ตอนที่แล้วตอนที่ 44 มีเพียงคนบ้าถึงอยู่รอด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 46 โอกาสฝึกงาน

ตอนที่ 45 แผนหลบหนี


46 Escape Plan

“ครบเวลาเจ็ดวันแล้ว แกออกไปได้!”

ประตูห้องขังถูกเปิดออก แสงแดดส่องเข้ามา ทำให้เฟิงหลินแสบตา

เฟิงหลินหรี่ตาและค่อยๆเดินออกไป เจ็ดวันที่ผ่านไป เฟิงหลินรู้สึกเหมือนอยู่บนโลกคนเดียวมานานหลายปี

"แกถูกขังที่นี่มาเพียงเจ็ดวัน หลังจากที่แกทำให้หัวหน้าพ่อบ้านไม่พอใจ อืม นี่ถือเป็นความเมตตามากแล้วสำหรับแก!"

"แกควรควบคุมพฤติกรรมของตัวเองให้ดีกว่านี้หลังจากออกไป ถ้าไม่อย่างงั้นเราจะให้บทลงโทษที่หนักกว่านี้กับแก!"

"ไม่รู้ถึงความใหญ่โตของสวรรค์ซะแล้ว แกจะไม่ถูกลงโทษเพียงเล็กน้อยเช่นนี้!"

... ...

คนของฝ่ายผู้คุมสาปแช่งเขา ทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อเฟิงหลินผู้ซึ่งกล้าโต้แย้งหัวหน้าพ่อบ้านนั้นเต็มไปด้วยความชิงชังและมุ่งร้าย

เฟิงหลินมองไปที่พวกเขาอย่างเย็นชา เขาไม่กังวลเรื่องคนเหล่านี้ และออกจากพื้นที่ตรงนี้ไป

....

"พี่ชาย พี่ชาย พี่กลับมาแล้ว!" ทันทีที่เขาเข้าไปในบ้าน เฟิงเฉิงน้องชาย และเฟิงซินน้องสาวก็รีบวิ่งเข้ามาหา ท่าทางของพวกเขาเต็มไปด้วยความคิดถึง

“พี่ชาย พี่หายไปไหนมาตั้งหลายวัน?

“พี่ยังมีสารอาหารระดับกลางอีกไหม?ของระดับต่ำรสชาติแย่มากเลย!”

พวกเขาสองคนเป็นเหมือนหมีโคอาล่าตัวน้อยที่กระโดดเข้าหา พึมพำไม่หยุด มีสีหน้าหิวโหย

“พวกน้องช่างเป็นผีน้อยที่หิวโหยจริงๆ พี่ออกไปทำงานนอกเวลามา แล้วพี่จะไม่มีเงินซื้อสารอาหารระดับกลางมาให้น้องดื่มได้ยังไง?”เมื่อมองไปที่น้องตัวน้อยสองคน สีหน้าเคร่งเครียดของเฟิงหลินก็ผ่อนคลายลง

เขาจำสิ่งที่เฟิงหลางพูดได้ และเขาก็ระวังไม่ให้เกิดช่องโหว่ใดๆ

หลังจากนั้นเขาก็หยิบของเหลวสารอาหารระดับกลางออกมาสองขวด และแม้กระทั่งตั้งใจเตือนให้พวกเขาดื่มช้าๆ เขาเป็นห่วงว่าจะทั้งสองคนจะขาดอากาศหายใจ และกลายเป็นสารอาหารส่วนเกินซึ่งมันจะไม่ดี

"เย้!" ดวงตาของเด็กสองคนสว่างขึ้นทันทีเมื่อพวกเขาเห็นของเหลวสารอาหารระดับกลาง ทั้งสองเหมือนลูกแมว เฟินหลินรู้ดีว่าพวกเขาไม่สนใจคำเตือนของเขา

เขาทำได้เพียงส่ายหัวเท่านั้น เขาไตร่ตรองสักครู่แล้วหยิบของเหลวสารอาหารระดับกลางที่เหลือออกวางไว้ในตู้เย็นเพื่อเก็บเอาไว้

ของเหลวสารอาหารเหล่านี้ได้มาจากเจสคล็อตและลูกน้องของเขา และไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับคนอย่างเขาซึ่งมีค่าสถานะพลังถึง3.3แล้ว ผลของสารอาหารระดับกลางเหล่านี้แทบไม่เป็นประโยชน์เลย รสชาติของพวกมันธรรมดาเกินไป และไม่สามารถช่วยในการบ่มเพาะของเขาได้ ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นสำหรับเขาอีกต่อไป

อย่างไรก็ตามสำหรับพ่อแม่และพี่น้องของเขา ของเหลวสารอาหารระดับกลางนั้นถือว่าเป็นยาชูกำลังที่ดีมาก มันเหมาะกับพวกเขามากกว่า

ในที่สุดน้องตัวน้อยของเขาก็ดื่มมากเกินไป พวกเขาคลานเข้าไปในเตียงแล้วก็พยักหน้าให้กัน และหลับเกือบจะทันที

พ่อแม่ของเขาออกไปทำงานนานแล้ว

ในห้องมืด พื้นที่นั้นแคบเกินไปจริงๆ การพักที่นี่เป็นระยะเวลานานจะทำให้บางคนรู้สึกอึดอัดจนสำลัก

เฟิงหลินอาบน้ำและออกไปข้างนอก เขามุ่งหน้าไปยังมุมไกลสุดของสวนสาธารณะที่ไม่มีใครรบกวนเขา

เขาไตร่ตรองอย่างเงียบๆในสิ่งที่เขาควรทำในอนาคต

ชั่วระยะเวลาหนึ่งเขารู้สึกไร้ยางอายอย่างมาก

ตระกูลเป็นเหมือนผลิตภัณฑ์ที่มีรูปร่างผิดปกติซึ่งเกิดขึ้นมาในยุคสมัยดวงดาวนี้ เพื่อจัดการกับสภาพแวดล้อมที่อันตรายและแรงกดดันทางสังคมของคนจากตระกูลเดียวกัน พวกเขาถูกบังคับให้รวมตัวกัน ทำให้เกิดการแข่งขันในแต่ละตระกูล นี่เป็นสิ่งที่เสียเปรียบอย่างยิ่งต่อตระกูลระดับต่ำ

ตอนนี้สำหรับเฟิงหลิน ตระกูลของเขาเหมือนกรงยักษ์ที่จำกัดการพัฒนาของเขา

นี่เป็นเพียงความอยู่รอดทั่วไปของผู้ที่เหมาะสมที่สุด

เพื่อความอยู่รอดเขาต้องหนีออกจากตระกูลให้เร็วที่สุด จากนั้นเขาก็จะมีอิสระและมีเวลาเพียงพอในการเสริมพลังของเขา

แต่ตอนนี้เขาไม่มีเงิน ดังนั้นเขาต้องการงานเพื่อหารายได้อย่างเร็ว ก่อนที่จะต้องซื้อทรัพยากรการบ่มเพาะจำนวนมาก

ตราบใดที่เขามีสารอาหารเพียงพอ และด้วยความสามารถในเรื่องสมการทางพันธุกรรมของเขา เขาจะได้รับศักยภาพทางพันธุกรรมอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ยีนในตำนานของเขา โดยทั่วไปเขาจะไม่มีปัญหาติดขัดเมื่อพูดถึงการบ่มเพาะ ตลอดที่ผ่านมามันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเป็นผู้บ่มเพาะแท้จริง แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว

เฟินหลินไตร่ตรองอย่างใจเย็น ความคิดของเขาชัดเจนขึ้นและชัดเจนขึ้น

การเฝ้าดูของตระกูลนั้นเข้มงวดมาก แม้แต่แมลงวันก็ยังไม่สามารถหลบเลี่ยงการเฝ้าระวังได้

เขาได้รับรหัสเพื่อถอดไมโครชิปแล้ว ตอนแรกเขาแทบจะไม่มีโอกาสเลย แต่การปรากฏตัวของเฟิงหลางทำให้เขามีโอกาสที่จะสำเร็จ

แต่สำหรับขั้นตอนที่ต้องดำเนินการอย่างแม่นยำ เขายังต้องการเวลาอีกมากในการวางแผนอย่างละเอียดเพื่อหลบหนี

หลังจากคิดสักพัก เฟิงหลินก็คิดวิธีที่ดีที่สุด ราบรื่นที่สุดและคิดแผนขึ้นมาได้

เพื่อลดความซับซ้อนของเรื่องต่างๆลง เขาจะทำเหมือนไม่มีอะไรทำและพยายาม 'ชินชา' กับการเฝ้าระวังของตระกูล หลังจากนั้นเขาต้องหางานที่ค่าจ้างดีๆ ก่อนใช้รหัสและออกจากกตระกูล เขาจะกลับมาได้ก็หลังจากที่เขาแข็งแรงพอ

มีเวลาเพียงหนึ่งเดือนครึ่งก่อนถึงการแข่งขันจัดอันดับของตระกูล เขามีเวลาน้อยมาก

ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาต้องมีรายได้มากพอ เขาต้องหาเงินให้ได้จำนวนมาก

การหาเหรียญดาราจำนวนมากในช่วงเวลาสั้นๆนั้น มันเป็นความฝันที่โง่เง่าและเป็นไปไม่ได้สำหรับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามเฟิงหลินไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก เพราะนี่เป็นสิ่งที่เขาต้องทำไม่ว่ายังไง เขาไม่มีทางอื่น

เพราะเช่นนั้น คำถามต่อไปจึงปรากฏขึ้น เขาควรสมัครงานอะไร?

เฟิงหลินใช้ไมโครชิปประจำตัวของเขาเข้าเว็บและเริ่มหางาน

เขาควรจะเป็นดาราภาพยนตร์ ผู้เล่นเกมเสมือนจริงมืออาชีพ หรือสตรีมมิ่งออนไลน์ ฯลฯ ... เขาสแกนงานที่มีทั้งหมดเหล่านี้ทีละงาน

น่าเศร้าที่งานเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถหาเงินได้ในเวลาอันสั้น ไม่ว่าในกรณีใดเฟิงหลินไม่เคยแสดงความสามารถมาก่อน

ไม่ว่าแรงบันดาลใจของเขาจะสูงแค่ไหน เขาต้องทำให้แน่ใจว่าเขาสามารถทำได้จริง ไม่อย่างงั้นสิ่งที่เขาคิดเอาไว้จะผิดพลาดไปหมด!

เฟิงหลินยังเป็นนักเรียนอยู่ นอกจากการฝึกฝนและทฤษฎีแล้ว เขาก็ไม่รู้อะไรเลย

ทุกอย่างน่าอึดอัดใจไปหมด ...

นิ้วของเขากระแทกขอบไมโครชิพสี่เหลี่ยมสีดำอย่างไม่ตั้งใจ และเขาก็ขมวดคิ้ว

อื้ม?

เฟิงหลินหันไปมองที่ไมโครชิปสีดำ นี่คือบันทึกการวิจัยของนักวิจัยทางพันธุกรรมที่เขาได้รับจากการประมูล

เขาลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง?

นักพันธุศาสตร์เป็นหนึ่งในอาชีพอันดับต้นๆในยุคอวกาศ เมื่อเทียบกับดาราภาพยนตร์ ผู้เล่นเกมเสมือนจริงมืออาชีพ และสตรีมออนไลน์ นักพันธุศาสตร์มีรายได้มากกว่า!

ทุกสิ่งที่ถูกปรับโดยนักพันธุศาสตร์จะมีราคาสูงขึ้น แม้แต่ขวดยาแห่งชีวิตเล็กๆก็สามารถขายได้ในราคาที่ไม่น่าเชื่อ ความแตกต่างระหว่างยาที่นักพันธุศาสตร์ปรับเปลี่ยนกับยาแห่งชีวิตทั่วไปอีกสองประเภท ราคานับว่าต่างกันเป็นสิบเท่า

นักวิจัยทางพันธุกรรมสร้างส่วนผสมของสิ่งจำเป็นเพียงอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องมีนักพันธุศาสตร์เพื่อสร้างมันขึ้นมา

อย่างไรก็ตามถ้านักพันธุศาสตร์สร้างยาแห่งชีวิตขึ้นจริงๆ มันจะกระตุ้นตลาดให้คึกคักมากกว่าเดิม

มันจะสร้างความปั่นป่วนไปทั่วตลาด

เฟิงหลินไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ เขากำลังพยายามขึ้นขี่หลังเสือ เขามีคำตอบทั้งหมดแล้วแต่ก็ยังมองหาจุดอื่น

ด้วยความรู้เรื่องตำนานของโลกยุคโบราณ รวมถึงความสามารถด้านสมการทางพันธุกรรมของเขา เฟิงหลินมั่นใจว่าพรสวรรค์ที่เขามีจะทำให้เขาสามารถกลายเป็นนักพันธุศาสตร์ได้ นอกจากนี้ด้วยบันทึกของนักวิจัยทางพันธุกรรม มันจะช่วยให้เขาเริ่มต้นได้อย่างดี ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการเป็นนักพันธุศาสตร์เป็นอาชีพที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขา

อย่างไรก็ตามตอนนี้เขายังไม่ได้เป็นนักวิจัยทางพันธุกรรม เขาไม่มีเงินพอที่จะซื้อเครื่องจักรหรือส่วนผสมที่จำเป็นในการสร้างยาประเภทใดขึ้น

อนาคตยังห่างไกลเกินไป หากเขาเป็นนักพันธุศาสตร์รายได้ที่ได้จากงานเพียงอย่างเดียวจะทำให้เขามีทรัพยากรการบ่มเพาะทุกอย่างที่เขาต้องการ และสามารถสร้างยาชนิดใดก็ได้ที่เขาคิด เขาจะไม่มีข้อจำกัดเรื่องเงินอีกต่อไป!

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เฟิงหลินตื่นเต้น

ตอนนี้เขาอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง ขอบเขตของการหางานของเขาก็เล็กลง ไม่นาน เขาก็ค้นพบประกาศรับสมัคร

“บริษัทยาไจแอนท์!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด