เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0216 [อ่านฟรี]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••
ตอนที่ 216 : ความดีความชอบ
สัตว์อสูรกว่าร้อยตัวตอนนี้คำรามร้องออกพร้อมกัน เป็นผลให้พื้นยังต้องสั่นสะเทือน ออร่าของสัตว์อสูรเหล่านี้กับกลายเป็นสายลมกระโชกพัดหวีดหวิวออกจากตัวอาคาร พัดเอาก้อนหินและก้อนอิฐปลิวกระจาย เป็นผลให้เกิดฝุ่นฟุ้งตลบขึ้นท้องฟ้า
เหล่าถานและเหล่าซาน พวกเขายืนหยัดตรงหน้า ด้วยยันต์วายุระดับสูงจำนวนหนึ่ง ใช้พัดเอากลุ่มฝุ่นออกให้พ้นจากระยะเพื่อทัศนวิสัยกระจ่างชัด
บนยอดของอาคาร ผ่านทางปืนใหญ่ราชันวิญญาณ ฉินหยุนเห็นร่างสีแดงทะยานกายออกจากตัวคฤหาสน์ไปตามกำแพง มันเป็นสัตว์อสูรที่ทั้งว่องไวและปราดเปรียว
เมื่อมองดูให้ดี เขาถึงกับแตกตื่น มันเป็นลิงยักษ์สูงกว่าสองเมตร!
ลิงยักษ์ตัวนี้ประกอบด้วยขนสีแดง บนหัวมีเขายาวราวหกนิ้ว ปากมีฟันแหลมคมอยู่เปี่ยมล้น หน้าท้องแข็งแรงเพราะเกล็ดสีแดงปกคลุม แขนทั้งสองใหญ่และยาวยิ่ง
“สัตว์อสูรตัวนี้น่ากลัวนัก เหมือนจะเป็นพวกต่อสู้ระยะประชิด พละกำลังป้องกันทางกายภาพต้องแข็งแกร่งมากแน่” ฉินหยุนไม่มองทางลิงยักษ์อีก กลับกัน เขาหันมองไปทางหลันเฟิงจิน
ขณะหลันเฟิงจินทะยานกายออก นางจึงขว้างมีดสั้นเล่มหนึ่งออกไปด้วยพละกำลังขอบเขตวรยุทธ์เต๋าผสานกับตัวมีดสั้น เป็นผลให้มันสามารถแทงทะลุร่างลิงยักษ์เรียกเลือดออกมาได้
ฮูม!
เสียงคำรามร้องพลันดังขึ้นจากด้านในอาคาร เป็นเสียงลิงยักษ์คำรามที่ชวนสะพรึงและดุดัน
เมื่อเหล่าถานและคณะรับมือกับฝูงสัตว์อสูร ระดับเจ็ดและแปดสามารถรับมือได้ง่ายดายยิ่ง มีเพียงเมื่อสัตว์อสูรระดับเก้าเข้ามาใกล้พวกเขาจึงค่อยหาจังหวะใช้ยันต์สะกดกาย
หลันเฟิงจินทะยานกายรวดเร็วมุ่งหน้าเข้าตัวอาคาร!
อย่างกะทันหัน ร่างลิงยักษ์ดำสนิทพลันปีนขึ้นบนยอดเนินเขา มันทุบหน้าอกตัวเองด้วยมือทั้งสองรัวอยู่หลายครั้ง
“สัตว์อสูรระดับวิญญาณ? ดูเหมือนเราน่าจะทำให้มันบาดเจ็บหนักได้!” โดยทันที ฉินหยุนควบคุมปืนใหญ่ราชันวิญญาณเล็งเป้าไปยังลิงยักษ์ที่สูงหลายเมตร
ตู้ม!
กระบอกปืนใหญ่สั่นไหว กระสุนปืนใหญ่สองนัดลอยออก พวกมันพุ่งเข้าใส่หัวของลิงยักษ์พร้อมระเบิดออกเป็นคลื่นอากาศ ร่างลิงยักษ์ล้มลงบนเนินเขาก่อนไถลลงกับพื้นอย่างรุนแรง
พร้อมกันนี้ ลิงยักษ์อีกตัวจึงปรากฏ ร่างของมันเต็มไปด้วยคราบเลือดแดงฉาน ตัวนี้ยิ่งดุร้ายกว่าตัวก่อนหน้า
เมื่อหลันเฟิงจินได้เห็นลิงยักษ์ถูกส่งร่างปลิวกระเด็นไป นางค่อยถอนหายใจโล่งอกได้ หนึ่งในสัตว์ระดับวิญญาณถูกสังหารแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงอีกหนึ่งตัวที่อยู่กับนาง
หลังจากลิงยักษ์สีแดงปรากฏตัว มันก็พุ่งเข้าหาหลันเฟิงจินโดยทันที!
หลันเฟิงจินทะยานกายขึ้นกลางอาอกาศ นางนำเอาขวานยักษ์ออกมา!
ขวานยักษ์ลุกโชนด้วยแสงสีน้ำเงินเจิดจ้า คมของขวานยาวราวครึ่งเมตร ด้ามจับของตัวขวานยาวกว่าหนึ่งเมตร
ขณะฉินหยุนคิดรับชมการศึกอยู่นั้นเอง เขาค่อยตระหนักได้ ว่าลิงยักษ์ที่ตนส่งร่างปลิวไปนั้น กำลังปีนขึ้นมาด้านบนของเนินเขา!
หัวของลิงยักษ์สีดำถูกเป่าไปแล้ว หลงเหลือก็แต่รอยเลือดสด ทว่ามันยังไม่ตาย!
ลิงยักษ์คำรามร้องกราดเกรี้ยว ออร่าแห่งโทสะปะทุเป็นผลให้หลันเฟิงจิน เหล่าถาน และคณะลอบแตกตื่น
โดยเฉพาะกับเหล่าถานและเหล่าซาน พวกเขานึกว่าปืนใหญ่ราชันวิญญาณสมควรสังหารลิงยักษ์สีดำได้ ที่พวกเขาไม่คิดคือมันจะกลับมามีชีวิต!
“ไอ้เจ้านี่ยังไม่ตายจริงเหรอเนี่ย!” ฉินหยุนยังเหลือกระสุนปืนใหญ่อยู่สองนัด โดยทันที เขาเล็งปากกระบอกปืนใหญ่และยิงออกอีกครั้งหนึ่ง
ตู้ม!
หัวของลิงยักษ์สีดำ โดยทันที มันระเบิดออก ร่างใหญ่โตของมันจึงเริ่มกลิ้งลงจากเนินเขาลูกนั้น ครั้งนี้มันสมควรตายจริงแล้ว
ทุกคนค่อยถอนหายใจโล่งอกกันอีกครั้ง หลันเฟิงจินเองก็โล่งใจ นางตอนนี้เพียงตั้งใจสู้กับลิงยักษ์สีแดงตรงหน้าก็พอ!
หลังลิงยักษ์สีดำตายจาก ลิงยักษ์สีแดงยิ่งกราดเกรี้ยว มันโจมตีอย่างดุร้ายราวบ้าคลั่ง ลำแสงสีแดงพลันถูกยิงออกจากเขายาวบนหัวของมัน และเป้าหมายก็คือหลันเฟิงจิน!
หลันเฟิงจินหลบเลี่ยงลำแสงสีแดงอย่างฉิวเฉียด หากนางโดนมันเข้า คงต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว!
ตู้ม!
ลำแสงสีแดงจากหัวของลิงยักษ์ปะทะกับพื้น เกิดขึ้นเป็นหลุมยักษ์กว้างกว่าสิบเมตร อำนาจทำลายล้างชวนสะพรึง
ช่วงเวลานี้หลันเฟิงจินก็ลั่นการโจมตีหลายครั้งใส่ร่างของลิงยักษ์ได้ บาดแผลส่วนใหญ่ลึกทั้งสิ้น ทว่าลิงยักษ์ก็หาได้ล้มลงไม่
ฉินหยุนรู้สึกเป็นกังวลขณะรับชม เขาเกิดความกังวลคล้ายว่าฝูงสัตว์อสูรอื่นจะมาที่นี่ ด้วยความโกลาหลครั้งใหญ่เกิดขึ้นดังสนั่น มีโอกาสสูงที่ฝูงสัตว์อสูรไกลออกไปจะรู้ตัว
อาคารแห่งนี้กลับกลายเป็นยุ่งเหยิง การต่อสู้ตึงเครียดปะทุออก กำแพงของอาคารก็พังทลาย อาคารก็เป็นซากปรักหักพัง รอบด้านล้วนกระจายไปด้วยคลื่นพลัง
บริเวณนี้เป็นสถานที่ซึ่งเกิดการต่อสู้ ดังนั้นจึงมีแต่เสียงพลังปะทุดังไม่หยุด หากมีผู้รับชมย่อมต้องรู้สึกสะพรึงอย่างแน่นอน!
จากระยะไกล ฉินหยุนรับชมหลันเฟิงจินต่อสู้ เขารู้สึกตนสมควรยิงให้ลิงยักษ์แดงชะงักได้ นี่เป็นเพราะลิงยักษ์แดงทรงพลังเกินไป กระทั่งว่าโดนนางโจมตีไปแล้วหลายครั้งก็ยังไม่คล้ายหมดเรี่ยวแรง
“กระดูกมันแข็งมาก! ขวานของพี่หลันไม่อาจตัดผ่านกระดูกมัน” เมื่อฉินหยุนตระหนักได้ดังนี้ เขาจึงเกิดความกังวลต่อความปลอดภัยของหลันเฟิงจินขึ้นมา
ตู้ม!
อย่างกะทันหัน เสียงระเบิดดังขึ้นเป็นผลให้ผู้คนตื่นตะลึง!
ที่เนินเขาในคฤหาสน์ มันพลันแยกตัวออก ลิงยักษ์สีดำทุบเนินเขาทิ้งขณะทะยานกายเข้าหาหลันเฟิงจิน!
พอเหล่าถานได้เห็นดังนี้ เขาเร่งรีบตะโกนขึ้น “เหล่าซาน ไม่ใช่เจ้าบอกหรือว่ามีสัตว์อสูรระดับวิญญาณแค่สองตัว? เหตุใดคราวนี้จึงมีสาม?”
“ต้องขออภัยแล้ว เป็นพวกเราไม่ตรวจสอบให้ดี!” เหล่าซานรู้สึกผิด สัตว์อสูรระดับแปดและเก้าที่พวกเขาเผชิญหน้าตอนนี้ ก็จำนวนเกินกว่าที่คาดคิดเอาไว้เช่นกัน
เหล่าถานและคณะตอนนี้กำลังรับศึกกับลิงยักษ์กลุ่มใหญ่ที่ระดับแปดและเก้า พวกเขาไม่มีทางแยกพวกมันออกไปจัดการหรือหาทางถอย ยิ่งเวลาผ่านไป การต่อสู้ก็ยิ่งแต่ขมขื่นมากขึ้น
ฉินหยุนตอนนี้พบว่าสถานการณ์เลวร้ายลง เขาคิดหาทางลงมือ ด้วยก้าวอัคคีเมฆา เขาทะยานกายเข้าถึงตัวเหล่าถาน
“เหล่าถาน ท่านมีกระสุนเพิ่มหรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ไม่มีแล้ว!” เมื่อเหล่าถานเห็นฉินหยุน เขาเกิดความกังวลยิ่ง “เจ้ามาทำอะไรที่ตรงนี้?”
ฉินหยุนกัดฟันขณะนำเอายันต์กระดูกสองแผ่นออกมา เขาขว้างมันไปทางเหล่าถานและเหล่าซานเพื่อหยุดลิงยักษ์โชกเลือดตัวหนึ่งที่คิดเข้าโจมตี นี่เป็นการซื้อเวลาให้พวกเขาจัดการลิงยักษ์ทั้งสองตัวได้
ที่แห่งนี้มีลิงยักษ์ระดับเก้ากว่ายี่สิบตัว เรื่องนี้เป็นหน่วยมังกรไม่ได้คาดคิดมาก่อน
เหล่าถานและเหล่าซานรู้สึกว่าแรงกดดันตอนนี้ค่อยทุเลาลง พวกเขาสามารถหันไปช่วยสมาชิกหน่วยคนอื่นได้ ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ หากพวกเขาคิดอยากถอย ก็น่าจะไม่ยากเช่นก่อนหน้า
พวกเขาพลันตระหนักได้ ว่าฉินหยุนไม่ใช่แค่ผู้ทำยันต์ แต่เขายังมีพละกำลังที่ดีเยี่ยม ในเมื่อสหายร่วมศึกตกอยู่ในอันตราย เขาไม่ได้หวาดเกรงคิดหลบหนี กลับกัน เขาหาญกล้าวิ่งเข้าหาเพื่อช่วยเหลือ
“ให้ข้าไปเอาไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร เมื่อได้พวกมันแล้ว พวกเราจะรีบถอยโดยทันที!” กล่าวคำจบ ฉินหยุนเร่งรีบมุ่งหน้าเข้าคฤหาสน์
หากเขาไม่รีบ หลันเฟิงจินจะไม่อาจถ่วงรั้งได้อีก นางตอนนี้กำลังเผชิญหน้าสัตว์อสูรระดับวิญญาณสองตัว!
ก่อนหน้า ฉินหยุนได้สังเกตในคฤหาสน์จากระยะไกลแล้ว เขาคาดเดาว่าไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรสมควรอยู่บริเวณเนินเขา ไม่อย่างนั้นแล้ว คงไม่มีสัตว์อสูรระดับวิญญาณออกมาจากตรงนั้นแน่
ลิงยักษ์ที่ถูกสังหารไปก่อนหน้า ก็ปีนขึ้นมายอดเนินเขาเพื่อคุ้มกันเนินเขาแห่งนี้เช่นกัน
พอฉินหยุนทะยานกายไปทางคฤหาสน์ หลันเฟิงจินจึงเข้าใจแผนการของเขา นางตะโกนขึ้น “ฉินหยุน พึ่งเจ้าแล้ว!”
“พี่หลัน อดทนอีกหน่อยนะ!” ฉินหยุนเร่งรีบรุดกายผ่านอากาศเร็วรี่สู่เนินเขาแห่งนั้น ภายในใจของเขามีความกังวลอยู่ไม่ขาด
ไม่ช้า เมื่อถึงด้านบนเนินเขา ด้วยยันต์สะกดกายระดับสูงในมือ เขาจึงทะยานลงไปในหลุมใหญ่ด้านล่าง
หลังถึงก้นหลุม ออร่าอันตรายพลันปกคลุมเขาโดยทันที
มีสัตว์อสูรระดับเก้าสองตัวอยู่ที่นี่!
แม้ฉินหยุนตระหนก แต่เขายังคงรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้ อย่างรวดเร็ว เขาขว้างยันต์สะกดกายในมือ เข้าหยุดยั้งสัตว์อสูรระดับเก้าทั้งสองตัว!
หลังสัตว์อสูรระดับเก้าโดนสะกดไว้ เขาจึงนำเอาค้อนราชันยักษ์วิญญาณออกมา เปิดการทำงานวิญญาณยุทธ์ยักษ์ภายใน เป็นผลให้ตัวค้อนเริ่มใหญ่ขึ้น ผังบ้าคลั่งภายในเป็นผลให้พลังของค้อนยิ่งมายิ่งบ้าคลั่งสมชื่อ
มือนั้นคว้าด้ามค้อนเอาไว้แน่นด้วยแขนราชสีห์สวรรค์ ผสานรวมเข้ากับพลังภายในตะวันทมิฬและพลังภายในสั่นไหว พร้อมกันนี้ เขาเรียกใช้มังกรหลอม กระบวนท่าอุกกาบาตทลาย!
ตึง!
ค้อนใหญ่ยักษ์พลันลั่นเข้าใส่หัวของลิงยักษ์สีแดงฉาน เกิดขึ้นเป็นเปลวเพลิงปะทุออก!
ตู้ม!
ค้อนราชันยักษ์วิญญาณยกขึ้น ลั่นเข้าใส่หัวของลิงยักษ์อีกตัวหนึ่งปะทุออกซึ่งเปลวเพลิง!
หลังจากสัตว์อสูรระดับเก้าทั้งสองตัวชะงักงัน พวกมันจึงถูกสังหารไปเพียงเวลาเสี้ยววินาที
ตอนนี้ เขาได้เห็น ว่าที่ก้นบึ้งของเนินเขา มันมีร่างมนุษย์กองใหญ่สุมหนาตั้งขึ้นเป็นกำแพงได้
หลังจากฉินหยุนสังหารลิงยักษ์ระดับเก้าทั้งสองตัว เขาแทบใช้พลังภายในไปกว่าแปดในสิบ โชคดีที่พลังจิตยังอยู่ในสภาพดีพร้อม
ทันทีเมื่อปล่อยพลังจิตออก มันปกคลุมก้นบึ้งเนินเขาแห่งนี้ ขณะมุ่งเน้นไปยังสถานที่ซึ่งมีพลังงานรวมตัวกันอยู่
เขาเก็บร่างลิงยักษ์สองตัวขณะมุ่งหน้าไปยังสถานที่ซึ่งมีพลังงานรวมตัวอยู่ ที่นั่น เขาได้เห็นไข่ยักษ์สีแดงสูงราวครึ่งเมตร มันใสราวผลึกแก้วสีแดง!
“นี่คือไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร? แถมยังมีตั้งสิบหกฟอง!” ฉินหยุนอุทานแตกตื่น ขณะที่เขากำลังเข้าไปคว้าพวกมันไว้ เขาพลันรู้สึกคล้ายถูกลมดึงถอยกลับ
เมื่อหันมองทางด้านหลัง เขาได้เห็นก้อนหินขนาดใหญ่ถูกดูดเข้าไป ด้านหลังที่น่าจะเป็นความว่างเปล่า เขากลับได้เห็นชัดเจน ว่าลิงยักษ์สีดำตัวหนึ่งกำลังอ้าปากกว้างใหญ่ของมันคิดกลืนกินทุกสิ่ง
โดยทันที ฉินหยุนใช้เคล็ดวิชาเทวะควบคุม นำเอาไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรลอยเข้าหา
เมื่อไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรเข้ามาใกล้ พวกมันจึงถูกเก็บใส่มิติเก็บของโดยทันที
วูบ วูบ วูบ!
หลันเฟิงจินพลันทะยานกายลงจากด้านบน นางออกแรงสุดกำลังสับฟันขวานยักษ์เข้าใส่หัวของลิงยักษ์สีดำหยุดไม่ให้มันได้กลืนกินเขาเข้าไป
ฉินหยุนเร่งรีบใช่ก้าวอัคคีเมฆาขณะร้องตะโกน “สำเร็จแล้ว!”
จากนั้น เขาจึงใช้พลังจิตปกคลุมร่างของลิงยักษ์ระดับวิญญาณ ลอยเข้าไปใกล้ ก่อนจะเก็บมันเข้าใส่กระเป๋ามิติใบใหญ่
ขณะลอยขึ้น เขาได้เห็นว่าลิงยักษ์สีแดงโดนหลันเฟิงจินสังหารไปเรียบร้อยแล้ว
หลันเฟิงจินตอนนี้เร่งรีบถอยขณะไปเก็บร่างของลิงยักษ์สีแดง
ตอนนี้ยังเหลือลิงยักษ์ระดับเก้ากว่าสามสิบตัวที่ยังไม่ถูกสังหาร แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายต่อการจัดการ เหล่าถานและคณะตัดสินใจถอยออกจากสมรภูมิตอนนี้ก่อน
หลังวิ่งหนีร่วมสี่ชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาจึงค่อยหยุดพักที่ร้านค้าแห่งหนึ่งในถนนหลัก
ฉินหยุนนำเอาไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรสิบฟองและร่างของลิงยักษ์ระดับวิญญาณออกมา สิ่งของเหล่านี้ในมือของเขาถือว่ามูลค่าสูงล้ำยิ่ง
“มีไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรสิบฟองจริงด้วย!” เหล่าซานอุทานร้องยินดี
“คราวนี้รู้หรือยัง? หากไม่มีอาหยุน พวกเราไม่มีทางได้รับไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรพวกนี้แน่!” เหล่าถานหัวเราะออก
บุตรชายทั้งสองของเหล่าซานไม่กล่าวคำใด พวกเขาทราบดี ด้วยสถานการณ์ก่อนหน้านี้ หากฉินหยุนไม่ช่วยเหลือด้วยยันต์กระดูก พวกเขาคงไม่อาจได้รับร่างของสัตว์อสูรระดับเก้าและวิญญาณ กระทั่งได้รับไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรจำนวนมากขนาดนี้
“พวกเราแบ่งกันอย่างไรดี?” หลันเฟิงจินพูดขึ้นก่อนหันสายตาจับจ้องฉินหยุน สายตาของนางนี้ลึกล้ำ
หัวใจฉินหยุนแทบเต้นผิดจังหวะ เป็นเขาเก็บหกฟองเอาไว้กับตัว นี่สมควรเป็นหลันเฟิงจินพบเห็นเข้า เขาจดจำได้ ในตอนนั้นเป็นหลันเฟิงจินที่ทะยานร่างลงมาสับฟันลิงยักษ์แก่เขา ในตอนนั้นนางน่าจะนับจำนวนไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรโดยคร่าวได้ว่ามีจำนวนมากกว่าตอนนี้