห่งบนร่างกายของเขาหยุดไหล แต่ยังคงรู้สึกถึงความแสบร้อน อย่างไรก็ตามถ้ำมีขนาดเล็กเกินไป ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกหนีจากชายชราบ้าคลั่งได้อย่างเต็มที่

 

หยางติงเทียนหอบหายใจหนักขณะที่รวบรวมเรี่ยวแรง แต่ดวงตาของเขาไม่เคยทิ้งห่างไปจากชายชราที่อันตราย เขาจะไม่สุภาพอีกต่อไปถ้าชายชราทำร้ายเขาอีกครั้ง หยางติงเทียนคิด

 

แต่หลังจากที่ชายชราถูกหยางติงเทียนเตะ เขาก็พ่นเลือดสีแดงเข้มออกมาสองคำ เขาพยายามที่จะลุกขึ้นนั่งโดยใช้มือช่วย แต่ก็ล้มเหลวหลังจากพยายามมาหลายครั้ง อาจเป็นเพราะว่าอกเขาได้รับบาดเจ็บจากการเตะ

 

ดูเหมือนว่าเขาเพียงสามารถขยับมือได้เท่านั้น ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเขาจึงไม่สามารถลุกขึ้นนั่งได้ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน

 

หลังจากพยายามหลายครั้งชายชราก็ยังคงล้มเหลว เขาเริ่มโกรธและเริ่มกู่ร้อง เขาต่อยน้ำแข็งบนพื้นด้วยมืออย่างโกรธแค้น แผลบนหน้าอกของเขาแย่ลง เขาพ่นเลือดสีดำออกมาจากปาก จนทำให้มือและน้ำแข็งบนพื้นเปลี่ยนเป็นสีเลือดไปด้วย

 

จากนั้นเขาก็ยอมแพ้ นอนหงายลงไปบนน้ำแข็งและเริ่มตะโกนก้อง แน่นอนว่าหยางติงเทียนไม่สามารถเข้าใจได้ แต่มันฟังดูเต็มไปด้วยความเกลียดและความเศร้าจนหยางติงเทียนอดที่จะได้รับผลกระทบไปด้วยไม่ได้

 

"ชายชราคนนี้ก็น่าสงสารมากเช่นกัน" หยางติงเทียนรู้สึกเห็นใจ

 

ในที่สุดชายชราก็หยุดตะโกนและเพียงแค่นอนบนน้ำแข็งอย่างเงียบๆโดยไม่ส่งเสียงใดๆ กระดูกซี่โครงตรงหน้าอกที่หักคงจะเจาะเข้าไปในเลือดเนื้อเมื่อหน้าอกของเขาบวมขึ้น ตอนแรกชายชรายังคงหายใจสามารถเห็นหน้าอกของเขาขยับขึ้นลง จากนั้นดูเหมือนว่าสุดท้ายเขาก็หยุดหายใจ

 

แม้ว่าหยางติงเทียนจะรู้ว่าอันตรายแค่ไหน เขาก็ยังไม่อาจอดกลั้นได้ เขาเดินไปหาชายชราอย่างช้าๆ

 

หยางติงเทียนเตะแหย่ชายชราเบาๆจากระยะห่าง แต่ไม่มีการตอบสนองใดๆ ดังนั้นเขาจึงก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวและแตะชีพจรบริเวณคอของชายชรา ยังคงมีการเต้นของหัวใจ แต่ก็อ่อนแอมาก

 

หยางติงเทียนยกชายชราขึ้น และแกะกระดุมเสื้อเพื่อตรวจดูบาดแผลบนอก

 

กระดูกหน้าอกด้านขวาหักหลังจากถูกเตะ ซี่โครงหักสองซี่มองเห็นได้ชัดเจนในเมื่อเขาผอมเหมือนมนุษย์กิ่งไม้ที่มีเพียงผิวหนังปกคลุมกระดูกไว้เพียงหนึ่งชั้น กระดูกซี่โครงชิ้นหนึ่งแทงเข้าไปในเนื้อ และหน้าอกด้านขวาของเขาก็บวมขึ้นสองสามนิ้ว มันกลายเป็นสีเขียวม่วงดูน่ากลัว

 

หยางติงเทียนใช้ความรู้ด้านการปฐมพยาบาลที่มีเล็กน้อยช่วยชายชรา และแทบจะไม่สามารถจัดกระดูกหักได้ ตลอดกระบวนการทั้งหมดชายชราสั่นสะท้านหลายครั้งจากความเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นขึ้น

 

โชคดีที่ซี่โครงหักทั้งสองไม่ได้แตกเป็นเสี่ยงๆ อย่างไรก็ตามหยางติงเทียนก็มีเวลาไม่มากนักในการจัดกระดูกหักของอีกฝ่าย ในที่ที่มีแต่น้ำแข็งเย็นเยือกนี้หยางติงเทียนมีเหงื่อไหลหลั่ง

 

ทันใดนั้นดวงตาของหยางติงเทียนก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาบ้าง สิ่งที่เห็นก็คือเล็บยาวแหลมสองอันจ่อเข้าที่ตาของเขา ทันทีที่เขาขยับเล็กน้อยเล็บแหลมคมทั้งสองนี้ก็จะทิ่มเข้าไปในดวงตา ทำให้เขาตาบอดอย่างสิ้นเชิง

 

เขาไม่รู้ว่าชายชราตื่นขึ้นมาตอนไหน ทันทีที่เขาสบสายตากับหยางติงเทียนเขาก็หัวเราะอย่างโหดร้าย ซึ่งในขณะนี้เนื้อและเลือดของหยางติงเทียนก็ตกอยู่ภายใต้กรงเล็บนั้น เมื่อรวมกับใบหน้าที่โหดร้ายทารุณของชายชรา ก็ยิ่งทำให้น่ากลัวมากขึ้น

 

หยางติงเทียนรู้สึกกังวลมากจนต้องกลั้นหายใจ มองลงไป และจัดกระดูกของชายชราต่อไปราวกับว่าไม่รู้ว่าชายชรากำลังจะทำให้เขาตาบอด

 

อย่างไรก็ตามในเวลานั้นมือทั้งสองของเขาก็สั่นสะท้าน หยางติงเทียนสูดลมหายใจลึกๆ และจัดกระดูกที่หักของชายชราต่อไปอีกครั้งยามเมื่อมือของเขาหยุดสั่น

 

เขาไม่ได้รับอะไรตอบแทนจากการกระทำนั้น แต่ชายชรากลับเย้ยหยันเขาราวกับจะหัวเราะเยาะความเจ้าเล่ห์ของหยางติงเทียน

 

ถึงกระนั้นหยางติงเทียนก็ทำเป็นเพิกเฉยต่ออีกฝ่ายและปฏิบัติต่อชายชราอย่างระมัดระวัง

 

เล็บแหลมของชายชราค่อยเจาะเข้าไปในเนื้อของหยางติงเตียนดุจมีดคมกริบแทงเข้าไปทีละมิลลิเมตร

 

เล็บได้เจาะทะลุเข้าไปเกือบหนึ่งเซนติเมตร เจาะผ่านผิวหนังชั้นนอก อีกไม่นานก็จะทะลวงไปถึงดวงตาของหยางติงเทียน

 

หยางติงเทียนกำหมัดขวา และในขณะที่กำลังจะชกลงไปที่กระดูกหักของชายชราให้แทงทะลุหัวใจเพื่อฆ่าเขาสักครั้งเป็นครั้งสุดท้าย

 

อย่างไรก็ตามชายชราพลันหยุดและดึงเล็บออกจากดวงตาของหยางติงเทียน หลับตาและปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับหยางติงเทียน

 

หยางติงเทียนสูดลมหายใจลึกเนิ่นนาน สงบใจลง และรักษาชายชราต่อไป

 

สุดท้ายหลังจากที่รักษาซี่โครงหักเสร็จแล้ว หยางติงเทียนก็เอาเสื้อของอีกฝ่ายพันแผลอย่างระมัดระวัง แม้ว่าอาจจะไม่นุ่มนวลต่อแผลนัก แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นเพราะไม่มีแผ่นไม้แม้แต่ชิ้นเดียวในถ้ำ

 

หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว หยางติงเทียนก็ทิ้งระยะห่างจากชายชราอีกครั้ง เขานั่งลงชิดผนังถ้ำห่างไกลออกไป

 

สำหรับชายชราที่อันตรายนั้น ดวงตาของเขาปิดสนิทและไม่ขยับเขยื้อน

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด