เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0217 [อ่านฟรี]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••
ตอนที่ 217 : หลบหนีจากวงล้อม
ฉินหยุนรู้สึกผิดอยู่ภายในขณะกล่าวคำขึ้น “ข้าเพียงต้องการไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร! ทุกคนล้วนลงแรงกันมาก โดยเฉพาะพี่หลันและปืนใหญ่ราชันวิญญาณของเหล่าถาน!”
“ได้ เช่นนั้นรับไข่ผลึกแก้วนี้ไป!” เหล่าซานส่งมอบไข่ผลึกแก้วแก่ฉินหยุนและกล่าว “พวกเราแบ่งไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรกันก่อน คนละฟอง!”
ด้วยฐานะผู้นำหน่วยมังกร เหล่าซานไม่ได้ลงแรงอะไรมาก ทั้งยังสำรวจสถานการณ์ของฝูงสัตว์อสูรมาไม่ถี่ถ้วน เขาจึงมอบไข่ผลึกแก้วแก่ฉินหยุนฟองหนึ่ง เรื่องนี้ทำเอาเหล่าถานและคณะไม่ยินดี
เหล่าถานหัวเราะออก “อาหยุนลงแรงไม่ใช่น้อย เขาไม่ควรได้รับไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรเพียงฟองเดียว เหล่าซานไม่คิดเห็นเช่นเดียวกันหรือ?”
หลันเฟิงจินพยักหน้ารับและกล่าว “หากไม่ใช่เพราะฉินหยุน พวกเราไม่มีทางได้รับไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรพวกนี้มา! ด้วยยันต์สะกดกายของเขา ก็เพียงพอให้พวกเราใช้จัดการสัตว์อสูรระดับเก้าได้มาก!”
บุตรชายของเหล่าซาน เด็กหนุ่มในชุดดำไม่ค่อยพึงพอใจนัก “สำหรับเขา ผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด ได้รับไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรฟองหนึ่งถือว่าไม่เลวแล้ว ยังจะต้องการอะไรอีก?”
“ก็ได้ ข้าจะแบ่งกันอย่างยุติธรรม!” เหล่าซานจ้องมองบุตรชาย หลันเฟิงจินเอ่ยปากออกมาแล้ว หากเขาไม่แบ่งกันอย่างเท่าเทียม จะกลายเป็นทำให้กลุ่มคนตรงหน้าไม่พอใจรุนแรง
เรื่องหนึ่งที่ควรทราบคือ ข้อมูลที่เขามอบให้อีกฝ่ายผิดพลาดร้ายแรง เหล่าถานและหลันเฟิงจินถือว่าสุภาพมากแล้วที่ไม่เอาผิดเรื่องนี้
“แก่นอสูรระดับเก้าจำนวนยี่สิบ แก่นสัตว์อสูรระดับวิญญาณจำนวนสอง และแก่นอสูรระดับแปดอีกจำนวนเจ็ดสิบ!” เหล่าถานนับสิ่งของโดยรวมก่อนกล่าวคำ “ฉินหยุน หากพวกเราให้แก่นอสูรระดับเก้าอีกสิบเม็ด เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”
ฉินหยุนเอ่ยปาก “ข้าไม่ต้องการแก่นสัตว์อสูร เพียงเอาร่างของสัตว์อสูรระดับวิญญาณให้ข้า แก่นสัตว์อสูรพวกท่านล้วนแบ่งกันได้!”
หลันเฟิงจินพยักหน้ารับ “เขาเป็นอาจารย์จารึก วัสดุจะมีประโยชน์แก่เขามากกว่า มอบให้เขา!”
ร่างของสัตว์อสูรระดับวิญญาณถือว่าไม่ค่อยมีราคาค่างวดเท่าใดนัก
ฉินหยุนไม่ได้ร้องขอแก่นสัตว์อสูรเพิ่มอีก เป็นเพราะเขาต้องการให้พวกเหล่าถานได้รับส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น
เขาพึงพอใจมากแล้วที่ได้รับร่างสัตว์อสูรระดับวิญญาณทั้งสอง ทั้งนี้เขายังได้เห็นกับตาว่ากระดูกของลิงยักษ์ทั้งสองตัวแข็งแกร่งเพียงใด
อย่างไรแล้ว ทั้งหมดนี่ก็เป็นน้ำพักน้ำแรงของหลันเฟิงจินและเหล่าถาน
“การร่วมมือกันครั้งนี้ถือว่าดี หวังว่าภายหน้าจะมีโอกาสได้ร่วมมือกันใหม่!” เหล่าซานหัวเราะขณะมองฉินหยุนและกล่าว “อาหยุน คิดอยากขายยันต์กระดูกของเจ้าหรือไม่?”
“หนึ่งแผ่นคิดเป็นแก่นอสูรระดับเก้าหนึ่งเม็ด!” ฉินหยุนยิ้ม
เหล่าซานไม่คิดถามอีก ราคานี้แพงจนเกินไป
หากนำแก่นอสูรระดับเก้าออกขาย มูลค่าของมันคือสิบล้านเหรียญผลึก! สิบล้านเหรียญผลึกต่อยันต์แผ่นหนึ่ง เรื่องนี้มันราคาสูงทะลุฟ้าจนเกินไปแล้ว!
ฉินหยุนไม่ได้คิดอยากทำยันต์เพิ่มให้แก่เหล่าซานและคณะแต่อย่างใด นอกจากหลันเฟิงจินแล้ว เขาไม่ได้มีความประทับใจต่อผู้อื่นของหน่วยมังกร
หลังแจกจ่ายส่วนแบ่งเรียบร้อย พวกเขาจึงทำการพักฟื้น พวกเขาล้วนใช้พลังกันไปมาก การอยู่ด้วยกันเพื่อพักฟื้นถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย
หลังช่วงบ่าย ดวงตะวันไม่อาจส่องแสงได้อีก เดิมท้องฟ้ากระจ่างชัด ฉับพลันกลับกลายเป็นเมฆดำปกคลุม สภาพอากาศแปรเปลี่ยนกะทันหัน
“ได้เวลาไปแล้ว!” เหล่าถานลุกขึ้นเดินออกจากร้าน
ซู่! ซู่! ซู่! เสียงฝนตกหนักดังให้ได้ยิน ฉินหยุนและคณะตอนนี้อยู่ท่ามกลางพายุขณะวิ่งผ่านเขตที่ว่างเปล่า
ไม่นานจากนั้น พวกเขาค่อยมาถึงลานกว้างแห่งหนึ่ง ขณะพวกเขากำลังจะบอกลาต่อกันอยู่นั้นเอง ฉับพลันคลื่นออร่าพลันโจมตีพวกเขาจากทุกทิศทาง!
“พวกเราโดนล้อม!” หลันเฟิงจินเผยสีหน้าเคร่งเครียด
ทันทีเมื่อนางกล่าวจบคำ กลุ่มคนยิ่งมายิ่งมากพลันทะยานกายออกมาล้อมลานกว้างเอาไว้
กลุ่มคนที่ล้อมสถานที่แห่งนี้เอาไว้จำนวนมากกว่าหนึ่งร้อย พวกเขาล้วนสวมใส่หมวกไผ่สานและถืออาวุธครบมือ สีหน้านั้นเย็นชาขณะดวงตาเปี่ยมด้วยจิตสังหาร
“พวกเจ้าคือคนที่จัดการฝูงสัตว์อสูรลิงยักษ์ได้งั้นสินะ? มีคนไม่มากเท่าไหร่แต่กลับแข็งแกร่งพอจัดการฝูงสัตว์อสูรได้ มีความสามารถเหมือนกันนี่!” ชายชราคนหนึ่งถอดหมวกไผ่สานออกเผยใบหน้าที่มีหนวดเครายาว ถือตะขอสีทองยาวคมกริบไว้ในมือขณะหัวเราะเย็นเยือก
“ต้องการอะไร?” หลันเฟิงจินเอ่ยถามเสียงเย็นขณะปล่อยออร่าของขอบเขตวรยุทธ์เต๋า
ถัดจากนั้น ออร่าของขอบเขตวรยุทธ์เต๋าสามคนจึงระเบิดออกจากกลุ่มคนที่ปิดล้อม!
