ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0237 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0239 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0238 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 238 : อาจารย์จารึกระดับสูง

การแกะสลักผังวิญญาณ ถือเป็นงานง่ายสำหรับฉินหยุน โดยเฉพาะกับการแกะสลักผังวิญญาณธรรมดา ขั้นตอนทั้งเรียบง่ายและไหลลื่น

จ้าวฉวนรับชมจากด้านข้าง ยังต้องรู้สึกไม่สบายใจนัก เขารู้สึกว่าฉินหยุน ต้องการเวลาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้นก่อนจะเหนือกว่าวิถีจารึกแห่งเต๋าของเขา

“เจ้าหนู เจ้านั้นเป็นสัตว์ประหลาดแท้จริงแล้ว ถึงขั้นขัดเกลาอาวุธวิญญาณระดับสูงได้อย่างรวดเร็ว! อาจารย์จารึกระดับสูงหลายท่าน ล้วนต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็หลายวัน หรือขั้นกว่าสิบวันกว่าจะทำได้สำเร็จ หากพวกเขาคิดอยากสร้างสิ่งที่ละเอียดยิบย่อยมากยิ่งขึ้น เวลาก็ยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย” จ้าวฉวนมองฉินหยุนขณะถอนหายใจไปพลาง

ฉินหยุนตอนนี้ถือมีดแกะสลักขณะเริ่มการแกะสลักผังวิญญาณอย่างไหลลื่น มันเป็นไปอย่างธรรมชาติราวสายน้ำไหล แม้ที่กระทำอยู่คือการใช้มีดแกะสลักพื้นผิวแข็ง ราวกับเขาใช้พู่กันวาดบนกระดาษแผ่นหนึ่ง มันดูง่ายดายเกินจะเชื่อ

เหตุผลหลักก็เพราะเขามีพลังของเปลวเพลิงตะวันทมิฬภายในพลังจิตวิญญาณโลหิต ดังนั้นเขาจึงสามารถแกะสลักผังวิญญาณได้โดยง่าย เป็นเขาไม่จำเป็นต้องใช้ปลายมีดแกะสลักสัมผัสกับวัตถุเลยด้วยซ้ำ

นี่เองก็เป็นเหตุผลว่า ทำไมเขาจึงสามารถใช้มีดแกะสลักระดับกลาง แกะสลักกระดูกเหล็กกล้าระดับสูงได้

จ้าวฉวนเองยังทึ่ง แม้ไม่ได้พูดออก แต่เขาทราบว่าพลังจิตวิญญาณของฉินหยุนน่าสะพรึงเพียงใด หากไม่แล้ว เขาไม่มีทางแกะสลักกระดูกเหล็กกล้าระดับสูง ด้วยมีดแกะสลักระดับกลางได้แน่

“ฉินหยุน มันจะดียิ่งขึ้นหากเจ้าเปลี่ยนเป็นมีดแกะสลักที่ดีกว่านี้ จะได้ไม่ทำให้ผู้อื่นสงสัยมากจนเกินไปนัก” จ้าวฉวนเอ่ยเตือนฉินหยุนขณะเอ่ยคำหนักแน่น

“ขอรับ ข้าจะหาเวลาขัดเกลามันสักเล่มด้วยตนเอง” ฉินหยุนพยักหน้ารับ เป็นเพราะเขาเชื่อใจจ้าวฉวน จึงไม่หวั่นเกรงที่จ้าวฉวนได้พบเห็นความประหลาดในพลังจิตวิญญาณโลหิตของเขา

“มีดแกะสลักต้องมีพิมพ์เขียว เจ้ามีพิมพ์เขียวหรือเปล่า?” จ้าวฉวนเอ่ยถาม

“ยังไม่มีขอรับ!” ฉินหยุนเองก็เข้าใจในกระบวนการหลอมมีดแกะสลัก เขาจำเป็นต้องทำตามขั้นตอนในแผนผังอย่างเข้มงวด เพื่อให้ได้รับมีดแกะสลักที่ดี

จ้าวฉวนเอ่ยขึ้น “ข้ามีพิมพ์เขียวมีดแกะสลักคุณภาพดีอยู่ สนใจหรือไม่?”

“ตอนนี้ยังไม่ขอรับ เมื่อใดที่ข้าพร้อม ข้าจะมาพบท่านที่นี่” ฉินหยุนยิ้มตอบ

หลายชั่วโมงให้หลัง ฉินหยุนแกะสลักผังวิญญาณเรียบร้อย เป็นกระบี่วิญญาณระดับสูง ทั้งยังทำเสร็จได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

จ้าวฉวนรับไปชื่นชม เขาร้องอุทาน “คุณภาพนี้ นับได้ว่าดีเยี่ยม ถึงขั้นสามารถขัดเกลาคุณภาพเช่นนี้ออกมาในระยะเวลาอันสั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ”

ฉินหยุนยิ้ม “เช่นนั้นแล้ว กระบี่เล่มนี้คิดว่าสามารถขายได้กี่เหรียญผลึกหรือขอรับ?”

“ราวยี่สิบถึงสามสิบล้านเหรียญผลึก! ทุกส่วนล้วนดีทั้งสิ้น แต่เพราะเจ้าใช้ผังวิญญาณทั่วไป จึงไม่มีทางที่มันจะเปล่งประกายได้มากกว่านี้ ราคาจึงได้เท่านี้ตามไปด้วย แต่กล่าวไปแล้ว อุปกรณ์วิญญาณระดับสูงส่วนใหญ่ ราคาก็อยู่ที่ราวสิบกว่าล้านเหรียญผลึกเท่านั้นเอง” จ้าวฉวนตอบ

ฉินหยุนผ่านการทดสอบที่สองสำเร็จเรียบร้อย ท้ายที่สุด จึงเป็นการติดตั้งค่ายอาคมวิญญาณระดับสูง เรื่องนี้สำหรับเขาก็ง่ายดายเช่นกัน

เขาตัดสินใจติดตั้งค่ายอาคมชักนำพลังวิญญาณ ด้วยการใช้แผ่นหนังสัตว์อสูรระดับเก้า หลังถูกตัดเป็นวงกลมกว้างสองเมตร อาคมชักนำพลังวิญญาณจึงเริ่มดูดพลังงานใกล้เคียงเข้ามา ยกตัวอย่าง หากมีพลังวิญญาณหนาแน่นใกล้เคียง หรือมีพลังงานอื่นคงอยู่ พวกมันจะถูกชักนำเข้ามาโดยอาคมชักนำพลังวิญญาณ

ส่วนใหญ่ที่ใช้กันจะเป็นอาคมชักนำพลังวิญญาณระดับต้นและกลางก็ถือว่าทำงานได้ดีระดับหนึ่งแล้ว แต่ระดับสูงจะยิ่งเหนือขึ้นไปอีก

อาคมชักนำพลังวิญญาณระดับสูง คือหนึ่งในอาคมวิญญาณระดับสูง จุดแข็งของมันคือชักนำพลังวิญญาณและควบแน่นลงสู่ไข่มุกวิญญาณที่ใจกลางอาคม

จ้าวฉวนสามารถบอกได้เพียงการมอง ว่าฉินหยุนกำลังจะสร้างอาคมชักนำพลังวิญญาณ เขาลอบพยักหน้าเข้าใจ ระหว่างการทดสอบ การเลือกอาคมที่เรียบง่าย ใช้งานกันแพร่หลาย แต่แข่งที่คุณภาพถือเป็นการตัดสินใจที่ดี

ฉินหยุนตอนนี้สามารถสร้างอาคมซับซ้อนอย่างอาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวัน ด้วยเหตุนี้ เพียงไม่กี่ชั่วโมงเขาจึงติดตั้งอาคมชักนำพลังวิญญาณได้สำเร็จ

“ดี ทั้งหมดผ่านเรียบร้อย ตอนนี้เจ้าเป็นอาจารย์จารึกระดับสูงแล้ว!” จ้าวฉวนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออก แม้เขาได้เป็นประจักษ์พยานการถือกำเนิดขึ้น ของอาจารย์จารึกระดับสูงด้วยวัยเพียงสิบหกปี ก็ยังแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง

จ้าวฉวนจึงหลอมเหรียญตราอาจารย์จารึกระดับสูงและมอบแก่ฉินหยุน เขายิ้มกล่าว “กระทั่งที่แดนยุทธ์อ้างว้าง ก็เป็นเรื่องยากที่จะหาอาจารย์จารึกระดับสูงเยาว์วัย! ฝีมือของเจ้าที่ใช้ในการแกะสลัก ถือว่าชวนตื่นตาตื่นใจนัก”

ยิ่งเป็นผู้ที่รู้และเข้าใจผังจารึกมากเพียงใด มันก็จะยิ่งทำให้สามารถแกะสลักพวกมันออกมาได้สมบูรณ์มากขึ้นเท่านั้น เพื่อผสานรวมชุดผังจารึกที่แตกต่างรวมเข้าด้วยกัน โดยไม่ให้เกิดความขัดแย้ง เช่นนี้จึงเป็นพรสวรรค์ที่สำคัญยิ่ง

อาจารย์จารึกหลายท่านไม่อาจมาถึงระดับนี้ เพราะพวกเขาไม่อาจผสมผสานผังวิญญาณหลายชุด จนเป็นผลให้เกิดความขัดแย้งกันเอง ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย จะทำให้ผังไม่อาจดูดกลืนพลัง และทำงานล้มเหลว จนไม่อาจนำผลลัพธ์ที่ต้องการออกมา

ฉินหยุนรับเหรียญตราสีทองมา “ตอนนี้ข้าเป็นอาจารย์จารึกระดับสูงแล้ว ข้าเองยังไม่อยากเชื่อ!”

จ้าวฉวนหัวเราะ “ฉินหยุน กระบี่และอาคมวิญญาณที่เจ้าทำขึ้น สนใจขายให้ข้าหรือไม่? ข้าเสนอที่ห้าสิบล้านเหรียญผลึก!”

“เป็นข้ามอบให้ท่านแล้ว เหรียญผลึกล้วนไม่ต้องขอรับ!” ฉินหยุนรู้สึกได้ ว่าจ้าวฉวนเป็นคนดีผู้หนึ่ง แน่นอนว่าเขาต้องพึ่งพาการช่วยเหลือของอีกฝ่ายในภายหน้าอีกมาก

จ้าวฉวนกล่าว “ก่อนหน้าเจ้าเพิ่งซื้อเม็ดยาวิญญาณรวมพลังงานมา จึงใช้เหรียญผลึกจนหมดสิ้น อย่าได้มากมารยาทต่อข้า นำบัตรผลึกของเจ้าออกมา”

ฉินหยุนตระหนักได้เมื่อนึกให้ดี เขาตอนนี้ไม่มีเหรียญผลึกแม้สักเหรียญในบัตรผลึก นอกจากนี้ยังติดหนี้หลันเฟิงจินอีกสามร้อยล้าน

“เช่นนั้นขอข้าไม่ขอมากมารยาทแล้ว!” ฉินหยุนนำบัตรผลึกส่งให้แก่จ้าวฉวน พร้อมกันนี้เขาเอ่ยถาม “ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านต้องการของที่ข้าสร้างไปทำอะไรหรือขอรับ?”

จ้าวฉวนยิ้ม “เก็บไว้ชื่นชม บางทีในภายหน้า เมื่อเจ้าเป็นอาจารย์จารึกที่เลิศล้ำ ข้าอาจขายกระบี่และอาคมนี้ มูลค่าตอนนั้นต้องไม่น้อยอย่างแน่นอน”

ฉินหยุนรับบัตรผลึกไว้ขณะแลบลิ้นออกแสร้งทำ เขายิ้มกล่าว “ข้าสงสัยแล้วสิวันนั้นจะมาถึงหรือไม่! ผู้อาวุโสใหญ่ ข้าต้องขอตัวกลับก่อน ตอนนี้ข้าเป็นศิษย์ของสถาบันเทียนเจียว และยังนำอาจารย์ออกมาเที่ยวเล่นด้านนอกนานเกินไปแล้ว เรื่องนี้ไม่ดีนัก ดังนั้นจึงต้องรีบเดินทางกลับ”

“เช่นนั้นข้าขอไม่ส่ง ระวังตัวด้วย!” จ้าวฉวนยิ้มและพยักหน้าให้

ฉินหยุนกลับห้องชุด เขาพบว่าหลันเฟิงจินกำลังฝึกฝนแกะสลักผังจารึกอาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวันอย่างคร่ำเคร่ง

“พี่หลัน ท่านดูตรงนี้สิว่าคืออะไร?” ฉินหยุนนำเสนอเหรียญตราสีทองให้อีกฝ่ายเห็น

“น่ากลัวนัก เจ้าอ่อนเยาว์กว่าข้า กระนั้นก็เป็นอาจารย์จารึกระดับสูงด้วยอายุเท่านี้ กระทั่งในแดนยุทธ์อ้างว้างยังหาได้ไม่มาก” หลันเฟิงจินถอนหายใจ

ฉินหยุนรู้สึกได้ ว่าตัวตนของหลันเฟิงจินไม่ธรรมดา ด้วยพรสวรรค์สูงล้ำระดับนาง ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่นอน

“กลับกันดีกว่าขอรับ!” ฉินหยุนตอนนี้พึงพอใจมากแล้ว ที่ได้เดินทางมาเยี่ยมเยือนตำหนักจารึกเทวะสาขาหลักประจำภูมิภาค เป็นเขาได้รับอย่างมหาศาล

“ไว้แกะสลักผังวิญญาณชุดนี้เรียบร้อยค่อยกลับ” หลันเฟิงจินกล่าว

ฉินหยุนเดินวนรอบ รับชมผังวิญญาณที่นางแกะสลัก เขายิ้มเอ่ยปาก “พี่หลัน ฝีมือท่านไม่แย่ เป็นท่านเข้าใจตัวผังจารึกอย่างลึกล้ำ ถือว่าจับหลักได้รวดเร็วยิ่ง”

“เจ้าหนู คิดล้อข้าเล่นหรือ?” หลันเฟิงจินแค่นเสียงเบา นางทราบว่าพรสวรรค์โดยธรรมชาติของนาง ด้อยกว่าฉินหยุน

ยันต์ประหลาดที่ฉินหยุนช่วยนางขัดเกลาขึ้น เป็นเขาสามารถรู้และเข้าใจผังวิญญาณดังกล่าวได้รวดเร็วยิ่ง

“ไม่นะ นี่ข้าชื่นชมท่าน!” ฉินหยุนหัวเราะคิกคัก

หลันเฟิงจินกลอกตามอง ก่อนจะหันกลับไปคร่ำเคร่งแกะสลักผังวิญญาณต่อ ตอนนี้ นางเพียงแกะสลักผังวิญญาณบนหนังสัตว์ธรรมดา ไม่ใช่การสร้างอาคมวิญญาณของจริง

ผ่านไปกว่าสองชั่วโมง ในที่สุดหลันเฟิงจินก็เสร็จงาน นางจึงออกจากภูเขาสูงลูกนี้พร้อมฉินหยุน มุ่งหน้ากลับสถาบันยุทธ์ชิงเสวียน

เดินทางอยู่สองวัน ฉินหยุนและหลันเฟิงจินค่อยกลับถึงสถาบันเทียนเจียว

เมื่อพวกเขากลับมาถึง จึงได้เห็นเสวี้ยซือเยี่ยนั่งด้วยใบหน้าซีดเผือดในห้องโถง

พอเสวี้ยซือเยี่ยเห็นฉินหยุนและหลันเฟิงจินกลับมา นางเร่งรีบลุกขึ้น แต่แล้ว ร่างนั้นกลับต้องล้มพับลงไป มองเพียงครั้งเดียวก็บอกได้ ว่านางได้รับบาดเจ็บรุนแรงยิ่ง

ฉินหยุนและหลันเฟิงจินตื่นตระหนก พวกเขาต่างทราบว่าวิญญาณยุทธ์ของเสวี้ยซือเยี่ยทั้งลึกลับและมีเอกลักษณ์เป็นอย่างยิ่ง มันสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้รวดเร็ว ดังนั้นเมื่อนางได้รับบาดเจ็บรุนแรง พักเพียงไม่นานก็ฟื้นคืนหายดีแล้ว

“ซือเยี่ย เกิดอะไรขึ้น? แล้วฮั่วจงกับมู่หรงเล่า?” หลันเฟิงจินรีบเร่งเข้ามาช่วยพยุงเสวี้ยซือเยี่ย

“พี่หลัน พวกเรา... พวกเราพบคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังในการแข่งขัน พวกเราไม่ทราบว่าเขาใช้เคล็ดวิชาลับอันใด ทำให้วิญญาณยุทธ์ของพวกเราได้รับบาดเจ็บรุนแรง เป็นผลให้พวกมันตัดขาดออกจากร่างกายพวกเรา” เสวี้ยซือเยี่ยเผยสีหน้าสิ้นหวังจนแทบร้องไห้ออก “ฮั่วจงและมู่หรง ทั้งสองต่างก็บาดเจ็บหนัก และถูกส่งไปรักษาตัวที่อื่นแล้ว”

วิญญาณยุทธ์มีความสำคัญต่อผู้ฝึกตนเป็นอย่างยิ่ง หากพวกเขาสูญเสียวิญญาณยุทธ์ ก็ไม่ต่างอะไรกับการถูกทำลายชีวิต เสวี้ยซือเยี่ยเป็นหญิงแกร่ง หากนางไม่สิ้นหวังจนถึงที่สุด นางไม่มีทางเผยความโศกเช่นนี้ออกมาอย่างแน่นอน

หลันเฟิงจินเร่งรีบตรวจสอบวิญญาณยุทธ์ของเสวี้ยซือเยี่ย ด้วยสีหน้าหมองหม่น นางเอ่ยคำเสียงเบา “นี่เป็นวิชายุทธ์ตำหนักทิศใต้ ฝ่ามือวิญญาณสัมบูรณ์ เป็นวิชายุทธ์ระดับโลกาขั้นต้น! บุคคลที่เรียนรู้เคล็ดวิชานี้ ย่อมต้องมีสถานะสูงส่งในตำหนักทิศใต้ มีคนเช่นนี้ในสถาบันเทียนเจียวด้วยงั้นหรือ? เท่าที่ข้าทราบ ไม่มีคนเช่นนั้นในสถาบันเทียนเจียวนี่!”

“เป็นคนนอกสถาบันเทียนเจียว ข้าไม่ทราบว่าเขามาจากตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามหรือไม่! เขาดูยังหนุ่มยิ่ง นามคือโจวจงฮวย!” เสวี้ยซือเยี่ยกัดริมฝีปากเอ่ยถาม “อาจารย์ วิญญาณยุทธ์ของข้านี้รักษาได้หรือไม่?”

หลันเฟิงจินบอกให้นางนั่งลง ตอนนี้นางเดินวนไปมาในห้องโถงด้วยสีหน้าหนักอึ้ง

“โจวจงฮวยเป็นคนของตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม เป็นศิษย์ที่มากพรสวรรค์ของตำหนักทิศใต้ แต่ว่า ตอนเขาอายุสิบสอง เขาถูกกักขังเพราะสังหารศิษย์นอกไปกว่าสิบคน! ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะถูกปล่อยตัวออกมาตอนนี้ นี่เพียงผ่านมาหกปีเท่านั้นเอง”

นางเดินมาข้างกายเสวี้ยซือเยี่ยและถอนหายใจ “ข้าจะช่วยเจ้าหาหนทางรักษาวิญญาณยุทธ์ที่บาดเจ็บ ในช่วงนี้ อย่าได้เครียดจนเกินไป อย่างไรแล้วมันก็ต้องใช้เวลา อาจจะหลายปีกว่าผู้อาวุโสผู้นั้นจะออกมา”

“หากวิญญาณยุทธ์ของข้าสามารถรักษา เช่นนั้นรอไม่กี่ปีไม่นับเป็นอะไร!” เสวี้ยซือเยี่ยพยักหน้ารับด้วยความโล่งอก

“ซือเยี่ย ให้ข้าตรวจสอบวิญญาณยุทธ์ของเจ้าได้หรือไม่? ก่อนหน้านี้วิญญาณยุทธ์ของข้าก็เคยมีปัญหา เป็นข้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ภายใน” ฉินหยุนกล่าว

เสวี้ยซือเยี่ยพยักหน้ารับรัวเร็ว

ฉินหยุนพอได้รับคำอนุญาต จึงวางมือลงที่หน้าท้องของเสวี้ยซือเยี่ย ขณะกดลงด้วยแรงระดับหนึ่ง เขาปล่อยพลังจิตเข้าสำรวจพลังธาตุของเสวี้ยซือเยี่ย

เขาหลับตาลง เพ่งสมาธิไปยังพลังธาตุของนาง ไม่ช้า เขาจึงได้เห็นสภาพภายในพลังธาตุของเสวี้ยซือเยี่ย

มันเป็นเมฆสีทองม่วงทรงพลัง แต่คล้ายยุ่งเหยิง ไม่อาจก่อตัวเป็นรูปร่างได้

ตามปกติ วิญญาณยุทธ์ต้องควบแน่นเป็นกลุ่มก้อน!

เมื่อฉินหยุนได้เห็นพลังธาตุของเสวี้ยซือเยี่ย เขาอึ้งไปวูบ นี่เพราะพลังธาตุของนางเป็นสีทองม่วง วิญญาณยุทธ์ที่กระจัดกระจายจึงต้องเป็นทองม่วงเช่นกัน ดังนั้นก็หมายความว่า วิญญาณยุทธ์ของเสวี้ยซือเยี่ยคือระดับทองม่วง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด