ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0286 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0288 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0287 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 287 : เข้าเมืองสัตว์อสูรอีกครั้ง

กลางดึก ฉินหยุนวิ่งอยู่กลางอากาศ เขายังคงใช้ก้าวอัคคีเมฆาอย่างต่อเนื่อง

แม้มีวิชาตัวเบาระดับโลกาอย่างก้าวดาราเร้นลับ กระนั้นเขาไม่อาจหาผู้อื่นช่วยชี้แนะ ทั้งยังไม่กล้าฝึกฝนมันโดยบุ่มบ่าม มันทำเอาเขาต้องปวดใจไม่น้อย

“อาจารย์หยางน่าจะรู้เรื่องการฝึกฝนวิชาระดับโลกา หวังว่าจะมีโอกาสได้พบอาจารย์เพื่อได้สอนแก่เราสักครั้ง!” ฉินหยุนสามารถใช้ก้าวอัคคีเมฆาถึงขั้นสมบูรณ์แบบได้แล้ว ทว่ามันยังต้องใช้พลังภายในเพื่อใช้งาน แม้ความเร็วค่อนข้างเร็ว แต่มันก็ต้องใช้พลังจำนวนมากตามไปด้วย

เขารู้สึกว่า หากเชี่ยวชาญวิชาตัวเบาระดับสูงยิ่งกว่า ด้วยพละกำลังระดับเขาตอนนี้ สมควรรวดเร็วได้มากกว่านี้

หากไม่ใช่ความจริงที่ว่า เขาได้รับวิชาตัวเบาระดับโลกาอย่างก้าวดาราเร้นลับ เขาคงหาวิชาตัวเบาอื่นมาใช้งานแทนไปแล้ว

ระหว่างนครราชาปีศาจและเมืองอี้ค่อนข้างห่างไกล นอกจากนี้ ฉินหยุนยังต้องระแวดระวังยิ่งในช่วงเวลากลางวัน ทำให้ยิ่งต้องใช้เวลาเดินทางยาวนานมากขึ้น

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ฉินหยุนไม่คิดกล้าไปไหนมาไหนช่วงเวลากลางวัน ทว่าตอนนี้เขาคือผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า เขาค่อยวางใจต่อหลายเรื่องราวได้มากขึ้น

นอกจากนี้ เขายังมีโมโมร่วมทางไปด้วย ทำให้สามารถรับรู้ถึงสัตว์อสูรที่อยู่ไกลออกไปได้โดยง่าย

“โมโม เจ้าสามารถเห็นเส้นมืดและจดจำเส้นมืดเหล่านั้น รวมถึงเส้นสว่างด้วยใช่หรือไม่?” ฉินหยุนยังคงไม่เชื่อ เรื่องนี้เกินกว่าจะเชื่อได้จริง ๆ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เส้นมืดไม่เคยถูกทะลวงผ่านไปได้ ไม่เช่นนั้นคงได้เกิดความโกลาหลขึ้นไปนานแล้ว

“แน่นอนว่าจริง หากไม่ใช่เพราะต้องใช้พลังงานมหาศาล ข้าสามารถทดสอบให้ท่านพิสูจน์ได้ ทว่าหลังข้าทดลองดู จะกลายเป็นหิวยิ่ง และจำเป็นต้องกิน ดีที่สุดคืออย่าได้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ พี่หยุนไม่อาจหาอาหารให้ข้าได้มากมายสิ้นเปลืองเพียงนั้น” นางเอ่ยคำเสียงเบา ภูติอสูรตอนนี้ซ่อนตัวในเสื้อฉินหยุน เผยออกมาก็แค่ศีรษะเล็กจ้อยเท่านั้น

ฉินหยุนวิ่งอย่างลื่นไหล ดังนั้นเขาจึงหาได้รู้สึกไม่สบายอันใดไม่ที่ภูติอสูรซุกตัวซ่อนอยู่ในเสื้อ

“หากเจ้าต้องการเห็นเส้นมืดที่ซับซ้อนมากขึ้น ก็ต้องใช้พลังงานมากขึ้น?” ฉินหยุนเอ่ยถามซ้ำ

“เป็นเช่นนั้น หากมีเส้นมืดจำนวนหลายชุด ข้าก็ยิ่งต้องใช้ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรมากขึ้น” กล่าวคำจบ เสียงของนางยิ่งเล็กค่อยเบา กล่าวด้วยความกระดากใจ “เป็นไปได้ว่า ข้าอาจกินไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรที่ท่านสะสมไว้ทั้งหมดในคราวเดียว!”

ฉินหยุนตอนนี้สะสมไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรเอาไว้จำนวนหนึ่ง หากภูติอสูรกินตามปกติ คงอยู่ได้ราวครึ่งปีเลยทีเดียว

“หากเป็นไปได้ ไม่ว่าจะต้องใช้ไข่ผลึกแก้สัตว์อสูรสักกี่ใบ มันก็ยังคุ้มค่า!” ฉินหยุนตื่นเต้นไม่น้อยยามนึกถึงปืนใหญ่ราชันวิญญาณ

กระทั่งว่าต้องใช้ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรสิบฟอง ก็ไม่ใช่ง่ายได้รับอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันเช่นนั้น! นอกจากนี้แล้ว มันยังเป็นอาวุธวิญญาณระดับราชันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างยิ่ง

ย้อนกลับไปตอนนั้น ฉินหยุนเพียงแค่ผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด เขาสามารถใช้ปืนใหญ่ราชันวิญญาณจัดการโค่นล้มสัตว์อสูรระดับวิญญาณได้ด้วยซ้ำ

“พี่หยุน เป็นท่านพบเจออุปกรณ์วิญญาณที่วิเศษมากชิ้นหนึ่ง แล้วคิดอยากครอบครองใช่หรือไม่?” โมโมหัวเราะกล่าวออก

“ฉลาดนัก! อาวุธวิญญาณนั้นทรงพลังมาก หากข้าสามารถได้รับมันจริง เช่นนั้นพวกเราจะสามารถได้รับไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรอีกมากในภายหน้า ทั้งยังจะง่ายดายขึ้นมากด้วย!” ฉินหยุนมั่นใจมาก อย่างไรแล้ว ยันต์สะกดกายของเขาก็นับว่าน่าสะพรึงระดับหนึ่งแล้ว เพราะมันมีอำนาจสะกดสัตว์อสูรระดับวิญญาณได้

โมโมหัวเราะเบา “วิเศษเลย! ถึงตอนนั้น ข้าจะจดจำเส้นมืดให้ดี จะได้ให้พี่หยุนขัดเกลาอาวุธวิญญาณที่ทรงพลังขึ้นได้!”

ฉินหยุนเองก็คิดอยากพิเคราะห์ปืนใหญ่ราชันวิญญาณเสียเดี๋ยวนี้ ทว่าเรื่องราวไม่ง่าย วัสดุและผังจารึกยังคงเป็นปัญหาอยู่ดี

ขั้นแรกเขาวางแผนคิดขัดเกลาอาวุธวิญญาณระดับสูงหรือชั้นเลิศขึ้นมาก่อนแม้ได้รับผังจารึกจากปืนใหญ่ราชันวิญญาณก็ตามที

ตอนนี้ อาวุธวิญญาณชั้นเลิศก็ถือว่าขัดเกลาได้ยากยิ่งแล้ว สาเหตุหลักก็เพราะ พลังจิตของเขาเป็นตัวขัดขวางความก้าวหน้า

ด้วยขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า และยังได้เป็นอาจารย์จารึกระดับสูง นอกจากนี้ยังสามารถทำยันต์ที่คุณภาพสูงที่สุดออกมาได้ นั่นก็ถือว่าเป็นขีดสุดเท่าที่สามารถทำได้แล้ว

อาจารย์จารึกระดับสูงเฒ่าชราหลายท่าน ใช้เวลามาตลอดชั่วชีวิต ยังยากที่จะแข็งแกร่งได้เหนือกว่าเขา

หลังเดินทางอยู่สามวัน ในที่สุดฉินหยุนค่อยเห็นซากปรักหักพังขนาดใหญ่ ตอนนี้เขาอยู่บริเวณนอกเมืองอี้แล้ว

ถนนหนทางด้านหน้าถือว่าอันตรายยิ่ง!

“เมืองที่เคยใหญ่โต อาคารสิ่งปลูกสร้างสูงหลายชั้น บ้านใหญ่โต ทั้งหมดล้วนถูกทำลายโดยพวกสัตว์อสูร!” โมโมเบิกดวงตาสีเขียวเข้มออกกว้างขณะจ้องมองภาพซากปรักหักพังอันตระการตา

โมโมตอนนี้เปี่ยมด้วยความสงสัย ทั้งยังนับถือโลกของมนุษย์ เพราะนางไม่เคยเห็นบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างที่วิจิตรงดงามในโลกอสูรมาก่อน

หากฉินหยุนไม่คิดปิดบังเรื่องภูติอสูร เขาคงปล่อยนางบินเล่นไปมาแล้ว เพื่อให้นางได้เห็นถึงความงดงามของโลกมนุษย์

“ด้านในนั้นอันตรายนัก!” โมโมพลันกล่าวคำ

ฉินหยุนตอนนี้เริ่มเข้าสู่พื้นที่ซากปรักหักพังแล้ว

“ใช่! ด้านนอกอย่างบริเวณนี้ยังถือว่าปลอดภัย เขตที่สองและเขตที่หนึ่ง ถือเป็นสถานที่อันตรายที่สุด ฝูงสัตว์อสูรทรงพลังจำนวนมากล้วนอาศัยอยู่ที่นั่น!” ฉินหยุนขณะเดินไปก็ต้องระแวดระวังตลอด

แม้เป็นช่วงกลางวัน ฉินหยุนก็หาได้คิดหลบซ่อนตัวในห้องใต้ดินดังเช่นที่เคยทำไม่ กลับกัน เขามุ่งหน้าออกวิ่งสู่เขตที่สองด้วยฝีเท้าเบายิ่ง

ด้วยระดับพละกำลังตอนนี้ เขาไม่มีอันใดต้องหวาดเกรงแม้เป็นเขตที่สาม

มีแต่เขตที่สองจึงค่อยมีสัตว์อสูรระดับวิญญาณ และนั่นก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาต้องระแวดระวัง

ฉินหยุนพักผ่อนชั่วระยะหนึ่ง เขาคิดเร่งรีบมุ่งหน้าสู่เขตที่หนึ่ง เพื่อค้นหาเหล่าถานและคณะ ด้วยวิธีการนี้ เขาจะได้มีโอกาสพบตัวหมอผีผู้ลึกลับโดยเร็ว

สามวันผ่านไป ฉินหยุนยิ่งมายิ่งระแวดระวังขณะเข้าสู่เขตที่หนึ่ง!

ตลอดทาง มีเพียงแต่ช่วงกลางวันที่เขาต้องระมัดระวังตัวอยู่เสมอ

ในเขตที่สอง มีกลุ่มสัตว์อสูรอยู่ไม่น้อย โชคดีที่โมโมพบเจอพวกมันแต่ไกล จึงชี้นำให้เขาสามารถหลบเลี่ยง จึงไม่ต้องพบเจอกับสัตว์อสูรตัวใด

พลังวิญญาณในเขตที่หนึ่งนับว่าไม่ธรรมดา ไม่เพียงแต่หนาแน่น แต่ยังประกอบด้วยพลังลึกลับไหลเวียนอยู่ภายในพลังวิญญาณ พลังงานชนิดนี้ ทำให้จิตใจผู้คนถูกกระตุ้น และมีชีวิตชีวาขึ้นได้!

“พลังวิญญาณนี่ หรือจะเป็นน้ำมันสัตว์?” โมโมร้องออก

“มันค่อนข้างคล้ายน้ำมันสัตว์ แต่นี่ไม่น่าใช่น้ำมันสัตว์!” ฉินหยุนสงสัยเช่นเดียวกัน ทว่า ยามนึกย้อนถึงตอนที่เหล่าถานและคณะเอ่ยถึงน้ำพุจากเขตที่หนึ่ง ว่ามันไหลออกมาเป็นธารน้ำขนาดใหญ่ หากเป็นน้ำมันสัตว์ เช่นนั้นย่อมต้องติดไฟแล้ว

โมโมตอบกลับ “มันต้องเป็นบางสิ่งที่คล้ายน้ำมันสัตว์ ทว่า ออร่านี้ก็คล้ายคลึงน้ำมันสัตว์ยิ่ง!”

“ใช่แล้ว! โมโม การรับรู้ของเจ้าแข็งแกร่ง พอจะสัมผัสถึงออร่าที่รวมกันหนาแน่นได้หรือไม่?” ดวงตาฉินหยุนเป็นประกายเร่งรีบเอ่ยถาม

หากโมโมสัมผัสหาทิศทางได้ เช่นนั้นสถานที่หลบภัยซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยหัวกะทิของเขตที่หนึ่ง ย่อมตรงอยู่ที่นั่น เขาจะได้ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาค้นหา

“ทำได้... ทว่า มันก็ต้องใช้พลังงานไม่ใช่น้อย!” โมโมกล่าวตอบ

“ไม่เป็นไร อย่างไรแล้วตอนนี้ก็มีไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรสำรองอยู่จำนวนหนึ่ง อย่าได้ห่วง!” ฉินหยุนยิ้มตอบขณะจิ้มใบหน้าของนาง

“อื้ม!” โมโมพยักหน้ารับ หลับตาลง เริ่มทำการสัมผัส

เมื่อภูติอสูรใช้สัมผัส ร่างนั้นจะปรากฏแสงอ่อนจางสีขาว เป็นผลให้ความสงสัยของฉินหยุนถูกกระตุ้นอีกครั้งหนึ่ง

เขาสงสัยไม่ใช่น้อย ว่าความลับอะไรกันแน่ที่ภูติอสูรลึกลับถือครองเอาไว้ ด้วยขนาดตัวเพียงเท่าฝ่ามือและอ่อนแอ แต่แล้วกลับมีความสามารถท้าทายสวรรค์สามารถเห็นผังจารึก เรื่องนี้ออกจะน่าทึ่งจนเกินไป

ช่วงเวลากว่าภูติอสูรจะถือกำเนิดยาวนานยิ่ง การปรากฏตัวของพวกมันไม่ใช่เรื่องง่ายพบเห็น

ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม นางค่อยลืมตาขึ้น ชี้ไปยังทางตะวันออกเฉียงเหนือและกล่าว “ทางนั้น!”

ฉินหยุนหันมองขึ้นฟ้า ตอนนี้ช่วงบ่าย ยังพอมีเวลาก่อนฟ้ามืด หลังเข้าสู่เขตที่หนึ่ง เขาไม่คิดเดินทางไปไหนมาไหนช่วงกลางวัน เขารู้สึกว่ารอให้ฟ้ามืดก่อนค่อยใช้พลังเงาจะดีกับตนเองมากกว่า

เขาตัดสินใจเข้าอาคารหินหลังหนึ่งที่กึ่งพังกึ่งดี จากนั้นจึงเข้าห้องใต้ดิน

“โมโม หิวหรือไม่?” ฉินหยุนนำนางออกมาจากเสื้อคลุม วางนางไว้ที่มือของตนเอง จากนั้นจึงลูบไล้เส้นผมสีฟ้าเบามือ

“หิวมาก!” ด้วยใบหน้าแดงก่ำ นางพยักหน้ารับ

“เช่นนั้นรออะไร กินได้เลย!” ฉินหยุนนำภูติอสูรสู่มิติเก็บของและยิ้มกล่าว “อย่าปล่อยให้ตัวเจ้าต้องหิว และอย่าได้ทำให้ตัวเองต้องปวดท้อง!”

หลังจากโมโมเข้ามาในมิติเก็บของ นางยินดีไม่น้อยขณะบินไปยังบริเวณที่มีแก่นอสูรระดับวิญญาณ เพื่อดูดกลืนพลังงานภายในออกมา

ฉินหยุนหลับตาลงเช่นกัน ด้วยวิญญาณเทวะเก้าตะวัน เขาสามารถดูดกลืนพลังวิญญาณจากที่นี่เพื่อฟื้นฟูความเหนื่อยล้าได้

พักผ่อนไปชั่วครู่หนึ่ง ก่อนตะวันลับฟ้า เขานำเอาถุงสัตว์ออกมา ปลดปล่อยมนุษย์นกที่อยู่ด้านใน

“มนุษย์นก ที่นี่ค่อนข้างอันตรายมาก ข้าสงสัยว่าเจ้าสามารถเอาชีวิตรอดที่นี่ได้หรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

ตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา มนุษย์นกได้กินทั้งน้ำมันสัตว์และเนื้อที่ฉินหยุนส่งให้ แน่นอนว่ามันยินดี ทว่าก็มีส่วนไม่ยินดีคือการต้องอยู่ในกระเป๋าสัตว์

มนุษย์อสูรสามารถสัมผัสได้ถึงอันตราย อำนาจการรับรู้ของพวกมันค่อนข้างดีเยี่ยม แม้พวกเขาตอนนี้อยู่ชั้นใต้ดิน มันก็สามารถบอกได้ว่าสถานที่แห่งนี้อันตรายยิ่ง

“หากข้าคิดอยู่รอดที่นี่ ก็เป็นเรื่องยากเย็นยิ่ง! ถือเป็นความท้าทายครั้งหนักหนา!” น้ำเสียงของมนุษย์นกเผยร่องรอยความหวาดกลัว

ฉินหยุนนำเอากระเป๋ามิติเก็บของออกมา และส่งมันให้แก่มนุษย์นก “ในนี้มีน้ำมันสัตว์อยู่ น่าจะพอให้เจ้าได้ใช้กินชั่วระยะเวลาหนึ่ง! เจ้าคงรู้วิธีใช้พลังจิตเพื่อนำเอาน้ำมันสัตว์ออกมานะ!”

มนุษย์นกพลันประทับใจ นี่เป็นครั้งแรกที่มันรู้สึกว่ามนุษย์ก็มีความเมตตาเช่นนี้

“เจ้าช่างเป็นคนดีนัก!” ท้ายที่สุด มนุษย์นกค่อยได้เปิดโลกสัมผัสกับมนุษย์อีกด้านหนึ่ง

“เจ้าเองก็เป็นมนุษย์อสูรที่ยอดเยี่ยม และข้าเลี้ยงดูเจ้าดีก็เพราะเจ้าไม่เคยกินมนุษย์มาก่อน!” ฉินหยุนยิ้มตอบ “อันที่จริง นี่ก็เพราะเจ้าจึงทำให้ข้าได้รับน้ำมันสัตว์ ถือว่าเป็นข้าตอบแทนก็แล้วกัน!”

เขาไม่เพียงแต่ได้รับน้ำมันสัตว์ มันกระทั่งเป็นน้ำมันสัตว์ในปริมาณที่ไม่มีทางคิดถึงมาก่อน!

แม้ฉินหยุนกล่าวออกเช่นนั้น มนุษย์นกก็ยังคงประทับใจอยู่ดี มันเร่งรีบพยักหน้ารับ “ภายหน้าข้าย่อมไม่ก่อกรรมเลว! เพราะข้าสามารถบินได้ บ่อยครั้งจึงต้องบินออกนอกเทือกเขามนุษย์อสูรเพื่อสำรวจคำพูดและการกระทำของมนุษย์ ข้าเข้าใจมนุษย์ดีระดับหนึ่ง ทั้งยังเคยได้เห็นคนดีและคนเลวปะปนกันไป”

“มีเรื่องต้องบอกต่อเจ้า ที่นี่มีสัตว์อสูรระดับวิญญาณอยู่มาก! เจ้าต้องระวังให้ดี หากไม่อาจอยู่ที่นี่ไหว จงออกไปด้านนอกซึ่งเป็นเขตที่สอง”

ฉินหยุนบอกเล่ารายละเอียดของเมืองอี้ให้มนุษย์นกได้ฟัง

หลังจากมนุษย์นกเข้าใจสถานการณ์แล้ว มันค่อยบอกลาฉินหยุนและออกไปจากห้องใต้ดิน ปีกกว้างของมันกางออกขณะทะยานขึ้นไปทางดวงตะวันที่กำลังลาลับฟ้า

ฉินหยุนรอคอยจนกระทั่งฟ้ามืดค่อยออกมาด้านนอกห้องใต้ดิน ด้วยพลังเงาทำให้เขาผสานกลมกลืนกับความมืด เขากำลังย่างฝีเท้าเบายิ่งสู่เขตที่หนึ่ง

หลังจากเดินมาได้ราวครึ่งชั่วยาม โมโมจึงร้องโพล่งขึ้น “พี่หยุน ทางด้านนั้นมีฝูงสัตว์อสูร สมควรเป็นสัตว์อสูรหลายร้อยตัว ทั้งยังมีระดับวิญญาณอยู่ราวสี่ถึงห้าตัว!”

ฝูงสัตว์อสูรขนาดใหญ่! ฉินหยุนหวาดกลัวจนถึงขั้นขวัญหนี หากเขาบังเอิญเข้าไปเผชิญกับฝูงสัตว์อสูรขนาดใหญ่ ก็มีแต่ความตายที่รอคอยอยู่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด