ตอนที่แล้วWDS Chapter 87 การตัดสินใจของราชา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWDS Chapter 89 หินสาบานตน

WDS Chapter 88 ราชาองค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ ยุคใหม่เริ่มต้น


WDS Chapter 88 ราชาองค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ ยุคใหม่เริ่มต้น

“ประชาชนชาวแลนธานอร์!”

“ประชาชนชาวแลนธานอร์!”

“ประชาชนชาวแลนธานอร์!”

“ประชาชนชาวแลนธานอร์!”

เสียงของแดนีล ดังก้องไปทั่วทั้งเมืองหลวง ราวกับเขาเป็นพระเจ้า ที่อยู่ทั่วทุกหนแห่ง เมืองหลวงในปัจจุบัน อัดแน่นไปด้วยประชาชนจำนวนมาก ส่วนใหญ่แห่กันมาดูว่า เหล่าคนชั้นสูงจะถูกกำจัดอย่างแท้จริงหรือไม่ แดนีลต้องขอบคุณเชิร์ชแห่งความเที่ยงธรรม ที่สร้างโอกาสให้เขาสามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้อย่างสมบูรณ์

ถูกต้องแล้ว มันเป็นความตั้งใจของแดนีล ช่วงเวลา 4 ปีตั้งแต่เขาก้าวเข้ามายังโลกแห่งนี้ ความคิดและจิตใจของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

แรกเริ่ม สิ่งที่เขาต้องการก็คือ การแก้แค้นให้กับพ่อของเขา แต่ละวันแต่ละวัน แดนีลมองไปที่การเดินกระโผรกกระเผรกและตราบนหน้าฝากของพ่อเขา มันทำให้เขารู้สึกหัวใจสลาย ราวกับถูกมีดจำนวนมาก ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจ เพื่อที่จะมีความสุข เขาจะต้องทำให้ครอบครัวของเขากลับมาเป็นเหมือนดั่งก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติ ดังนั้น เป้าหมายแรกของเขาก็คือ รับพลังมาให้มากที่สุด เพื่อเติมเต็มความฝันนั้น

เมื่อครั้งที่เขาได้ยินเสียงโห่ร้องเรียกชื่อของเขาเป็นครั้งแรกที่หน้าห้องสมุดเมือง จากการจับคนที่รังแกคนทั่วไปอย่างโหดร้าย สิ่งที่เขาต้องการจะทำในชีวิตของเขาก็ค่อยๆก่อตัวชัดเจนขึ้น

แตกต่างจากชีวิตที่แล้วของเขาจากโลกเดิม ที่เขาแทบจะไม่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงสิ่งใด ที่นี่ เขามีระบบอันทรงพลังอำนาจ ที่มอบสิ่งที่น่าเหลือเชื่อให้กับเขา เพื่อให้เขาก้าวไปสู่เป้าหมายการปกครองโลก

แม้แดนีลไม่ได้ไร้เดียงสาจนคิดว่า สิ่งต่างจะราบรื่นและทำให้เขาสามารถจะเข้าปกครองทั้งโลกได้โดยง่าย แต่ความคิดของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ เริ่มมีความคิดที่จะบัญชาการและเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ

สาเหตุหลักๆมาจากความไม่พอใจและความรังเกียจในวิธีการปกครองของผู้ทรงอำนาจในปัจจุบัน ในความเป็นจริง นี้ก็เป็นสาเหตุให้ประชาชนนับล้านๆออกมาเดินทางท้องถนน และพวกเขาหวังว่าจะยกเลิกการปกครองดังกล่าวได้

ไม่เหมือนพวกเขา แดนีลมีเครื่องมือและพันธมิตร หากเขาสามารถใช้มันได้อย่างเหมาะสม เขาจะสามารถวางรากฐานเพื่อเข้าไปแทนที่การปกครองของผู้ทรงอำนาจได้

เขาไม่สามารถจะทำเพียงยืนอยู่เฉยๆและปล่อยให้ราชอาณาจักรที่เขาเกิดมา ถูกยึดครองโดยกองกำลังอื่นๆ ที่อาจจะปฏิบัติต่อประชาชนเลวร้ายไม่ด้อยกว่าในตอนนี้

‘ข้าควรจะทำอะไรให้มันดีกว่านี้?’ นี่เป็นหัวข้อที่เขาคิดอย่างหนักเกือบทุกคืน ขณะที่เขานอนอยู่บนเตียงอย่างเหนื่อยล้า หลังจากฝึกฝนและเอนชานท์มาตลอดทั้งวัน

ทีละก้าว ทีละก้าว ดำเนินแผนการ ทีละอย่าง ทีละอย่าง เขาทำทุกอย่างเท่าที่เขาสามารถจะทำได้ เพื่อให้ตัวเองมาถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน

แม้เขาจะยังคงไม่รู้ว่า ในอนาคตอีกยาวไกล เขาจะทำเช่นไร แต่ในตอนนี้ เขารู้ว่า เขาต้องการจะเป็น ราชา

เขาต้องการที่จะเป็นราชา ที่ประชาชนสามารถเงยหน้าขึ้นมอง และรู้สึกปิติยินดีที่รู้ว่า คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ เอาใจใส่พวกเขา

เขาต้องการจะเป็นราชา ที่คนที่ต้องการจะละเมิดกฎหมายหวาดกลัว

เหนือสิ่งอื่นใด เขาต้องการที่จะเป็นราชาที่ขับไล่ทะเลแห่งความขมขื่นและความเกลียดชังที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของประชาชนมาอย่างยาวนาน

แม้ความคิดของเขาจะปรับตัวเข้ากับเป้าหมายนี้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ที่เขาตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้ช่วงชิงบัลลังก์ แต่มันเป็นช่วงเวลานี้ ที่เขารู้สึกชัดเจนเกี่ยวกับความปรารถนาที่จะเป็นราชาของเขา

“ข้าคือแดนีล บุตรชายของคนหนีทัพ และเป็นคนของครอบครัวที่มาจากสลัม แม่ของข้าต้องทำงานหนักทั้งทำงานบ้านและซักเสื้อผ้าตลอดกลางวันและกลางคืน เพื่อให้ได้รับเงินเพียงเล็กน้อย แต่ชีวิตของข้าจะแตกต่างออกไปจากนี้ หากราชาองค์ผู้นี้ไม่อยุติธรรม”

ดึงดูดความสนใจจากประชาชนจำนวนมากให้เข้ามาดูที่แผง แดนีลกล่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง

“พ่อของข้าควรจะยังอยู่ในกองทัพ เขาไม่ควรที่จะถูกขับไล่ออกมา และยังถูกตราหน้าว่าเป็นคนหนีทัพ เพียงเพราะเขาทำให้คนชั้นสูงไม่พอใจ”

“แม่ของเขาคงจะไม่ต้องทำงานอย่างหนักตลอดทั้งวันจนมือของนางด้าน เพียงเพื่อได้รับขนมปังมาให้พวกเรากิน”

“วัยเด็กของข้าควรจะเต็มไปด้วยการเรียนรู้และความสนุกสนาน แทนที่จะเป็นความอดอยากและสิ้นหวัง”

“และขอบครัวของข้า 3 คน ก็อาจจะกลายเป็นครอบครัว 4 หรือ 5 คน พวกเขาจะไม่ต้องกังวลเรื่องการมีลูกชายหรือลูกสาวเพิ่ม”

ขณะที่แดนีกล่าวความในใจออกมา น้ำตาก็หลั่งออกมาจากดวงตาของเขา น้ำเสียงของเขาเป็นจังหวะและได้อารมณ์ ทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับว่า มันเป็นเรื่องราวของพวกเขาแทนที่จะเป็นเรื่องราวของเขา

“ข้ารู้ว่า พวกท่านทั้งหลายต่างก็มีความฝันเช่นเดียวกับข้า อยากจะเห็นโลกที่พวกเรา ไม่ได้รับผลกระทบจากราชาองค์นี้ ที่ปล่อยให้เชื้อพระวงศ์ละเมิดกฎหมายและทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ ซึ่งมันส่งผลให้ชีวิตมากมายถูกเหยียบย่ำ, ถูกบดขยี้ และแตกสลาย”

ความโกรธปะทุขึ้นในหัวใจของประชาชน คำกล่าวเหล่านี้ทำให้พวกเขาคิดย้อนกลับไปถึงชะตากรรมของพวกเขาที่เปลี่ยนไปจากการกระทำของเชื้อพระวงศ์

สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง พวกเขาก็พบว่าตัวเองหวาดกลัว จากการได้เห็นการแสดงออกอย่างโศกเศร้า, เจ็บปวด และสูญเสีย จากคนที่อยู่รอบข้างพวกเขา

“แต่ไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ ข้าได้รับพรและวิธีที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้น ข้าจึกงฝึกฝน วางแผน และหลั่งเลือด จนมายืนอยู่ที่นี่ ตอนนี้ ข้ามีอำนาจเพียงพอที่จะชะล้างราชอาณาจักรที่ทรุดโทรมแห่งนี้แล้ว”

“ในฐานะคนที่มาจากหมู่พวกท่าน ข้ารู้ว่า ข้าสามารถจะดูแลราชอาณาจักรแห่งนี้ และเริ่มต้นเส้นทางการฟื้นฟูประเทศ ให้กลับมาเป็นดั่งที่มันเคยเป็นในอดีตได้”

“ข้ารู้ว่า ข้าสามารถจะเป็นราชาที่ใส่ใจประชาชน แทนที่จะใส่ใจเพียงตนเองได้”

ในขณะที่เขากล่าวคำเหล่านี้ ภาพที่อยู่ในแผง ได้ฝังลึกเข้าไปอยู่ในหัวใจของทุกคนที่เฝ้าดู เขายืนตรงพร้อมกุมมือไว้ด้านหลัง เงยหน้าขึ้นมองขณะที่ดวงตาของเขาส่องประกายน่าดึงดูด เหมือนคนที่รู้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะทำ ความมั่นใจและวุฒิภาวะที่เขาแสดงออกมา มันเกินกว่าอายุของเขาอย่างสิ้นเชิง

ในขณะที่แดนีลหยุด ปล่อยให้คำกล่าวของเขาจมลงไปในความคิดของทุกคน เขาก็มองไปที่ราชา ที่ตอนนี้ ยกร่างกายส่วนบนขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง ขณะที่มองดูแดนีลกล่าวกับประชาชน

การแสดงออกถึงความเสียใจปรากฎอยู่บนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาฟังแดนีลเล่าเรื่องราว

ในการเริ่มรัชสมัยใหม่ของแดนีล ราชาจำเป็นจะต้องถูกประหาร นี่คือการกระทำที่จะช่วยผูกประชาชนเข้ากับเขาอย่างดีที่สุด

กระนั้น ชายคนนั้นก็ได้ช่วยชีวิตเขาไว้เมื่อครู่ ดังนั้น มันจึงมีความขัดแย้งปรากฎขึ้นในหัวใจของเขาก่อนที่เขาจะเริ่มกล่าวกับประชาชน ซึ่งมันได้กระตุ้นให้เขาปล่อยให้ราชามีชีวิตอยู่ต่อไป ความขัดแย้งนี้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เพราะเขาได้เห็นความเสียใจบนใบหน้าของราชา มันทำให้เขาเกิดความรู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่า ราชาอาจจะตระหนักได้ถึงความผิดพลาดของตัวเองแล้ว

ในความคิดของราชา หลังจากที่เห็นรองปรมาจารย์นิกายถูกแดนีลจับ มันก็มีความหมายว่า เขาได้แก้แค้นแล้ว ดังนั้น ความปรารถนาเดิมของเขาจึงกลับมา ซึ่งก็คือ การมีชีวิตยืนยาว

ด้วยประสบการณ์ในการจัดการผู้คน เขารู้ดีว่า ใครจะลังเลและไม่กล้าสังหารคนที่เคยช่วยชีวิตของเขา อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงไม่มีอะไรแน่นอน

ดังนั้น เขาต้องทำอะไรบางอย่างในตอนนี้ เพื่อให้ความลังเลนั้นแข็งแกร่งขึ้น

เขาแสร้างแสดงออกถึงความเสียใจบนใบหน้า โดยที่เขาพยายามทำให้มันสมจริงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

บางที แดนีลอาจจะสังเกตเห็นบางอย่างในดวงตาของเขา แม้เขาจะมีประสบการณ์ในฐานะราชามายาวนานหลายปี แต่มันยากที่เขาจะแสดงอารมณ์ที่ไม่ใช่ตัวตนของเขาออกมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในดวงตา นอกจากนี้ ราชาก็ไม่สามารถจะตั้งสมาธิกับการทำมันได้อย่างสมบูรณ์ เพราะเขารู้สึกเจ็บปวดกับอาการบาดเจ็บของเขา

ในดวงตาของเขา แดนีลเห็นการฉวยโอกาส ใช้ความจริงที่เขาได้ช่วยชีวิตของแดนีลไว้ เพื่อยืดชีวิตของตัวเอง รวมกับการแสดงออกของความปิติยินดีก่อนหน้านี้ที่เขามองไปยังรองปรมาจารย์นิกายที่ถูกจับ แดนีลผูกทั้งสองสิ่งเข้าไว้ด้วยกัน

เช่นเดียวกับการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของเขา วัตถุประสงค์ของราชาก็ยังคงเห็นแก่ตัว สิ่งที่เขาทำก็เพื่อที่จะแก้แค้นให้ตัวเอง

ขณะที่เขาตระหนักถึงมันได้ แดนีลก็เสกแท่งน้ำแข็งขึ้นที่ด้านหน้าหัวใจของราชา ทำให้ใบหน้าของเขาซีดลงด้วยความตกใจ

ราชาพยายามที่จะหลบหนีแม้ว่าเขาจะบาดเจ็บก็ตาม อย่าเสียดาย เขาบาดเจ็บหนักเกินไป และไม่สามารถจะแสดงพลังของผู้ยอดเยี่ยมระดับมนุษย์ได้

แท่งน้ำแข็งแทงทะลุผ่านหัวใจของเขาโดยปราศจากความลังเลใดๆ ขณะที่ดวงตาของแดนีลส่องประกายด้วยความทรงจำอันแสนเจ็บปวดทั้งหมดที่ฝังอยู่ในหัวใจของเขามาอย่างยาวนาน

“จะไม่มีผู้หยิ่งผยองมาตัดสินชะตาชีวิตของพวกเราอีกต่อไป จะไม่มีประชาชนชาวแลนธานอร์คนใด ใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรมและความหวาดกลัวอีกต่อไป ทุกคนที่คุกคามความเป็นอยู่ที่ดีของราชอาณาจักรของข้า จะต้องมีจุดจบเช่นเดียวกับราชาผู้นี้”

“พวกท่านจะสนับสนุน และยอมรับข้าเป็นราชาของพวกท่านหรือไม่?” ในที่สุด เขาก็ถามออกไป เสียงของเขาทำให้ทั่วทุกถนนเงียบลง

ไม่มีใครรู้ว่า ใครเป็นคนเริ่มก่อน แต่ในวันนั้น มันมีเพียงเสียงเชียร์เดียวทั่วทั้งเมือง ประชาชนนับล้านตะโกนออกไปในชื่อเดียว

หลังจากนี้ มันจะมีการบอกเล่าถึงเรื่องราว ที่เสียงนี้ได้รวมพลังของประชาชนเป็นหนึ่งเดียว ดั่งกระจายผ่านทั้งราชอาณาจักรและสรวงสวรรค์ ซึ่งจะทำให้เหล่าเทพเจ้ามองลงมาและบันดารให้ท้องฟ้ากระจ่างใส ขับไล่เมฆดำที่เคยปกคลุมเหนือท้องฟ้าราชอาณาจักรและในหัวใจของประชาชน

มันจะมีการกล่าวถึงแสงอาทิตย์ที่ส่องสว่างในการกำเนิดใหม่ของแลนธานอร์ โดยชายผู้หนึ่ง ที่ถูกลิขิตให้เป็นผู้ปกครองโลก

ไม่ว่าเรื่องราวจะกล่าวอะไร มีสิ่งหนึ่งที่เป็นจริง เสียงเชียร์ดังกึกก้องไปทั่งทั้งแผ่นดิน ทำให้ชื่อเดียวนี้กลายเป็นที่รู้จักของทุกคน

“ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล! ราชาแดนีล!”

 

แฟนเพจ : WDS แปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด