ตอนที่แล้วบทที่ 54 ซั่วฉื่อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 56 คัมภีร์หินลาวา และ เกราะเต่ามังกร

บทที่ 55 เจ้าคนประหลาด !


บทที่ 55 เจ้าคนประหลาด !

 

ในสวนที่อยู่ด้านหน้าของห้องรับแขก

พวกรุ่นเยาว์ตระกูลฉื่อกำลังพูดประจบซั่วฉื่อกันอยู่ พวกมันเจียมเนื้อเจียมตัวและยิ้มทุกครั้งที่ซั่วฉือถามอะไรมา นางถามอะไร พวกมันก็จะตอบอบ่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความประทับใจต่อนาง

พวกมันบางคนก็มาจากตระกูลสาขาบางคนก็มาจากตระกูลหลัก เช่น ฉื่อเทียนเซียว และ ฉื่อเทียนลั่ว ที่มาจากตระกูลหลักโดยตรง

นางเดินช้าๆอยู่ท่ามกลางดอกไม้ที่สดใส นางดูเหม่อลอย ถึงแม้นางจะยังคงก้าวเดินอย่างปกติ  นางเขย่าถังน้ำในมืออย่างเบื่อหนาย เหมือนกับผีสาวที่งดงามที่อยู่ท่ามกลางดอกไม้

ฉื่อหยานเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นมาและหยุดคิดสักพัก จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปในสวนดอกไม้ และก็เดินไปที่ ซั่วฉือ เขาก็เหยียดมือออกไป และกล่าวว่า " ขอข้าดูกระดองเต่าของเจ้าหน่อย”

" เจ้าโง่ เหตุใดเจ้าจึงมายืนต่อหน้าฉื่อน้อย ! เจ้ามาที่นี่ทำไมกัน ? " ฉื่อเทียนเซียว ถอนหายใจออกมาอย่างดูถูก .

" ให้ไปหารือกับท่านปู่มา " ฉื่อหยานอธิบายง่ายๆ " ข้าสัญญากับผู้อวุโสซั่วชูไว้ว่าจะมาอ่านอักษรโบราณบนกระดองเต่าให้นาง เจ้าอย่าได้เข้าใจเจตนาของข้าผิดไป"

" เจตนางั้นรึ ? แล้วมันต่างกันยังไงหละ ? " ฉื่อเทียนเซียว เขาเอามือปิดจมูกของและร้องออกมา " อ๊ะ กลิ่นอะไร … ฉื่อหยาน ตัวเจ้าเหมือนกลิ่นอะไรหนะ ! "

เป็นกลิ่นเหม็นเปรี้ยวลอยออกมาจากเขา

ฝูงชนนั้นไม่ได้สังเกตเห็นเขาในตอนแรกเลย เพราะพวกมันต่างกำลังประจบซั่วฉืออยู่ เมื่อพวกมันทั้งหลายได้ยินฉื่อเทียนเซียว ตะโกนออกมา พวกมันจึงสังเกตเห็นฉื่อหยานได้อย่างรวดเร็วและเอามือไปปิดที่จมูกพร้อมกับพูดต่อว่าฉื่อหยานว่าหน้าไม่อาย

โดยไม่คาดคิด หญิงสาว นางเป็นคนเดียวที่ยืนอยู่ปกติและไม่ได้เดินถอยไปหรือก่นด่าเขาเลย นางยืนถือถังน้ำอยู่ตรงนั้น และดูเหมือนจะไม่สนใจกลิ่นนั่นเลยแม้แต่น้อย

ซั่วฉือจ้องไปที่ฉื่อหยานอย่างประหลาดใจ และรู้สึกถึงบางอย่างที่ตราตรึงอยู่ในใจของนาง

ทุก ๆ คน รวมทั้ง ฉื่อเทียนเซียว และ ฉื่อเทียนลั่ว พวกมันต่างก็ต้องพรมน้ำอบก่อนที่จะมาพบกับซั่วฉือ บางคนถึงกับต้องนำดอกไม้มาไว้ในเสื้อผ้าเพื่อที่จะเพิ่มความมั่นใจว่าจะทำให้ซั่วฉือประทับใจได้

แต่เจ้าเด็กนี่ต่างออกไป ร่างของเขาผอมแห้งและเต็มไปด้วยฝุ่น ; ชุดของเขาดูเก่าโทรมและเริ่มส่งกลิ่นออกมา นี่ย่อมหมายความว่าเขาพึ่งออกจากการฝึกฝนที่ใช้เวลานานมาแน่นอน

เจ้าคนนี้ช่างประหลาดนัก !

ซั่วฉือตกตะลึงและนางก็สรุปเช่นนี้ นางเริ่มจะสนใจบางอย่างในตัวฉื่อหยาน

เมื่อเห็นฝูงชนเริ่มถอยไปด้านหลัง แต่ซั่วฉือก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ฉื่อหยานก็รู้สึกมีความสุขเล็ก ๆเขาจึงถามออกไปอย่างอ่อนโยน " กระดองเต่าของเจ้าอยู่ไหนรึ ? "

" มันอยู่ที่ห้องรับแขก ข้าจะไปเอามาให้เดี๋ยวนี้ " ซั่วฉือตอบกลับด้วยเสียงที่ไพเราะ . จากนั้นนางก็ก้าวเดินด้วยขาสวยงามและร่างที่ผอมบางของนาง ก็หายไปในทันที

หญิงสาวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ เห็นได้เพียงได้แต่เงาของนาง ฉื่อหยานไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของนางได้เลย

ฝูงชนและฉื่อเทียนเซียวเองเมื่อเห็นเช่นนั้นจึงประหลาดใจเช่นกัน

พวกมันรู้ดีกว่าซั่วฉือนั้นไม่เพียงแต่งดงาม แต่นางยังเป็นนักรบคนหนึ่งที่มีระดับสูงกว่าพวกมันอีกด้วย

ใช้เวลาไม่นานนัก ซั่วฉือก็กลับมา ฝูงชนก็ยังคงจมอยู่ในความประหลาดใจ นั่นผ่านมาแค่หกวินาทีเท่านั้น

ซั่วฉือก็ปรากฏตัวต่อหน้าฉื่อหยาน พร้อมกับกระดองเต่าที่มีขนาดเท่ากับกะละมังหนึ่งใบในมือของนาง และนางก็ส่งมันให้เขา " มันอยู่นี่ . . . "

ฉื่อหยานพยักหน้าและหยิบกระดองนั่นมาเท่านั้น เมื่อเขารับมันมาเขาก็รู้สึกได้ถึงความหนักของมันมีทันที และเขาก็เกือบจะล้มลง

เขาเริ่มโคจรพลังปราณลึกลับ และทำให้ร่างกายของเขาถือมันไว้ได้และ เขาก็อุทานออกมา " นี่หนักยิ่งนัก ! "

เขามองไปที่ซั่วฉื่ออย่างไม่พอใจ และคิดว่านางกำลังพยายามล้นเล่นกับเขา

อย่างไรก็ตาม เขาก็พบว่า ซั่วฉือ ตายังคงเป็นประกายสีฟ้าใสและปราศจากเจตนาร้ายใด ๆ .

" ถูกต้อง ข้าไม่รู้ว่ามันทำมาจากสิ่งใด มันมีน้ำหนักประมาณสี่ร้อยกิโลเห็นจะได้ " ซั่วฉือนั้นไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ฉื่อหยานนั้นได้แอบก่นด่านางในใจ นางลูบผมข้างๆหูของนาง และกล่าวเสริมว่า " ข้าประหลาดเป็นอย่างมากเมื่อข้าได้พบมันครั้งแรก "

" สี่ร้อยกิโล " ฉื่อเทียนเซียว ลูบขมับของเขา และรู้สึกได้ว่าศีรษะของเขาชา

ซั่วฉือสามารถถือกระดองเต่าด้วยมือข้างเดียวและยังสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วเช่นนั้นอีกรึ ! นี้ทำให้มันตระหนักถึงระยะห่างระหว่างมันและ ซั่วฉือ มันจึงรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง

ฉื่อหยาน ถือกระดองเต่าไว้ในมือและเริ่มปรับสมดุล ซึ่งการกระทำเช่นนี้ของฉื่อหยาน ก็ทำให้เขาเข้าใจเรื่องที่ซั่วฉื่อกล่าวทันที

" ฉื่อหยาน เจ้า เจ้า ไอ้ . . . "

ถึงแม้ว่าฉื่อเทียนเซียว จะไม่ได้เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์มากนัก แต่เขาก็ฉลาดพอ เขาตระหนักได้ว่าซือเจี้ยนนั้นได้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับแน่นอน เขาจึงหยุดตัวเองลงก่อนที่เขาจะพูดเรื่องฉื่อหยานออกไป นี่เป็นเรื่องที่เขาตกใจเป็นอย่างมาก

ฉื่อหยานยังคงไม่แยแส ไม่ตอบสนองใดกลับไปที่ฉื่อเทียนเซียว เขาตรวจสอบกระดองเต่าอย่างรอบคอบ และพยักหน้าให้ ซั่วฉื่อ " นี้เป็นหนึ่งในภาษาที่เก่าแก่ที่สุด , ดังนั้นการที่ข้าจะอ่านมันได้จะต้องใช้หนังสือบางเล่ม ตามข้ามาที่ห้อง " .

ในทันที ฉื่อหยานก็ไปที่บ้านของเขาพร้อมกับกระดองเต่าอยู่ในมือ

" ตกลง "ซั่วฉื่อพยักหน้าและก้าวตามไปอย่างสบาย

 

" นี่พี่ใหญ่ เราควรตามพวกเขาไปหรือ ? " ฉื่อเทียนลั่ว มีใบหน้าแปลกๆ และถามออกไปเบาๆ หลังจากที่ทั้งสองได้จากไปไกลแล้ว

" อืม เป็นความคิดที่ดี " ฉื่อเทียนเซียว ไม่สามารถอดกลั้นความอยากรู้อยากเห็นของเขาได้ เมื่อผู้คนรอบๆสังเกตุเห็นเช่นนั้น พวกเขาจึงตามไปยังบ้านของฉื่อหยาน

. . . . . . .

ฉื่อหยาน ในบ้านหินที่มีสามชั้น

ชั้นแรกเต็มไปด้วยข้าวของจุกจิกต่างๆ ชั้นสองมีไว้พักผ่อน และชั้นสามเต็มไปด้วยชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่ซึ่งฉื่อหยานได้เก็บหนังสืออักษรโบราณมากมายไว้

หลังจากฉื่อหยานพาซั่วฉือมาที่บ้านแล้วเขาก็สังเกตุเห็น เห็นฝูงชนยังตามพวกเขามา เขาตะโกนออกมาจากประตูใส่พวกมัน " ข้าต้องการความสงบ อย่าได้เข้ามาเด็ดขาด " .

แล้วเขาก็ปิดประตูและกล่าวแก่ ซั่วฉื่อ " ขึ้นไปข้างบนกันเถอะ "

ซั่วฉือพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง และตามเขาไปที่ชั้นสอง

" เอ่อ เจ้าขึ้นไปรอข้าที่ชันสามสักพัก ข้าต้องอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ไม่นานข้าจะไปพบเจ้า " เขายื่นกระดองเต่ากลับไปให้ซั่วฉือและเดินนำมาที่บันไดขึ้นไปชั้นสาม " ทางนี้ "

" เหตุใดเจ้าต้องอาบน้ำหละ ? " ซั่วฉือมองไปที่เขาด้วยสายตาคมและถอนหายใจออกมาจมูกที่ละเอียดอ่อน

" ข้าแค่รู้สึกไม่สบายตัว ข้าไม่ได้ทำเพื่อจะสร้างความประทับใจจากเจ้าหลอก เจ้าอย่าได้กังวล "

" เจ้านั่นแหละที่คิดมากไป ! "

" อย่าทำให้ข้าเสียเวลาเลย ขึ้นไปที่ชั้นสามเถอะ ข้าจะถอดเสื้อผ้าของข้าออกแล้ว " .

ฉื่อหยานไม่สนใจและ ถอดชุดฝึกของเขาลง . เผยให้เห็นร่างกายที่เกือบเปลือยของเขา ตอนนี้เขาเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียวเท่านั้น เขาชายตามองไปที่ซั่วฉือและพูดออกไปอย่างปกติ  " เหตุใดเจ้ายังอยู่ที่นี่อีก ? "

หลังจากผ่านการฝึกหนักมาเป็นเวลานาน ร่างกายฉื่อหยานตอนนี้ดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก กล้ามเนื้อทุกส่วนดูเงาและหนักแน่น เหมือนกับรูปปั้นที่ถูกสร้างขึ้นมาจากเหล็ก ด้วยความแข็งแกร่งเชกเช่นชายชาตรี

เมื่อซั่วฉือเห็นเขาถอดเสื้อผ้าของเขาออกโดยไม่ละอาย นางก็ตกใจ และนางก็สาปแช่งออกมา " เจ้าสารเลว ! " และนางก้เดินขึ้นไปชั้นสามอย่างรวดเร็วพร้อมกับกระดองเต่าในมือ นางขึ้นไปยังชั้นสามด้วยใบหน้าขวยเขินของนาง

คนๆนี้ รูปร่างของเขาช่าง…. ซั่วฉือคิดกับตัวเองพร้อมกับก้าวเดินขึ้นไปข้างบน

ในชั้นสามนั้นมีพื้นที่กว้างประมาณสองร้อยเมตร

นอกเหนือจากหนังสือและชั้นวางของแล้ว ยีงมีขวดอยู่หลายขวด หม้อและแก้วเต็มไปทั่วชั้นสาม

ซั่วฉือหยิบหนังสือโบราณบางเล่มออกมาอ่าน และนางก็คิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

และ ซั่วฉือส่ายหน้า และคิดกับตัวเองว่า " อะไรของเจ้านั่นกัน ! "

ซั่วฉือ มีงานอดิเรกต่าง ๆมากมาย

ทั้งปลูกพืช , พิธีชงชา , โหราศาสตร์ ศึกษา อาวุธ ยา และ อื่นๆ แต่นั้นก็เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่นางสนใจเท่านั้น นางเกียจค้านจนเกินไป นางไม่สามารถสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เป็นเวลนานาน ไม่นานนางก็จะเปลี่ยนมันไปเรื่อยๆ

หนังสือโบราณที่อยู่ในชั้นสามเหล่านี้ ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์โบราณและซากโบราณ

ซั่วฉือนั้นไม่ได้สนใจพวกมันแม้แต่นิด นางพบว่าพวกมันช่างน่าเบื่อและเข้าใจได้ยากนัก ในตอนนี้นางมั่นใจแล้วว่า ฉื่่อหยานนั้นเป็น เจ้าคนประหลาด แน่นอน !

ของโบราณพวกนี้มันน่าสนใจตรงไหนกัน แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับเขา ? เขาจะทำอะไรกับมันกันแน่

ซั่วฉือขดริมฝีปากของนาง และคิดว่า ฉื่อหยานนั้นประหลาดจริงๆ

––––––––––––––––––––––––

ห่างหายไปนานในการลงเว็ปนี้ ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1183 แล้วนะคะ หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด