NYSS บทที่ 1: เก้าหยางข้ามเวลา (ส่วนที่ 1)
NYSS บทที่ 1: เก้าหยางข้ามเวลา (ส่วนที่ 1)
“ผมอยู่ไหน ไม่ได้ถูกเผาจนตายหรอกหรือ”
หยางติงเทียนพบตัวเองตกอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคยอย่างสิ้นเชิง เขาอยู่ภายในถ้ำ ถ้ำที่ลึกมาก น้ำแข็งเกาะตัวเป็นผลึกปกคลุมทั่วทุกตารางนิ้ว
เขาอยู่ในหอพักอาจารย์หญิงในมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่สองสามนาทีก่อน กำลังมีสัมพันธ์รักกับแฟนสาวสุดเร่าร้อน หลี่ปี้จวินซึ่งเป็นอาจารย์อยู่ที่นั่น เมื่อพวกเขาถึงจุดสุดยอด ทั่วทั้งร่างของเขาก็เดือดพล่าน แผดเผา และเขาก็สิ้นสติไปจากความเจ็บปวดแสนสาหัส
ยามเมื่อเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็อยู่ในถ้ำประหลาดนี้แล้ว
หยางติงเทียนย่างเข้ายี่สิบปีนี้และเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สอง พ่อของเขาเป็นแฟนตัวยงของกิมย้ง ดังนั้นเขาจึงได้ชื่อที่ก้าวร้าวเป็น หยางติงเทียน
(หมายเหตุผู้แปลภาษาอังกฤษ กิมย้งเป็นนักประพันธ์ชาวจีน นิยายกำลังภายในของเขาเป็นที่โด่งดัง ส่วนชื่อหยางติงเทียนนั้น คำว่าติงเทียน แปลอย่างง่ายๆว่า “ท้าทายสวรรค์” หรือ “เหนือสวรรค์” ซึ่งถือว่าค่อนข้างโอหังในความหมายของจีน ความหมายอีกอย่างของคำว่า “ติง” ก็คือ “ตั้งโด่” ซึ่งทำให้กลายเป็นอีกความหมายเชิงลามก…”)
เขาเป็นคนที่หล่อเหลาฉลาดอ่อนไหวใจดีและเกเรเล็กน้อย ความแข็งแกร่งของเขามาจากไฟหยางอันรุนแรงในตัว ตั้งแต่ยังเด็กเขาไม่เคยกลัวความหนาวเย็นและสามารถทนอุณหภูมิได้ต่ำกว่าสิบองศาเซลเซียสในเสื้อเชิ้ต เขาไม่เคยอ้วนเลยไม่ว่าจะกินมากแค่ไหนและเป็นคนกินจุมาก
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ถึงกระนั้นพ่อแม่ของเขาก็พาไปหาหมอนับไม่ถ้วน และก็ได้ข้อสรุปเดียวกันว่า แม้ว่าน้ำหนักจะน้อยไปบ้าง แต่เขาก็มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี
เมื่อตอนที่อายุได้แปดขวบ มีนักบวชลัทธิเต๋าที่ท่องเที่ยวไปทางตะวันตกมาพบกับหยางติงเทียนเข้า เขากล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “อาตมาไม่เคยคิดเลยว่าร่างเก้าหยางในตำนานมีอยู่จริง”
นักบวชบอกหยางติงเทียนว่าไฟหยางในร่างเก้าหยางของเขามีมากกว่าคนอื่นหลายเท่า ทำให้เขาไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์หรือแม้แต่ช่วยตัวเองได้ และถึงแม้ว่าเขาจะละเว้นจากกิจกรรมทางเพศทั้งหมดหยางไฟของเขาก็ยังจะกลืนกินเขาก่อนที่เขาจะมีอายุครบยี่สิบห้า
ครอบครัวของหยางติงเทียนเชื่อว่าคำพูดของนักบวชลัทธิเต๋าเป็นคำโกหก ดังนั้นพวกเขาจึงเลิกให้ความสนใจ
หยางติงเทียนเริ่มตระหนักว่าทุกสิ่งกำลังแย่ลงเมื่อเขาเข้าสู่วัยหนุ่ม เมื่อใดก็ตามที่เขาเกิดความใคร่ในหญิงสาว ไม่ว่าจะเป็นชีวิตจริง ภาพถ่ายหรือวิดีโอ เปลวไฟที่รุนแรงก็จะแผดเผาภายในตัวเขาและอุณหภูมิร่างกายของเขาจะพุ่งพรวด
และสถานการณ์ก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อหยางติงเทียนอายุได้ 18 ปีเขานัดพบหญิงสาวและเพียงสัมผัสเบาๆเพียงครั้งเดียว เขาก็เป็นลมและมีไข้สูงถึง 42 องศาในเวลาไม่กี่นาที แฟนสาวของเขาหวาดกลัวจนกรีดร้องเรียกรถพยาบาลมาช่วยชีวิตเขาได้อย่างหวุดหวิด
จากนั้นหยางติงเทียนก็นึกถึงคำของนักบวชลัทธิเต๋า ที่เตือนเขาไม่ให้มีกิจกรรมทางเพศ
ความพยายามในการสำเร็จความใคร่ครั้งแรกของเขาพิสูจน์ว่านักบวชน่าจะพูดความจริง
หยางติงเทียนไม่เคยพยายามมีเพศสัมพันธ์มาก่อนถึงอายุยี่สิบ เขาไม่อาจทนได้อีกต่อไป แฟนสาวของเขาเซ็กซี่มากจนทำให้เขาลืมการป้องกันตัว ในคืนวันเกิดของเขา ในที่สุดเธอก็สามารถผ่านปราการด่านสุดท้ายของเขาด้วยความช่วยเหลือจากแอลกอฮอล์ ยาเสพติด สิ่งวาบหวามและความต้องการทางเพศ พวกเขาเริ่มมีเพศสัมพันธ์อันรุ่มร้อนกันบนเตียง
ผลพิสูจน์ว่านักบวชลัทธิเต๋าพูดถูก หยางติงเทียนซึ่งครอบครองร่างเก้าหยาง ได้ลุกไหม้ขึ้นขณะที่เขาพยายามใกล้ชิดทางกายภาพ พ่อของเขาราวกับสามารถทำนายอนาคตได้ เมื่อเขาตั้งชื่อลูกชายว่า หยางติงเทียน สมกับคำว่า หยาง ... ติงเทียนจริงๆ
(ปลจากผู้แปลอังกฤษ มีความหมายว่า ไปสวรรค์)
เมื่อหยางติงเทียนถูกเผาผลาญจนสิ้นซาก สิ้นสติและตกอยู่ในความมืดไม่รู้จบ เขาก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยอย่างสิ้นเชิง เขาอยู่ลึกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง
"นี่มันสถานที่บ้าอะไรกัน" หยางติงเทียนใจหายเล็กน้อย เขาไม่อยากเชื่อว่าตนเองจะรู้สึกหนาวได้จริงๆ เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าความหนาวเป็นอย่างไร และเขาก็รู้แล้ว
"นี่อาจเป็นถ้ำขั้วโลก" หยางติงเทียนถามตัวเอง มันเป็นเหมือนขั้วโลกเหนืออย่างแท้จริง เพราะเขาไม่เคยรู้สึกหนาวแม้จะอยู่ในอุณหภูมิต่ำถึงลบยี่สิบถึงสามสิบองศาในบ้านเกิดที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ นี่จะต้องอย่างน้อยลบห้าสิบถึงหกสิบองศา
หยางติงเทียนลุกขึ้นยืนร่างเปลือยเปล่าขณะที่เริ่มสำรวจถ้ำ เขาไม่อาจเข้าใจในสิ่งที่อธิบายไม่ได้ว่าทำไมเขาจึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่แทนที่จะถูกแผดเผาจนตาย ไม่แน่ว่าเขาอาจจะแข็งตัวตายในเวลาเพียงไม่กี่นาทีถ้าเขาไม่ได้ครอบครองร่างเก้าหยาง
ถ้ำดูลึกอย่างสิ้นหวัง มีเพียงเศษเสี้ยวของท้องฟ้าที่มองเห็นได้ มันคงสดใสอยู่ข้างนอก ลำแสงส่องผ่านช่องเปิดเล็ก ๆ และสะท้อนออกจากน้ำแข็งส่องสว่างทั่วทั้งถ้ำ
หยางติงเทียนสามารถบอกได้ว่าถ้ำแห่งนี้มีความลึกไม่ต่ำกว่าพันเมตร ผนังที่ราบเรียบตั้งชันจนเป็นไปไม่ได้ที่จะทำการไต่ขึ้นไปหากไม่มีเครื่องมือ
ก้นถ้ำนั้นมีพื้นที่ประมาณหนึ่งร้อยตารางเมตร เป็นสิ่งที่หยางติงเทียนสามารถสำรวจได้อย่างง่ายดายแค่ไม่กี่ก้าว เขาพยายามค้นหาทางออกหรือประตูลับ แต่เขากลับพบแต่เพียงน้ำแข็งเท่านั้นหลังจากค้นหาเป็นเวลานาน ไม่มีอะไรอยู่ใต้ผนังหรือใต้พื้นน้ำแข็ง ไม่แม้แต่ก้อนหินหรือดิน มีเพียงแต่น้ำแข็งเท่านั้น
"โอ้พระเจ้า! ผมจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง สถานที่น่ากลัวนี้ไม่มีแม้แต่อาหาร ผมคงต้องอดตายในอีกไม่กี่วัน" หยางติงเทียนนั่งลงบนน้ำแข็งอย่างไม่ใส่ใจ เขาไม่มีโทรศัพท์มือถือเพราะว่าเปลือย อาจจะไม่มีสัญญาณด้วยซ้ำแม้ว่าเขาจะมี
เขายืนขึ้นอีกครั้งไม่นานนักและตะโกนขึ้นไปบนฟ้า “ใครก็ได้ช่วยด้วย มีใครอยู่ด้านนั้นบ้างไหม”
หยางติงเทียนตะโกนหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีแม้แต่สัตว์ที่จะปรากฏตัวที่ปากหลุม
เขานั่งลงบนแท่งน้ำแข็งอีกครั้ง
"ผมสงสัยว่าปี้เจินจะเป็นอย่างไรในตอนนี้ เธอถูกเผาไปพร้อมกับผมไหมนะ" หยางติงเทียนนึกถึงแฟนสาวที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษด้วยความเสียใจ
ต่อมาเขาก็ลังเลว่าจะสำรวจถ้ำอีกครั้ง เพราะสงสัยว่าปี้เจินถูกย้ายมากับเขาหรือไม่
แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ปี้เจินจะอยู่ที่นี่เพราะว่าถ้ำว่างเปล่า
"พ่อ ดูที่ชื่อสืบสกุลที่พ่อตั้งให้ มันช่างเหลือเกินจนรับไม่ไหว" หยางติงเทียนคิดถึงพ่อ แฟนตัวยงของกิมย้ง เช่นเดียวกับแม่ที่ไร้เหตุผลและเข้มงวดของเขา พวกเขาคงได้ยินว่าเขาตายแล้ว เขาสงสัยว่าพวกเขาจะเศร้าแค่ไหน
เขามองย้อนกลับจากหลุมสู่ท้องฟ้าและถอนหายใจ "ฉันจะออกจากถ้ำที่น่ากลัวนี้ได้อย่างไร"
ทันใดนั้นเขาก็ตื่นตา ดวงอาทิตย์มาถึงเหนือถ้ำและมันทำให้เขาต้องหลี่วตา
หยางติงเทียนลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวแข็งด้วยความตกใจ สิ่งที่เขาเห็นนั้นช่างน่าหวาดหวั่นยิ่งนักจนเขาล้มนั่งก้นจ้ำเบ้า
มีดวงอาทิตย์สองดวงบนท้องฟ้า มีอาทิตย์สองดวงจริงๆ
หยางติงเทียนคิดว่าเขาเห็นผิดหรือเห็นภาพหลอน เขาขยี้ตาอย่างหนักเพื่อทำให้มันชัดเจน
ไม่มีข้อผิดพลาด มีดวงอาทิตย์สองดวง หนึ่งดวงมีขนาดใหญ่กว่าขณะที่อีกหนึ่งดวงก็สว่างกว่าอย่างเห็นได้ชัด
"โอ้พระเจ้า! นี่ไม่ใช่โลก โลกมีดวงอาทิตย์เพียงดวงเดียว แต่นี่กลับมีอยู่สองดวง ท-ที่นี่เป็นนรกขุมไหนกัน โลกมนุษย์ต่างดาว หรือต่างโลก”
"ผมกระโดดข้ามเวลาหรือ ผมกระโดดข้ามเวลาและอวกาศจริงหรือ"
หยางติงเทียนทรุดตัวลงนั่งบนน้ำแข็งอีกครั้ง เขารู้สึกว่าโลกหมุนรอบจนเหมือนกับว่าเขากำลังจะเป็นลม
คนอื่นถูกย้ายข้ามมิติจากไฟฟ้าช็อต ภัยพิบัติ ถูกฟ้าผ่าหรืออยู่ในเครื่องบินตก ซึ่งเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยที่สุดจากการย้ายข้มมิติ มีเพียงเขาหยางติงเทียนเท่านั้นที่เกือบจะถูกเผาจนเกือบตายจนกระโจนผ่านช่วงเวลาขณะที่กำลังมีเพศสัมพันธ์ วิธีการเดินทางข้ามเวลานี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
"พ่อดูชื่อสืบสกุลที่พ่อตั้งให้กับลูกชาย หยางติงเทียน ชื่อที่โอหังเหลือเกิน ผมไม่มีโชคมากพอที่จะสนุกไปกับชื่อนี้ ทั้งมันยังส่งผมไปยังอีกโลก
********************
“ลาก่อน พ่อและแม่ ลาก่อนเพื่อนฝูง และลาก่อนโลก”
“พ่อกับแม่อย่าเสียใจไปเลย พวกท่านยังคงอายุน้อย บางทีพวกท่านยังคงสามารถมีลูกได้อีก”
“ปี้เจิน คุณอาจจะถูกเผาไปพร้อมกับผม ดังนั้นเราควรถือว่าเป็นคู่รักที่ตกตายร่วมกันในกองไฟ”
หยางติงเทียนยืนพิงเสาน้ำแข็งตรงกลางถ้ำ และในที่สุดก็ยอมรับความจริงที่ว่าเขากระโดดข้ามเวลาและมาถึงในโลกที่แตกต่างเขาระงับน้ำตาไว้ในขณะที่เขารำลึกถึงอดีตที่ผ่านมา
"ไม่ ผมไม่สามารถเสียใจเช่นนี้อีกต่อไป นักเดินทางข้ามเวลาในนวนิยายต่างประสบความสำเร็จอย่างสูง ผมต้องไม่ตายเพราะอดอาหารหลังจากกระโจนข้ามกาลเวลา" หยางติงเทียนยืนขึ้น เขาต้องการหาทางออก
ในท้ายที่สุดเขาก็ต้องดิ้นรนอยู่หลายชั่วโมงและล้มเหลวในการไต่กำแพงแม้จะเพียงครึ่งเมตร น้ำแข็งลื่นเกินไปและยากเกินไป ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ เขามองหาทางออกอีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ก็ไม่แตกต่างกัน
ความตระหนกและความเศร้าจากสองสามชั่วโมงที่ผ่านมาควบคู่กับการดิ้นรนทำให้เขาหมดแรง เขากลับไปยังตรงกลางถ้ำและพิงกับแท่งน้ำแข็งอีกครั้ง พักผ่อนในขณะที่คิดว่าจะออกไปอย่างไร
เขาวางแผนที่จะพักสักครู่ แต่เขาก็ผล็อยหลับไป
ช่างโชคดีที่เขามีร่างเก้าหยางที่หายาก เขาสะสมไฟหยางในร่างกายของเขาเกือบยี่สิบปีและมีเพียงส่วนน้อยที่รั่วไหลออกมาขณะมีเพศสัมพันธ์กับหลี่ปี้จินตอนอยู่บนโลก เขาแทบจะไม่รู้สึกหนาวขณะที่เขานอนเปลือยกายอยู่ในถ้ำหนาวเหน็บ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะถูกแช่แข็ง
ความหิวปลุกหยางติงเทียนตื่นไม่นานหลังจากนั้น ร่างกายของเขาต้องการอาหารมากกว่าของคนทั่วไปและมันก็ทนทุกข์ทรมานมากหลังจากผ่านไปหลายสิบชั่วโมงโดยไม่กิน
เพียงน้ำแข็งเท่านั้นในนรกนี้ ไม่มีอาหาร
หยางติงเทียนยืนขึ้นอีกครั้งและพบว่าดวงอาทิตย์สองดวงปรากฏขึ้นปากหลุมเหนือถ้ำ เขานอนหลับไปอย่างน้อยหนึ่งวัน แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่านานแค่ไหนในโลกนี้
หลังจากยืนขึ้นหยางติงเทียนก็สังเกตว่าแท่งน้ำแข็งด้านหลังเขาแตกต่างไปเล็กน้อย
ร่างกายที่เหมือนเตาของเขาได้ละลายน้ำแข็งไปเกือบหมดในเวลาสิบชั่วโมงที่เขานอนใกล้มัน
เขาไม่แปลกใจเลย แท่งน้ำแข็งสีฟ้าดูใสมากขึ้นเมื่อมันหลอมเหลวและดูเหมือนจะมีบางอย่างอยู่ข้างใน
มีบางอย่างอยู่ในแท่งน้ำแข็ง