นี่คือหน่วยออกล่าขนาดใหญ่ ประกอบด้วยยอดฝีมือขอบเขตวรยุทธ์เต๋าสามคน ที่เหลือต่างอยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า พละกำลังของพวกเขาชวนสะพรึง พวกเขาไม่ใช่กลุ่มคนที่ฉินหยุนและคณะจะสามารถรับมือหรือต่อกรด้วยได้
“สัตว์อสูรลิงยักษ์พวกนั้นน่าจะมีไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรจำนวนหนึ่ง ส่งพวกมันมาแล้วพวกเราจะไม่ก่อเรื่องยุ่งยากให้!” ชายชราหนวดเครายาวแค่นเสียง “พวกเราลำบากมาที่นี่ ไม่คิดกลับไปมือเปล่า!”
ความวุ่นวายที่ฉินหยุนและคณะโจมตีฝูงสัตว์อสูร เป็นการแจ้งต่อหน่วยขนาดใหญ่ให้รับรู้ เมื่อพวกเขามาถึง จึงพบว่าฝูงสัตว์อสูรหายไปแล้ว ที่เหลือก็เพียงแต่ศพตามพื้นและสัตว์อสูรจำนวนหนึ่งที่ยังเหลือลมหายใจ
ถัดจากนั้น พวกเขาจึงไล่ตามจนถึงที่นี่
ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรล้ำค่า ไม่มีใครคิดส่งมอบออกไปแน่!
เหล่าซานไม่ยินดียิ่ง ก่อนหน้านี้เขาต้องมอบฟองหนึ่งแก่ฉินหยุนซึ่งอยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ดไป
“ให้เวลาพวกเราตัดสินใจกันก่อนได้หรือไม่?” ขณะเหล่าซานกล่าวคำจบ เขาจึงนำบุตรชายสองคนและลูกพี่ลูกน้องไปยังด้านหนึ่งของลานกว้าง ตรงนั้นไม่มีผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าอยู่
ไม่มีใครคิดว่าอีกฝ่ายจะคิดหนีอย่างกะทันหัน ทั้งยังรวดเร็วยิ่ง เพียงพริบตาก็ไปได้เกือบหนึ่งร้อยเมตรแล้ว
หลังเหล่าซานพุ่งกายไป ยันต์สะกดกายในมือจึงถูกขว้างออก เขากระทั่งเหลือยันต์สะกดกายไว้ในมือ เรื่องนี้ทำเอาฉินหยุนสบถในใจอย่างโกรธแค้น
หลังจากยันต์สะกดกายหยุดกลุ่มโจรร้ายตรงหน้าเอาไว้ คณะสี่คนของเหล่าซานจึงเร่งรีบบุกฝ่าออกไป พวกเขาใช้อาวุธในมือเริ่มโจมตีออกด้วยความดุดัน!
แทบจะในทันที พวกเขาสี่คนจัดการสังหารผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้ากว่าสิบคนได้
หลังชายชราพบเห็นเช่นนี้ เขาคำรามโกรธแค้นทะยานกายเข้าหาหลันเฟิงจิน
ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าอีกสองคนก็ทะยานกายเข้าหาหลันเฟิงจิน พวกเขาไม่กล้ารับมือขอบเขตวรยุทธ์เต๋ากันเพียงลำพัง โดยเฉพาะกับหญิงสาวลึกลับที่ครอบครองขวานวิญญาณระดับราชัน
แทบจะในทันที การต่อสู้โกลาหลปะทุขึ้น หลันเฟิงจินพัวพันรับมือกับชายชราขอบเขตวรยุทธ์เต๋าสามคน
ในกลุ่มราวแปดสิบคนที่เหลือ จำนวนหนึ่งไล่ตามกลุ่มของเหล่าซาน ส่วนที่เหลือปิดล้อมคิดจับเป็นฉินหยุนและคณะ!
เหล่าซานและคณะก่อการรวดเร็ว เป็นพวกเขาคาดคิดอย่างชัดเจนว่าหลันเฟิงจินจะต้องรับการโจมตีของวรยุทธ์เต๋าทั้งสามคน หากพวกโจรร้ายที่เหลือโจมตีเหล่าถานและคณะ โอกาสพวกเขาหลบหนีรอดพ้นก็สูงยิ่ง
สำหรับเหล่าถานและหลันเฟิงจิน พวกเขามีโอกาสสูงที่อาจจะโดนจับเป็นหรือจับตาย!
หลันเฟิงจินและเหล่าถานโกรธแค้น เหล่าซานก่อการหักหลังพวกเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว
เหล่าถานเอ่ยเสียงเบา “อาหยุน หาโอกาสหลบหนีไป!”
ขณะกล่าวคำจบ เขาได้เห็นฉินหยุนนำเอาไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรออกมา!
หลังฉินหยุนนำเอาไข่ผลึกแก้วออกมา ผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับเก้าที่ล้อมเขาเอาไว้ชะงักงันโดยทันที
“นี่เจ้าคิดทำอะไร?” เมื่อชายชราพบเห็นการกระทำของฉินหยุน เขาตะโกนร้องถามเสียงดัง แต่ตอนนี้ เขากำลังรับมือกับหลันเฟิงจิน ดังนั้นจึงไม่มีมือว่างพอจัดการเรื่องทางนี้
“ตายด้วยกันยังไงละ!” ฉินหยุนหัวเราะออกเสียงดังขณะทุบไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรกับพื้น
ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรกระทบพื้นแตกออกส่งกลิ่นรุนแรง พร้อมกันนี้ สายลมหอบหนึ่งก็พัดพาเอากลิ่นไป
สีหน้าของชายชราและผู้ฝึกตนวรยุทธ์เต๋าสองคนแปรเปลี่ยน พวกเขาหวาดกลัวยิ่ง
“ถอยก่อน ทุกคนถอยแล้วไล่ตามสี่คนนั้นไป ให้ไว!” ชายชราหนวดเคราตะโกนกราดเกรี้ยว จากนั้น เขาและชายชราอีกสองคนจึงถอนตัวไล่ตามกลุ่มของเหล่าซาน
หลันเฟิงจินมองไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรที่แตกกับพื้น มันกำลังปลดปล่อยคลื่นพลังสีดำออกมา นางพลันเร่งรีบตะโกนขึ้น “ไปกันได้แล้ว!”
พายุฝนรุนแรงไม่คล้ายหยุด มวลเมฆหนาสีดำมืดบนท้องฟ้ายิ่งมายิ่งหนักอึ้งและรุนแรง สายฟ้าฟาดลงพื้นอย่างต่อเนื่อง ราวกับมันคิดฉีกกระชากพื้นแผ่นดินให้แยกออก
“เจ้าหนู บุ่มบ่ามเกินไปแล้ว เจ้าทำเช่นนี้ จะเป็นการล่อฝูงสัตว์อสูรมาที่นี่” เหล่าถานวิ่งมาขณะต่อว่าฉินหยุน ทว่าใบหน้านั้นกลับยิ้มออก
“ข้าไม่คิดว่ามันจะได้ผล! อย่างน้อยพวกมันก็กลัวหัวหดหนีหายกันไปแล้ว” ฉินหยุนหัวเราะคิกคักก่อนมองที่หลันเฟิงจินที่อยู่ข้างกาย
ช่วงที่จัดทำยันต์ เขาและหลันเฟิงจินอยู่ในห้องเดียวกัน เป็นนางบอกต่อเขาว่าไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรมีความลึกลับยิ่ง มันไม่ได้เกิดขึ้นจากสัตว์อสูร แต่เป็นสิ่งที่สัตว์อสูรสร้างขึ้นมาด้วยวิธีการลึกลับอย่างยิ่ง
สัตว์อสูรที่ออกจากไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร คือสัตว์อสูรระดับเก้า เมื่อพวกมันเติบโต พวกมันจะกลายเป็นสัตว์อสูรระดับวิญญาณ และเมื่อเติบโตเป็นวัยโตเต็มที่ พวกมันจะยิ่งน่าหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น
หากสัตว์อสูรเติบโตเต็มที่อย่างต่อเนื่อง จำนวนของสัตว์อสูรที่เกิดขึ้นใหม่จะยิ่งมายิ่งมาก
สัตว์อสูรที่เกิดจากไข่ผลึกแก้ว ถือเป็นราชาในอนาคตของฝูงสัตว์อสูร
ด้วยเหตุนี้ ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรจึงเป็นอาหารที่หมายปองของสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง เมื่อเปลือกไข่แตกออก ออร่ารุนแรงจะปรากฏ หลันเฟิงจินได้บอกต่อฉินหยุน ว่าสัตว์อสูรทรงพลังจะถูกล่อลวงมาด้วยกลิ่นของไข่ผลึกแก้ว
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจทุบไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรทิ้งโดยทันที ด้วยออร่าที่ขจรไกลออก มันจะดึงดูดสัตว์อสูรใกล้เคียงให้เข้ามา
ออร่าของสัตว์อสูรระดับวิญญาณน่ากลัวเทียบเท่าผู้ฝึกตนวรยุทธ์เต๋า พวกมันไม่คิดปิดซ่อนออร่าของตนเอง ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถสัมผัสได้แต่ไกล
ฉินหยุนและคณะตอนนี้ได้แต่วิ่งไปเรื่อยก่อนจะสัมผัสได้ถึงออร่าของสัตว์อสูรระดับวิญญาณ
“ไปซ่อนตัวที่ห้องใต้ดิน! ไป!” เหล่าถานตะโกนบอก จากนั้นเขาจึงเร่งรีบหายตัวเข้าไปในอาคารร้างแห่งหนึ่งข้างถนน
หลังจากพวกเขาเข้ามาในห้องใต้ดิน ร่างเงาใหญ่ยักษ์จึงปรากฏขึ้นกลางอากาศ นี่จะต้องเป็นสัตว์อสูรบินได้ ทั้งยังเคลื่อนที่ได้รวดเร็วยิ่ง!
ฉินหยุนและคณะตอนนี้นำเอาหินส่องแสงออกมาส่องสว่างในชั้นใต้ดินมืดมิด
ทุกคนถอนหายใจกันอย่างโล่งอก จนกระทั่งถึงเมื่อครู่ พวกเขาล้วนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“อาหยุน เจ้าลงมือเร็วนัก หากเจ้าไม่ยอมทิ้งไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรใบนั้น พวกเราคงไม่มีทางหลบหนีออกมาได้ง่ายขนาดนี้แน่” เหล่าถานหัวเราะ
“คงต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าด้านบนจะสงบลงได้ พวกเราพักกันก่อน” ผู้อาวุโสโจวเข้ามาในห้องเก็บของและปิดประตูหินลง
ห้องใต้ดินแห่งนี้ค่อนข้างใหญ่ มีห้องเก็บของหลายแห่ง ผู้อาวุโสโจวและบุตรชายทั้งสองเลือกห้องหนึ่งไปพักผ่อน
ฉินหยุน เหล่าถาน และหลันเฟิงจินอยู่ด้านนอก
“อาหยุน ข้าจะให้ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรของข้าแก่เจ้า เป็นเจ้าลงทุนลงแรงไปมากแต่กลับไม่ได้รับอันใด เรื่องนี้ยอมไม่ได้” เหล่าถานหัวเราะ “อย่างไรแล้ว ข้าก็ได้รับแก่นอสูรมาจำนวนไม่น้อย”
“เหล่าถาน ข้าไม่คิดปิดบังเรื่องนี้ต่อท่าน อันที่จริงข้าได้รับไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรมาจำนวนหนึ่ง ข้าคิดนำมาแบ่งกับพวกท่าน!” เหล่าถานช่วยเหลือเอาไว้หลายครั้งหลายหนแล้ว ดังนั้นเขาจึงนับถืออีกฝ่าย
เหล่าถานประหลาดใจ เขามองยังหลันเฟิงจินและกล่าวเสียงเบา “เก็บไว้กับเจ้า ข้าพอใจแล้ว อย่าได้บอกต่อเหล่าโจวหรือผู้อื่นถึงเรื่องนี้!”
หลันเฟิงจินทราบเรื่องนี้แต่แรกแล้ว นางไม่คิดกล่าวอันใด ไม่อย่างนั้นคงเปิดโปงฉินหยุนไปแต่แรก
“เอาละ ข้าขอตัวไปพักก่อน พวกเจ้าก็พักด้วยละ” เหล่าถานหัวเราะขณะเดินเข้าห้องเก็บของไป
พอฉินหยุนเห็นเหล่าถานเข้าห้องไปแล้ว เขาจึงหันมองหลันเฟิงจินและยิ้มบางให้ “พี่หลัน ท่านต้องการไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรหรือไม่?”
หลันเฟิงจินยิ้มตอบ “ถือว่าข้าให้พวกมันแก่เจ้า แต่เจ้าก็ต้องช่วยข้าด้วย ตกลงหรือไม่?”