ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0229 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0231 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0230 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 230 : ท้าประลอง

ซุนจินเฮ่าและคณะ เป็นพวกฉินหยุนลงมือสังหาร ร่างศพถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่าน เขาย่อมไม่อาจกลับมา

พออีกฝ่ายได้ยินดังนี้ น้ำเสียงแค่นออกชัดเจน “ฉินหยุน เจ้าหมายความถึงพี่ซุนโดนสัตว์อสูรสังหารหรือ? เจ้าเอาอะไรมามั่นใจว่าพวกเขาตายแล้ว? พวกเขาคือกลุ่มคนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปด หากเจ้าไม่ตาย เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่ตาย!”

ฉินหยุนยิ้มกว้าง “พวกมันไม่ได้ถูกสัตว์อสูรสังหาร แต่เป็นข้า! เชื่อหรือไม่ละ?”

คำกล่าวนี้ หน่วยอื่นต่างหันมองกันอย่างไม่เชื่อ พวกเขาไม่มีทางเชื่อ แม้ซุนจินเฮ่าโดนฉินหยุนตบหน้าไปสองครั้ง ก็ยังไม่น่าจะสังหารอีกฝ่ายได้ นี่เป็นเพราะพวกเขาทั้งสี่คนในหน่วย ล้วนเป็นขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปด!

“ฉินหยุน เจ้าและมู่หรงสร้างความวุ่นวายเกินไปแล้ว อย่าได้กล่าววาจาไร้สาระ! พี่ซุนและคณะจะถูกเจ้าสังหารได้อย่างไร?” แม้ชายตรงหน้ากล่าวเช่นนี้ แต่ภายในใจกลับลอบเชื่อไปแล้ว โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นสายตาจับจ้องของฉินหยุนที่มองมา เขาแทบรู้สึกหวาดกลัวอยู่ภายใน

“ด้วยพละกำลังของพวกมัน ไม่ต่างอะไรกับข้าลงมือสังหารตามใจชอบ! ดังนั้นข้าขอแนะนำให้พวกเจ้าอย่าได้คิดก่อการอะไรกับพวกเรา ไม่อย่างนั้น ข้าจะทำให้มั่นใจว่าพวกเจ้าไม่หลงเหลือร่างหรือเถ้ากระดูกทิ้งไว้ในโลกใบนี้” น้ำเสียงฉินหยุนหนาวเย็นถึงกระดูก จิตสังหารทะลักในอากาศ ชายตรงหน้าถึงกับก้าวเท้าถอย

ที่นี่ มีหลายคนต่างอิจฉาต่อฉินหยุน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปด ด้วยเหตุนี้ฉินหยุนจึงใช้โอกาสนี้ เอ่ยคำเตือนถึงกลุ่มคนให้รับรู้พละกำลังของเขา

ครึก ครึก ครึก... ประตูหลักของตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามค่อย ๆ เปิดกว้างออก อาจารย์กลุ่มหนึ่งเร่งรีบเดินออกมา

ฉินหยุนมองไป เขาได้พบเชี่ยวเย่ว์หลาน หยางฉีเย่ว์ และอีกหลายคน ทั้งเซี่ยอู๋เฟิงและโฮ่วฉิงเฟิงก็รวมอยู่ด้วย พวกเขารวมอยู่กลุ่มเดียวกัน นับว่าต้องสายตายิ่งนัก

ท้ายที่สุด สายตาของฉินหยุนจึงหยุดลงที่เชี่ยวหยางหลง

ก่อนหน้านี้ พวกเขาโดนโจมตีโดยพวกซุนจินเฮ่า และชายชราอีกหลายคนที่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า มีความเป็นไปได้สูงว่าเชี่ยวหยางหลงคือผู้ร้ายที่บงการอยู่เบื้องหลัง

ชั่วขณะที่หลันเฟิงจินเดินออกมา นางเร่งรีบมาหยุดที่ข้างกายหน่วยของฉินหยุน นางเอ่ยถาม “พวกเจ้าฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเรียบร้อยดีแล้ว? พวกเราล้วนได้เห็นความชั่วที่ซุนจินเฮ่าและคนของมันก่อการ การสังหารพวกมันถือเป็นเรื่องดีนัก!”

ได้ยินคำของหลันเฟิงจิน หน่วยอื่นล้วนกายแข็งทื่อ!

ฉินหยุนและคณะลงมือสังหารพวกซุนจินเฮ่าจริง!

“เป็นจริงสินะ! พวกท่านล้วนรับชมพวกเราต่อสู้กับสัตว์อสูรโดยตลอดหรือ?” มู่หรงต้าเหรินหันมองกลุ่มคนกว่าร้อยด้วยหัวใจแหลกสลาย เป็นเขาต้องมีสภาพไม่น่าดูหลายครั้งครา ภาพลักษณ์ไม่ดีของเขาถูกผู้คนหมู่มากพบเห็นเข้าเสียแล้ว

“ฉินหยุน อย่าได้กังวลไป แม้เจ้าสังหารพวกซุนจินเฮ่า รวมถึงกายวรยุทธ์ระดับเก้าของตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามของเรา ทั้งหมดล้วนสมเหตุสมผล เจ้าไม่ต้องห่วงว่าจะโดนทำร้ายแสวงการล้างแค้น!”

ฉ่วยอี้ฮวยเดินออกมาพลางหัวเราะ “แล้ววิญญาณยุทธ์เจ้าหายดีแล้ว? สนใจเข้าร่วมตำหนักตะวันออกหรือไม่? หลังฝึกฝนในตำหนักตะวันออกสักระยะหนึ่ง เจ้าจะได้เข้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์ และกลายเป็นนักบุญวิญญาณสีคราม ถึงตอนนั้นเจ้าจะยิ่งทรงพลังมากขึ้นไปอีก”

ตำหนักทิศเหนือและทิศใต้ผิวหน้าหนายิ่ง พวกเขาล้วนเสนอเงื่อนไขดีงาม เชื้อเชิญฉินหยุนให้เข้าร่วม

ทว่าพวกเขาทั้งหมดล้วนถูกฉินหยุนปฏิเสธ!

ได้เห็นฉินหยุนปฏิเสธพวกเขา ศิษย์ของสถาบันเทียนเจียวและตำหนักดวงดาว ต่างสับสนงุนงง มันเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับพวกเขาที่จะได้เข้าร่วมตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงตำหนักศักดิ์สิทธิ์

สำหรับพวกเขา ตำหนักศักดิ์สิทธิ์วิญญาณสีคราม คือแดนศักดิ์สิทธิ์ในฝัน!

อย่างไม่คาดคิด ผู้อาวุโสจากตำหนักตะวันตกพลันก้าวเดินออกมา น้ำเสียงนี้หัวเราะและกล่าวคำ “ฉินหยุน ข้าทราบว่าเจ้ามีเรื่องเบาะแว้งกับตำหนักตะวันตก ทว่าเหล่านั้นล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อย! หากเจ้าต้องการเปรียบเทียบรากฐานของพวกเรา ตำหนักตะวันตกถือว่าแข็งแกร่งที่สุด เจ้าควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน สนใจเข้าร่วมตำหนักตะวันตกของเราหรือไม่?”

ความขัดแย้งระหว่างตำหนักตะวันตกและฉินหยุนใหญ่หลวง พวกเขากระทั่งหน้าหนากล้าเชื้อเชิญฉินหยุนเข้าร่วมตำหนักตะวันตก!

และสิ่งที่ชวนให้ตื่นตะลึงที่สุดก็คือ ฉินหยุนคิดอ่านเข้าร่วมตำหนักตะวันตก!

“ได้ ข้าจะเข้าร่วมตำหนักตะวันตก แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ข้าสงสัยนักว่าผู้อาวุโสสามารถตัดสินใจให้ข้าเข้าร่วมตำหนักตะวันตกได้โดยตรงหรือไม่? และยังจะมอบเงื่อนไขอันงดงามใดแก่ข้า?” ฉินหยุนเผยสีหน้าจริงจังกล่าวคำ

ผู้คนตื่นตะลึง กระทั่งผู้อาวุโสจากตำหนักตะวันตกยังไม่คาดคิด ว่าฉินหยุนจะมีความคิดเช่นนี้

เชี่ยวเย่ว์หลานเร่งรีบเอ่ยปาก “ฉินหยุน เจ้าเอาจริงหรือ?”

ฉินหยุนยิ้ม “แน่นอน ข้าเอาจริง! หากข้าต้องการแข็งแกร่งขึ้น ท้ายที่สุดก็ต้องเข้าร่วมตำหนักศักดิ์สิทธิ์วิญญาณสีคราม ตำหนักตะวันตกถือว่าร่ำรวย เรื่องนี้ต่างทราบกันชัดเจน”

“เช่นนี้ ข้าตัดสินใจให้ได้ เจ้าสามารถมาเมื่อใดก็ได้! แต่ว่า ข้าต้องขออธิบายแต่แรกก่อนเจ้าเข้าร่วม เจ้าต้องทำให้มั่นใจว่าวิญญาณยุทธ์ของเจ้ามีสภาพปกติแล้ว” ผู้อาวุโสพยักหน้ารับยิ้มกล่าว “เป็นเรื่องปกติ ที่เจ้าจะสนใจสภาพแวดล้อมที่ดีของตำหนักตะวันตก แต่ข้าก็ยังไม่เชื่อนักว่าเจ้าคิดเข้าร่วมตำหนักตะวันตกจริง!”

ฉินหยุนมองทางเชี่ยวหยางหลง ดวงตานี้เปี่ยมล้นด้วยจิตสังหาร “นั่นก็เพราะ ข้าคิดเข้าร่วมตำหนักตะวันตก เพื่อท้าทายเชี่ยวหยางหลง ข้าจะสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าศิษย์มาครอบครอง!”

ตราบเท่าที่เขามีพละกำลังเพียงพอ ด้วยอายุตามที่กำหนด เขาสามารถท้าทายหัวหน้าศิษย์เมื่อใดก็ได้ เงื่อนไขที่เขาคิดอยากเป็นศิษย์ของตำหนักตะวันตก ก็เพราะต้องการท้าทายหัวหน้าศิษย์ของตำหนักตะวันตก

เชี่ยวหยางหลงพอได้ยินดังนี้ เสียงหัวเราะดังออก “ฉินหยุน เจ้าเพียงขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปด แต่เจ้าคิดอยากท้าทายข้าหรือ? ข้าตอนนี้อายุสามสิบสอง ตราบเท่าที่ข้าอายุสามสิบห้า หัวหน้าศิษย์จะไม่ใช่ข้าอีกต่อไป ข้าเกรงว่าเจ้าคงไม่อาจฉกชิงตำแหน่งหัวหน้าศิษย์ของข้าไปได้!”

ฉินหยุนเปี่ยมด้วยความมั่นใจ เขาแค่นเสียงเอ่ยคำ “อย่าได้กังวลไป ภายในสองปี ข้าจะเข้าร่วมตำหนักตะวันตก และจัดการเจ้า! แน่นอน ว่าเจ้าต้องรอดจนถึงวันนั้น อย่าได้ไปแสวงหาความตายเสียก่อนละ!”

ฝูงชนต่างรู้สึก ว่านี่เป็นฉินหยุนมั่นใจจึงประกาศกร้าว!

นี่หมายความถึงในอีกสองปี เขาต้องก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์เต๋า มีเพียงขอบเขตวรยุทธ์เต๋าจึงสามารถมีสิทธิ์โค่นล้มเชี่ยวหยางหลงได้!

นอกจากเป็นหัวหน้าศิษย์ เชี่ยวหยางหลงยังเป็นรัชทายาทแห่งเทียนเชี่ยว เขาคือผู้กุมทรัพยากรของทั้งจักรวรรดิเอาไว้ เขาย่อมสามารถเลื่อนระดับพลังได้อีกในช่วงสองปีนี้ เพียงเรื่องนี้ฉินหยุนก็ไม่อาจใช่คู่ต่อสู้แล้ว

“ฉินหยุน เลิกฝันกลางวัน หากเจ้ายังดื้อรั้น มีแต่จะส่งผลต่อตัวเจ้าเอง” หลันเฟิงจินเดินออกมา หยิกเข้าที่แขนของฉินหยุน

“ฉินหยุน ปลอดภัยไว้ก่อนย่อมดีกว่า หากเจ้าฝืนเลื่อนระดับเพราะแรงกดดัน มีแต่จะยิ่งทำให้การฝึกฝนแตกซ่าน” ตู้ก่วยกล่าวคำแนะนำ

ฉ่วยอี้ฮวยเดินเข้ามา เขาถอนหายใจและกล่าว “ฉินหยุน ข้าทราบว่าเจ้าเกือบจบสิ้นที่ภายนอก ข้าโกรธเคืองต่อเรื่องนี้นัก แต่อย่าได้ห่วง ผู้ร้ายย่อมต้องโดนลงทัณฑ์ เพียงมุ่งเน้นฝึกฝนในเส้นทางของเจ้า อย่าได้กดดันตัวเอง!”

“เย่ว์หลาน รีบเกลี้ยกล่อมสามีเจ้า เป็นเขาจะทำร้ายตนเอง” โฮ่วฉิงเฟิงกล่าว

มีเพียงดวงตาของเชี่ยวเย่ว์หลานที่เปี่ยมด้วยความชื่นชม นางมองฉินหยุน น้ำเสียงกล่าวคำเย็นชา “ฉินหยุน หากเจ้าไม่อาจจัดการเชี่ยวหยางหลงภายในสองปี ข้าจะหย่าต่อเจ้า!”

โฮ่วฉิงเฟิงคล้ายสุนัขจมปลักโคลน เดินเขาคิดให้เชี่ยวเย่ว์หลานเกลี้ยกล่อมฉินหยุน ใครกันจะทราบว่านางกลับเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟแก่ฉินหยุน

ผู้คนล้วนกล่าวคำไม่ออก แต่พวกเขารู้สึกว่าทั้งสองนี้คล้ายเหมาะสมกันยิ่ง

กระทั่งเซี่ยอู๋เฟิงยังไม่คิดยินยอมให้ฉินหยุนได้ทำ ทว่า เขาไม่อาจกล่าวคำใด เหตุผลหลักก็เพราะ เขาสัมผัสได้ถึงพลังน่าสะพรึงในกายของฉินหยุน เพียงแต่ตอนนี้พวกมันยังไม่ได้ปะทุออก

เชี่ยวหยางหลงแค่นเสียง “ฉินหยุน ในเมื่อเจ้ามั่นใจ ข้าก็ขอพูดที่ตรงนี้ ข้าจะมีชีวิตรอดรอเจ้ามาท้าทายข้า! แต่ว่า ข้าต้องบอกต่อเจ้าอย่างหนึ่ง เมื่อเวลานั้นมาถึง การประลองจะเป็นโดยเอาชีวิตและความตายเข้าแลก มีเพียงวิธีนี้จึงสามารถต่อสู้ได้อย่างเต็มที่”

“เหตุใดข้าจึงไม่กล้า?” ฉินหยุนยิ้มอ่อน ใบหน้ากล่าวคำออกด้วยน้ำเสียงมาดมั่น

เชี่ยวเย่ว์หลานมองทางหยางฉีเย่ว์ ผู้ซึ่งก้มศีรษะลงต่ำไม่กล่าวคำใด นางทราบว่าฉินหยุนท้าทายเชี่ยวหยางหลงเพราะเหตุผลอื่น เป็นเขาต้องการช่วยเหลือหยางฉีเย่ว์ให้พ้นจากสัญญาการแต่งงาน

ผู้อาวุโสตำหนักตะวันตกถอนหายใจ “ในเมื่อเจ้าเลือกแล้ว เช่นนั้นพวกเราไม่แทรกแซงอีก เพราะเรื่องนี้ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร พวกเราก็ยังจะมีหัวหน้าศิษย์ที่เหนือล้ำ”

“สองปีถัดจากนี้ ข้าจะเข้าร่วมตำหนักตะวันตก และเป็นศิษย์ของตำหนักตะวันตก จากนั้นจึงท้าทายต่อเชี่ยวหยางหลง!” ฉินหยุนเผยน้ำเสียงที่ทั้งสงบและมั่นใจดังก้องไปทั่วทิศ พลังภายในที่เปล่งออกนี้ เป็นผลให้ผู้ฝึกตนหลายคนลอบตระหนก

ฉินหยุนแข็งแกร่งเพียงใดกัน? ผู้คนต่างคาดเดา ว่าฉินหยุนได้ครอบครองแขนราชสีห์สวรรค์และวิญญาณยุทธ์อสนีบาตอัคคีทองม่วง ทั้งยังเป็นอาจารย์จารึก กล่าวได้ว่าระดับความลึกล้ำของเขาไม่ธรรมดา!

รัชทายาทของหลายอาณาจักร มีเพียงเชี่ยวหยางหลงที่ยังไม่โดนฉินหยุนจัดการ หากฉินหยุนจัดการเชี่ยวหยางหลง เขาจะกลายเป็นรัชทายาทซึ่งแข็งแกร่งที่สุดแล้ว!

ผู้อำนวยการไป่ตะโกนขึ้น “พวกเราจะเริ่มทดสอบไข่มุกเสวียนแก่นอสูร! พวกเจ้าคงพบเห็นกันแล้ว ยิ่งไข่มุกดูดกลืนพลังงานไปมากเท่าใด มันจะยิ่งหนักมากเท่านั้น การชั่งน้ำหนักถือเป็นวิธีตรวจสอบที่ดีที่สุด”

“เอาละ เริ่มกันเลย!”

ถึงตอนนี้ ผู้คนเพิ่งนึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้!

หน่วยซึ่งแข็งแกร่งที่สุดเป็นของเชี่ยวหยางหลง แต่ซุนจินเฮ่าและคณะตายไปเรียบร้อยแล้ว เชี่ยวหยางหลงได้แต่สะกดข่มโทสะหันกลับ เข้าตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามไป

หลันเฟิงจินหยิกเข้าที่ใบหูฉินหยุน ต่อว่าเสียงเบา “เจ้าหนูน้อย เจ้าไม่รู้หรือว่าเชี่ยวหยางหลงคือศิษย์ของจ้าวตำหนักตะวันตก? เป็นมันทำเรื่องเลวร้ายมากมาย และที่ยังไม่ถูกเฉดหัวออกไปก็เพราะจ้าวตำหนักตะวันตกคอยออกหน้าให้!”

ฉินหยุนเผยดวงตาหนักแน่นกล่าวคำ “ไม่สำคัญเลย จะยังไงข้าก็ต้องจัดการมัน!”

หากเขาต้องการที่มั่นในตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม เขาจำเป็นต้องแสดงพละกำลังระดับหนึ่งก่อน จึงค่อยได้รับความสนใจและมรดกสืบทอด

ผู้อำนวยการไป่เริ่มชั่งน้ำหนักไข่มุกเสวียนของหลายหน่วย ผลลัพธ์ที่ได้ชวนอึ้ง ฉินหยุนและคณะ น้ำหนักที่ชั่งได้มากกว่าหนึ่งร้อยจิน ขณะที่หน่วยอื่นหนักกันเพียงแค่สิบจินเท่านั้นเอง!

ความแตกต่างระหว่างอันดับหนึ่งและอันดับสอง มากกว่าสิบเท่าด้วยซ้ำ ความแตกต่างกว้างใหญ่เพียงนี้ ทำเอาหน่วยเล็กอื่นเริ่มสงสัยถึงความหมายของชีวิตพวกตน

ฉินหยุนและคณะพอทราบผลลัพธ์ พวกเขาเก็บอาการยินดีกันเอาไว้ เพราะพวกเขากำลังจะได้รับกันคนละหนึ่งร้อยล้านแต้มเสวียน!

“หลังจบการทดสอบนี้ อาจารย์ผู้สอน ให้นำหน่วยใต้สังกัดกลับสู่สถาบันเทียนเจียวด้วย” ผู้อำนวยการไป่ประกาศ

นอกจากหน่วยของซุนจินเฮ่าที่ถูกกำจัด หน่วยอื่นตอนนี้ผู้คนล้วนบาดเจ็บหนัก แต่ก็ยังดีที่ไม่ตาย

หน่วยที่ไม่สามารถกลับมาได้ เพราะสูญเสียสมาชิกทั้งหมด และยังเป็นถึงหน่วยซึ่งแข็งแกร่งที่สุด ที่น่าตะลึงกว่านั้นคือ หน่วยที่แข็งแกร่งที่สุดนี้ไม่ได้ถูกสังหารโดยสัตว์อสูร แต่เป็นคนของหน่วยอื่น

ทั้งศิษย์และอาจารย์ของสถาบันเทียนเจียว เร่งรีบกลับสู่สถาบันยุทธ์ชิงเสวียนในชั่วข้ามคืน

ช่วงบ่าย พวกเขาบินเหนือทะเลสาบหมื่นดารา มุ่งหน้าสู่สถาบันยุทธ์ชิงเสวียน ฉับพลัน คนหนึ่งตะโกนขึ้น “ดูที่ทะเลสาบ!”

ทะเลสาบหมื่นดาราที่สงบในวันนี้ เกิดคลื่นน้ำ ทว่ามันหาได้มีสายลมพัดผ่านแต่อย่างใดไม่ เรื่องนี้ประหลาดจนเกินไปแล้ว!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด