ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0235 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0237 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0236 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 236 : ถ่ายทอดผังวิญญาณ

หลันเฟิงจินหยิกที่ใบหน้าฉินหยุนไปทีหนึ่ง นางยิ้ม “เจ้าปีศาจน้อย ไม่กลัวเกรงเลยหรือว่าข้าจะโกรธ ที่ชมผู้หญิงอื่นต่อหน้าข้าว่าสวยกว่าข้า?”

ฉินหยุนนำเอาเตาหลอมออกมา โยนแผ่นหนังสัตว์เข้าไป เขากล่าว “พี่หลัน ท่านถือเป็นห้าสาวงามอันดับต้นที่ข้าเคยพบมาเลยนะ!”

หลันเฟิงจินเองก็ช่วยโยนหนังสัตว์เข้าใส่เตาหลอม นางเอ่ยถาม “ใครอันดับแรก? เป็นพี่สาวมหาอุปราชของเจ้า อาจารย์หยาง หรือภรรยาสุดสวาทเชี่ยวเย่ว์หลานของเจ้า?”

“ในใจข้า พวกนางล้วนอยู่อันดับหนึ่ง!” ฉินหยุนยิ้ม

พอหลันเฟิงจินได้ยินดังนี้ นางอดไม่ได้ที่จะถองสีข้างเข้าไปทีหนึ่ง “แล้วในใจเจ้า ข้าจึงอันดับต่ำสุดงั้นสิ ไร้หัวใจนัก!”

ฉินหยุนพลันรู้สึกทรมานใจ กล่าวคำออก “พี่หลัน ในใจข้า ท่านก็อยู่อันดับหนึ่ง!”

“เจ้าหนูนี่... ยิ่งทำให้ข้าชอบมากขึ้นไปอีก” หลันเฟิงจินยิ้มพึงพอใจ มันเป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์มากเลยทีเดียว

ฉินหยุนจ้องมองปีศาจสาวตรงหน้า เขาไม่กล้าหันมองส่วนอื่น เป็นเขากังวลว่าตนเองจะวอกแวกเพราะเหตุนี้

“คิดให้ข้าช่วยอะไรเจ้ากันละ? ดูเหมือนลำพังตัวเจ้าก็ทำได้ดีแล้วนี่!” หลันเฟิงจินเผยความจริงจัง ขั้นตอนการขัดเกลาอาคมใหญ่ มีระดับความยากค่อนข้างมาก และยังต้องใช้สมาธิมหาศาล หากเกิดสิ่งใดผิดพลาด ความพยายามทั้งหมดจะสูญเปล่า

“ช่วยข้าจัดการหนังสัตว์พวกนี้!” ฉินหยุนเอ่ย “ท่านคือขอบเขตวรยุทธ์เต๋า หากท่านใช้พลังของท่านขัดเกลามัน คุณภาพโดยรวมย่อมต้องดีขึ้น”

หลันเฟิงจินกล่าว “งานตรากตรำแท้ หากเป็นผู้อื่นมาขอให้ข้าทำเช่นนี้ ข้าคงไม่แม้แต่จะชายตามอง แต่เจ้า... ข้าไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรดี”

ฉินหยุนยิ้มกว้าง “พี่หลัน หากท่านต้องการให้ข้าช่วยในภายหน้า ข้าไม่มีทางปฏิเสธท่านอย่างแน่นอน”

หลันเฟิงจินยิ้ม จากนั้นจึงค่อยช่วยฉินหยุนจัดการแผ่นหนังสัตว์

ด้วยความระมัดระวัง ฉินหยุนนำแผ่นหนังสัตว์ที่เกือบจะขัดเกลาสมบูรณ์แล้วออกจากเตาหลอม หนังสัตว์ที่ถูกเผาไหม้ มันกลายเป็นลูกบอลสีแดงฉานคล้ายก้อนโคลน หลังจากนั้น เขาจึงใส่กระดูกมังกรที่ถูกเผาไหม้สีแดงฉานเข้าไปในหนังสัตว์ และเริ่มกระบวนการขั้นถัดไป

ระหว่างกระบวนการหลอม หลันเฟิงจินจะใช้เตาหลอมเพื่อเผาไหม้กระดูกสัตว์ เมื่อใดที่เสร็จเรียบร้อย มันจะถูกนำออกมาและส่งต่อให้ฉินหยุนนำไปขัดเกลาขั้นต่อไป

พวกเขาเลือกใช้งานหนังสัตว์อสูรระดับวิญญาณและระดับที่เก้า เมื่อผสานรวมเข้าด้วยกัน พวกมันจึงเกิดขึ้นเป็นหนังสัตว์ที่มีความยืดหยุ่น และสามารถกักเก็บพลังเอาไว้ได้

ผ่านความยุ่งยากอยู่สองวัน ฉินหยุนจึงได้รับแผ่นหนังสี่เหลี่ยมกว้างราวสองเมตรผืนหนึ่ง

“จัดว่าเป็นอาคมขนาดเล็ก เพียงพอให้เจ้าใช้คนเดียว” หลันเฟิงจินปาดเช็ดคราบเหงื่อขณะยิ้มให้ “ข้าอยากเห็นนัก ว่าเจ้าสามารถแกะสลักอาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวันได้จริงหรือไม่”

ฉินหยุนกล่าว “พี่หลัน ถึงตรงนี้ท่านไม่ต้องหลบเลี่ยง! เมื่อข้าแกะสลัก ข้าจะไม่ปิดบังตัวผัง!”

ในช่วงสองวันมานี้ หลันเฟิงจินต้องลงแรงครั้งใหญ่ เมื่อฉินหยุนได้รับแผ่นหนังที่ผ่านการหลอม จึงเป็นนางปลดปล่อยพลังขอบเขตวรยุทธ์เต๋าเข้าบำรุงเลี้ยงแผ่นหนังออกมา

“เจ้าจะบอกว่า เจ้าคิดถ่ายทอดอาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวันแก่ข้า?” หลันเฟิงจินเอ่ยถามประหลาดใจ

“เป็นข้าคิดอยากแลกเปลี่ยนกับท่าน” ฉินหยุนหัวเราะคิกคัก “พี่หลัน ท่านสมควรต้องเชี่ยวชาญผังจารึกที่ดีไม่น้อยแน่ ดังนั้นมาแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการ เช่นนี้คิดเห็นอย่างไรบ้าง?”

หลันเฟิงจินคิดอยู่พักหนึ่งค่อยตอบ “ได้! หากเจ้าสอนอาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวันแก่ข้า ข้าจะสอนผังวิญญาณชั้นเลิศให้ ตกลงไหม?”

ผังวิญญาณชั้นเลิศหาได้ยากยิ่ง สามสิบหกผังวิญญาณของฉินหยุนก็เพียงแค่ระดับสูงเท่านั้น

“ผังวิญญาณชั้นเลิศเหล่านี้ใช้เพื่ออะไรหรือขอรับ?” ฉินหยุนต้องถามก่อน หากใช้ประโยชน์ไม่ได้ จะกลายเป็นเขาเสียเปรียบ หากเขาได้รับผังวิญญาณที่ผลลัพธ์คล้ายคลึงกัน เช่นนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการอีก

“เป็นสิ่งที่เรียกว่าผังวิญญาณชี้นำดารา ถูกใช้งานเพื่อสร้างเป็นยันต์ และสามารถดึงดูดอุกกาบาตมาได้ มีทั้งอุกกาบาตขนาดเล็กไปนถึงขนาดใหญ่ กระทั่งอาจมีวัสดุสำหรับการขัดเกลาที่ล้ำค่า ดังนั้นมันจึงมีประโยชน์มาก แน่นอนว่าข้ายังไม่เคยลอง เพราะข้ายังไม่มีความสามารถที่จะทำยันต์วิญญาณชั้นเลิศขึ้นมาได้”

ฉินหยุนแอบรู้สึกสนใจ พอได้ยินวิธีใช้งานของมัน เขานึกย้อนถึงตอนที่เขาและหยางฉีเย่ว์ ได้เห็นอุกกาบาตจำนวนมากร่วงหล่นจากตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ในตอนนั้น พวกเขาได้รับศิลาวิญญาณว่างเปล่าที่เอาไว้ใช้หลอมอุปกรณ์วิญญาณ รวมถึงศิลาวิญญาณลอยล่องที่ช่วยเลื่อนระดับวิญญาณยุทธ์

“พี่หลัน ท่านเคยเห็นผู้ใดชักนำอุกกาบาตได้สำเร็จหรือไม่?” ฉินหยุนถาม

หลันเฟิงจินพยักหน้ารับ “แน่นอน แต่ข้าต้องบอกเจ้าก่อน ไม่ใช่ว่าอุกกาบาตทั้งหมดที่ร่วงหล่นลงมาจะมีค่า พวกมันส่วนใหญ่ก็แค่ก้อนหินธรรมดา ที่ค่อนข้างดีหรือมีของล้ำค่า ล้วนต้องพึ่งพาโชค”

“ขอรับ ตกลงตามนี้!” ฉินหยุนยิ้มกล่าวหลังตกลงกับหลันเฟิงจินเรียบร้อยแล้ว

ถัดจากนั้น ฉินหยุนจึงเริ่มแกะสลักผังของอาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวัน หลันเฟิงจินรับชมอยู่ด้านข้าง สายตานั้นเพ่งมองเพื่อจดจำ

ระหว่างแกะสลักอักขระ ฉินหยุนค่อยทำอย่างบรรจง มันเปี่ยมไปด้วยความมั่นคง ไม่มีข้อผิดพลาด

หลันเฟิงจินเกิดความประทับใจลึกล้ำ ที่นางได้เห็นขั้นตอนเหล่านี้ด้วยตนเอง

เมื่อนางได้เห็นฉินหยุนแกะสลักอักขระที่ซับซ้อนด้วยตนเอง ภายในส่วนลึกถึงกับตื่นตะลึง กระทั่งนางยังไม่อาจกระทำอย่างลื่นไหลระดับนี้

นางมีหลายคำถามคิดถามออก แต่นางทราบดีว่าไม่ใช่ตอนนี้ เพราะฉินหยุนกำลังตั้งสมาธิแกะสลัก

ย้อนกลับไปยังครั้งแรก ที่ฉินหยุนแกะสลักอาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวัน ครั้งนั้นทำสำเร็จในหอคอยทัณฑ์สวรรค์ ในช่วงเวลานั้น เงื่อนไขหลายอย่างเลวร้าย พลังจิตก็ไม่แข็งแกร่งเพียงพอ

ตอนนี้ เงื่อนไขทุกอย่างล้วนดีพร้อม พลังจิตของเขายังแข็งแกร่งกว่าตอนนั้นไม่รู้เท่าไหร่ กระบวนการแกะสลักจึงเป็นไปอย่างไหลลื่น

เกือบสี่วันให้หลัง ฉินหยุนค่อยแกะสลักอาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวันสำเร็จทั้งชุด เขาถึงกับถอนหายใจยาวออกมา

“เจ้าเคยแกะสลักมันมาก่อนงั้นหรือ?” หลันเฟิงจินจดจำเส้นสว่างของผังนี้ได้นานแล้ว หลายส่วนของผังเป็นนางรู้สึกคุ้นเคยอยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังมีส่วนของเส้นมืดที่ยังไม่กระจ่าง

ตอนนี้ นางได้รับเส้นมืด นางสามารถติดตั้งอาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวันได้

ฉินหยุนเหนื่อยยิ่งขณะเอนกายพิงเก้าอี้ เขาหลับตาลง หาได้ตอบคำถามของหลันเฟิงจิน ที่เขาทำตอนนี้คือการพักผ่อน

หลันเฟิงจินเดินเข้าหา เช็ดคราบเหงื่อที่ใบหน้าให้ ก่อนโคจรพลังภายในสู่ร่างกายฉินหยุน ช่วยให้เขาฟื้นฟูความเหนื่อยล้า

ด้วยพลังภายในของหลันเฟิงจินถ่าบเทเข้ามา ฉินหยุนเริ่มฟื้นฟูเรี่ยวแรง กระทั่งรู้สึกมีพลังมากล้นกว่าเก่า

“ข้าเคยแกะสลักอาคมนี้มาก่อน ข้าเรียนรู้มันจากหอคอยบนยอดเขาที่สถาบันยุทธ์ฮัวหลิง” ฉินหยุนหัวเราะตอบ “พี่หลัน ท่านต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ อย่าได้ส่งต่อสิ่งนี้ต่อผู้อื่น”

“ข้ารู้ ข้าไม่ส่งมอบของดีเช่นนี้ต่อผู้อื่นอย่างแน่นอน!” หลันเฟิงจินยิ้มรับคำ ก่อนจะนำเอาแผ่นหนังสัตว์จำนวนหนึ่งส่งมอบแก่ฉินหยุน

ฉินหยุนรับไว้และสำรวจมอง เขาถึงกับต้องสูดลมหายใจเข้าลึก มันเป็นผังวิญญาณที่ละเอียดและซับซ้อนเป็นอย่างยิ่งซึ่งแกะสลักเอาไว้บนแผ่นหนัง มันคือผังวิญญาณชี้นำดารา สิ่งที่เห็นตอนนี้ มันซับซ้อนเสียยิ่งกว่าอาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวันเสียอีก

“ทรงพลังนัก!” ฉินหยุนชื่นชม

“เจ้าไม่อาจแพร่งพรายผังวิญญาณชี้นำดารานี้ หากตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามรู้เข้า ข้าคงต้องหนีไปไกลสุดขอบแดนยุทธ์อ้างว้างแล้ว” หลันเฟิงจินเอ่ยเตือนเช่นกัน

“อย่าได้เป็นห่วงไปขอรับ!” ฉินหยุนเก็บแผ่นหนังสัตว์ดังกล่าวไป

อาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวันที่เขาทำขึ้น ยังคงวางอยู่บนพื้น เขาเดินรอบก่อนจะนั่งบนแผ่นหนังสัตว์สีน้ำตาลอ่อนนุ่ม จากนั้นจึงนำเหรียญผลึกเต็มกำมือ หว่านโปรยที่พื้นเหนือแผ่นหนังสัตว์ เพื่อให้อักขระในอาคมดูดกลืนพลัง

ตราบเท่าที่อาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวันทำงาน และเริ่มต้นการดูดกลืน พลังวิญญาณจะเริ่มรวบรวมเข้าสู่ค่ายอาคม ระหว่างนี้ พลังที่รวบรวมเอาไว้จะถูกดูดกลืนโดยผู้ที่นั่งในค่ายอาคมอีกต่อหนึ่ง

“พี่หลัน อาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวันนี้ ระดับของมันคือ?” ฉินหยุนถามด้วยความสงสัย เขาอยากรู้ว่าอาคมที่ตนเองสร้างขึ้นอยู่ระดับใด

“กล่าวได้ว่า เป็นอาคมวิญญาณขนาดเล็กระดับสูง!” หลันเฟิงจินกล่าว “ตามปกติ อาคมชนิดนี้ที่ติดตั้งได้ด้วยคนเพียงคนเดียว ถือว่าหาได้ยากยิ่ง”

“ในกรณีนี้ ถือว่าข้านับเป็นอาจารย์จารึกระดับสูงได้แล้ว?” ฉินหยุนหัวเราะ เป็นเขากำลังจะก้าวข้ามอาจารย์จารึกระดับกลางไปอีกระดับหนึ่ง

หลันเฟิงจินอึ้ง นางพบว่าเรื่องนี้ยากจะเชื่อ ทว่า นางก็ยอมรับว่าฉินหยุนเป็นอาจารย์จารึกระดับสูงของจริง ทั้งที่อายุเพียงแค่สิบหก!

“ข้าต้องไปพบผู้อาวุโสจ้าวฉวนเพื่อทดสอบเสียแล้ว อาจารย์จารึกระดับสูงย่อมมีสถานะที่สูงมากขึ้น” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

ตอนนี้จ้าวฉวนยังไม่กลับมา เป็นเขาออกไปช่วยฉินหยุนซื้อหาเม็ดยาวิญญาณรวมพลังงาน

และในช่วงหลายวันถัดจากนั้น ฉินหยุนจึงช่วยหลันเฟิงจินเข้าใจการแกะสลักอาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวันให้มากขึ้น ด้วยวิธีการนี้ นางจึงยิ่งคุ้นเคยกับมันมากขึ้น

พอจ้าวฉวนกลับมาถึง เขาเร่งรีบมุ่งหน้ามายังห้องชุดของฉินหยุนโดยทันที

“ขออภัยที่ให้รอเสียนาน!” จ้าวฉวนยิ้มกล่าวเป็นพิธี “การทำธุรกรรมครั้งนี้เป็นไปอย่างลื่นไหล และนี่คือเม็ดยาวิญญาณรวมพลังงาน ถือว่าเจ้าโชคดีนัก และข้าบังเอิญรู้พอดี หากเจ้ามาช้ากว่านี้ ข้าคงรั้งเอาไว้ไม่ทัน บางทีอาจต้องรออีกหนึ่งหรือสองปีเลยทีเดียว”

ฉินหยุนรับกล่องหยกมาและเปิดดู ภายในเป็นเม็ดยาสีทองอร่าม นี่คือเม็ดยาวิญญาณรวมพลังงาน

“รีบกินมันเข้าไป มาดูกันว่าช่วยได้ขนาดไหนกัน!” จ้าวฉวนเองก็ตื่นเต้น หากฉินหยุนประสบความสำเร็จ เขาจะก้าวถึงขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้าด้วยอายุสิบหกปี

เชี่ยวเย่ว์หลานมีพรสวรรค์ชวนโลกตะลึง นางอายุสิบเจ็ดปี และอยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า หากฉินหยุนกินเม็ดยาวิญญาณรวมพลังงานและเลื่อนระดับได้ จะกลายเป็นเขาน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าเชี่ยวเย่ว์หลานแล้ว

ฉินหยุนรับเม็ดยาก่อนเร่งรีบเข้าห้องลับ หลังกลืนเม็ดยา ขั้นตอนถัดมาคือการขัดเกลา เขาต้องใช้เวลากว่าจะขัดเกลาฤทธิ์โอสถทั้งหมดได้สำเร็จ

จ้าวฉวนออกจากห้องชุด ไปจัดการงานที่คั่งค้างเอาไว้ของตนเอง

ส่วนทางด้านหลันเฟิงจิน นางรอในห้องตนเองไปพลาง ฝึกฝนผังวิญญาณของอาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวันไปพลาง

แปดวันให้หลัง ฉินหยุนตื่นขึ้นในห้องลับ เมื่อเขาลืมตาตื่นขึ้น ดวงตานี้ดำสนิท ไร้ซึ่งสีขาวเจือปน หากผู้ใดมองมาพบอาจถึงขั้นขนลุกชี้ชัน

ทีละน้อย สีขาวในดวงตาของเขาค่อยปรากฏ ม่านหมอกสีดำเริ่มเลือนหายไป

“เม็ดยาวิญญาณรวมพลังงานนี้มีประโยชน์ยิ่งนัก มันทำให้เราควบแน่นพลังธาตุตะวันทมิฬสู่วัชระแก่นภายในได้แล้ว!” ฉินหยุนสำรวจมองตันเถียนตนเอง มันคือแก่นสีดำสนิท นั่นคือวัชระแก่นภายใน

การแปรเปลี่ยนเป็นวัชระแก่นภายใน จะทำให้พลังภายในของเขาแข็งแกร่งมากขึ้น และยังปลอดภัยกว่าการใช้พลังภายในมากนัก

นอกจากนี้ เขายังสร้างขุมพลังภายในขั้นสูงได้อีกเล็กน้อย หากขุมพลังภายในขั้นสูงผสานรวมกับกำลังภายใน มันสามารถปลดปล่อยพลังอันน่าสะพรึงออกมาได้

สิ่งชัดเจนของขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า คือพลังภายในสามารถโคจรนอกร่างกายได้

แก่นภายในตะวันทมิฬของฉินหยุนมีความพิเศษ มันคือความสามารถดูดกลืนออร่า ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะปรากฏพลังภายในใดออกมา อย่างไรแล้ว เขาก็มีความคิดของตนเอง ว่าตนยังไม่อาจนับเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า เพราะพลังธาตุอีกสองแห่งของเขายังต้องรอการเปลี่ยนแปลงเป็นวัชระแก่นภายใน

ตามปกติ เขาสามารถใช้ได้แต่พลังภายในจากแขนราชสีห์สวรรค์ ซึ่งก็คือวิญญาณยุทธ์อสนีบาตอัคคี ด้วยพลังภายในดังกล่าว ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องปลดปล่อยขุมพลังภายในขั้นสูง และผู้อื่นก็จะไม่ทราบ ว่าเขาคือผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า

“หากเราแปรสภาพพลังธาตุอีกสองแห่งสู่วัชระแก่นภายใน เราสมควรสู้กับผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าได้” ฉินหยุนยินดีอยู่ภายในขณะก้าวเดินออกจากห้องลับ

2 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด