ตอนที่แล้วบทที่ 139 เคลียร์พื้นที่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 141 ผนึกที่ภูเขาน้ำแข็ง

บทที่ 140 เปลวเพลิงนภา


[TL.เปลวเพลิง เปลวไฟ เหมือนกันนะครับพอดีเบลอๆ 555555]

บทที่ 140 เปลวเพลิงนภา

ฉื่อหยาน และเซี่ยซินหยาน ยืนอยู่ห่างออกมาสามพันเตร มองไปดูภูเขาน้ำแข็งที่กำลังพังทลายอย่างจริงจัง มีนักรบแปลกประหลาดสิบคนยืนอยู่ใกล้ๆ โดยที่พวกเขาไม่คิดจะหนี เช่นเดียวกับฉื่อหยานและเซี่ยซินหยาน พวกเขาถูกขับไล่ออกมาโดยขุมพลังทั้งสี่

อย่างไรก็ตาม มนุษย์ส่วนใหญ่ล้วนแต่ต้องการสิ่งเป็นไปไม่ได้แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้น้อยก็ตาม ฝูงชนยังคงเดินอยู่รอบๆพื้นที่ ด้วยหวังที่จะได้รู้ถึงความลับของภูเขาน้ำแข็ง

บูม !เป็ยเสียงน้ำแข็งแตกดังสนั่นออกมา ภูเขาถล่มและเกิดภูเขาไฟปะทุขึ้นอีกครั้ง และมันก็เริ่มพ่นลาวาร้อนออกมารอบๆพื้นที่ พื้นดินแตกออกเหวกว้าง เต็มไปด้วยเศษภูเขาน้ำแข็งจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดมาจากส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็ง แผ่นดินถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งนับไม่ถ้วน

ฉื่อหยาน และเซี่ยซินหยาน ทั้งคู่ยังคงยื่นอยู่่กับที่ ขณะที่มองไปที่ภูเขาไฟจากระยะไกล ยอดฝีมือจากขุมพลังทั้งสี่ยังคงโจมตีไปที่ภูเขาน้ำแข็งโดยใช้วิชาทั้งหมดที่ฝึกฝนมา

ระลอกคลื่นสีขาวจากภูเขาน้ำแข็งก็หนาแน่นขึ้นทำให้อากาศที่อยู่รอบๆหนาวเย็นขึ้นเป็นสิบเท่า ! แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ชะลอตัวลงแล้ว แต่พื้นดินกลับถูกปกคลุมด้วยอากาศที่หนาวเย็น แม้แต่ลาวา ที่อยู่ลึกลงไปในเหวหว้างก็ยังถูกแช่แข็ง

ระลอกคลื่อนกระจายไปรอบๆภูเขาน้ำแข็งอย่างต่อเนื่อง อากาศหนาวเย็นที่น่ากลัวยังคงกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยอุณหภูมิที่ลดต่ำลง ต้นไม้ที่ถูกล้มลงจากแผ่นดินไหว ก็เริ่มกลายเป็นน้ำแข็ง ส่องแสงสะท้อนทั่วพื้นดิน ระลอกคลื่นแพร่กระจายไปทั่วเกราะด้วยความเร็วที่น่าตกใจ ทำให้ผู้คนสามารถเห็นฉากที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน

" ไม่นะ ! ! ! ! ! " เซี่ยซินหยานตกอยู่ในความกลัว " ความหนาวเย็นนี้มันผิดปกติและหนักหนาเกินไป ตัวข้าที่สามารถเอาชนะความหนาวเย็นชอวจิตวิญญานขั้วอัคคึเหมันของเป่ยหมิงช่างได้ ! กลับถูกอากาศหนาวเย็นเหล่านี้ซึมเข้ามาในร่าง มีสิ่งใดอยู่ที่ภูเขาน้ำแข็งนั่นกันแน่ ? "

" แกร๊กกกกกก ! " ตอนนั้นเองภูเขาน้ำแข็งก็เกือบจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง ในเวลาเดียวกัน , กรวยน้ำแข็งขนาดเล็กมากมายก็เริ่มก่อตัวขึ้นบนพื้นดิน โดยใช้เวลาต่ำกว่าหนึ่งนาที กรวยเหล่านี้ก็ดูแปลกประหลาดไป กลายเป็นสัตว์อสูรน้ำแข็ง ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับเสือดาว ! สัตว์อสูรเหล่านี้มีความยาว สามถึงห้าเมตร ร่างกายของมันทั้งหมดส่งแสงสะท้อนแสงแดด และพวกมันก็ปลดปล่อยบรรยากาศเยือกเย็นออกมา

โดยใช้เวลาไม่นานสัตว์เหล่านี้ก็ปรากฏขึ้นจำนวนมากกว่าหนึ่งร้อยตัว เหล่าสัตว์อสูรน้ำแข็ง ดูคล้ายกับไม่มีชีวิต มันส่องแสงสะท้อนออกมาภายใต้แสงอาทิตย์ และจะตะปบลงไปที่มนุษย์ที่อยู่ที่เข้ามาใกล้ นั่นดูน่ากลัวเป็นอง่ามาก สัตว์อสูรน้ำแข็งเหล่านี้ส่งอากาศที่หนาวเย็นมากกว่าระลอกคลื่นสิบเท่าออกมา !

บรรกากาศกลายเป็นแปรปรวนเมื่อมีเสือดาวน้ำแข็งเพิ่มขึ้น และดูเหมือนว่าอากาศจะถูกแช่ครั้งทุกที่ ที่พวกมันเคลื่อนผ่าน พวกมันส่งเสียงอยู่ในลำคอ รอยร้าวที่เกิดขึ้นบนภูเขาน้ำแข็งก็แตกออก ปรากฏเป็นสัตว์อสูรน้ำแข็งพุ่งออกมา แสงแดดส่องสะท้อนร่างพวกมัน และเกิดเป็นเสียงต่อสู้ที่รุนแรงดังมาจากขุมพลังทั้งสี่ . หุบเหวส่องแสงเป็นประกายออกมาด้วยผลึกน้ำแข็ง ราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่เกิดจากภูเขาน้ำแข็ง

ในที่สุด การแตกของพื้นดินก็สิ้นสุดลง ตอนนั้นเอง ก็มีสัตว์อสูรนับแสนตัวพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินเหมือนกับฝูงตั๊กแตน .

ฉื่อหยาน ยืนดูเหตุการที่เกิดขึ้นพร้อมกับเสยผม และสาปแช่งออกมา " สัตว์อสูรน้ำแข็งเหล่านี้มาจากไหนกัน ? ข้ารู้สึกได้ถึงความเย็นในตัวพวกมัน และดูเหมือนกับว่า พวกมันไม่มีชีวิต ! นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? "

" ไปกันเถอะ ! พวกมันมีมากเกินไปที่เราจะรับมือไหว สัตว์อสูรเหล่านี้มีพลังความเย็นมากเกินไป หนีกันเถอะ ! " เซี่ยซินหยาน อุทานออกมาหลังจากการตรวจสอบไปที่สัตว์อสูรเหล่านั้นด้วยพลังจิตวิญญานของนาง ใบหน้าของนางดูกระวนกระวายเป็นอย่างมาก

" อ๊า ! ! ! ! ! ! ! ! " ไกลออกไป นักรบจากขุมพลังทั้งสี่ก็ถูกล้อมรอบโดยสัตว์อสูรน้ำแข็ง น่าประหลาด ที่การโจมตีของพวกเขาไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้เลย ดูเหมือนพวกเขาจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะสร้างบาดแผลให้สัตว์อสูรน้ำแข็งพวกนี้ได้ ' นักรบเริ่มถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆโดยสัตว์อสูรเหล่านี้ , ร่างกายของพวกกลายเป็นภาพอันน่าสยดสยองไป

เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าสยดสยองเช่นนี้ ตงฟางเห้อ เฉินตั่ว กู่เจียงเก้อ และคนอื่นๆก็พากันตื่นตระหนก ในตอนนี้ใครหละที่จะไปสนใจความลับของภูเขาน้ำแข็งได้อีก ? ดังนั้น ยอดฝีมือจากขุมพลังทั้งสี่ก็เริ่มหลบหนีออกไปเหมือนกับสายลม ทีละคน

ขุมพลังทั้งสี่ยังเลือกที่จะหนีเพื่อรักษาชีวิตของพวกเขา แต่นั้นก็ไม่ทำให้ฉื่อหยานกลัว ดังนั้น เขาจึงหันไปกล่าวกับเซี่ยซินหยานอย่างเร่งรีบ .

สัตว์อสูรน้ำแข็งสัตว์ไม่เพียงแต่พวกมันจะดูเหมือนเสือดาวเท่านั้น พวกมันก็เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วและรวดเร็วเหมือนรูปร่างของมัน มันวิ่งอาละวาดไปทั่วพื้นที่น้ำแข็งแห่งนี้ สัตว์อสูรมากมายเหล่านี้วิ่งตรงไปยังเหล่านักรบระดับปฐพี นักรบพเนจรที่อยู่ใกล้ๆกับฉื่อหยาน ที่อยู่ค่อนข้างห่างไกลจากภูเขาน้ำแข็ง ตอนนี้ตกอยู่ในความหวาดกลัวพวกเขากรีดร้องออกมาและวิ่งหนีไป

" มันคือสัตว์อสูรน้ำแข็ง ! สัตว์อสูรน้ำแข็ง ! ข้าเคยเห็นพวกมันในคัมภีร์โบราณ ! พวกมันต้องเป็นสัตว์อสูรน้ำแข็งน้ำแข็งแน่นอนร้อยเปอเซนต์ สัตว์อสูรน้ำแข็งเหล่านี้ถูกควบคุมโดย เปลวเหมันเยือกแข็ง ! " นักรบชราคนหนึ่งตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขานั้นอยู่ในนภาที่สามของระดับหายนะ เขาหันมาพูดอย่างมุ่งมั่นแทนที่จะวิ่งหนีอย่างเดียว และช่องว่างระหว่างเขากับเสือดาวน้ำแข็งก็ได้ลดลงอย่างรวดเร็ จากนั้นร่างของเขาก็หายไปในฝูงสัตว์อสูรน้ำแข็ง

เสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วท้องฟ้าเหนือ ที่ๆนักรบชราคนนั้นตะโกนออกมา

ฉื่อหยานรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น ใบหน้าของเขาลดลงและเขารีบเร่งฝีเท้าของเขา

ชื่อของ " สัตว์อสูรน้ำแข็ง " ได้สลักบางอย่างลึกลงไปในจิตใจของเซี่ยซินหยาน และร่างกายที่บอบบางของนางก็สั่นเทาบงบอกให้เห็นถึงความกลัวที่ปรากฏอยู่ในสายตาของนาง ด้วยความกลัว นางก็ร้องออกมา " ตามข้ามา ฉื่อหยาน เร็วเข้า ! " และฉื่อหยานก็ทำตามโดยไม่ลังเล

ทันใดนั้น เสียงหวือที่แตกต่างกันก็ลอยผ่านหัวของพวกเขา ฉื่อหยานมองขึ้นไปแทบจะทันที และก็พบว่านักรบระดับสูงของขุมพลัวทั้งสี่กำลังบินไปที่ด้านหน้าประตูของเกราะเหมินลั่ว และ ในมือของพวกเขา พวกเขากำลังพยายามหิ้วผู้ติดตามของเขาให้ได้มากที่สุด กู่เจียงเก้อ ถูกหิ้วโดยนักรบระดับนภาในตระกูลตงฟางด้วยมือข้างหนึ่ง และ รอบ ๆตัวเขาก็มีแสงส่องออกมา ทันทีที่ฉื่อหยานแหงนหน้าขึ้นมอง กู่เจียงเก้อก็มองมาที่เขา

ฉื่อหยานพ้นลมหายใจออกมาและทันทีที่เขาก็ลดหัวของเขาลงมาอย่างรวดเร็วและจับไปที่เซี่ยซินหยาน . นางหยุดชะงักทันที และหยุดอยู่ตรงภูเขาไฟที่มอดแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างจากภูเขาน้ำแข็งประมาณ4-5พันเมตร . แหวนบนนิ้วของนาง ส่องแสงสีเขียวออกมา , และก็ปรากฏเป็นสว่านสีเงินออกมา

เซี่ยซินหยานถ่ายพลังปราณลึกลับของนางลงไปในอุปกรณ์ขนาดเล็ดนี่ สว่านก็ส่องแสงสีเงินออกมาและเจาะลึกลงไปยังภูเขาไฟที่มอดแล้ส ในนาทีเดียว ก้อนหินก็ถูกเจาะทะลวง และเศษหินก็กระเด็นลอยขึ้นไปในอากาศรอบๆตัวเขา

ไม่กี่นาทีต่อมา ก็ปรากฏเป็นหลุมลึกขึ้น ! เซี่ยซินหยาน เข้าไปในหลุมโดยไม่ลังเลและ กวักมือเรียกฉื่อหยานให้ตามมา ฉื่อหยานหันหน้ามองกลับไปทันทีก็สัมพัสได้ถึงภัยถูกคุกคามจากสายตาของสัตว์อสูรนับไม่ถ้วน สัตว์อสูรน้ำแข็งสิ่งมาจากทั่วทิศทางเหมือนกระแสน้ำ เขาเหลือบมองไปที่ศพของนักรบหลายคนที่ถูกกระฉากโดยสัตว์อสูรน้ำแข็ง

ในขณะเดียวกัน สัตว์อสูรน้ำแข็งประหลาดสิบตัวที่ดูเหมือนไม่มีชีวิตก็วิ่งมาที่หลุมแห่งนี้ด้วยพลังความเย็น ฉื่อหยานทันทีก็สัมพัสได้ถึงอากาศที่เย็นขึ้น โดยไม่ลังเลใดๆ เขาก็รีบวิ่งเข้าไปในถ้ำ

ในเวลานี้ เซี่ยซินหยาน กำลังถือสว่านเงินควบคุมให้มันทำงานไปยังหินที่ด้านหน้า นางยกแผ่นหินที่ถูกเจาะขึ้นและ ตะโกนสั่งไปที่ฉื่อหยาน" มานี่ ช่วยข้าที ! ปิดหลุมนี่สะ ! "

โดยไม่ต้องคิดใดๆ ฉื่อหยานก็รีบยกหินไม่กี่ที่ขนาดเท่าไมล์หิน และนำพวกมันไปยังทางเข้าถ้ำ ภายใต้ความพยายามร่วมกันของพวกเขาหันนับสิบต่างก็ถูกหามออกไปที่ทางเข้าหลุม แล้วให้พวกเขาปิดกั้นรูไว้โดยไม่มีแม้แต่แสงที่ส่องเข้ามา แต่ทั้งสองก็ยังไม่กล้าที่จะผ่อนคลาย เสียงที่เซี่ยซินหยานสั่งออกมานั้นดูอ่อนโยนมากแต่ก็เป็นคำสั่งที่มีประสิทธิภาพ ฉื่อหยานยังคงยกหินอย่างต่อเนื่อง ในไม่กี่นาทีต่อมา พวกเขาสองคนก็อยู่ในถ้ำที่ลึกลงมา30เมตรโดยมีหินนับร้อยก้อนปิดกั้นทางเข้าอยู่

ปัง ! ปัง !

เสียงกระแทกอย่างรุนแรงดังมาจากทางเข้า ดูเหมือนว่าสัตว์อสูรน้ำแข็งจะรู้ว่าพวกเขาอยู่ในถ้ำ และตอนนี้พวกมันก็พยายามจะพังเข้ามาในถ้ำด้วยกากระแทกที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ก้อนหินที่อยู่ระหว่างทางเข้ากับจุดที่เซี่ยซินหยานและฉื่อหยานอยู่นั้นมีหินจำนวนไม่ต่ำกว่าสามพันก้อนขวางอยู่ ในหมู่พวกมันแม้แต่ก้อนที่มีขนาดเล็กที่สุดก็ยังมีขนาดเท่ากับม้านั่ง ด้วยหินจำนวนมากนี้ ถึงแม้จะเป็นสัตว์อสูรน้ำแข็งก็ยากที่จะพังเข้ามาได้

อย่างไรก็ตาม สัตว์อสูรน้ำแข็งเหล่านี้ก็ยังคงพยายามอย่างต่อเนื่อง ครึ่งชั่วโมงต่อมาเสียงที่ดังสนั่นทางเข้าก็เริ่มลดลง

" ข้าคิดว่าเราปลอดภัยแล้ว " นางเช็ดเหงื่อจากหน้าผากของนาง เซี่ยซินหยาน ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วนางก็เปิดผ้าคลุมหน้าของนาง แก้มที่บอบบางของนางถูกทาบไปด้วยเหงื่อที่ไหลลงมา

ถ้าไม่ใช่เพราะเซี่ยซินหยานนางมีหินเรืองแสง เมื่อลึกเข้ามาในถ้ำ ทั้งสองจะต้องลำบากจากการขาดแสงสว่างแน่นอน

เซี่ยซินหยาน ดูเหนื่อยล้า หลังจากเก็บสว่านอันเล็กไป นางก็หายใจหอบเล็กน้อย แล้วก็นั่งลงบนพื้น จากนั้นก็ยิ้มอย่างขมขื่น " พวกเรานี่ยากลำบากจริงๆ "

" สัตว์อสูรน้ำแข็ง ? ชายชราคนนั้นตะโกนชื่อนี้ออกมา ก่อนที่เขาจะตาย ข้าเห็นเจ้าแสดงอาการแปลกใจ คุณรู้อะไรเกี่ยวกับสัตว์อสูรเหล่านี้งั้นรึ ? " ฉื่อหยานขมวดคิ้วถามนางที่นั่งตัวติดอยู่กับเขา

เซี่ยซินหยาน พยักหน้าของนางอย่างช้าๆ โดยไม่ลังเล สีหน้าของนางกลายเป็นจริงจัง และพูดออกมาด้วยความกลัวเล็กน้อย " ในที่สุดข้าก็รู้ว่าทำไมเกาะภูเขาไฟแห่งนี้จึงมีภูเขาน้ำแข็ง "

" ทำไมรึ ? "

" น้ำแข็งนั่น มีเปลวเหมันเยือกแข็งอยู่ภายใน"

" เปลวเหมันเยือกแข็ง ? " หน้าของฉื่อหยาน ก็เต็มไปด้วยความสับสน" เหตุใดเปลวไฟนั่นจึงแข็งแกร่งนัก ? "

" มันคือเปลวเพลิงนภา ! " เซี่ยซินหยาน เอาลมหายใจลึกและจากนั้นไปในการอธิบาย " เจ้าคงรู้เกี่ยวกับเปลวไฟ มนุษย์ ปฐพี นภา ทั้งสามชนิดแล้วใช่หรือไม่ ? "

" แน่นอน อันแรก เปลวไฟมนุษญ์ มนุษย์เราเกิดมาพร้อมกับมัน และเป็นจิตวิญญาณการต่อสู้ เช่นเปลสเพลิงขั้วอัคคีเหมัน ของเป่ยหมิงชาง ส่วนเปลวไฟปญพี มันอยู่ลึกลงไปในภูเขาไฟเป็นล้านปี และมันเป็นเปลวไฟที่มีพลังที่น่ากลัว แต่มันั้นไร้ซึ่งชีวิต มันสามารถใช้ในการผลิตยาและอาวุธ - ที่น่าหวาดกลัวได้ และสุดท้าย ก็เปลวไฟนภา มันเป็นเปลวไฟที่มีตัวตนอยู่ระหว่างโลกและสวรรค์ และมันก็มีประสิทธิภาพมากที่สุดในเปลวไฟทั้งสามชนิด เพราะมันมีชีวิตและมีจิตสำนึกเป็นของตัวเอง ! มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์ที่สุดบนโลกใบนี้ ! -hkได้ยินว่ามันสามารถเอาชนะเปลวไฟมนุษย์และเปลวไฟปฐพีได้ในชั่วพริบตา และพลังอำนาจของมันก็แข็งแกร่งมากอีกด้วย ! " ฉื่อหยานตอยกลับ

" ถูกต้อง " เซี่ยซินหยาน พยักหน้า และเงบขึ้น " ระหว่างเปลวไฟทั้งสาม เปลสไฟมนุษย์ถือว่ามีอำนาจน้อยที่สุด ต่อมาก็เปลวไฟปฐพี สุดท้ายเปลวไฟนภา เป็นเปลวไฟที่น่ากลัวที่สุด ภูเขาน้ำแข็งนั่น . . . . . . . ข้าคิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของเปลวไฟนภา เปลวเหมันเยือกแข็ง มันเป็นเปลวไฟที่หนาวเย็นที่สุดระหว่างโลกและสวรรค์ มันมีชีวิตเป็นของตัวเอง และทุกที่ที่มันไป พื้นดินแห่งนั้นก็จะถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ และปรากฏเป็นระลอกคลื่นที่หนาวเย็นออกมา "

" เปลวเหมันเยือกแข็ง ? " ฉื่อหยาน ก็รู้สึกสับสน" แต่ทำไมเปลวไฟนี้ถึงมาปรากฏที่เกราะแห่งนี้กัน ? "

" มันถูกผนึกไว้ที่นี่ " เซียซินหยานตอบคำถามไป จากนั้นนางก็หยุดคิดสักพักแล้วจึงพูดต่อ " ว่ากันว่านักรบที่แข็งแกร่งเหนือกว่าระดับพระเจ้าแท้จริงสามารถดูดซับเปลวไฟนภาเข้าไปในจิตวิญญานเพื่อใช้งานได้ จึงทำให้เขาได้รับพลังความเป็นอมตะ อย่างไรก็ตาม การพูดนั้นง่ายกว่าลงมือทำ เปลสไฟนภาไม่ได้เกิดมาเพื่อให้คนดูดซับ หรือหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาน ไม่เพียงแต่เจ้าจะต้องอยู่ในระดับพระเจ้าแท้จริงเท่านั้น แต่เจ้ายังต้องมีวัสดุที่หายากมากมาย . เหนือสิ่งอื่นใด เจ้าจะต้องเอาชนะใจเปลวไฟนภาให้ได้เสียก่อน นั้นถิแว่ามันยากเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้”

" มีใครเคยประสบความสำเร็จในการดูดซับเปลวไฟนภาหรือไม่ ? "

" อืม... ในหนึ่งหมื่นปีที่ผ่านมาของทะเลไม่มีสิ้นสุด มีตำนานมากมายที่ได้บอกเกี่ยวกับนักรบที่แข็งแกร่งผู้ซึ่งได้ทำตามความปรารถนาในการดูดซับ แต่ทุกเรื่องราวก็จบลงอย่างน่าเศร้า นักรบที่ถูกกลื่นกินโดยเปลวไฟนภา ร่างกายและวิญญาณของเขาจะถูกทำลาย สิ่งหนึ่งที่ต้องจำก็คือ : เมื่อเปลวไฟนภาได้หลอมรวมเข้ากับจิตวิญญานของมนุษย์ พลังจิตวิญญาณของเจ้าก็จะเป็นพลังแห่งไฟ เจ้าสามารถเอาชนะนักรบที่อยู่ในระดับเดียวกันได้ทั้งหมด นักรบนภาแรกของระดับพระเจ้าแท้จริเมื่อดูดซับเฟลวไฟนภาเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะสามารถเอาชนะนักรบที่อยู่ในนภาที่สองหรือสามของระดับการบ่มเพาะเดียวกันได้ เพียงแค่หากมายืนอยู่ตรงหน้า เขาก็สามารถฆ่าคนๆนั้นได้ในเสี้ยววินาที ! "

" ฆ่าได้ในเสี้ยววินาที "

" เจ้าได้ยินไม่ผิดหลอก มันสามารถสังหารได้ในเสี้ยววินาที ! " เซี่ยซินหยาน หลี่ตาลง และเสียงของนางก็ดูจริงจัง " ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อจิตวิญญาณได้ซึมซับเปลวไฟนภาเข้าไปก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น คล้ายกับการกลายพันธุ์ , และด้วยการกลายพันธุ์นี้ พลังจิตวิญญานของเขาก็จะกลายเป็นน่ากลัวอย่างยิ่ง เขาสามารถเผาไหม้ฝ่ายตรงข้ามให้ตกตายได้ในเสี้ยววินาที ! และการทำจิตวิญญานของคนๆหนึ่ง ก็จะง่ายเหมือนมีลมพัดผ่าน ! "

" เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามของข้าเลย ข้าถามว่ามีใครเคยทำสำเร็จหรือไม่ ? "

" มี ในบันทึกของทะเลไม่มีที่สิ้นสุดดูเหมือนจะเป็นนักรบสองคน ที่สามารถหลอมรวมกับมันได้ หนึ่งในนั้นมีระดับพระเจ้าแท้จริง และอีกคนก็มีระดับพระเจ้าราชันย์ พวกเขาเป็นเหมือนกับผู้ปกคลองโลกทั้งใบและนักรบทั้งหมดที่อยู่ในระดับเดียวกันต่างก็ตกอยู่แทบเท้าของเขา พวกเขาเป็นผู้เหนือระดับอย่างแท้จริง . "

" งั้น เปลวอัคคีเหมัน ทำไมมันถึงถูกผนึกอยู่ภายใต้ภูเขาไฟของเกราะนี้หละ ? มันเป็นเพราะมีใครบางคนต้องการจะควบคุมไฟนี้ด้วยพลังของภูเขาไฟงั้นรึ ? เช่นนั้นก็แปลว่ามีใครบางคนต้องการที่จะดูดซับเปลวไฟนี้หนะสิ ?? "ฉื่อหยานถามออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยความตื่นเต้น

" อาจจะใช่ แต่ดูเหมือนว่าใครก็ตามที่ทำเช่นนี้จะต้องล้มเหลวแน่นอน . " เซี่ยซินหยาน พยักหน้า_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1195 แล้วนะคะ หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด