ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0282 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0284 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0283 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 283 : เทือกเขามนุษย์อสูร

จากสถานการณ์ปัจจุบัน การบุกโจมตีของพวกสัตว์อสูรสมควรแพ้พ่าย

มนุษย์อสูรบินได้ที่รับชมการศึกจากระยะไกล ย่อมต้องกลับไปรายงานเรื่องนี้

ฉินหยุนคิดอยากทราบ ว่ามนุษย์อสูรที่ร่วมมือและสั่งการกับสัตว์อสูรโจมตีเมืองทำได้อย่างไร ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจตามสะกดรอยมนุษย์อสูรบินได้

“น้องหยุน รอเดี๋ยว...” ขณะเมิ่งเฟยหลิงตะโกน ฉินหยุนกระโดดลงจากกำแพงเมือง วิ่งไล่ตามมนุษย์อสูรบินได้ก่อนจะหายวับไปในความมืด

ฉินหยุนใช้พลังเงา มุ่งหน้าไปยังทิศทางของมนุษย์อสูรบินได้จากภาคพื้นดิน

ไม่ช้า เขาก็ถึงเบื้องล่างที่มนุษย์อสูรบินได้อยู่

หลังสำรวจระแวดระวัง เขาพบว่านี่เป็นมนุษย์อสูรจริง ด้วยร่างกายเป็นมนุษย์ แต่กลับมีปีกขนาดใหญ่คู่หนึ่งที่แผ่นหลัง ทั้งยังมีขาเป็นเหยี่ยว พร้อมด้วยกรงเล็บคู่แหลมคม ขนนกปกคลุมร่างกายเอาไว้ และมีหัวเป็นเหยี่ยว

“พละกำลังของเจ้านี่ไม่น้อยเลย พิจารณาจากออร่าแล้ว น่าจะเทียบเท่าผู้ฝึกตนมนุษย์ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า”

ฉินหยุนตอนนี้อยู่ห่างจากประตูเมืองราวสามพันเมตร ตอนนี้ภายนอกมืดสนิท กระทั่งเกิดแสงวูบวาบผ่านมาทางนี้ เขาก็ไม่มีทางถูกพบเห็น

มนุษย์นกหาได้พบฉินหยุนไม่ กลับกัน มันเอาแต่กระพือปีกไปมาคอยรับชมสมรภูมิรบจากระยะไกล

ไม่นานจากนั้น การศึกที่นอกประตูเมืองค่อยลดระดับลง พื้นดินตอนนี้เปี่ยมไปด้วยร่างศพของสัตว์อสูร มีเพียงแต่คนได้รับบาดเจ็บ ไม่มีผู้เสียชีวิต

การศึกจบลงแล้ว สัตว์อสูรกว่าพันตัวที่บุกโจมตีเมือง ถูกกำราบจนสิ้น!

ทางหนึ่ง ก็เพราะนครราชาปีศาจเตรียมการเป็นอย่างดี อีกทางหนึ่งก็เพราะ จ้าวฉวนและองครักษ์ชั้นหัวกะทิของตำหนักจารึกเทวะก็อยู่ที่นี่

นอกจากนี้ มนุษย์อสูรคิดว่าอาคมใหญ่สมควรได้คณะของเชี่ยอวี้เซินทำลาย ทำให้สามารถบุกเข้าเมืองได้

มนุษย์อสูรไม่คิด ว่าแผนการทั้งหมดพังครืนลงมาเพราะฉินหยุน ทั้งยังเปิดเผยแผนการของพวกมันด้วย!

หลังการศึกจบลง มนุษย์นกบินขึ้นฟ้าจากไปอย่างเร่งรีบ

ก่อนหน้านี้ ฉินหยุนรวบรวมออร่าของมนุษย์นกไว้แล้ว ด้วยการใช้ออร่า เขาจึงขัดเกลายันต์ไล่ล่าวิญญาณ

เมื่อเขาใช้ยันต์ไล่ล่าวิญญาณนี้เพื่อไล่ตามศัตรู โอกาสสำเร็จย่อมมีมาก

แม้ฉินหยุนบินได้ เขาไม่คิดตามมนุษย์นกไป เหตุผลหลักก็เพราะมนุษย์นกมีความเร็วสูง หากเขาไล่ตามด้วยความเร็ว จะง่ายต่อการปลดปล่อยออร่ารั่วไหลออกไป มันคงไม่ดีนักหากเขาถูกพบเห็นโดยมนุษย์นกเข้า

“มนุษย์อสูรที่สารเลว ข้าคือองค์ชายรัชทายาทแห่งเทียนฉิน กล้าดีอย่างไรถึงเล็งเป้าหมายมายังเมืองของข้า!” ขณะฉินหยุนขัดเกลายันต์ขึ้น เขาก็สบถด่าไปด้วยความโกรธแค้น

ที่ทำเขาโกรธแค้นที่สุด คือมีความเป็นไปได้สูงที่ตำหนักตะวันตกและตำหนักทิศใต้จะเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

เขาต้องหาทางรู้ให้ได้ ว่าผู้ใดที่บงการและก่อการเรื่องนี้

หลังฉินหยุนขัดเกลายันต์ไล่ล่าวิญญาณแล้ว เขาจึงใช้งานมันตรวจสอบทิศทางที่มนุษย์นกจากไป จากนั้นจึงเริ่มการไล่ล่า

นครราชาปีศาจอยู่ชายแดนของจักรวรรดิเทียนฉิน กองทัพมนุษย์อสูรก็อยู่ที่ชายแดนซึ่งเป็นภูเขาลูกใหญ่ ดังนั้นถือได้ว่าอยู่ไม่ไกลจากกันนัก

ไม่นานหลังไล่ตาม ฉินหยุนจึงออกจากเขตแดนประเทศเข้าสู่พื้นที่ภูเขา

ภูเขาแห่งนี้แห้งแล้ง สาเหตุก็เพราะพวกมนุษย์อสูร ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นภูเขาที่ธรรมชาติงดงามยิ่ง

“นี่ต้องเป็นเทือกเขาของมนุษย์อสูร! ตั้งแต่ยังเยาว์ เราเคยได้ยินบ่อยครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเห็นกับตา!” ฉินหยุนระแวดระวังผ่านเส้นทางแห้งแล้งของเทือกเขา

ไม่ต้องกล่าวถึงตัวเขา กระทั่งผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าหลายคน ก็ไม่กล้าเข้ามาที่เทือกเขาแห่งนี้

ยอดฝีมือหลายคนของคฤหาสน์ราชาปีศาจ ก็ยังไม่เคยเข้ามาที่นี่ตลอดชั่วชีวิต เพราะอันตรายที่มากล้นของสถานที่แห่งนี้

ตำนานกล่าวว่า พวกมนุษย์อสูรปรากฏตัวหลังจักรวรรดิเทียนฉินก่อตั้ง และเป็นการปรากฏตัวอย่างปุบปับเสียด้วย

มนุษย์อสูรที่ปรากฏตัวในช่วงนั้น พวกมันแข็งแกร่งยิ่ง พวกเขาต้องเสียกำลังทหารไปมากมายเพื่อเข้าต่อกรกับพวกมนุษย์อสูรที่เทือกเขาแห่งนี้

ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะนับถือพละกำลังของมนุษย์นก ความเร็วของมัน กระทั่งผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋ายังยากไล่ตามได้ทัน

“ไอ้เจ้านี่น่าจะกลับไปที่รัง! ต้องไล่ตามโดยเร็ว จะได้ดักฟังพวกมันสนทนากัน!” ฉินหยุนเข้าสู่เทือกเขามนุษย์อสูร พร้อมกันนี้เขาก็วิ่งไล่ตามด้วยความเร็วสูงยิ่ง

กลางดึก เขาค่อยเข้าถึงส่วนลึกของเทือกเขา ยิ่งมายิ่งเข้าใกล้สถานที่ซึ่งมนุษย์นกกำลังอยู่

ระหว่างทาง เขาได้เห็นมนุษย์อสูรจำนวนไม่น้อย

เขาไม่คิดเคลื่อนไหว เพียงหลบเลี่ยงพวกมันและไล่ตามแต่เป้าหมาย

ตั้งแต่เข้ามาในเทือกเขา ฉินหยุนจึงทำความเข้าใจต่อจำนวนของมนุษย์อสูรโดยคร่าว มันทำเขาประหลาดใจไม่น้อย

ที่นี่มีมนุษย์อสูรอยู่มาก แต่เขาไม่ทราบเลยว่าพวกมันหากินกันอย่างไร

“หากเมืองมนุษย์ไม่มีค่ายอาคม คงถูกมนุษย์อสูรพวกนี้ทำลายไปนานแล้ว!” ฉินหยุนถอนหายใจอยู่ภายใน “บุคคลผู้ซึ่งค้นพบผังจารึกและสามารถจัดตั้งค่ายอาคม ช่างเป็นอัจฉริยะโดยแท้!”

หลังจากมนุษย์นกเข้าสู่เทือกเขามนุษย์อสูร ความเร็วของมันก็เชื่องช้าลง

นี่ก็เพราะในเทือกเขา ตลอดช่วงเวลา ลมเย็นเยือกและชั่วร้ายจะพัดผ่าน กระทั่งมนุษย์อสูรยังไม่อาจต้านทานได้

ด้วยเหตุนี้ ตลอดช่วงเวลากลางคืน มนุษย์อสูรที่อ่อนแอจะหลบซ่อนในถ้ำไม่คิดออกมา

ลมเย็นเยือกนี้หาได้ส่งผลต่อฉินหยุนไม่

หลังวิ่งอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดเขาก็ตามมนุษย์นกได้ทัน

มนุษย์นกที่บินอยู่บนฟ้า พลันร่อนลงที่ข้างภูเขาขนาดใหญ่

พอฉินหยุนเห็นดังนี้ เขาจึงจดจำตำแหน่งและระมัดระวังใช้งานก้าวอัคคีเมฆาไล่ตามไป

เมื่อเข้าใกล้ภูเขา เขาจึงหยุดใช้ก้าวอัคคีเมฆา จากนั้นจึงปีนขึ้นเพื่อเข้าในถ้ำ

ถ้ำแห่งนี้ไม่มีมนุษย์อสูรเฝ้าที่หน้าถ้ำ เพราะบริเวณนี้เป็นอาณาเขตของมนุษย์อสูรที่แข็งแกร่ง พวกที่อ่อนแอหากเข้ามาจะถูกสังหาร

นอกจากนี้ ที่นี่ไม่เคยมีมนุษย์เข้าถึงมาก่อน ดังนั้นมนุษย์อสูรในละแวกนี้จึงไม่เคยระวัง

ฉินหยุนระแวดระวังเต็มที่ขณะเดินไปตามเส้นทางเข้าสู่ส่วนลึกของถ้ำ ไม่ช้า เขาจึงได้เข้ามาในห้องหินกว้างขวาง

มนุษย์นกตอนนี้ กำลังเดินไปมาในห้องโถงกว้าง ท่าทีเคร่งเครียด

“มีคนมา!” ฉินหยุนพลันได้ยินเสียง เขาเร่งรีบหลบซ่อนในทางเดินที่มุ่งหน้าไปยังห้องหิน

ฉินหยุนไม่กล้าออกไป เขาเป็นกังวลว่าจะถูกพบตัวเข้า หลบซ่อนในทางเดินนี้ปลอดภัยกว่า ทั้งยังสามารถได้ยินเสียงภายนอก

“นายท่าน พวกสัตว์อสูรที่พวกเราส่งไปล้วนตายหมดสิ้น!” เสียงมนุษย์นกเปี่ยมด้วยความหวาดกลัว เป็นมันหวาดเกรง ว่าจะถูกนายท่านลงโทษ

“ตาย?” เสียงแหบแห้งทว่าคล้ายฟ้าคำรามดังขึ้น

“พวกมันตายอย่างไร?” เสียงนี้ที่เอ่ยถามคำถาม มันค่อนข้างคุ้นหูฉินหยุนเป็นอย่างยิ่ง

โดยทันที ฉินหยุนนึกขึ้นได้ ว่าเสียงนี้เป็นของผู้อาวุโสในชุดน้ำเงินคนหนึ่ง เป็นจ้าวตำหนักของตำหนักตะวันตกวิญญาณสีคราม!

ย้อนกลับไปตอนนั้น เมื่อครั้งที่เขาคิดท้าทายเชี่ยวหยางหลง จ้าวตำหนักก็อยู่ด้วย ดังนั้นเขาจึงจดจำเสียงนี้ได้

“เป็นตำหนักตะวันตกจริง!” ฉินหยุนกำหมัดเอาไว้แน่น

ตำหนักตะวันตกร่วมมือกับมนุษย์อสูร เพื่อคิดทำลายนครราชาปีศาจ เพื่อสังหารผู้คนนับล้าน เรื่องนี้ทำเอาฉินหยุนมีโทสะ

มนุษย์นกย้อนถึงเรื่องราว ว่าพวกสัตว์อสูรถูกสังหารได้เช่นไร

“ชายชราที่มีไม้คทาส่องแสง... ต้องเป็นจ้าวฉวน! ด้วยตาเฒ่านั่นอยู่ เป็นธรรมดาที่พวกสัตว์อสูรจะถูกสังหาร! เหตุใดตาเฒ่านั่นไปปรากฏตัวที่นครราชาปีศาจ? หรือมันพบเจอเรื่องของเชี่ยอวี้เซินจึงไปหยุดยั้งเอาไว้?”

จ้าวตำหนักของตำหนักตะวันตกเผยเสียงลมหายใจและขมวดคิ้ว “หากตำหนักจารึกเทวะตระหนักถึงเรื่องนี้ การที่พวกเราจะทำลายเมืองในภายหน้าไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว!”

ผู้นำมนุษย์อสูรกล่าวขึ้น “น่าเสียดายนัก นครราชาปีศาจเป็นเมืองใหญ่ หากพวกเราทำสำเร็จ อาศัยศพจำนวนมหาศาลภายใน พวกเราสามารถยกระดับเพิ่มจำนวนสัตว์อสูรทรงพลังได้มาก สัตว์อสูรจะให้กำเนิดไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร และสัตว์อสูรที่ฟักออกจากไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรก็จะเชื่อฟังพวกเรา!”

ฉินหยุนทราบแล้ว ว่าสัตว์อสูรจากไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร จะถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมความแข็งแกร่ง

หากพวกมันถูกทำให้เชื่อง ผู้ที่เป็นนายจะได้รับพลังอำนาจยิ่งใหญ่

หากสัตว์อสูรคิดให้กำเนิดไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร และฟักสัตว์อสูรออก ย่อมต้องใช้อาหารปริมาณมหาศาล หรือก็คือ สัตว์อสูรจำเป็นต้องกินมนุษย์จำนวนมาก

ถึงตอนนี้เอง ในที่สุดฉินหยุนจึงเข้าใจ ว่านี่เป็นแผนการของจ้าวตำหนักตะวันตก พวกเขาคิดอยากได้รับพละกำลังมหาศาลของสัตว์อสูรระดับวิญญาณ ต้องการควบคุมพลังอำนาจนี้ เพื่อได้รับสัตว์อสูรเหล่านี้ พวกเขาวางแผนใช้มนุษย์เป็นอาหารเพื่อเลี้ยงดูสัตว์อสูร!

และยังคิดใช้คนของจักรวรรดิเทียนฉิน!

เรื่องนี้ยิ่งทำฉินหยุนโกรธแค้น หากเขามีกำลัง เขาคิดอยากพุ่งออกไปเปิดศึกกับจ้าวตำหนักเสียเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ

“เช่นนั้นพวกเราทำอย่างไรดี?” ผู้นำมนุษย์อสูรเอ่ยถาม

“เช่นนั้นก็ลองเมืองอื่น! เฮ้อ น่าเสียดายนครราชาปีศาจ ถือว่ามันอยู่ใกล้เทือกเขามนุษย์อสูรที่สุด หากพวกเรายึดครองได้ เช่นนั้นจักรวรรดิเทียนฉินก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม” จ้าวตำหนักตะวันตกถอนหายใจด้วยความเสียดาย “ตั้งแต่ฉินหลงกลับมา จักรวรรดิเทียนฉินไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเราอีก หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าพวกเขาได้กลายเป็นสะสมพลังอำนาจขึ้นมาต่อต้านพวกเราแน่!”

จุดนี้ค่อนข้างตรงกับที่จ้าวฉวนคาดเดาไว้

“จ้าวตำหนักหยาง เช่นนั้นตามท่านว่า! พวกเรามนุษย์อสูรสามารถควบคุมสัตว์อสูรได้ หากพวกเราร่วมมือกัน ย่อมเป็นผู้ปกครองของดินแดนชายขอบแห่งนี้ได้ไม่ช้าก็เร็ว!”

“นายท่าน เช่นนั้นข้าขอลา!” มนุษย์นกค่อยโล่งใจที่ได้เห็นผู้นำของมันมีอารมณ์ไม่เลวร้าย

“ว่าอะไร? เจ้ากลับมามือเปล่า ไม่อาจนำร่างมนุษย์สักหนึ่งหรือสองร่างกลับมาให้ข้ากิน ยังคิดจากไปได้อีกหรือ?” ผู้นำมนุษย์อสูรตะโกนขึ้น “ทหาร จับตัวอีกาดำตัวนี้ และแขวนมันเอาไว้ที่ปากทางเข้าถ้ำของข้า ไว้พรุ่งนี้แดดเผามันสุกค่อยกิน!”

“นายท่าน โปรดละเว้นข้า!” มนุษย์นกเร่งรีบคุกเข่ากราบกรานร้องขอ

ผู้นำมนุษย์อสูรหาได้กล่าวคำใด จากนั้นจึงออกไปพร้อมจ้าวตำหนักหยางแห่งตำหนักตะวันตก

ไม่นานจากนั้น มนุษย์หมาป่าจำนวนหนึ่งเข้ามา จับกุมร่างมนุษย์นกเอาไว้

หนึ่งในมนุษย์หมาป่าหัวเราะ “เจ้าอีกาน่าสมเพช พวกเราเห็นเจ้าอารมณ์ร้ายบ่อยนัก คิดอยากกินเจ้ามานานแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า เมื่อฟ้าสาง พวกเราจะได้กินเนื้อเจ้า!”

มนุษย์นกถูกพันธนาการร่างเอาไว้ กรีดร้อง สบถสาปแช่งต่อมนุษย์หมาป่า ร้องเรียก “นายท่าน” อย่างคาดหวังว่าจะได้รับการไว้ชีวิต

“มนุษย์อสูรก็คือมนุษย์อสูร พวกมันไม่รู้วิธีเอาชนะใจผู้คน มนุษย์นกตัวนี้หาได้ผิดไม่ เป็นมันที่ไม่อาจต่อสู้ได้ดี ดังนั้นจึงเป็นปกติที่จะไม่กล้าต่อกรกลับ!” มุมปากฉินหยุนกระตุก จากนั้นนำเอายันต์จ้าวสรรพสัตว์ระดับสูงออกมา

ตราบเท่าที่แปะยันต์นี้ไว้กับร่างสัตว์ จะทำให้เขาสามารถควบคุมร่างพวกมันได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง การขัดเกลามันขึ้นถือว่าลำบาก แต่ไม่ได้ยากเย็น อย่างน้อยก็ง่ายกว่าการขัดเกลาปลอกคอสัตว์

ฉินหยุนเพียงทำไว้จำนวนหนึ่ง เขาตัดสินใจทดลองใช้งานมันดูว่าตนสามารถใช้ควบคุมมนุษย์อสูรได้หรือไม่ หากทำได้ เช่นนั้นเขาจะสามารถควบคุมมนุษย์นก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด