ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0277 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0279 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0278 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 278 : ไม่ชอบมาพากล

เชี่ยอวี้เซินและคณะโกรธจัด พวกเขาล้วนเป็นอาจารย์จารึกระดับกลาง พวกเขาสามารถคุ้มกันอาคมใหญ่ เป็นพวกเขาไม่เคยคิดว่าจะโดนหยามเหยียดถึงเพียงนี้มาก่อน

“ย่อมได้ หากไม่ชดใช้แก่พวกเรา เช่นนั้นพวกเราจะไปจากเมืองนี้! มาดูกันว่าเจ้าจะหาผู้ใดมาคุ้มกันอาคมได้ เมื่อใดที่ทั้งเมืองถูกยึดครอง ก็เป็นเพราะเจ้า องค์ชายรัชทายาท!” เชี่ยอวี้เซินแค่นเสียงสบถคำออกมา

เมิ่งเฟยหลิงเร่งรีบดึงฉินหยุนไว้ด้วยสีหน้าไร้ทางเลือก

แม้นางเกลียดชังผู้คนกลุ่มนี้ ทว่าพวกเขารับหน้าที่คุ้มกันอาคมใหญ่ อาคมนี้เกี่ยวพันถึงความปลอดภัยของผู้คนนับล้านในเมือง

หากเชี่ยอวี้เซินและคณะจากไป จะไม่มีผู้ใดคุ้มกันอาคมใหญ่ หากเกิดปัญหาที่ค่ายอาคม จนส่งผลให้สัตว์อสูรเข้าโจมตี ทั้งเมืองจะกลายเป็นตกอยู่ในอันตราย

“หากคิดจากไป เช่นนั้นจงไป! ในโลกใบนี้ไม่ได้มีเพียงแต่พวกเจ้าที่รู้วิธีการบำรุงรักษาอาคมใหญ่!” ฉินหยุนหาได้สนใจไม่ ตัวเขาเองเป็นอาจารย์จารึกระดับสูง ลำพังเขาก็สามารถบำรุงรักษาอาคมใหญ่ที่อาจารย์จารึกระดับกลางสามารถทำได้อยู่แล้ว

เมิ่งเฟยหลิงหาได้กล่าวคำใด เป็นนางรู้สึกว่าฉินหยุนมีทางอื่นเตรียมไว้ก่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม ฉินหยุนแข็งแกร่งกว่านางและอาจารย์จารึกหลายต่อหลายคน นอกจากนี้ยังเป็นองค์ชายแห่งเทียนฉิน เขาย่อมต้องมีวิธีจัดการอาคมใหญ่อย่างแน่นอน

เชี่ยอวี้เซินและคณะอึ้งไปวูบเมื่อพบว่าฉินหยุนขับไล่พวกตน พวกเขานึกว่าฉินหยุนจะร้องขออภัยต่อพวกเขา ชดใช้ความเสียหายแก่พวกเขาเสียอีก

ไม่ไกลนัก ผู้อาวุโสจำนวนหนึ่งเดินเข้ามา

“น้องหยุน ผู้อาวุโสของตระกูลเมิ่งของเรามาแล้ว! ในเมื่อท่านพ่อและท่านปู่ไม่อยู่ที่นี่ พวกเขาจึงเป็นผู้รับผิดชอบหน้าที่ของนครราชาปีศาจ!” เมิ่งเฟยหลิงกล่าวเสียงเบา

เมื่อพวกเชี่ยอวี้เซินพบว่าผู้อาวุโสของตระกูลเมิ่งกำลังเดินเข้ามา พวกเขาค่อยโล่งอก พวกเขาเข้าใจผู้อาวุโสเหล่านี้เป็นอย่างดี ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ มันสำคัญยิ่งกว่าหากต้องรักษาพวกเขาเอาไว้ที่นี่

ผู้นำมาเป็นชายชราตระกูลเมิ่ง เป็นชายร่างผอมสูง ทั้งยังไว้ทรงผมอย่างเรียบร้อย เพื่อรักษาให้รูปลักษณ์ดูดีอยู่เสมอ แม้ชรา แต่รอยเหี่ยวย่นที่ใบหน้ากลับมีน้อยนัก ด้วยชุดสีขาวสะอาดยิ่งทำให้เขาดูหนุ่มขึ้นหลายปี

ชายชราผู้นี้ เป็นน้องชายของปู่ของเมิ่งเฟยหลิง นามคือเมิ่งเถา

“ลุงใหญ่!” เมิ่งเฟยหลิงเผยเสียงดังขึ้น

ฉินหยุนเร่งรีบเข้าไปทักทายผู้อาวุโสทั้งห้าคน

“ฉินหยุน เป็นบุตรชายของฉินหลงงั้นหรือ?” เมิ่งเถามองฉินหยุนและพยักหน้า

“เป็นผู้น้อยเอง!” แม้เขาเป็นองค์ชายรัชทายาท กระนั้นเขาก็มีความเคารพแด่ผู้อาวุโสเสมอมา อย่างไรแล้ว พวกเขาก็คือผู้ปกปักษ์รักษาชายแดนมานานหลายปี พวกเขาทำหน้าที่ขับไล่กองทัพมนุษย์อสูรมานานยิ่ง ทำให้จักรวรรดิเทียนฉินสามารถปลอดภัยมาได้ตลอดหลายปี

“นับว่าดีนักที่ท่านมาที่นี่ องค์ชายรัชทายาทผู้นี้เหิมเกริมเกินไปแล้ว กระทั่งคิดขับไล่พวกเราไป!” เชี่ยอวี้เซินเร่งรีบก้าวเข้ามา นำเอาวัชระโล่ที่แตกหักของตนออกมา พร้อมเริ่มทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น

หลังผู้อาวุโสของตระกูลเมิ่งได้รับฟัง พวกเขาค่อยเข้าใจโดยคร่าวว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น

ทว่า พวกเขายังต้องตกตะลึงต่อพละกำลังของฉินหยุน เขาถึงขั้นสามารถทำลายอุปกรณ์วิญญาณระดับกลางชั้นดีอย่างวัชระโล่ได้

ได้เห็นผู้อาวุโสตระกูลเมิ่งเช่นนี้ เชี่ยอวี้เซินจึงเผยใบหน้าเป็นกังวลกล่าวเสริม “ผู้อาวุโส ท่านต้องคิดให้ถี่ถ้วน! อย่าได้ทำให้ความประมาทขององค์ชายผู้นี้ก่อเกิดปัญหาจนล่มทั้งเมือง กว่าล้านคนอาจต้องตายเพราะเรื่องนี้! ก่อนหน้านี้ ผู้คนของเมืองฉีเฟิงต่างหยาบคายต่อพวกเรา และเมื่อพวกเราไปจาก ทั้งเมืองจึงถูกสัตว์อสูรยึดไปครอง!”

พอฉินหยุนได้ยินนามเมืองฉีเฟิง หัวใจเขาพลันกระตุก!

เมืองฉีเฟิง เป็นเมืองที่อยู่ในความคุ้มครองของตำหนักจารึกเทวะ เพราะมีคนเปิดประตูเมืองและปิดค่ายอาคมใหญ่ ฝูงสัตว์อสูรจึงบุกเข้ามาได้!

ขณะนี้ เชี่ยอวี้เซินและคณะ แท้จริงพวกเขาเคยรับหน้าที่รับผิดชอบอาคมใหญ่ของเมืองฉีเฟิง!

ฉินหยุนอดคิดไม่ได้ว่าเชี่ยอวี้เซินเป็นตัวตนชั่วช้า เขาอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะตั้งข้อสงสัยต่อผู้ที่เพิ่งออกจากเมืองฉีเฟิงและล่มสลายในเวลาต่อมา! และตอนนี้ พวกเขาอาจคิดกระทำเช่นเดียวกับต่อนครราชาปีศาจ!

เมิ่งเถามองฉินหยุน คิ้วขมวดและกล่าว “องค์ชายรัชทายาท เหตุใดท่านไม่ยอมถอยสักก้าว พวกเราจะชดใช้ความเสียหายต่อวัชระโล่ จากนั้นก็ให้พวกเขารับหน้าที่เบื้องหลังซ่อมบำรุงค่ายอาคมใหญ่ต่อไป”

“ผู้อาวุโสเมิ่ง ท่านกำลังบอก ว่าข้ามีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะให้พวกเขาอยู่หรือไปใช่หรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถาม เขาคิดว่าผู้อาวุโสเหล่านี้จะไม่ฟังเขาเสียอีก

“ท่านคือองค์ชายรัชทายาท เป็นจักรพรรดิในอนาคตของเทียนฉิน ฉินหลงมาที่นี่ก่อนหน้านี้ บอกต่อพวกเราให้ทำตามท่าน เชื่อมั่นต่อท่านในภายหน้า” เมิ่งเถาถอนหายใจ “ข้าหวังว่าท่านจะไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง!”

ฉินหยุนพยักหน้ารับ “ในกรณีเช่นนั้น ผู้อาวุโสโปรดทำตามที่ข้าบอก! อันดับแรก ส่งถ่ายคำสั่งต่อทหารยามทั้งหมดที่ประตูเมือง ให้เข้มงวดและปิดประตูให้มิดแน่น ผู้ที่คิดอยากเข้าสามารถเข้า แต่ไม่อาจออกไป ประตูเมืองแต่ละแห่งให้ส่งกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกไปคุ้มกันเฝ้าระวัง จะดีที่สุดหากมีผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าเฝ้าระวังแต่ละประตูด้วยตัวเอง!”

“อันดับที่สอง จับกุมเชี่ยอวี้เซินและพรรคพวก!”

ผู้อาวุโสจำนวนหนึ่งของตระกูลเมิ่ง เมิ่งเฟยหลิง และเชี่ยอวี้เซินล้วนอึ้ง

พวกเขาไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดฉินหยุนจึงออกคำสั่งเช่นนี้ออกมา!

“น้องหยุน เจ้าไม่ได้กล่าวล้อเล่นใช่หรือไม่?” นางเอ่ยถามเมื่อพบว่าเมิ่งเถาและผู้อาวุโสอีกหลายคนมีความสงสัยต่อคำสั่งของฉินหยุน

“โปรดทำตามที่ข้าแจ้ง!” ฉินหยุนเอ่ยเสียงจริงจัง

เมิ่งเถาคิดไปครู่หนึ่งจึงกล่าวออก “องค์ชายรัชทายาท ท่านบอกเหตุผลแก่พวกเราได้หรือไม่? ส่วนตัวแล้ว ข้ามีความสงสัยและไม่พอใจเรื่องการจับกุมเชี่ยอวี้เซินและคณะ นี่ก็เพราะพวกเขาเป็นอาจารย์จารึกที่พวกเราเชื้อเชิญมารับผิดชอบหน้าที่ต่ออาคมใหญ่ ตัวอาคมใหญ่เกี่ยวพันถึงชะตาของทั้งเมือง นอกจากนี้ ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว ยังไม่ใช่เรื่องง่ายสามารถหาอาจารย์จารึก หากพวกเขาถูกจับกุม เช่นนั้นผู้ใดจะคุ้มกันซ่อมบำรุงค่ายอาคม?”

เชี่ยอวี้เซินกล่าวยืดอก “ฉินหยุน อย่าได้รังแกผู้อื่นด้วยอำนาจที่มี! ข้าทราบว่าเจ้ามีข้อพิพาทต่อพวกเรา แต่อย่าได้นำคนนับล้านต้องมาเสี่ยงภัยเพราะการพิพาทครั้งนี้! เจ้าช่างไม่เหมาะสมเป็นองค์ชายรัชทายาทยิ่งนัก หากเจ้าเป็นจักรพรรดิเทียนฉิน เมื่อนั้นจักรวรรดิเทียนฉินได้ล่มสลายแน่!”

“พวกเราเป็นอาจารย์จารึกระดับกลางที่ทรงอำนาจ พวกเราไม่ยินยอมรับการเหยียดหยาม! โปรดอภัยหากพวกเราต้องออกไปจากนครราชาปีศาจโดยทันที!”

เมิ่งเถาและคณะยังคงเงียบ พวกเขาต้องการเห็นว่าฉินหยุนจะตอบสนองอย่างไร

“ในเมื่อพวกเจ้าล้วนเป็นอาจารย์จารึกระดับกลางที่แข็งแกร่ง! เช่นนั้นจงนำเอาเหรียญตราอาจารย์จารึกออกมา!” ฉินหยุนมองที่เชี่ยอวี้เซินและคณะพร้อมแค่นเสียง “ข้าไม่ยอมรับความจริงว่าเจ้าเป็นอาจารย์จารึกระดับกลางที่แข็งแกร่งที่สุด!”

เชี่ยอวี้เซิน โดยทันทีจึงนำเอาเหรียญตราสีเงินออกมา เหรียญตรานี้วิบวับเป็นแสงสีเงิน เป็นเหรียญตราของอาจารย์จารึกระดับกลางของจริง

“แล้วพวกเขาเล่า?” ฉินหยุนชี้ไปยังกลุ่มชายวัยกลางคน

“เรื่องนี้...” เชี่ยอวี้เซินกลายเป็นพูดไม่ออก

ฉินหยุนแค่นเสียงถาม “พวกเขาเป็นอาจารย์จารึกจริงหรือ?”

เชี่ยอวี้เซินกลายเป็นมีโทสะ “แน่นอนว่าพวกเขาเป็นอาจารย์จารึก! พวกเขาเพียงเก็บตัวเงียบหาได้เข้าร่วมการทดสอบของตำหนักจารึกเทวะ ดังนั้นจึงไม่มีเหรียญตรา! ทว่าความสามารถล้วนเทียบเท่าอาจารย์จารึกระดับกลาง!”

ฉินหยุนหัวเราะ “ข้าไม่เชื่อคำโป้ปดนี้! ผ่านการทดสอบของตำหนักจารึกเทวะได้รับอภิสิทธิ์หลายต่อหลายอย่าง ใครกันไม่ต้องการ? นอกจากนี้ นี่ยังเกี่ยวพันถึงการแสดงความสามารถทางตรง ในเมื่อไม่มีเหรียญตรา เช่นนั้นอย่าได้กล่าววาจาไร้สาระ ในมุมมองข้า พวกเจ้าล้วนเป็นคนหลอกลวงกันทั้งสิ้น! ทันทีเมื่อมาถึงตระกูลเมิ่ง จึงเริ่มก่อการต่อหญิงรับใช้ที่นี่”

เชี่ยอวี้เซินโกรธจัด ร่างกายสั่นเทาตะโกนร้องบอกต่อเมิ่งเถา “ผู้อาวุโสเมิ่ง ทางที่ดีท่านควรขับไล่ฉินหยุนออกไป! เพราะได้เห็นตระกูลเมิ่งของท่านทรงอำนาจเช่นนี้ เขาเป็นกังวลว่าจะส่งผลต่ออำนาจในภายหน้า ด้วยเหตุนี้จึงคิดอยากทำลายเมืองที่เจริญรุ่งเรืองซึ่งท่านสร้างขึ้น! บุคคลเช่นนี้หาได้ควรค่าแก่การภักดีด้วยไม่!”

เมิ่งเถาและผู้อาวุโสตอนนี้ต่างขมวดคิ้ว!

เมิ่งเฟยหลิงตะโกนตอบโต้เสียงดังอย่างมีโทสะ “หุบปาก น้องหยุนไม่ใช่คนเช่นที่เจ้าพูดกล่าวอ้าง! เขาหาได้มีความโลภต่ออำนาจ ทั้งยังเป็นคนที่ดี แต่กับเจ้า ผู้ซึ่งสบประมาทหญิงรับใช้ตระกูลเมิ่งของเรา นั่นต่างหากจึงเป็นความจริง”

“นี่... เป็นพวกเราอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก!” เมิ่งเถาถอนหายใจ เขาไม่ทราบว่าควรทำเช่นไร “รอจนกว่าท่านผู้นำเมิ่งกลับมาก่อนค่อยว่ากล่าว!”

ท่านผู้นำเมิ่ง ย่อมเป็นปู่ของเมิ่งเฟยหลิง หรือก็คือราชาปีศาจ!

“ผู้อาวุโสเมิ่ง ท่านต้องทำตามที่ข้าว่า ไม่เช่นนั้น นครราชาปีศาจจะตกอยู่ในอันตราย!” ฉินหยุนเร่งกล่าว

“แต่ว่า... หากพวกเราจับกุมตัวพวกเขา ผู้ใดจะคุ้มกันค่ายอาคม?” แม้เมิ่งเถาไม่พอใจต่อท่าทีของฉินหยุน แต่เขาไม่อาจกล่าวอันใดได้

พอเชี่ยอวี้เซินได้เห็นเมิ่งเถาไม่คล้อยตามฉิน เขาจึงยิ้มรู้สึกวางใจขึ้นมาก

“ข้าจะเป็นคนปกป้องค่ายอาคมเอง!” ฉินหยุนนำเอาเหรียญตราสีทองออกมา “ข้าคืออาจารย์จารึกระดับสูง ข้าสามารถซ่อมบำรุงค่ายอาคมใหญ่ที่พวกเขารับหน้าที่ ทั้งความสัมพันธ์ของข้ากับผู้อาวุโสใหญ่ของตำหนักจารึกเทวะยังเป็นไปได้ด้วยดี ข้าจะส่งข้อความแจ้งต่อเขา ให้ส่งหน่วยอาจารย์จารึกที่ดีที่สุดคณะหนึ่งมาโดยเร็วที่สุด!”

เหรียญตราในมือฉินหยุนส่องประกายแสงสีทอง มันเป็นสีที่ดึงดูดสายตาได้ดีเยี่ยม ผู้คนที่ได้เห็นล้วนอึ้งทึ่ง!

เมิ่งเถาและคณะเคยประสบพบเจอกับผู้อาวุโสมามาก ดังนั้นย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะบอกได้ว่าเหรียญตราสีทองนี้เป็นของจริง ฉินหยุนครอบครองเหรียญตราอาจารย์จารึกระดับสูง หากไม่แล้ว เขาไม่มีทางทำให้มันส่องแสงสีทองออกมาได้!

เมิ่งเฟยหลิงไม่คาดคิดมาก่อน ว่าฉินหยุนไม่เพียงเป็นผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งกว่านาง กระทั่งเป็นอาจารย์จารึกระดับสูง ตอนนี้นอกจากความตกตะลึงแล้ว นางยังตื่นเต้นยินดีอย่างถึงที่สุด!

“เรื่องนี้... เป็นไปไม่ได้! เจ้าก็แค่ไอ้หนูอายุสิบเจ็ด จะเป็นอาจารย์จารึกระดับสูงได้อย่างไร? เหรียญตรานี้ต้องเป็นสิ่งที่เจ้าหลอมขึ้นมาแน่!” เป็นเขาใช้เวลาทั้งชั่วชีวิตจึงได้เป็นอาจารย์จารึกระดับกลาง เรื่องราวที่พบเช่นตรงหน้านี้เขาไม่มีวันยอมรับ

การเป็นอาจารย์จารึกระดับสูงถือเป็นเรื่องยากเหนือล้ำ ดังนั้น เขาจึงไม่เชื่อว่าฉินหยุนจะเป็นอาจารย์จารึกระดับสูง!

“ลุงใหญ่ เหรียญตรานี้เป็นของจริงหรือไม่?” เมิ่งเฟยหลิงเองก็สงสัย เพราะเรื่องนี้ยากจะเชื่อได้จริง ๆ

ฉินหยุนส่งเหรียญตราแก่เมิ่งเถา “ผู้อาวุโสเมิ่ง โปรดตรวจสอบมัน ข้ามั่นใจว่ามีความสามารถพอซ่อมบำรุงค่ายอาคม!”

เมิ่งเถารับเหรียญตราพิจารณาให้ดี พร้อมกันนี้ เขายังส่งต่อไปยังผู้อาวุโสท่านอื่นให้ร่วมตรวจสอบเช่นเดียวกัน

หลังพิจารณาถี่ถ้วนแล้ว พวกเขาจึงมั่นใจว่าเหรียญตรานี้เป็นของจริง!

ทว่า พวกเขายังไม่เชื่อว่าฉินหยุนเป็นอาจารย์จารึกระดับสูง!

เชี่ยอวี้เซินตะโกนดัง “อย่าได้ถูกเขาหลอกลวง! หากเป็นอาจารย์จารึกระดับสูงจริง เรื่องนี้สมควรต้องแพร่งพรายไปทั่วทุกหนแห่งแล้ว นอกจากนี้สถาบันยุทธ์ชิงเสวียน เหตุใดจึงต้องไล่เขาออกมา!”

ผู้อาวุโสของสถาบันยุทธ์ชิงเสวียนย่อมทราบว่าฉินหยุนเป็นอาจารย์จารึกระดับสูง ทว่าพวกเขาไม่กล้าป่าวประกาศออกไป มันจะกลายเป็นทำให้พวกเขาโดนผู้อื่นมองเหยียด ที่กล้าขับไล่อาจารย์จารึกระดับสูงวัยเยาว์ให้พ้นจากสถาบัน

“เอาแบบนี้เป็นไร ให้ข้าขัดเกลาอุปกรณ์วิญญาณระดับสูงที่ตรงนี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าข้าคืออาจารย์จารึกระดับสูง! ด้วยวิธีนี้ ผู้อาวุโสเมิ่งและคณะจะได้วางใจ ว่าข้าสามารถทำได้ดังที่พูดกล่าวออกไปจริง!” ฉินหยุนกล่าวคำจบ จึงนำเอาชุดอุปกรณ์สำหรับหลอมออกมาจากมิติเก็บของอย่างไม่รีรอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด