ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2: ชนชั้นที่แตกต่าง

บทที่ 1: โลกที่เปลี่ยนไป


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

••••••••••••••••••••

บทที่ 1: โลกที่เปลี่ยนไป

ที่ด้านนอกของโรงเรียนมัธยมซู่หลัน หยาดฝนโปรยปรายลงมาเป็นสาย

ที่นอกประตู ผู้คนมากมายต่างพากันถือร่ม ใบหน้าของพวกเขาเปียกปอนไปด้วยเม็ดฝน

วันนี้เป็นวันสำคัญของเหล่าเด็กๆทั้งหลาย เส้นทางในอนาคตของเขานั้นถูกกำหนดไว้แล้วด้วยการกระทำของตนเองภายในวันนี้! ไม่ว่าจะเป็นสถาบันเวทมนตร์หรือมหาวิทยาลัยชั้นนำที่พวกเขาจะถูกรับเลือก!

ได้ยินไม่ผิดหรอก

มันคือสถาบันเวทมนตร์!

มันเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ตื่นตาตื่นใจ!

เด็กทุกคนจะต้องเรียนเวทมนตร์เก้าปีเพื่อศึกษาทฤษฎีเวทย์ขั้นพื้นฐานและทักษะการใช้มัน จากนั้นพวกเขาจะต้องเข้าร่วมการทดสอบเพื่อสอบเข้าโรงเรียนมัธยมเวทมนตร์ขั้นต่อไป ผู้ที่ผ่านการทดสอบเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ได้เข้าเรียนต่อและจากนั้นพวกเขาจะกลายเป็นนักเวทย์ที่แท้จริง!

......

ในตอนนี้เม็ดฝนเริ่มโปรยปรายลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน หลังจากเสียงระฆังดังขึ้น ริมถนน… ผู้คนกำลังจับกลุ่มคุยกันถึงการสอบภายในวันนี้อย่างเข้มข้นกับพวกพ้องของตนเอง

“เฮ้ มู่ไป๋ ระบบเวทย์ของธาตุทั้งเจ็ด น้ำแข็ง ไฟ ดิน น้ำ ลม สายฟ้าและพายุ นายเป็นคนตอบคำถามนี้รึเปล่า?” เด็กชายหน้าขาวผูกไทด์กล่าวออกมา

“ฮ่า เป็นคำตอบที่ยอดเยี่ยมใช่ไหมล่ะ” มู่ไป๋ตอบรับอย่างสบายๆ เขาคือชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลาสะอาดสะอ้านราวกับเทพบุตรจุติลงมาจากสรวงสวรรค์

“ฮ่า มีเพียงนักเรียนอันดับต้นๆเท่านั้นแหละที่จะแก้ไขปัญหาที่ยากเย็นเหล่านี้ได้… เฮ้ นั่นมันไม่ใช่โม่ฝานที่สอบได้หกคะแนนเหรอ?” จ้าวคุณซานที่ยืนตรงนั้นกล่าวออกมาอย่างเยาะเย้ย

ชายผู้นั้นมองมาที่โม่ฝานที่กำลังถือร่มอยู่ด้านหน้าพร้อมกล่าวต่อ “เมื่อเขาโตขึ้น เขาจะเป็นชายที่ซื้อรถบรรทุกเสียๆเหมือนกับพ่อของเขาน่ะแหละ ฮ่าฮ่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น!”

“หรือไม่ก็คงจะกลายเป็นคนรับใช้ของตระกูลมู่แหละ ฮ่าฮ่าฮ่า”

ชายทั้งสามกล่าววาจาเช่นนั้นอย่างหยิ่งยโส อีกทั้งพวกเขายังไม่เกรงกลัวว่าโม่ฝานที่อยู่ถัดไปจะได้ยินแม้แต่น้อย

หลังจากที่เดินแกว่งแขนไปมาตรงนั้นสักครู่ ทั้งสามเดินเข้าไปในโรงเรียนเพื่อทำการสอบ เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดนั้นมั่นใจอย่างมากว่าพวกเขาจะได้รับเลือกให้เข้าสถาบันเวทมนตร์ชั้นนำ

......

โม่ฝานออกมาที่หน้าประตูโรงเรียนพร้อมด้วยร่มสีเหลืองดำ

เขามองกลับไปที่โรงเรียนของตนเองพร้อมกับคิดจะกล่าวอำลา โม่ฝานกล่าวออกมาเพียงสั้นๆ “พ่อครับ…”

ไม่รู้สึกเบื่อชีวิตแบบเดิมๆบ้างหรือยังไงนะ?

เดิมทีโม่ฝานไม่ได้สนใจชีวิตตนเองในโลกใบเดิมเท่าไหร่นัก เขาเป็นชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยพรสวรรค์ แต่เพราะเขาเบื่อการเรียนเหล่านั้น จึงทำให้เขามักจะส่งแต่กระดาษเปล่าเสมอเมื่อถึงวันต้องสอบ…

มันเป็นเรื่องปกติสำหรับอาจารย์และนักเรียนจะออกไปค้นคว้าความรู้ด้านนอก มันไม่มีเหตุผลอะไรทำให้โม่ฝานสนใจวิชาเรียนเหล่านี้ พวกมันเปรียบเสมือนดอกไม้สีแดงเล็กๆที่เขาเพียงแค่มองเห็น แล้วก็เดินผ่านเท่านั้น

เดิมทีโม่ฝานคิดไว้ว่าเขาจะพยายามอีกสักนิดเพื่อที่จะสอบให้ได้คะแนนที่ดีกว่านี้ ซึ่งเขาคิดไปถึงการตอกหน้าของมู่ไป๋ที่เป็นอันดับหนึ่งของเมืองนี้อีกด้วย

แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ล่ะ?

เขาจะกลายเป็นนักเรียนที่ยอดเยี่ยมที่สุด หลังจากเดินไปมาอยู่ที่ภูเขาหลังโรงเรียนมาเนิ่นนาน ตอนนี้โลกที่เหมาะสมกับเขามันได้เกิดขึ้นมาแล้ว!

โลกของเวทมนตร์ยังไงล่ะ!

ในตอนนี้สังคมทุกสิ่งของเขายังคงเหมือนเดิม ทั้งเพื่อนร่วมชั้น อาจารย์ พ่อและน้องสาว ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม มีเพียงเวทมนตร์เท่านั้นที่เพิ่มมาในโลกใบเดิมของเขา

โลกใบเก่าที่เต็มไปด้วยวิทยาศาสตร์ที่ล้ำสมัย ในตอนนี้เปลี่ยนเป็นโลกเวทมนตร์ที่น่าตื่นเต้น

ม้าต่างๆกลายเป็นสีดำและขาว พวกมันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังเวทมนตร์ที่น่าอัศจรรย์!

เวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ได้เปลี่ยนม้าทั้งสองตัวนี้ให้กลายเป็นธาตุไฟและน้ำ!

ทุกอย่างสามารถถูกเปลี่ยนแปลงได้ด้วยเวทมนตร์ โม่ฝานนั้นรู้ว่าเวทมนตร์ทุกสิ่งเป็นเรื่องจริงและจับต้องได้ แต่ทว่าโลกนี้มันเปลี่ยนแปลงเร็วมากเกินกว่าเขาจะตั้งรับได้ทัน!

เพราะความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเช่นนี้ ทำให้เขาไม่มีความรู้เรื่องเวทมนตร์สักนิดเดียว ให้ตายเถอะ!

ดังนั้นในตอนนี้เขาไม่สามารถจะเรียนรู้ทุกสิ่งได้ทัน แน่นอนว่าหมูที่อ่อนแอจะต้องโดนเสือขย้ำในสักวัน เมื่อเรื่องราวเป็นเช่นนี้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากฝึกฝนและอดทนต่อการถูกเยาะเย้ยในทุกวันและทุกวัน!

สิ่งเดียวที่ต้องถือว่าเป็นความโชคดีก็คือเวทมนตร์ที่แท้จริงยังไม่ถูกสอน เขายังไม่ได้เรียนรู้ในส่วนนั้น มันเป็นเพียงทฤษฎีในการเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่เขาจะต้องกังวลจริงๆมันจะอยู่ในช่วงมัธยมปลายที่กำลังจะมาถึง

ถ้าหากว่าต้องการจะเป็นนักเวทที่แท้จริง สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ การปลุกพลังเวท!

ซึ่งพิธีการปลุกพลังเวทจะเกิดขึ้นเมื่อเข้าสู่มัธยมปลายและผู้นำโรงเรียนพร้อมทั้งนักเรียนทุกคนจะเป็นพยานในพิธีครั้งนี้ แม้ว่าทฤษฎีจะวางอยู่ตรงหน้าพร้อมให้เรียนรู้ แต่ถ้าหากไม่ปลุกพลังเวทย์ก็ไม่อาจจะฝึกฝนพวกมันได้

โม่ฝานรู้สึกชื่นชอบเวทมนตร์อย่างมาก มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด ราวกับว่าเขาได้เกิดใหม่อีกครั้ง

นอกจากนี้เขายังมีสิทธิ์เป็นนักปราชญ์เวทมนตร์ได้อีกด้วย ถ้าหากขึ้นไปยืนอยู่ถึงจุดสูงสุด เขาจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้มากมาย

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะฝันกลางวันอย่างหวานชื่น เขาจะต้องผ่านการสอบไปให้ได้ก่อน…

'หลังจากนี้ฉันจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากก่อนที่การสอบจะมาถึง ถ้าหากวันหนึ่งฉันเข้าใจทักษะเหล่านี้อย่างถ่องแท้ ว้าว ผลลัพธ์ของมันจะต้องทำให้ฉันมีความสุขอย่างมากแน่นอน!' โม่ฝานเริ่มฝันถึงอนาคตที่สดใสภายหน้า

......

“โม่ฝาน โม่ฝาน…” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังยกมือโบกไปมาตรงหน้าของโม่ฝานพร้อมกับเรียกชื่อเขาด้วย

โม่ฝานตื่นขึ้นมาตามเสียงเรียก เขาสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมกล่าวออกมา “อ้าวพ่อ มาได้ยังไงเนี่ย?”

“ฉันก็มารับแกหลังจากที่สอบเสร็จแล้วยังล่ะหละ เอ้อ ไอ้ฝานฉันหางานเตรียมไว้ให้แกด้วยนะ มันอยู่เมืองถัดไปน่ะ ฉันจะพาแกไปพบกับลุงกวงเฟิง แล้วหลังจากนั้นอีกสักสองสามปีแกก็เริ่มจะมีเงินเก็บแล้วล่ะ โชคดีที่แกจะได้ทำงานเร็วกว่าคนอื่น ซึ่งมันก็คงจะตกอยู่เดือนละสี่ถึงห้าพันโดยประมาณน่ะนะ ซึ่งเท่านี้มันก็ยอดเยี่ยมแล้ว!” โม่เจี่ยซิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

แม้ว่าโลกจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่พ่อก็คงยังเป็นพ่อคนเดิม โม่ฝานรู้สึกหดหู่เล็กน้อยที่ตรงนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปด้วย

โม่เจี่ยซิงและโม่ฝานกำลังคุยกันเรื่องอนาคตการทำงาน แต่โม่ฝานกลับทำให้พ่อของเขาแปลกใจด้วยการบอกว่าเขาต้องการที่จะร่ำเรียนต่อไป

แต่ปัญหาในตอนนี้ก็คือเขาไม่มีเงิน

ในโลกใบนี้เต็มไปด้วยรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์และตู้เย็น ซึ่งมันเป็นสิ่งของที่อยู่ในหมวดเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์พวกนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยบนโลกใหม่นี้ แน่นอนว่าถ้าหากไม่รู้เวทมนตร์ ก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกลายเป็นคนงานผลิตสิ่งของเหล่านี้เท่านั้น! เช่นนี้ในโลกที่เขาเหมือนกับว่าได้เกิดใหม่ เขาจะต้องเรียนรู้เวทมนตร์ให้ได้!

แม้ว่าโลกแห่งความจริงตรงหน้ายังไม่เปลี่ยนไปมากนัก แต่ถ้าหากในตอนนี้เขาฝึกฝนอย่างหนักและทุ่มเททุกสิ่งที่มีให้กับมันเพื่อชดเชยความเหลวไหลในอดีตที่ผ่านมา แน่นอนว่าเขาจะไม่ต้องทนทุกข์อยู่ในสถานะเช่นนี้ เขาจะต้องเป็นเจ้านายตนเองให้ได้ ไม่สิ เขาจะต้องเป็นปราชญ์เวทย์!

“พ่อ… ผมน่ะ อยากเรียนต่อ…” โม่ฝานกล่าวออกมาหลังจากเงียบมาเนิ่นนาน เขาต้องการบอกสิ่งนี้กับโม่เซี่ยจิง

“หืม แกชอบเวทมนตร์จริงๆงั้นเหรอ?” โม่เซี่ยจิงถามออกมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

“โอ้…” โม่ฝานตกใจจนเผลอร้องออกมา เขาไม่รู้ว่าถ้าหากเขาพูดความจริงออกไป ชายชราผู้นี้จะเชื่อเขาหรือไม่ เฮ้อ ภายในใจของเขากำลังสับสนอย่างหนัก!

โม่เซี่ยจิงมองดูบุตรชายวัยสิบหกปีของเขาด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ พร้อมเผยรอยยิ้มอบอุ่นออกมา “ไอ้ลูกชาย พ่อไม่โทษแกหรอกนะถ้าหากว่าแกจะไม่รู้เวทมนตร์อย่างคนอื่นเขาน่ะ ไม่เป็นไรหรอก”

“ไม่ใช่แบบนั้น ผมต้องการจะเรียนมันจริงๆนะพ่อ!”

“แกสามารถผ่านการสอบได้งั้นเหรอ?” โม่เซี่ยจิงถาม

“ยัง…” โม่ฝานตอบกลับอย่างชัดเจน

“ไม่เป็นไรหรอก แม้แต่คนโบราณก็ยังกล่าวไว้ว่า ของทุกสิ่งอย่างที่อยู่ภายใต้ฝากระโปรง ย่อมถือว่าเป็นเวทมนตร์ระดับสูงเช่นกัน แต่ยังมีคนที่สามารถเดินไปถึงจุดหมายด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่เวทมนตร์เช่นกัน…” โม่เซี่ยจิงกล่าวออกมา

โม่ฝานที่ได้ยินเช่นนั้น เผลอเลียริมฝีปากของตนเองเบาๆ

ในทุกวันนี้ข้อมูลจำนวนมากล้วนแต่ถูกแปลงโดยอัตโนมัติ แต่กระบวนการที่จะเปลี่ยนแปลงมัน แม้แต่โม่ฝานก็ไม่รู้วิธีเหมือนกัน ตัวอย่างก็คือที่โม่ฝานจำได้ในโลกใบเก่า อาจารย์กล่าวกับนักเรียนไว้ว่า “ผู้ที่สร้างไฟฟ้าขึ้นมาเป็นคนแรกนั้นชื่อว่า เอดิสัน” ซึ่งช่วงเวลานั้นเองทำให้หัวใจของโม่ฝานเต็มไปด้วยพลังที่อยากจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้!

ในขณะที่โม่เซี่ยจิงกำลังพยายามปลอบโยนโม่ฝานนั้น เขาเห็นสีหน้าของโม่ฝานดูอึดอัดและเต็มไปด้วยความทุกข์ใจอย่างมาก

โม่เซี่ยจิงเห็นเช่นนั้น อดเผยรอยยิ้มจางๆออกมาไม่ได้ จากนั้นเขาถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ฝาน.. แกพูดจริงๆเหรอ?”

“ใช่ ผมต้องการเปลี่ยนแปลง ต้องการโอกาสที่จะได้ยืนหยัดขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่ามันจะสายเกินไปบ้าง แต่ผมก็ต้องการที่จะเรียนรู้และกลายเป็นปราชญ์เวทย์ให้ได้” โม่ฝานกล่าวออกมาอย่างเด็ดขาด

'ต้องการเพียงโอกาสงั้นเหรอ!? เฮ้อ! แล้วฉันจะไปสร้างโอกาสให้แกยังไงล่ะ!'

โม่เซี่ยจิงทำได้แค่เก็บความคิดนั้นไว้ในใจ

โม่ฝานไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก มีเพียงความเงียบสงัดปกคลุมบรรยากาศสำหรับสองพ่อลูก

“เอาล่ะ แกต้องการจะเรียนจริงๆใช่ไหม?” โม่เซี่ยจิงถามออกมาอีกครั้ง

“ครับ!” โม่ฝานพยักหน้าตอบกลับ

ในครั้งแรกโม่ฝานคิดว่าตนเองกำลังฝันอยู่ โลกนี้กำลังเล่นตลกกับเขาอยู่แน่ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาได้รู้แล้วว่านี่ไม่ใช่ความฝัน โลกของเขามันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ!

“อ่า เอาไว้ฉันจะลองเก็บไปคิดอีกทีนะ” โม่เซี่ยจิงกล่าวออกมาเบาๆ

“พ่อ ตอนนี้ผมมีงานทำในช่วงฤดูร้อนแล้วอยู่ที่โรงเรียนมัธยมเทียนหลาน ผมจะไปดูแลห้องสมุดของที่นั่นทุกวันและเริ่มงานวันพรุ่งนี้นะ” โม่ฝานกล่าว

ในเมื่อตอนนี้เขาเริ่มที่จะฝึกฝนเวทมนตร์อย่างจริงจังแล้ว โม่ฝานจะต้องทุ่มเททุกอย่างให้เต็มที่เพื่อความฝันนี้

ในตอนนี้โม่ฝานนั้นรู้ตัวดีว่าเขานั้นจะพึ่งพาแต่พ่อเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เขาจะต้องเติมเต็มตนเองในส่วนที่ขาดด้วยเช่นกัน เพราะเขาไม่สามารถสอบเข้าไปเองได้ เช่นนั้นเขาจะต้องทำงานอย่างหนักในสถานที่แห่งนี้เพื่อช่วยเหลือตนเองและเบาภาระของพ่ออีกที

แม้ว่างานนี้จะไม่มีค่าแรงและที่พักอาศัยหรือสวัสดิการใดๆให้เลย แต่ความจริงสำหรับโม่ฝานเขาเพียงต้องการเข้ามาหาความรู้เท่านั้น เช่นนี้งานดูแลห้องสมุดจึงควรค่าแก่การเสียเวลาด้วยอย่างยิ่ง

หลังจากที่โม่เซี่ยจิงเห็นว่าบุตรชายของตนนั้นมีความตั้งใจแน่วแน่ ความหวังเกิดขึ้นภายในหัวใจของเขาด้วยเช่นกัน

เนื่องจากในตอนนี้บุตรชายของเขากำลังแสวงหาพลังเวทมนตร์ แล้วมันเป็นเรื่องผิดอะไรกันล่ะ? ในเมื่อความจริงแล้วโลกใบนี้ก็ขับเคลื่อนด้วยผู้ใช้เวทมนตร์ทั้งสิ้น หลังจากที่เขาทำสำเร็จ เขาจะมีรถมีบ้าน มีผู้คนคอยเคารพนับถือ นั่นก็คือสิ่งที่ดีไม่ใช่งั้นหรือ? มันเป็นสิ่งที่เขาควรจะได้รับ ควรค่าที่จะใฝ่ฝัน!

“ถ้างั้นเรากลับไปคุยกันต่อที่บ้านแล้วกัน!” โม่เซี่ยจิงพยักหน้าตอบรับพร้อมเดินนำออกไป

ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด