ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0227 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0229 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0228 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 228 : วัชระวิญญาณยุทธ์

คณะของฉินหยุนมีขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปดเพียงผู้เดียว ที่เหลือล้วนอยู่ระดับเจ็ด พวกเขาไม่มีโอกาสชนะยามต้องรับมือกับกลุ่มคนระดับเก้าทั้งสี่

ศิษย์ของตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม รับชมผนังผลึกแก้วเงียบงัน พวกเขารู้สึกเสียใจยามเมื่อเห็นฉินหยุนและคณะต้องเลือดโชกตั้งแต่หัวจรดเท้า

ฉินหยุนสามารถหลบหนี แต่เพื่อสหายของตน เขาเลือกยืนหยัดเริ่มศึกละเลงเลือด

ผู้ฝึกตนชราหัวเราะชั่วช้า ขณะที่ฉินหยุนและคณะร้องออกด้วยความเจ็บปวด เสียงทั้งหมดล้วนถูกส่งมา เป็นผลให้หัวใจของทุกผู้คนเกิดความหวาดกลัวเกาะกุม

เซี่ยอู๋เฟิงร่างสั่นเมื่อเห็นดังนี้ เขาปลดปล่อยจิตสังหารแรงกล้าปกคลุมเชี่ยวหยางหลง หากฮั่วจง มู่หรงต้าเหริน และฉินหยุนตายเมื่อใด เมื่อนั้นเขาจะโจมตีเชี่ยวหยางหลงอย่างไม่สนอะไรแล้วทั้งสิ้น!

หยางฉีเย่ว์ ผู้ก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์เต๋า สีหน้าเคร่งเครียดและเย็นเยือก เมื่อนางเห็นฉินหยุนโดนล้างแค้นด้วยผู้ฝึกตนอาวุโส นางเจ็บปวดในหัวใจ นางเองก็ตัดสินใจแล้ว หากฉินหยุนต้องตาย นางจะไม่มีทางปล่อยเชี่ยวหยางหลง

หลันเฟิงจินถึงประตูหลักแล้ว แต่ก็ต้องใช้เวลากว่าประตูจะเปิดออก หากพวกเขาไม่อาจช่วยเหลือศิษย์ของนางได้ทัน นางจะต้องล้างแค้นต่อเชี่ยวหยางหลง!

เชี่ยวหยางหลงยืนนิ่งที่เดิม ทั้งร่างตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยจิตสังหารของหลายคน เป็นผลให้เขาไม่อาจขยับ กระทั่งร่างต้องหลั่งเหงื่อเย็นออก แม้ข้อสรุปไม่แน่ชัด แต่ทุกคนล้วนทราบว่าเขาต้องมีเอี่ยวด้วยอย่างแน่นอน

การต่อสู้ถึงจุดสิ้นสุด ฉินหยุนร่างปกคลุมด้วยบาดแผลขณะนอนพาดบนก้อนหิน เขาแทบลืมตาไม่ขึ้น เขาคือคนที่ได้รับบาดเจ็บหนักหนาที่สุด ฮั่วจงและผู้อื่นไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง แต่กระนั้นถูกทำร้ายจนถึงขั้นไม่อาจสู้กลับ

“ฉินหยุน ดูเหมือนเจ้ารักพวกพ้องมากเลยนี่ ก่อนหน้านี้ เจ้าสามารถวิ่งหนีแต่ไม่ทำ ตอนนี้นึกเสียใจหรือยัง? ฮ่าฮ่าฮ่า...” ชายชราคว้าเสวี้ยซือเยี่ยและโยนร่างนางตรงหน้าฉินหยุน เขาแค่นเสียงในคอกล่าวคำ “ข้าให้เวลาเจ้าพิจารณาให้ดี ว่าจะส่งผังจารึกมาหรือไม่ หากไม่ ข้าก็จะลงมือต่อหน้าเจ้า!”

“พวกเราจะผลัดกันเล่นกับนางให้สนุกเอง ฮ่าฮ่าฮ่า!” ใบหน้าของผู้ฝึกตนในชุดน้ำเงินเปี่ยมด้วยความชั่วช้าขณะหัวเราะออก

ไกลออกไป ทั้งศิษย์และผู้อาวุโสของตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามต่างรับชมเรื่องน่าละอายจนใบหน้าแทบแทรกแผ่นดิน! ผู้ฝึกตนชราทั้งสี่ ล้วนทำตำหนักดวงดาววิญาณสีครามเสื่อมเสียเกียรติ พวกเขาคิดวางแผนข่มขืนและทำร้ายหญิงสาวถึงเพียงนี้

“ตำหนักตะวันตก มันไม่สมเหตุสมผลแล้ว ตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามของพวกเรา จะปฏิเสธพวกเจ้าทั้งหมดเพราะอาชญากรรมครั้งนี้!” หลันเฟิงจินคำรามกราดเกรี้ยว นางเป็นผู้หญิง ดังนั้นนางจึงไม่อาจสงบใจยามได้เห็นเรื่องราวเช่นนี้ นอกจากนี้ อีกฝ่ายยังเป็นผู้ฝึกตนเฒ่าชรา

ศิษย์ทั้งหมดของตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามเงียบกริบ นี่เป็นเพราะอาจารย์หลายท่านในลานกว้าง พวกเขาไม่ได้มาจากตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม

ตู้ก่วยหัวเราะเย็นเยือก “ตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามช่างเสื่อมเสียยิ่งนัก กระทั่งกล้าเรียกตนเองเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งผู้ฝึกตน!”

ฉินหยุนตอนนี้กึ่งไม่ได้สติ แม้เขาทราบว่าอีกฝ่ายคิดก่อการต่อเสวี้ยซือเยี่ย แต่เขา ผู้ซึ่งบาดเจ็บสาหัส ทั้งยังหมดเรี่ยวแรง ไม่อาจหยุดยั้งพวกเขา กระทั่งพูดก็ไม่

“อ๊าก!” เสวี้ยซือเยี่ยพลันร้องออก ทั้งร่างเริ่มสั่น

“โอ!”

ลานกว้างของตำหนักดวงดาวแตกตื่น

“นางคิดทำลายตนเอง เป็นนางไม่อยากสร้างภาระต่อฉินหยุน”

“หญิงสาวที่น่านับถือ! เจ้าพวกชราเหล่านั้นช่างชั่วร้ายนัก!”

“กระทั่งประตูเปิดออกตอนนี้ ก็สายเกินไปที่จะไปถึงทัน”

“น่าเสียดายนัก เด็กสาวอัจฉริยะผู้หนึ่งต้องตายเช่นนี้หรือนี่!”

ทุกคนล้วนเสียใจ

ฉินหยุนที่กึ่งไม่ได้สติ รับรู้ถึงพลังในกายของเสวี้ยซือเยี่ยกำลังขยาย ชัดเจนว่านางคิดปลิดชีพตนเอง

“หยุดนาง!” ชายชราพบเสียงร้องจึงตระหนัก เขาเร่งรีบโคจรพลังภายในเข้าใส่ร่างเสวี้ยซือเยี่ยยับยั้งการระเบิด

ฉินหยุนบาดเจ็บรุนแรง อุปกรณ์ผังธาตุแสงที่เขาสวมใส่กำลังฟื้นคืนกำลังทีละน้อย หลังเสวี้ยซือเยี่ยถูกหยุดไว้ นางจะไม่อาจทำลายตัวเองได้อีก

หากผู้อาวุโสเหล่านี้ไม่ได้รับผังจารึกจากฉินหยุน พวกเขาจะข่มขืนต่อเสวี้ยซือเยี่ย เรื่องนี้เป็นหลายคนไม่คิดอยากพบเห็น

ฉินหยุนหลับตาแน่น สื่อสารกับวิญญาณยุทธ์ทั้งสามในกาย เขาต้องการพละกำลังที่ยิ่งใหญ่ ความหวังเดียวของเขาในตอนนี้คือเลื่อนระดับวิญญาณยุทธ์

หากวิญญาณยุทธ์ของเขาสามารถรับรู้ถึงความปรารถนา เลื่อนระดับตนเองขึ้นเป็นวัชระวิญญาณยุทธ์ เมื่อนั้นเขาจะก้าวสู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปด!

ด้วยอะไรไม่ทราบ ฉินหยุนรู้สึกถึงจิตสำนึกสามกระแส มันเป็นจิตสำนึกที่มาจากวิญญาณยุทธ์ของเขา

วิญญาณยุทธ์สั่นไหว วิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬ และวิญญาณยุทธ์อสนีบาตอัคคี ทั้งหมดเป็นสามวิญญาณยุทธ์ในร่างของเขา พวกมันกำลังมอบความรู้สึกกลับคืนต่อเขา เป็นความรู้สึกที่ไม่สบายเลยแม้สักนิด!

วิญญาณยุทธ์มีความคิดเป็นของตนเอง พวกมันเข้าใจเจ้านายเป็นอย่างดี ตอนนี้พวกมันส่งถ่ายความรู้สึกไม่สบายออกมา ชัดเจนว่าพวกมันคิดว่าฉินหยุนไม่มั่นคงพอต่อพวกมัน

“ทำไมกัน? ข้าคือคนที่ทำให้พวกเจ้าแข็งแกร่งขึ้นในเวลาอันสั้น! เหตุใดยังไม่ยอมรับข้า? พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าต้องเจ็บปวดเพียงใด ข้าต้องอดทนเพียงใด เพื่อปกป้องพวกเจ้าและทำให้แข็งแกร่ง? พวกเจ้าคือแหล่งกำเนิดพลังของข้า ข้าหวงแหนพวกเจ้ายิ่งกว่าอื่นใด เหตุใดจึงไม่เชื่อใจข้า!”

ฉินหยุนรู้สึกได้ถึงความไม่เชื่อใจจากวิญญาณยุทธ์ของตน เขารู้สึกโกรธเคือง ภายในใจนั้นตะโกนลั่นด้วยโทสะ “ช่างมัน ในเมื่อไม่เชื่อข้า แล้วข้าจะมีพวกเจ้าไว้ทำอะไร? จะยังไง ข้า ฉินหยุนผู้นี้ ก็แค่คนมีเส้นวิญญาณเพียงหนึ่ง ข้าได้แต่อดทนมาโดยตลอด ข้าไม่ต้องการวิญญาณยุทธ์ก็ยังมีชีวิตมาได้”

ขณะคิดเช่นนี้ วิญญาณยุทธ์ทั้งสามยิ่งเผยความไม่สบายออกมามากขึ้น พวกมันเริ่มสั่นไหว

“ในเมื่อพวกเจ้าไม่ยอมเลื่อนระดับ เช่นนั้นข้าจะต้องการพวกเจ้าทำอะไร? ในเมื่อไม่เห็นข้าที่ฝึกฝนอย่างหนักหนา ก็ได้แต่บอกลาพวกเจ้าแล้ว” เคล็ดวิชาขัดเกลาวิญญาณของฉินหยุน ยังมีวิธีการปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ของตัวเองออก

เมื่อวิญญาณยุทธ์ทั้งสามสัมผัสได้ ถึงเจตนาแรงกล้าของฉินหยุนที่ไม่ต้องการพวกมัน ฉับพลัน มันระเบิดออกซึ่งแสงสีทองอันศักดิ์สิทธิ์!

ฉินหยุนเกือบจะใช้เคล็ดวิชาขัดเกลาวิญญาณ เพื่อปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ของตนเอง แต่เขาไม่คิด ว่าวิญญาณยุทธ์ทั้งสาม จะเกิดวิวัฒนาการเป็นวัชระวิญญาณยุทธ์ขึ้นมา!

แทบจะในทันทีที่วิญญาณยุทธ์วิวัฒนาการ กำลังภายในของพลังธาตุทั้งสามแห่งเพิ่มพูนขึ้น มันแข็งแกร่งมากขึ้น

เส้นโคจรเหลืองดำทั่วร่างกาย พลันระเบิดพลังการรักษาออกมา ผสมผสานกับอุปกรณ์ผังธาตุแสง บาดแผลของเขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

“ฉินหยุน เจ้าคิดได้หรือยัง?” ผู้อาวุโสเดินเข้ามาดูพร้อมเตะใส่ร่างฉินหยุนไปสองครั้งขณะเอ่ยถาม

ฉินหยุนหลับตา สัมผัสถึงกระบี่แก่นจิตไกลออกไป ถัดจากนั้น เขาจึงควบคุมกระบี่ให้ลอยมา

“อะไรอีก?” ด้วยสัมผัสถึงการเคลื่อนไหว ผู้อาวุโสหันมองไป ก่อนตระหนักได้ว่ากระบี่กำลังบินมาหาตน

ฉินหยุนยกแขนราชสีห์สวรรค์ขึ้นวูบไหว เปลวเพลิงสีทองม่วงของอสนีบาตอัคคีทะลักออกจากแขน มันเชื่อมต่อเข้ากับกระบี่ที่กำลังบินเข้ามา

โดยทันที กระบี่สว่างวาบด้วยแสงสีทองม่วง ปกคลุมไว้ด้วยอสนีบาตอัคคีทองม่วง มันกำลังบินพุ่งเข้าหาชายชราทั้งสองคน!

“เป็นออร่าวัชระวิญญาณยุทธ์ มันปกคลุมรอบตัวกระบี่ เกิดขึ้นได้ยังไงกัน?” ผู้อาวุโสพบว่าฉินหยุนยกแขนขึ้น พลันนึกขึ้นได้

“รีบจัดการมันเร็วเข้า!” ชายชราที่อยู่ไกลออกไปตะโกน “เป็นไอ้หนูนั่นฝึกวัชระวิญญาณยุทธ์ได้!”

ขณะผู้อาวุโสข้างกายฉินหยุนคิดลงมือ กระบี่แก่นจิตแปรเปลี่ยนเป็นอสนีบาตทองม่วงแทงทะลวงหน้าอกชายชรา ก่อนจะบินทะยานถึงชายชราอีกคนปลิดปลงศีรษะ

ฉินหยุนทะยานกายออกพร้อมขว้างยันต์สะกดกายระดับสูงใส่ผู้อาวุโสอีกสองคนให้แตกตื่น!

ชายชราทั้งสองกำลังคิดขยับ แต่แล้วกลับถูกหยุดยั้งเอาไว้ด้วยยันต์สะกดกาย!

ภายใต้การควบคุมผ่านพลังจิตทรงพลังของฉินหยุน กระบี่นั้นผสานรวมกับวิญญาณยุทธ์อสนีบาตอัคคีทองม่วง ยิงออกซึ่งสายฟ้ากระแสหนึ่ง ทะลวงผ่านศีรษะของผู้อาวุโสคนนั้นในพริบตา

ภายใต้ฉินหยุนสั่งการด้วยเคล็ดวิชาเทวะควบคุม กระบี่นั้นราวสายอสนีบาตฟาดฟัน ไม่เพียงแต่รวดเร็ว พละกำลังยังชวนสะพรึง!

ตู้ม!

เพียงพริบตา กระบี่แก่นจิตสับฟันใส่ร่างของผู้อาวุโสคนสุดท้าย บดขยี้ร่างนั้นแหลกเละเป็นชิ้น พละกำลังที่มันปลดปล่อยออก ถือว่าชวนขนลุก

ฉินหยุนยืนหยัดขึ้น ปาดเช็ดคราบเลือดออกจากร่าง ผิวหนังปริแตกและสมานรวดเร็ว นี่คือการรักษาตัวเอง เขาเร่งรีบเข้าช่วยเหลือเสวี้ยซือเยี่ยที่ล้มกองอยู่กับพื้น

ไม่ไกลออกไป มู่หรงต้าเหรินและฮั่วจง ค่อยลุกขึ้นยืนเชื่องช้า สีหน้านี้เปี่ยมล้นด้วยความแตกตื่น!

ฉินหยุนลงมือเพียงครั้งเดียว สังหารขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้าถึงสี่คน นอกจากนี้ ยังเกิดขึ้นด้วยเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น!

ที่ลานกว้างตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ผู้คนกายแข็งทื่อ สายตาพวกเขาจับจ้องผนังผลึกแก้วไม่อาจกล่าวคำใดออก

โดยเฉพาะกับผู้ที่อยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า พวกเขาราวกับพบเห็นผีกลางวันแสก ๆ!

“นี่เขา... เขาเลื่อนระดับสู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปด นี่เป็นเขาเพิ่งเลื่อนระดับ แล้วจากนั้น... วัชระวิญญาณยุทธ์ของเขากลับผสานรวมเข้ากับอาวุธ!” โฮ่วฉิงเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึกร้องอุทาน

“วิญญาณยุทธ์อสนีบาตอัคคีทองม่วง! ไม่ใช่ว่าเขามีเพียงวิญญาณยุทธ์ไฟทองม่วงหรือ? และนี่ยังเกิดขึ้นที่แขนราชสีห์สวรรค์!”

“มีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว ย้อนกลับไปตอนนั้น เขาได้นำวิญญาณยุทธ์ในตันเถียน เคลื่อนย้ายสู่แขน และแขนราชสีห์สวรรค์จึงปลุกวิญญาณยุทธ์อสนีบาตอัคคีขึ้นมา!”

แขนราชสีห์สวรรค์ เคยถูกกล่าวถึงว่าเป็นโทเทมมรณะ แท้จริงแล้วกลับครอบครองวิญญาณยุทธ์ไฟและอสนีบาต เป็นผลให้ฝูงชนเกิดเสียงฮือฮากันขึ้น!

“ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปด! เขาอายุเพียงสิบหกปีเท่านั้นเองนะ! ทั้งยังใช้เวลาแค่หนึ่งปีกว่าก้าวจากระดับสองถึงระดับแปด!”

เรื่องนี้ผู้คนล้วนแตกตื่น!

“เป็นไปไม่ได้! นี่เป็นไปไม่ได้! แขนของเขาตายไปแล้ว ไม่มีวิญญาณโทเทมเสียหน่อย! เหตุใดมันจึงตื่นขึ้นมา?”

“อายุสิบหก ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปด อาจารย์จารึก ครอบครองโทเทมราชสีห์สวรรค์ เชี่ยวชาญผังจารึกหายากจำนวนมาก นี่เป็นสัตว์ประหลาดแล้ว!”

ทั่วทั้งลานกว้างของตำหนักดวงดาวส่งเสียงดังไม่หยุด!

ตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ตำหนักตะวันตก ตำหนักทิศใต้ และตำหนักทิศเหนือ เดิมล้วนสรุปกันไปแล้วว่าฉินหยุนไม่มีวิญญาณโทเทม ตอนนี้ พวกเขากลับนึกเสียดายต่อการตัดสินใจ หากพวกเขาสามารถได้รับพรสวรรค์ระดับนี้ พละกำลังโดยรวมของพวกเขาจะทะยานขึ้นอย่างมหาศาล

หลันเฟิงจิน ผู้ซึ่งยังอยู่ที่ประตูหลัก ค่อยโล่งใจยามได้เห็นฉินหยุนลงมือสังหารผู้อาวุโสเหล่านั้น

ที่ลานกว้างของตำหนักดวงดาว ด้านบนหอคอยสูง จ้าวตำหนักของสี่ตำหนักล้วนอยู่ที่นี่ พวกเขาล้วนได้เป็นประจักษ์พยานถึงกระบวนการเลื่อนระดับของฉินหยุน พวกเขาล้วนไหวหวั่น กระทั่งอึ้ง

จ้าวตำหนักตะวันออก เป็นหญิงชราร่างผอมสูง สวมใส่ชุดงดงามสีน้ำเงินปักคำ “ตะวันออก” ไว้ด้านหลัง นางแค่นเสียงกล่าวคำ “จ้าวตำหนักตะวันตก ได้เวลาทำความสะอาดตำหนักเจ้าแล้ว หากไม่ใช่เพราะฉินหยุนเลื่อนระดับกะทันหัน เดรัจฉานเฒ่าสี่ตนนั้นคงก่อการสำเร็จไปแล้ว”

ชายชราจ้าวตำหนักตะวันตก กล่าวคำเสียงเบา “ศิษย์ทั้งสี่คนนั้น ล้วนคิดถึงผลประโยชน์ของตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม คิดใช้กำลังบีบบังคับเอาผังจารึกหายากมา วิธีการพวกเขาออกจะสุดกู่ กระนั้นพวกเขาก็มีเจตนาที่ดี”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด