ตอนที่แล้วGE274 ข้าคือภรรยา [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE276 แก้แค้นให้เผ่าลั่วหยุน ( 1 ) [ฟรี]

GE275 เจ้าถามว่าข้าเป็นใคร [ฟรี]


เมื่อลู่ตู้เฉินประกาศเริ่มการแข่งขันรอบที่ 1 ผู้เชี่ยวชาญต่างเข้าจับจองแผ่นข่ายอาคม

ผ่านไปได้ 157 ลมหายใจ แผ่นอาคมม่วงแผ่นแรกก็ปรากฏ!

หวางเซี่ยวทะยานออกจากสนามประลองไปยังที่นั่งพร้อมกับแผ่นข่ายอาคมสีม่วง ปราณม่วงที่ประทุขึ้นจากแผ่นอาคม อัดแน่นไปด้วยพลังงานที่รุนแรง

ผู้ที่ได้แผ่นข่ายอาคมสีขาวได้ถูกข่ายอาคมส่งออกไปยังนอกสนาม ผู้ที่ยังครอบครองแผ่นอาคมขาวโดยที่ยังอยู่ในสนามต่อ แสดงว่าแผ่นข่ายอาคมนั้น แท้จริงคือแผ่นข่ายอาคมม่วง เพียงแต่ก่อนที่มันจะปะทุปราณม่วงขึ้นมา ต้องใช้เวลาช่วงหนึ่ง

หวางเซี่ยวใช้เท้าเหยียบทำลายแผ่นข่ายอาคมของมัน ปราณม่วงจำนวนมหาศาลประทุ เมื่อมันเริ่มดูดซับ สีหน้ามันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

“ปราณม่วงนี่ไม่ธรรมดา… ระดับของมันเกือบเทียบเท่าปราณที่ได้จากโอสถปลุกโลหิต ที่เป็นโอสถผันแปรที่ 5!”

หวางเซี่ยวรู้ว่าปราณม่วงระดับนี้ทรงพลังพอให้ยกระดับโลหิต

แต่น่าเสียดายที่มันปลุกโลหิตครั้งที่สามแล้ว ปราณม่วงที่มันได้ไปจึงไม่เป็นประโยชน์นัก

“ปราณม่วงเหล่านี้ส่งผลดีเฉพาะกับผู้ที่ปลุกโลหิตครั้งที่ 2… ข้าจะให้ซู่ฉินจัดการลู่ว่านเอ๋อร์… ลู่เป่ย...แค้นนี้ภรรยาของเจ้าต้องเป็นผู้ชำระ! ถ้ามันรู้เข้าคงสนุกน่าดู!”

หลังจากหวางเซี่ยวกระตุ้นแผ่นข่ายอาคมและดูดซับปราณม่วงได้สำเร็จ คนอื่นๆอย่างลู่เจี่ยเฟิน สนมอสูร และผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆที่เหลืออยู่ก็ทยอยดูดซับปราณม่วง

ผ่านไป 300 ลมหายใจ ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ 144 คนกระตุ้นข่ายอาคมจนได้ปราณม่วง

นอกจากคนเหล่านั้นแล้ว ยังมีผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนที่กระตุ้นแผ่นข่ายอาคมได้ เพียงแต่บางคนได้สีเหลือง บางคนได้สีฟ้า

ลู่ว่านเอ๋อร์ช่วงชิงแผ่นข่ายอาคมแผ่นหนึ่งมาจากผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด นางจึงได้แผ่นข่ายอาคมสีครามมา

นั่นหมายความว่า นางสามารถยกระดับโลหิตจนมีระดับเป็นสีครามได้...

ปีกหงส์เพลิงของนางสามารถหยิบยืมพลังธรรมชาติ เสริมความเร็วในการเคลื่อนที่ เสริมพลังในการป้องกันโดยการสร้างเพลิงที่รุนแรง

เมื่อพวกมันเข้าใกล้นาง เพลิงที่รุนแรงจะแผดเผาพวกมัน แม้มีเกราะระดับสูงคุ้มกายแต่ยังยากจะต้าน ทำให้เกราะของพวกมันถูกเผา ความร้อนส่งผ่านไปยังร่างกายภายในจนได้รับบาดเจ็บ

อานุภาพของปีกหงส์เพลิงทำให้ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นต้องถอยห่างอย่างจำใจ พวกมันยอมแพ้และต้องออกจากสนามไป

ลู่ว่านเอ๋อร์ยิ้ม นางโคจรปราณกระตุ้นข่ายอาคมเพื่อดูดซับปราณครามจากแผ่นข่ายอาคม

“ถ้าข้าช่วงชิงแผ่นข่ายอาคมสีครามมาได้อีก ระดับโลหิตของข้าจะกลายเป็นสีม่วง… แผ่นข่ายอาคมสีครามอยู่ที่ไหน?”

นางหันมองรอบๆ ยามนี้เหลือแผ่นข่ายอาคมสีคราม 7 แผ่น แต่ก็มีเจ้าของหมดแล้ว

6 คนที่ครอบครองแผ่นข่ายอาคมสีราม เหล่านี้อยู่ขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด มีกลิ่นอายปราณที่ทรงพลัง นางมั่นใจเพียงว่า นางสามารถเอาชนะ 4 คนได้ แต่อีก 2 คนที่เหลือนางไม่มั่นใจ

และผู้ที่ครอบครองแผ่นข่ายอาคมสีครามคนสุดท้ายคือบุรุษในเกราะเงิน เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ

เมื่อนางมองมัน มันมองนางด้วยสายตาเย้ยหยัน

นางประหลาดใจ อีกฝ่ายเป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ มีปราณที่ทรงพลัง เหตุใดมันไม่กระตุ้นแผ่นข่ายอาคมให้เป็นสีม่วงและจากไป

“นายกองอสูรคนนั้น… ถ้าจำไม่ผิดมันชื่อซูฉิน… เป็นนายกองที่มาจากแดนสวรรค์อสูร”

ลู่ตู้เฉินที่เฝ้ามองจากที่นั่งข้างสนามขมวดคิ้ว

ในกาคัดเลือกรอบแรกมีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเข้าร่วมทั้งหมด 145 คน… มี 144 คนที่กระตุ้นแผ่นข่ายอาคมให้เป็นสีม่วงแล้วออกไปรอนอกสนาม แต่เหตุใดมันผู้นั้นถึงได้รั้งอยู่!

ซูฉินผู้นั้นเป็นคนของหวางเซี่ยว

“นายกองหวาง เหตุใดซูฉินคนของท่านถึงไม่กระตุ้นแผ่นข่ายอาคมต่อแล้วออกมาจากสนาม… ที่มันยังรั้งอยู่ในนั้น มันตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?” ชายชรากล่าวถาม ชายชรารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี

“ข้าก็ไม่รู้… อาจจะรอสังหารใครสักคนก็ได้” หวางเซี่ยวเย้ยหยัน

ชายชราใจเต้นรัวราวกับกำลังมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้น

และในชั่วพริบตานั้น ซูฉินก็เคลื่อนไหว!

ร่างของมันกลายเป็นเส้นแสงสีเงินตรงดิ่งเข้าหาว่านเอ๋อร์ การเคลื่อนไหวของมันรวดเร็วจนไม่อาจมองเห็นได้ชัด เหล่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่เหลืออยู่สีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง พวกมันหวาดกลัวและเร่งออกจากสนามไป

เมื่อคนอื่นๆจากไป แผ่นข่ายอาคมสีครามทั้ง 6 ก็ถูกทิ้งลอยคว้าง เหลือเพียงลู่ว่านเอ๋อร์ในสนาม!

“อีกนิดเดียวโลหิตของเจ้าจะได้ระดับสีม่วง แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้น”

มันประทุปราณจำนวนมหาศาลออกจากร่าง ปรารเหล่านั้นแปรเปลี่ยนเป็นนกกระเรียนสีเงินขนาดใหญ่บินถลาไปทั่วท้องนภา ทุกที่ที่มันบินผ่าน ลมพายุรุนแรงก่อตัว อานุภาพของลมพายุรุนแรงพอจะฉีกร่างผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้นได้ในพริบตา ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มคนอื่นๆที่ยังอยู่ในสนามถูกพายุพัดพา เกราะคุ้มกายของพวกมันถูกทำลาย แต่พวกมันก็เอาชีวิตรอดและออกไปจากสนามไปอย่างรวดเร็ว

น่าหวาดกลัว… ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณช่างทรงพลัง

ซูฉินจู่โจมเพื่อหวังสังหาร!

“แย่แล้ว...ต้องรีบหนี!”

คนอื่นๆที่หนีไป ซูฉินไม่ได้สนใจ มันจ้องมองแค่ลู่ว่านเอ๋อร์เพียงคนเดียวเท่านั้น

ซูฉินหัวเราะ มันกำหมัดที่เปล่งแสงสีเงินเจิดจ้า ก่อนเหวี่ยงชกไปยังว่านเอ๋อร์

แผ่นข่ายอาคมสีครามทั้งหมดที่ขวางทางพลังหมัดถูกทำลาย

“นายกองซูฉิน! นี่มันหมายความว่ายังไง?” แววตาว่านเอ๋อร์แปรเปลี่ยนเย็นชา

“ลู่เป่ยสังหารพวกพ้องของข้าไป ในฐานะที่เจ้าเป็นภรรยา เจ้าต้องรับผิดชอบ ตายซะ!!”

“ว่าไงนะ!!” นางตกตะลึง มันคิดลงมือสังหารนาง

“บังอาจ!” ลู่ตู้เฉิน ลู่เฉิง และสนมอสูรเคลื่อนไหว แต่พลังของทั้งสามไม่อาจทะลวงผ่านข่ายอาคมเข้าไปได้

ในเมื่อกระตุ้นข่ายอาคมแล้ว ชายชราไม่อาจสั่งหยุดมันได้จนกว่าการคัดเลือกรอบที่ 1จะจบลง

นั่นหมายความว่าไม่มีผู้ใดช่วยว่านเอ๋อร์ได้… ชายชราจึงทำได้เพียงมองดูศิษย์ของตนตายอย่างไร้หนทาง

“ซูฉิน หากเจ้ากล้าสังหารศิษย์ข้า ต่อให้เจ้าเป็นคนของเผ่ากระเรียนเงิน ข้าก็ไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”

ชายชราคำรามลั่น แต่ซูฉินไม่ใส่ใจ

มันมีหวางเซี่ยวเป็นผู้หนุนหลัง จึงไม่จำเป็นต้องกังวล

นางเร่งกระตุ้นพลังสูงสุดของปีกหงส์เพลิง นางกลายร่างเป็นจิ้งจอกขาว แต่ร่างของนางราวกับถูกสวมทับด้วยเงาของหงส์เพลิง ยิ่งนางเร่งพลัง เงาร่างของหงส์เพลิงก็ยิ่งเด่นชัดขึ้น

นางโคจรปราณ อ้าปากพ่นเพลิงม่วงเข้าต้านพลังหมัดสีเงินของซูฉิน และเผาทำลายพลังของมันไป

สีหน้าซูฉินแปรเปลี่ยน มันคาดไม่ถึงว่านางจะหักล้างวิชาของมันได้

ลู่ตู้เฉินที่เห็นนางต้านรับอีกฝ่ายได้ ชายชราสบายใจขึ้นมาก เพราะตอนนี้นางมีโอกาสให้หนีออกจากข่ายอาคมแล้ว หากนางรอดมาได้ ชายชราจะช่วยแก้แค้นให้นางทีหลัง

แต่นางกลับไม่เลือกที่จะหนี!

นางจ้องมองแผ่นข่ายอาคมสีครามที่ยังเหลืออยู่ และเร่งทะยานหาเข้า

นางไม่อาจหลบหนี และนางก็ไม่อาจยอมแพ้ เพราะนางคือภรรยาของหนิงฝาน

หากนางดูดซับแผ่นข่ายอาคมนั่นได้และโลหิตยกระดับเป็นสีม่วง นางก็จะออกจากที่นี่ได้ หากนางทำสำเร็จ นางก็ทำหน้าที่ในฐานะภรรยาของหนิงฝานได้สำเร็จ

เมื่อนางหันหน้ามุ่งไปยังแผ่นข่ายอาคม ลู่ตู้เฉินและคนอื่นๆตกตะลึง

“เด็กโง่... นี่เจ้ายังจะห่วงแผ่นข่ายอาคมอีก...”

“แต่นางก็เป็นเด็กโง่จริงๆ… ถ้าไม่โง่นางคงไม่หลงรักข้า...”

ไม่ว่ายังไงนางก็ต้องทำสิ่งที่นางตั้งใจให้ลุล่วง ไม่ว่าอีกฝ่ายคิดจะสังหารนางยังไง แต่นางก็ต้องรักษาสิทธิ์ให้หนิงฝาน

ไม่ไกลจากนางนัก มีแผ่นข่ายอาคมสีครามอยู่ห่างออกไปร้อยจ้าง

แต่ในชั่วพริบตานั้น แสงสีเงินกลับปรากฏขึ้นขวางทางนางเอาไว้

“คาดไม่ถึงว่าคนที่มีโลหิตเผ่าจิ้งจอกขาวของเจ้าจะใช้วิชาของเผ่าหงส์เพลิงได้… ถึงตัวเจ้าจะรวดเร็ว แต่ก็คงจบสิ้นแค่นี้… ถ้าเมื่อครู่เจ้าเลือกที่จะหนีไป ข้าก็คงปล่อยเจ้าไปแล้ว แต่น่าเสียดาย...”

ดวงตาซูฉินเปล่งแสงสีเงินเจิดจ้า ก่อนที่มันจะกลายร่างเป็นกระเรียนเงิน... ยามนี้มันทรงพลังขึ้นเป็นสองเท่า

“ไม่มีใครช่วยเจ้าได้แล้ว สามีของเจ้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้!”

มันจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา มันเชื่อว่าไม่มีใครช่วยนางได้อีกแล้ว เพราะข่ายอาคมนี้ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูงก็ทะลวงไม่ได้

นอกจากนี้ มันยังไม่เปิดโอกาสให้นางจู่โจมเช่นนั้นเป็นครั้งที่สอง มันจึงเชื่อว่า ครั้งนี้นางไม่รอดแน่

แต่ชั่วพริบตาต่อมา มันกลับต้องเปลี่ยนความคิด

มันสัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรงที่ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ แต่นอกจากมัน เหล่าผู้เชี่ยวชาญรอบสนามทั้งหมดก็สัมผัสได้ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณยังรู้สึกหวาดกลัว

บางสิ่งกระทบกับข่ายอาคมดังสนั่น ข่ายอาคมปริแตก! มีบางคนจู่โจมข่ายอาคม!

บริเวณรอยแยกของข่ายอาคม ปรากฏเงาร่างของผู้เยาว์ในอาภรณ์ขาว มันชี้นิ้วลงมาที่ซูฉิน ปลายนิ้วเปล่งแสงสีม่วง

เมื่อสนมอสูรจื่อและวู่หยานเห็นแสงนั่น พวกนางสั่นสะท้าน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกนางหวาดกลัวได้ขนาดนี้

คนผู้เป็นเจ้าของนางพลังนั่นให้ความรู้สึกที่น่าหวาดกลัวมาก!

เมื่อสร้างรอยร้าวให้ข่ายอาคมได้สำเร็จ ผู้เยาว์คนนั้นปรากฏขึ้นเบื้องหน้าว่านเอ๋อร์ในชั่วพริบตา ก่อนที่การจู่โจมของซูฉินจะถูกหักล้างโดยสมบูรณ์!

เมื่อได้เห็นใบหน้าของผู้เยาว์คนนั้น ลู่เฉิงและลู่ตู้เฉินก็วางใจ สนมอสูรตกตะลึง ลู่ซ่งหยุนและลู่ฮั่วเฉินสองพ่อลูกสั่นสะท้าน

“ลู่เป่ย! เขามาแล้ว เขาไม่ปล่อยเจ้าซูฉินได้!”

หวางเซี่ยวผุดลุกจากที่นั่งด้วยสีหน้าตกตะลึง

“นั่นเหรอลู่เป่ย? มันเข้าไปในข่ายอาคมได้ยังไง? เป็นไปไม่ได้? ขนาดข้ายังเข้าไปในนั้นไม่ได้!”

ซูฉินตกตะลึง มันคาดไม่ถึงว่าการจู่โจมที่ทรงพลังของมันจะถูกทำลายได้ง่ายขนาดนี้

ผู้เยาว์คนนั้นค่อยๆเดินเข้าหามันทีละก้าว เป็นครั้งแรกที่มันหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“เจ้า… เจ้าเป็นใคร?”

“เจ้าถามว่าข้าเป็นใคร?” หนิงฝานรู้สึกราวกับได้ยินเรื่องที่น่าขันที่สุด แต่ในชั่วพริบตานั้น ร่างของหนิงฝานกลายเป็นหมอกสีม่วง ก่อนปรากฏขึ้นเบื้องหน้าซูฉิน เอื้อมือคว้าแขนของมันก่อจจะบีบจนหัก!

แรงบีบมือของหนิงฝาน สามารถหักกระดูกในขอบเขตกระดูกหยกของซูฉินได้ง่ายๆ

“ขอบเขตกระดูกหยกที่สอง!” สีหน้าซูฉินแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง พร้อมกับความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่าง

ชั่วลมหายใจต่อมา หนิงฝานออกแรงกระชากแขนของมันจนขาด มันหวาดกลัว เจ็บปวด จนต้องเร่งถอยอย่างรวดเร็ว

มันเป็นใคร? แรงกดดันของมันน่ากลัวมาก

“เจ้าถามว่าข้าเป็นใคร...”

หนิงฝานเดินเข้าหามัน แรงกดดันเพิ่มพูนในแต่ละก้าวที่เดิน จนเมื่อหนิงฝานเดินครบ 9 ก้าว ปราณกระบี่ทรงพลังตรงเข้าซูฉินและทะลวงร่างของมันอย่างรุนแรง

มันกระอักโลหิตคำโต ปราณกระบี่เมื่อครู่ทำให้มันบาดเจ็บสาหัส

เพียง 9 ก้าวก็ทำให้มันบาดเจ็บสาหัสได้… คนผู้นี้เป็นใคร!

“ไม่มีใครไม่รู้จักข้า… และเจ้าก็คิดสังหารภรรยาข้า!”

หนิงฝานกำมือ หอกสีทองปรากฏขึ้นในมือ แม้แท้จริงแล้วหอกตะวันจะเป็นวิชาตัดวิญญาณขั้นกลาง แต่หนิงฝานที่ใช้ออกยามนี้กลับเทียบได้กับวิชาในระดับตัดวิญญาณขั้นสูง

หนิงฝานขว้างหอกสีทองเข้าซูฉวน!

มันพยายามจะเค้นพลังต้านรับ แต่มันกลับไม่อาจขยับร่างกายได้ เพราะหนิงฝานใช้วิชาตรึงร่างมันไว้ ไม่มีผู้ใดเห็นว่าหนิงฝานใช้วิชาตรึงร่างตอนไหน

เมื่อหอกตะวันสัมผัสร่างของซูฉิน หอกได้แตกกระจายเป็นเข็มสีทองนับล้าน ที่แฝงด้วยความร้อนรุนแรงราวกับดวงอาทิตย์

เปลวเพลิงสีทองลุกโหมทั่วร่าง มันกรีดร้องอย่างน่าเวทนาก่อนจะถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็ว

ดวงจิตของมันเร่งหนีออกจากร่างได้ทัน เมื่อครู่มันสัมผัสได้ถึงพลังหยางที่รุนแรงมาก

“เป็นไปไม่ได้! ทำไมพลังหยางถึงมากมายขนาดนี้...”

ดวงจิตของซูฉินมีรูปลักษณ์เป็นกระเรียนเงิน มันเร่งบินหนีไปยังข่ายอาคมเคลื่อนย้ายที่เตรียมไว้ เพื่อออกนอกสนาม มันไม่รู้ว่าผู้ที่สังหารมันเป็นใคร รู้แค่ว่ามันเป็นเพียงมดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าคนผู้นี้

หากมันไม่หนีไปจากที่นี่ มันต้องตาย!

“ท่านหวางช่วยข้าด้วย!” ซูฉินจ้องมองหวางเซี่ยวพลางร้องขอความช่วยเหลือ

แต่หวางเซี่ยวไม่อาจทะลวงข่ายอาคมได้ มันช่วยยื่นมือช่วยไม่ได้

“ใครบอกให้เจ้าไป…”

คำกล่าวเพียงไม่กี่กลับ กลับเหมือนอัสนีฟาดผ่าลงกลางหัวของซูฉิน

หนิงฝานปรากฏกายเบื้องหน้ามันก่อนจะคว้าดวงจิตของมันไว้

ซูฉินหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณที่ทรงพลังกว่าทั่วไป แต่คนผู้นี้กลับสังหารมันได้ง่ายๆ

“เจ้าถามว่าข้าเป็นใคร...”

“ข้าจะบอกเจ้าให้ ข้าคือสามีของลู่ว่านเอ๋อร์ ลู่เป่ย! ล้างวิญญาณ!”

ดวงจิตของซูฉินถูกทำลาย ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วจิตวิญญาณของมัน

ไหนหวางเซี่ยวบอกว่าลู่เป่ยอยู่ขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม!?

แต่คนเบื้องหน้าที่กำลังจะสังหารมันกลับกลายเป็นลู่เป่ย!

นี่มันได้รับคำสั่งให้มาสังหารภรรยาของผู้เชี่ยวชาญระดับนี้?

ถ้ามันรู้อยู่ก่อนว่าลู่เป่ยแข็งแกร่งขนาดนี้ มันคงไม่กล้าลงมือกับว่านเอ๋อร์

“เจ้า...ไม่ใช่… ดวงจิตแรกเริ่ม… เจ้าเป็น… ตัดวิญญาณ… ยกโทษให้ข้าด้วย!”

ซูฉินเค้นพลังเฮือกสุดท้ายเพื่อร้องขอความเมตตา แต่ในขณะที่ดวงจิตของมันกำลังจะถูกทำลายโดยสมบูรณ์ หนิงฝานกลับหยุดมือ!

แล้วก็กลืนกินดวงจิตของหวางเซี่ยวไป!

จากการล้างดวงจิตเมื่อครู่ ทำให้หนิงฝานรู้ว่าผู้ที่บงการคือหวางเซี่ยว!

หนิงฝานไม่กล่าว เขาเพียงกลับไปหาว่านเอ๋อร์ กอดนางไว้พลางเช็ดคราบโลหิตที่มุมปาก

หนิงฝานดึงดูดแผ่นข่ายอาคมทั้งหมดที่เหลืออยู่ แล้วนำมาผสานกับแผ่นข่ายอาคมของนางจนแผ่นข่ายอาคมยกระดับเป็นแผ่นข่ายอาคมม่วง

เมื่อแผ่นข่ายอาคมผสานเข้าด้วยกันเสร็จสิ้น ข่ายอาคมใหญ่ก็สลาย

ว่านเอ๋อร์กอดหนิงฝานแน่น นางกลัวว่าเขาจะตำหนิที่นางไม่ห่วงชีวิต

เพราะเมื่อครั้งที่นางเสริมพลังให้อาวุธของเขา เขาก็ตำหนินาง

“ข้าขอโทษ...” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าหมอง

“ไม่หรอก… เป็นความผิดข้าเอง… ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยรักษาสิทธิ์ของข้า… ข้าจะใช้มันเพื่อแก้แค้นให้เจ้า!”

“อย่าเลย!” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงกังวล แต่หนิงฝานปล่อยนางและหันมองหวางเซี่ยว แผ่นข่ายอาคมที่ผสานกันสลาย กลายเป็นหมอกม่วงปกคลุมไปทั่วสนามประลอง

หนิงฝานยืนท่านกลางหมอกม่วง ยามนี้ เขาดูไม่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไป แต่ไม่มีผู้ใดกล้าดูหมิ่น!

“รอบแรกจบไปแล้ว… ข้าขอประกาศเริ่มรอบที่สอง! ข้าจะยืนอยู่ตรงนี้และรับคำท้าของทุกคน! หวางเซี่ยว ไสหัวลงมาเดี๋ยวนี้!”

“บัดซบ!” โทสะหวางเซี่ยงปะทุ

เป็นแค่ผู้เยาว์แต่กลับหล้าสังหารซูฉินต่อหน้ามัน และค้นความทรงจำต่อหน้ามันด้วย

แต่ในขณะที่มันกำลังจะเคลื่อนไหว ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้น 3 คนกลับเดินมาหามัน ป้องมือพลางกล่าว “ท่านหวาง ให้พวกข้าได้มอบความตายให้มันได้หรือไม่?”

“พวกเจ้า!” แววตาหวางเวี่ยวแปรเปลี่ยนเย็นชา เพราะผู้เชี่ยวชาญทั้งสามเป็นคนที่มันนำมาจากแดนสวรรค์อสูร

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด