ตอนที่แล้วบทที่ 8: จำเป็นจะต้องหยุด!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10: สายฟ้า!

บทที่ 9: ดาวทั้งเจ็ด!


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

••••••••••••••••••••

บทที่ 9: ดาวทั้งเจ็ด!

“สี่ไปห้านี่มันยากจริงๆ เฮ้อ ฉันไม่รู้เลยว่าจะจัดการไอ้พวกตัวเล็กทั้งเจ็ดนี้ได้ก่อนปิดเทอมไหม” โม่ฝานถอนหายใจออกมาก่อนจะพึมพำกับตนเอง ในระยะเวลาที่ผ่านมาทุกอาทิตย์ เขาต้องใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงในการควบคุมพวกมันทั้งหมดและสุดท้ายความพยายามของเขาพังลงหลังจากจัดการพวกมันได้ในห้านาที ในตอนนี้เขาสงสัยว่าทำไมเขาจึงสามารถฝึกฝนได้เพียงวันละสองชั่วโมงเท่านั้น หรือเพราะว่าเขาปลุกธาตุขึ้นมาสองอย่างรึเปล่า? เขาทำได้เพียงคิดสิ่งเหล่านี้อยู่ภายในใจกับตนเองเงียบๆ

“แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น เป็นไปได้ไหมว่าพลังเวทของฉันจะมีมากกว่าคนอื่นสักสองเท่า?”

นักเรียนทุกคนนั้นมีพลังเวทที่จำกัด ทุกครั้งที่เขาพยายามควบคุมดวงดาว นั่นเท่ากับว่าการใช้พลังเวทของพวกเขาจะต้องสูญเสียไป ทุกคนนั้นสามารถยืนหยัดอยู่ได้เพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น

ด้วยความได้เปรียบในเรื่องของพลังเวททำให้โม่ฝานนั้นเก่งกาจมากกว่าผู้ที่โดดเด่นที่สุด เพราะบุคคลผู้นั้นทำได้เพียงแค่สามดวงเท่านั้น แต่โม่ฝานนั้นกลับควบคุมได้มากกว่าถึงสี่ในเจ็ด!

ในตอนนี้สี่จากเจ็ดนั้นถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว โม่ฝานสามารถควบคุมพวกมันได้และคิดว่าจะก้าวไปยังดวงที่ห้าภายในอาทิตย์นี้ ดูเหมือนว่าการตื่นขึ้นมาของธาตุทั้งสองในร่างกายเขาจะส่งผลคูณสองเมื่อเทียบกับผู้อื่น

เรียกได้ว่ามันคือข้อได้เปรียบอย่างสมบูรณ์แบบ!

เช่นนี้การไปให้ถึงจุดสูงสุดและบดขยี้มู่ไป๋อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว!

......

......

แปดโมงเช้าในชั้นเรียน การเรียนวิชาอสูรเวทย์ อาจารย์ประจำวิชานี้คือซางจิงเก่า

“โม่ฝาน ทำไมเธอถึงมาสาย นี่เธอไม่สามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองได้เลยงั้นหรือ? เธอนั้นไร้พรสวรรค์และไม่อาจเทียบกับใครได้เลยในชั้นเรียน พื้นฐานก็ย่ำแย่อย่างมาก เธอควรจะตั้งใจเรียนอย่างหนัก อย่างเช่นการมองดูสหายร่วมชั้นที่ชื่อเหล่ยซิงซี เขามีพรสวรรค์สายฟ้า พรสวรรค์ของเขายอดเยี่ยม พื้นฐานเป็นเลิศ อีกทั้งยังสามารถควบคุมดวงดาวได้มากถึงสี่ดวงในตอนนี้ แต่ดูเธอสิ ฉันได้ยินว่าเธอธาตุไฟ แต่ว่าไม่สามารถควบคุมอะไรได้สักอย่าง ถ้าเช่นนั้นธาตุไฟที่เธอปลุกขึ้นมามันกลายเป็นไร้ประโยชน์ ขยะยังไงก็เป็นขยะสินะ!” ซางจิงเก่ามองว่าโม่ฝานมาช้า จากนั้นเขาดุด่าออกมาอย่างไร้เหตุผล

โม่ฝานได้แต่กลอกตาไปมา ในสายตาของซางจิงเก่านั้นเขาก็ไม่มีอะไรดีอยู่แล้ว แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นประจำเมื่อทั้งสองได้พบหน้ากัน

ส่วนเหล่ยซิงซีนั้นเป็นเพื่อนร่วมชั้นอีกคน เขาสามารถปลุกธาตุสายฟ้าขึ้นมาได้ในพิธีปลุกพลังเวท ซางจิงเก่านั้นเปิดปากของเขาทุกวันเกี่ยวกับเรื่องนี้ เรียกได้ว่าเขาภาคภูมิใจอย่างมากในตัวของนักเรียนของตนเอง

‘สามารถควบคุมได้สี่ดวงงั้นเหรอ? ในขณะที่บิดาคนนี้ควบคุมพวกมันได้หกดวงแล้ว เหอะ!’ โม่ฝานคิดเพียงลำพังในใจโดยไม่ได้กล่าวออกไป จากนั้นเขาเดินไปยังเก้าอี้ของตัวเองอย่างไม่แยแส

“เอาล่ะ ทุกคนเปิดบทอสูรกายเบื้องต้น วันนี้ฉันจะอธิบายเกี่ยวกับอสูรเวททั่วไป ทุกคนต้องรู้ว่ามีอสูรเวทมากมายกระจายอยู่รอบเมืองที่เราอาศัยอยู่ แน่นอนว่าพวกมันคุกคามพวกเราอย่างมาก ทั้งความก้าวร้าวและดุร้าย พวกมันอยู่รอบเมืองและสังหารคนอย่างโหดเหี้ยม เช่นนี้ฉันต้องการจะถามว่าเราควรทำอย่างไรถ้าหากออกไปนอกเมืองแล้วพบกับอสูรหมาป่าตาเดียว?” ซางจิงเก่าเริ่มบรรยายเกี่ยวกับการเรียนการสอน

อสูรหมาป่าตาเดียว…

มันเป็นอสูรเวทที่อยู่ใกล้กับพื้นที่อาศัยของมนุษย์มากที่สุด โม่ฝานเคยเห็นมันในตำราและวิดีโอต่างๆเท่านั้น พวกมันแข็งแกร่งและดุร้ายอย่างมาก

ผู้คนทั่วไปไม่อาจต่อสู้กับมันได้ มีเพียงนักเวทเท่านั้นที่จะสามารถต่อกรกับอสูรเวทเหล่านั้นได้ ถ้าหากเป็นนักเรียนเวทมนตร์ที่ไม่สามารถปลดปล่อยพลังได้ ก็ไม่ต่างอะไรจากเหยื่อที่ใส่ไว้ในจานเพื่อรอการขย้ำ!

อสูรหมาป่าตาเดียวนั้นมีความโดดเด่นกว่าอสูรเวททั่วไป ซึ่งซางจิงเก่านั้นอธิบายเรื่องนี้อยู่นานและโม่ฝานก็สนใจอย่างมาก

ตอนนี้โม่ฝานสามารถควบคุมดวงดาวสายฟ้าได้มากถึงหกดวง ตราบใดที่เขามีสมาธิมากพอ เขาจะสามารถควบคุมดวงดาวเหล่านี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

แต่ปัญหาก็คือดาวดวงที่เจ็ดนั้นยากที่จะควบคุมอย่างมาก มันเปรียบเหมือนกับหญิงสาวที่บริสุทธิ์และไม่ยอมให้ผู้ใดแตะต้อง เหมือนว่าจะอ่อนโยนแต่ว่าไม่เลยแม้แต่น้อย สิ่งนี้ทำให้โม่ฝานกังวลอย่างมาก!

“อ้าว ว่าไงล่ะพี่ฝาน สามารถจัดการกับธาตุไฟของตัวเองได้หรือยังล่ะ?” จางหู่รีบถามโม่ฝานทันทีเมื่อเขาเดินมาถึงที่นั่ง

“เหมือนเดิม” โม่ฝานตอบกลับอย่างไม่สนใจนัก

ธาตุไฟ…

จางหู่นั้นกังวลอย่างมากที่โม่ฝานยังไม่สามารถควบคุมธาตุไฟได้แม้แต่นิด

ซึ่งแน่นอนว่าโม่ฝานไม่สามารถจัดการกับธาตุไฟได้ เพราะช่วงเวลาทั้งหมดนี้เขาทุ่มเทมันให้กับธาตุสายฟ้าจนหมดสิ้น

“เฮ้อ พื้นฐานของพี่มันคงแย่มากจริงๆ ฉันได้ยินมาว่ามู่ไป๋นั้นสามารถควบคุมดวงดาวได้ถึงสี่ดวง อีกทั้งเขายังอยู่ในธาตุน้ำแข็ง ถ้าหากเขาฝึกฝนอย่างเต็มที่ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ฉันคิดว่าเขาจะสามารถปลดปล่อยเวทน้ำแข็งได้เลยหละ” จางหู่กล่าวออกมาเงียบๆ

“อืม ฉันรู้แล้ว”

“นี่พี่ชาย ทำไมถึงไม่กังวลอะไรเลยล่ะ? ฉันเคยบอกไปแล้วนะว่าไอ้จ้าวคุณซานนั่นมันต้องการจะเล่นกับพี่น่ะ”

“ไม่ต้องสนใจหรอก ให้พวกมันมาเถอะ!”

ในใจของโม่ฝานตอนนี้ เขาคิดแต่เพียงจะทำยังไงให้ควบคุมดาวดวงที่เจ็ดได้ สิ่งที่ผ่านเข้าหูมาในตอนนี้ราวกับเป็นเพียงอากาศเท่านั้น

“เฮ้อ เทอมนี้ใกล้จะจบลงเต็มที พี่ฝานควรจะฝึกฝนอย่างหนักในภาคเรียนต่อไปนะ ถ้าหากเทอมหน้าพี่ฝานไม่สามารถเปิดใช้งานพลังเวทได้ในการสอบ ฉันคิดว่าโรงเรียนคงจะหาเรื่องให้พี่ลาออกน่ะ”

......

......

เทอมแรกผ่านไปอย่างรวดเร็ว และในตอนนี้โม่ฝานนั้นกังวลเกี่ยวกับดาวดวงสุดท้ายของเขามากเกินกว่าจะไปที่อื่น

“โธ่เอ้ย มันยากเย็นอะไรนักหนากันนะ ฉันพยายามตลอดวันตลอดคืนแต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้” โม่ฝานบ่นอุบอิบในขณะที่กำลังก้าวออกจากโรงเรียน

แม้ว่าภาคเรียนนี้จะจบลงไป แต่โม่ฝานนั้นไม่คิดจะไปไหน เขาใช้เวลาสองชั่วโมงทุกวันเพื่อพยายามควบคุมมัน อีกสิบชั่วโมงเพื่อฝึกสมาธิ นอกนั้นเป็นเพียงการกิน นอน อ่านหนังสือ เขาทำเช่นนี้ทุกวันโดยไม่มีวันหยุด

ในส่วนของนักเรียนคนอื่น พวกเขานั้นกลับบ้านไปหาครอบครัวหรือไปเที่ยวงานเทศกาลฤดูหนาวต่างๆ

ในตอนนี้เขาเดินออกมาด้านนอกของโรงเรียนและรอรถบัสเพื่อกลับบ้าน แต่เมื่อเขานึกบางสิ่งขึ้นมาได้ ขณะนั้นสติของเขาหลุดลอยไปทันที!

เขาลืมไปสนิทว่าพ่อของเขาขายบ้านไปซะแล้ว ในตอนนี้เขาเป็นคนไร้บ้านโดยสมบูรณ์!

พ่อของเขาโม่เซี่ยจิงนั้นคงจะขับรถอยู่ที่ไหนสักที่ โม่ฝานนั้นไม่มีที่จะกลับไป อย่างไรก็ตามเขานึกถึงเมืองเสี่ยวหู่ขึ้นมาในตอนนี้

อืม ฉันไมได้เจอกับเธอมานานเท่าไหร่แล้วนะ ครึ่งปีรึเปล่า? ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะทำอะไรอยู่ที่นั่นนะ

“ลองไปหาเธอที่โรงเรียนดีกว่า”

จากนั้นโม่ฝานมองหารถบัสเพื่อจะไปที่โรงเรียนของเธอ

ในขณะที่นั่งอยู่บนรถ โม่ฝานไม่มีอะไรทำและเขาลองพยายามที่จะควบคุมดาวดวงสุดท้าย ‘ไหนลองดูซิ จะหยิ่งอีกนานไหมล่ะ’

ธาตุที่แตกต่างนั้นมีอารมณ์ที่แตกต่างเช่นกัน ดาวทั้งเจ็ดก็เช่นกัน พวกมันมีอารมณ์ที่แตกต่าง บ้างก็ง่ายที่จะล่อลวง บ้างก็ยากที่จะควบคุม โม่ฝานนั้นใช้เวลากับพวกมันหลายวันหลายคืน สิ่งที่น่าแปลกใจคือพวกมันจะค่อยๆเชื่อฟังเขาอย่างช้าๆ แต่ทว่าดาวดวงสุดท้ายนี้มันยากที่จะแตะต้อง โม่ฝานลองทุกวิธีเพื่อที่จะจับมันเอาไว้ ถ้าหากเขารุนแรงกับมัน แน่นอนว่ามันจะโจมตีเขากลับอย่างรุนแรงเช่นกัน

ดาวดวงที่เจ็ดนั้นโม่ฝานไม่สามารถควบคุมมันได้เลย เขาไม่สามารถทำอะไรได้ การโจมตีของมันรุนแรงเกินไป!

โชคดีที่ในตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดวงดาวที่ร้อนแรงดวงนั้นเริ่มที่จะผ่อนคลายและค่อยๆหันมาฟังเขาบ้างแล้ว ซึ่งสิ่งนี้ทำให้โม่ฝานดีใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา เพราะเขาใช้เวลาตลอดทั้งเดือนเพื่อที่จะควบคุมมันเพียงดวงเดียว!

••••••••••••••••••••

ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด