บทที่ 127 หลุมฝังศพ
[TL. ขอเปลี่ยน วิชา ตำราทมิฬ ที่ใช้ควบคุมพลังปราณหยิน เป็น แก่นแท้ทมิฬ นะครับ เพื่อความเท่ ! ]
บทที่ 127 หลุมฝังศพ
" ศพทาส ? " ฉื่อหยานทำหน้าบึ้ง " ศพเหล่านี้มาจากนิกายซากศพงั้นรึ ? "
" นิกายซากศพและดินแดนมหัศจรรย์หยินหยาง นั้นสนิทกันมาก ถือว่าเป็นกองกำลังใหญ่ในทะเลตูต้าเลยก็ว่าได้ ในนิกายซากศพนั้น , เหล่าสาวกจะควบคุมศพเพื่อใช้ในการต่อสู้และพวกมันก็ยังเชี่ยวชาญในการปรับแต่งศพอีกด้วย วิชาและการบ่มเพาะของพวกมันเกือบทั้งหมดล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการควบคุมศพ " เซี่ยซินหยาน ขมวดคิ้วเข้าหากัน ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความขยะแขยง " สาวกจากนิกายนี้จะสามารถควบคุมซากศพได้มากขึ้นตามระดับการบ่าเพาะที่สูงขึ้น นักรบที่อยู่ในระดับหายนะ จะต้องผ่านการดัดแปลงจากในนิกายซากศพ เมื่อดัดแปลงแล้วพวกมันนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าตอนมีชีวิตเสียอีก ! "
" ศพทาสเหล่านี้ทั้งหมดมาจากนิกายซากศพงั้นรึ ? "
" ใช่ แต่ศพเหล่านี้ ยังไม่ถือเป็นทาสโดยแท้จริง ศพเหล่านี้กำลังอยู่ในช่วงป้องกันการย่อยสลาย โดยใช้วิธีที่ง่ายที่สุด แต่เมื่อพวกมันไปถึง นิกายของศพ และถูกปรับแต่ง ศพเหล่านี้ก็จะกลายเป็นน่ากลัวมากขึ้น บางศพที่ได้รับการปรับแต่งนานหลายปีก็ถึงกับแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ,ร่างกายของพวกมันนั้นจะไม่สามารถฟันแทงได้เข้าและพวกมันยังสามารถใช้พลังจากธาตุทั้งห้าได้อีกด้วย พวกมันถือได้ว่าเป็นอาวุธที่แข็แกร่งที่สุดในนิกาย "
หัวใจของ ฉื่อหยาน สั่นเทาและสีหน้าของเขาก็ดูมืดมนมากขึ้น
" ดินแดนมหัศจรรย์หยินหยางจะเก็บศพเหล่านี้ไปพร้อมๆกับขณะที่พวกเขารวบรวมชิ้นส่วนสมุนไพร เวลานี้ ดินแดนมหัศจรรย์หยินหยางสมควรต้องส่งศพเหล่านี้ไปที่นิกายซากศพ ดูเหมือนว่าเรากำลังจะไปที่หลุมฝังศพสินะ "
" หลุมฝังศพ ? "
" หลุมฝังศพคือที่ๆนิกายซากศพจะใช้ปรับแต่งศพ ในทะเลกว้างใหญ่ นิกายซากศพนั้นมีหลุมฝังศพอยู่ด้วยกันหลายแห่งและมีทาสศพอยู่มากมาย เมื่อสาวกของนิกายต่อสู้ และศพของพวกเขาถูกทำลาย พวกเขาก็จะไปสถานที่เหล่านั้นเพื่อเลือกทาสศพใหม่ เพื่อที่จะฟื้นฟูอำนาจของพวกเขา สาวกหลักบางคนก็จะได้รับทาสศพที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก นั่นก็คือศพที่ได้ผ่านการปรับแต่งมานับร้อยปีพวกมันนั้นแข็งแกร่งและทรงอนุภาพเป็นอย่างมากในการต่อสู้ "
" กี่ทาสศำกัน ที่สาวกในนิกายสามารถควบคุมได้ ? "
" มันขึ้นอยู่กับระดับพลังการบ่มเพาะและนอกจากนี้ทาสศพเองก็มีระดับเช่นกัน ทาสศพที่มีการปรับแต่งมาน้อยกว่าร้อยปีจะเรียกว่า ศพมนุษย์ หากมากกว่าร้อยปีพวกเขาก็จะเรียกว่า ศพปฐพี หากมีอายุมากกว่าพันปีพวกเขาก็จะเรียกว่า ศพนภา และศพที่มีอายุเกินหมื่นปี พวกเขาจะเรียกศพนั้นว่า ศพราชันย์ ! ศพทะ้วไป พวกเขาจะสามารถใช้พลังของศพในขณะที่มีชีวิตอยู่ได้ 30 เปอเซนต์ ศพปฐพีที่มีอายุร้อยปีจะสามารถใช้พลังของศพได้ 100% ของศพในตอนที่ศพยังมีชีวิตอยู่ ศพนภาที่มีอายุพันปี ศพสามารถใช้พลังได้ถึง 120% ! ส่วน หมื่นปี และศพราชันย์ที่มีอายุหมื่นปีนั้นน่ากลัวที่สุด พวกมันสามารถที่จะใช้พลังของพวกมันได้ถึงสองเท่าในตอนที่ศพยังมีชีวิตอยู่ อีกทั้งพวกมันยังสามารถใช้พลังจากธาตุทั้งห้าได้ ศพที่สามารถใช้พลังของธาตุทั้งห้าได้ ก็เทียบได้กับการมีจิตวิญญานต่อสู้ถึง 5 ชนิด ! "
" ศพมนุษย์ , ศพปฐพี , ศพนภา และศพราชันย์ " ฉื่อหยานสีหน้าก็เปลี่ยนไป " ในนิกายซากศพ มีศพราชันย์หรือไม่ ? "
" ไม่รู้สิ กล่าวกันว่าพวกเขามีเพียงร่างสองร่างเท่านั้น แต่ศพราชันย์ทั้งสองนั้นล้วนแต่อยู่ในระดับนภาขณะที่พวกมันยังคงมีชีวิตอยู่ ข้าได้ยินมาว่าหัวหน้าของนิกายซากศพนั้นได้ต่อสู้กับยอดฝีมือในระดับพระเจ้า และเขาก็ใช้เพียงแค่ศพราชันย์ร่างเดียวเท่านั้น เขาสามารถทำให้ยอดฝีมือในระดับพระเจ้าลำบากได้ ศพราชันย์นั้นล้วนเป็นร่างของยอดฝีมือในระดับนภา แต่มันกลับเทียบได้กับยอดฝีมือในระดับพระเจ้า นั่นช่างน่าหวาดกลัวจิรๆง "
" สุดยอด ! " สีหน้าของฉื่อหยาน ก็ตกตะลึง .
" ใช่ นี่มันน่าทึ่งเป็นอย่างมาก . " การแสดงออกของเซี่ยซินหยานก็กลายเป็นจริงจัง " ทาสศพเหล่านี้แหละที่ทำให้นิกายซากศพจัดอยู่ในขุมพลังทั้งสิบห้าที่แข็งแกร่งในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อสาวดหรือลูกศิษย์ของนิกายซากศพ นำศพไปต่อสู้ ก็เหมือนกับว่ามีอีกชีวิตที่ช่วยต่อสู้ เมื่อพวกเขาต่อสู้กับคนอื่น ๆ ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำก็คือซ่อนอยู่ด้านหลังและควบคุมทาสศพ ด้วยการควบคุมทาสศพของพวกเขา พวกเขาสามารถสามารถประทะกับศัตรูได้โดยตรง. "
" . . . . . . . หลุมฝังศพ . ข้าหวังว่าตอนที่เรือดินแดนมหัศจรรย์หยินหยานเทียบท่าคงจะไม่เทียบท่าที่หลุมฝังศพก่อนนะ สถานที่น่าขนลุกเช่นนั้น มันจะดีกว่าถ้าเราไม่ต้องเหยีบย่ำเข้าไป . " ฉื่อหยานยิ้มอย่างบิดเบี้ยว .
" นั่นมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้าและข้า " เซี่ยซินหยาน ถอนหายใจเบาๆ " เราควรจะระมัดระวังไว้ ภายในอีกสองสามวันหากเราเจอเรือลำอื่นหละก็ เราก็จะไปทันที ข้าไม่ต้องการอยู่ในสถานที่บ้าๆแห่งนี้นานนัก .
" ข้าจะทำทางหนีไว้เอง " ฉื่อหยานพยักหน้า เขาใช้นิ้วมือของเขาให้กลายเป็นหอกอีกครั้ง และขุดลงไปยังแผ่นเหล็ก
สักพัก ฉื่อหยานและเซี่ยซินหยาน ก็นั่งอยู่ในห้องของตนอีกครั้ง
หลังจากที่ทั้งสองรู้ว่าในชั้นนี้เต็มไปด้วยศพ การแสดงออกของพวกเขาก็กลายเป็นอึดอีด โดยเฉพาะเซี่ยซินหยาน นางรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นสักพักนางก็กลับมาหายใจอย่างสม่ำเสมออีกครั้ง แล้วตั้งสมาธิกลับไปฝึกฝนดังเดิม .
ฉื่อหยานยังคงขมวดคิ้วอยู่ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และหลับตาลงเพื่อเข้าการบ่มเพาะอย่างขันแข็ง
ในคืนพวกเขาไม่ได้พูดเรื่องๆใดกันอีก
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉื่อหยานยังคงแบกกระถางต้นไม้ไปไว้บนดาดฟ้าเช่นเคย เซี่ยซินหยานเองก็ตามเขาไปด้วยเช่นกัน นางนั้นไม่อยากอยู่ในชั้นล่างเพียงลำพัง
บนดาดฟ้า , หลี่เว่ย และเหล่าสาวกของดินแดนมหัศจรรย์หยินหยางต่างก็มองมาที่พวกเขาทั้งสองอย่างโหดร้าย โดยมีรอยยิ้มอยู่ที่ปากของมัน ไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่
ฉื่อหยานแสร้งทำเป็นว่าเขาไม่เห็นมัน เขาทำหน้าที่ของเขาพร้อมกับเหลือบมอง .
โดยไม่คาดคิด หลี่ เว่ย และเหล่าสาวกก็ไม่ได้มาสร้างปัญหาให้กับพวกเขา พวกมันแต่จ้องมาที่พวกเขาจากที่ไกลๆเท่านั้น เหมือนกับพวกมันมีแผนบางอย่าง
ฉื่อหยาน ก็อยู่อย่างเงียบๆ แต่ก็แอบสนใจไปที่ หลี่เว่ย และกลุ่มของมัน เขาจ้องมองไปที่ดาดฟ้า เพื่อหาโอกาสหลบหนีออกไป
ก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน เขาก็อุ้มกระถางดอกไม้กลับลงไปไว้ในชั้นล่างอีกครั้ง เสี่ยวเฟิงมาตรงเวลาเช่นเคย และได้นำอาหารและน้ำสำหรับคนสองคนมาให้
" อกตัญญู " หลังจากส่งอาหารแล้ว เสี่ยวเฟิงก็พึมพำภายใต้ลมหายใจของนาง และจ้องมองมาอย่างไม่เป็นมิตร
ตอนนี้อาหารได้กลับมาเป็นดังเดิมแล้ว มันมีเพียงปลาเค็มและขนมปังนึ่งเท่านั้น น้ำสะอาดก็มีเพียงพอแค่ดื่มเพื่ออยู่รอดเท่านั้น
ฉื่อหยานนั้นได้คาดไว้แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ เขาไม่ใส่ใจใดๆและไม่สนใจเสี่ยวเฟิง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูงเรื่อยๆ
ทุกๆเช้า ฉื่อหยานจะตื่นขึ้นมาและยกกระถสงดอกไม้ทั้งหมดไปที่ดาดฟ้าจากนั้นก็จะกลับมาช่วยเซี่ยซินหยาน ทำความสะอาดถัง
ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เขาจะยกกระถางดอกไม้กลับไปสถานที่เดิม และพวกเขาก็จะได้รับปลาเค็มและขนมปังนึ่ง ตกกลางคืนเขาจะพูดคุยกับเซี่ยซินหยาน เกี่ยวกับทะเลไม่มีที่สิ้นสุด จากนั้นเขาก็จะปิดดวงตาของเขาลง และเริ่มฝึกฝน
ในชั่วพริบตา ก็ผ่านมาหนึ่งเดือน .
พลังของเซี่ยซินหยาน นั้นฟื้นคืนกลับมามากแล้ว และพลังปราณลึกลับของนางก็แข็งแกร่งเท่ากับนักรบในระดับมนุษย์แล้ว . ถึงแม้ว่านางจะไม่สามารถใช้จิตวิญญานจุติของนางได้ในตอนนี้ แต่นางนั้นก็สามารถปกป้องตัวเองได้บ้าง
ฉื่อหยานก็ไม่ต่างกัน
ผ่านการฝึกฝนมาหนึ่งเดือน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ฝึกฝนวิชาใดๆ แต่เขานั้นตรวจสอบและทำความเข้าในใจ นภาที่สองของบ้าคลั่ง เขาพยายามที่จะหาวิธีที่ผสานพลังงานเชิงลบเข้ากับเลือดของเขา และเขาก็ได้เข้าใจบางอย่างมาเล็กน้อย
แต่เขาไม่ได้ฝึกฝนันทันที การใช้บ้าคลั่งนั้นจะเป็นการกระตุ้นพลังงานเชิงลบ และหลังจากที่เขาใช้งานมัน ร่างกายของเขาก็จะมีควันลอยออกมา
บนเรือนั้นมีอันตรายอยู่มาก แม้ว่าหลี่เว่ยจะไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ ฉื่อหยานก็ยังคงไม่ลดการระมัดระวังของเขาลง เขามักจะเตรียมพร้อมอยู่เสมอ และเตรียมตัวที่จะออกจากเรือได้ตลอดเวลา
ตกดึก
ฉื่อหยาน และเซี่ยซินหยาน นั่งขัดสมาธิในห้องแคบ พร้อมกับดวงตาที่ปิดสนิท
ทันใดนั้น ความเร็วของเรือเหล็กก็ชะลอตัวลง
ฉื่อหยานทันที ก็ลืมตาขึ้นมา และพูดกับเซี่ยซินหยาน " ดูเหมือนว่าเรือจะหยุดแล้ว ตอนนี้เราควรจะระมัดระวังให้มากไว้ . "
ขนตายาวของเซี่ยซินหยาน ก็สั่นพือ และดวงตาสดใสของนางก็เปิดขึ้น นางพูดออกมาอย่างเรียบเฉย " ใช้ แก่นแท้ทมิฬ สัมพัสไปรอบๆสะ ดูว่ามีสถานที่ ที่มีพลังปราณหยินอยู่ใกล้ๆหรือไม่ จำไว้ ห้ามใช้มันออกมาอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ มิเช่นนั้น ถ้าเจ้าหรือข้าถูกสงสัยหละก็ เราถูกฆ่าตายแน่นอน "
" ตกลง" ฉื่อหยานพยักหน้า
เมื่อเร็วๆ นี้ ฉื่อหยาน ได้เรียนรู้ความลับมากมายของทะเลไม่มีที่สิ้นสุดจากเซี่ยซินหยาน . เขาได้เรียนรู้บางอย่างเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับความลึกลับของแก่นแท้ทมิฬ
แก่นแท้ทมิฬเป็นจิตวิญญานต่อสู้ที่พิเศษมันถูกหล่อเลี้ยงโดยจิตวิญญานจันทราและจิตวิญญานดวงดาวของพรรคสามเทพ เช่นเดียวกับแก่นแท้แห่งแสง มันเป็นพลังที่ไม่แตกต่างกัน แก่นแท้แห่งแสงนั้นก็คล้ายกับแก่นแท้ทมิฬ เพียงแต่มันต้องรวบรวมพลังปราณหยางเพื่อบ่มเพาะ มันสามารถถูกหล่อเลี้ยงได้โดยจิตวิญญานดวงตะวัน
มีเพียงเทพทั้งสาม ผู้อาวุโส และบุตรของพระเจ้าของพรรคสามเทพเท่านั้น ทีมีคุณสมบัติพอจะฝึกฝน แก่นแท้แห่งแสง และ แก่นแท้ทมิฬ ว่ากันว่า ด้วยความช่วยเหลือของแก่นแท้แห่งแสง และ แก่นแท้ทมิฬ , สามจิตวิญญานต่อสู้ของพรรคสามเทพ จะสามารถบรรลุถึงระดับการบ่มเพาะที่สูงขึ้นไปได้
แม้ว่าแก่นแท้ทมิฬจะเป็นเพียงวิชาระดับมนุษญ์ แต่ถ้าดูดซับพลังปราณหยินธรรมชาติมากพอ มันก็จะสามารถเทียบได้กับวิชาระดับลึกซึ้งหรือระดับวิญญานได้เลยทีเดียว
ถ้าแก่นแท้ทมิฬได้ดูดซับพลังปราณหยินธรรมชาติมาอย่างมากมายนับไม่ถ้วน มันก็จะสามารถเป็นถึงวิชาระดับศักสิทธิ์ได้เช่นกัน
เซี่ยซินหยาน นั้นบอกว่าสูแก่นแท้ทมิฬเป็นหนึ่งในวิชาที่สามารถเพิ่มระดับได้ และมันเองก็มีความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
แน่นอนว่า นั่นต้องมีพลังปราณหยินธรรมชาติเพียงพอด้วยเช่นกัน . ถึงแม้มันจะดูง่ายดาย แต่มันก็ยากเป็นอยากมากที่จะบรรลุได้
มีสถานที่ไม่มากมายนักที่ประกอบไปด้วยพลังปราณหยินธรรมชาติ , สถานที่ใดที่มี พลังปราณหยินธรรมชาตินั้นมักจะถูกพรรคสามเทพดูดซับจนหมดไป ดังนั้น แม้ว่าแก่นแท้ทมิฬจะดูน่าพิศวง แต่มันก็เป็นเรื่องยากอย่างมีที่จะสามารถพัฒนาได้
หลุมฝังศพของนิกายซากศพคือพื้นที่แปลกประหลาดที่มีพลังปราณศพและพลังปราณแห่งความตายผสมกันอยู่ ในพลังปราณศพและพลังปราณแห่งความตาย นั้น มีบ้างที่จะหลอมรวมกันและกลายเป็นพลังปราณหยิน พลังปราณหยินนั้นจะออกมาจากที่ส่วนลึกของปฐพี และซึมซ่านออกจากทาสศพ มันมีปริมาณที่น้อยมาก แต่มันก็เพียงที่ฉื่อหยานจะสัมพัสได้
เซี่ยซินหยาน บอกเขาว่าให้โคจรแก่นแท้ทมิฒไปรอบๆพื้นที่ เพียงเพื่อให้ทราบถึงว่าจุดที่เรือเทียบท่านี้ใช้หลุมฝังศพของนิกายซากศพหรือไม่
" มีพลังปราณหยินอยู่ ! " ฉื่อหยานสีหน้าก็เปลี่ยน " พลังปราณหยินลอยอย่างบางเบา และกระจายไปทั่วทุกมุมของเกาะ เรือนั้นเทียบท่าที่หลุมฝังศพของ นิกายซาก เป็นอย่างที่กังวลจริงๆ บัดซบ "
" ดูไปก่อน หากมีอันตราจจริงๆหละก็ เราก็จะกระโดดลงทะเลเพื่อหลบหนีทันที " เซี่ยซินหยาน ถอนหายใจ ออกมา" ข้าหวังว่าจะไม่มีนักรบในระดับนภาที่หลุมฝังศพแห่งนี้นะ . แล้วก็ข้ากวังว่าจะไม่มีมีศพน้ำ ไม่งั้นเราจะหมดโอกาสหนีรอดแน่นอน .
ศพน้ำจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนิกายซากศพได้ใช้วิธีพิเศษในการปรับแต่งศพ เมื่อมันจมลงไปในทะเล มันสามารถสร้างน้ำวนจากการรวบรวมพลังปราณศพได้ หลังจากน้ำวนหยุนลง ศพน้ำก็จะเป็นเหมือนปลา มันสามารถว่ายน้ำในทะเลได้อย่างอิสระ ถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถเทียบได้กับศพราชันย์ แต่มันนั้นสามารถปลดปล่อยสายฟ้าออกมาได้ ศพน้ำนี้เองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
แต่ทาสศพนี้มีข้อบกพร่องร้ายแรงอยู่ แม้ว่าศพน้ำนั้นจะแข็งแกร่งอย่างมากเมื่ออยู่ในน้ำ , แต่หากมันสัมพัสกับเปลวไฟ ความแข็งแกร่งของพวกมันก็จะลดลงเป็นอย่างมาก
ถึงแม้เหล่าทาสศพพวกนี้จะพิเศษเป็นอย่างมาก , แต่พวกมันก็ยังมีข้อบกพร่องที่ที่ชัดเจน
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนิกายซากศพถึงไม่สร้างหรือปรับแต่งทาสศพประเภทนี้มากนัก ด้วยความพิเศษของมันจึงทำให้มีอยู่น้อยมาก พวกมันนั้นต้องปรับแต่งจากแร่พิเศษที่มาจากเหมืองของนิกายซากศพ และต้องใช้ส่วนผสมของสมุนไพรพิเศษที่หาได้เฉพาะในบางพื้นที่เท่านั้น
" ปัง ! "
เสียงของสมอเรื่อถูกปล่อยลงไปในน้ำ
ไม่นาน ว่า เสี่ยวเฟิงก็ปรากฏตัวขึ้นที่บันได นางพูดออกมาอย่างเรียบเฉย " เจ้าสองคนออกไปได้แล้ว เรามาถึงที่หมายของเราแล้ว”
ในดวงตาที่เย็นชาของเสี่ยวเฟิง ปรากฏความสงสารออกมา
เซี่ยซินหยาน จิตใจอ่อนไหวเป็นอย่างมากมาก นางมองไปที่เสี่ยวเฟิงอีกครั้ง ด้วยหัวใจของนางที่เริ่มหนักอึ้ง นางก็สัมพัสได้ถึงบางสิ่งที่ผิดปกติทันที
" หึหึ เจ้าสองคนออกไปไดเแล้ว ข้าจะบอกบางอย่างที่น่าสนใจให้เจ้าฟัง " ที่บันได , หลี่เว่ย ก็โผล่หัวออกมาและพูดเยาะเย้ย " หลุมฝันศพนั้นมีชื่อเสียงอย่างมากในทะเลไม่มีสิ้นสุด แต่คนทั่วไปนั้นจะไม่มีโอกาสที่จะได้ก้าวเข้ามาที่แห่งนี้ พวกเจ้านั้นโชคดีเป็นอย่างมาก ที่ตอนนี้พวกเจ้าจะได้สัมพัสกับหลุมฝังศพของนิกายซากศพด้วยตัวของพวกเจ้าเอง หึหึ ! "_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1195 แล้วนะคะ หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ
