ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0213 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0215 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0214 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 214 : ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร

แม้สัตว์อสูรทรงพลัง แต่พวกมันไม่ได้อันตรายขนาดรับมือได้ยาก กลุ่มมนุษย์เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากต้องเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายที่เชี่ยวชาญการปล้นสังหาร ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหลบหนีพ้นหากไม่อาจจัดการอีกฝ่ายได้

เหล่าถานนำเอาปืนใหญ่ราชันวิญญาณออกมาบรรจุกระสุนใหม่ เพื่อเตรียมรับศึก

ผู้อาวุโสโจวกล่าว “พวกมันรับรู้ถึงพวกเรา ด้วยพละกำลังของพวกมัน พวกเราหลบหนีไม่พ้นแน่”

เหล่าถานพยักหน้ารับพร้อมเอ่ยคำน้ำเสียงหนักอึ้ง “ทุกคน หากหน่วยที่มาเยือนนี้ไม่เป็นมิตร ข้าจะถ่วงเวลาพวกมันไว้ให้พวกเจ้าหลบหนี”

ด้วยฐานะหัวหน้าหน่วย เขามีหน้าที่รับผิดชอบต่อสมาชิกในหน่วย หากเผชิญหน้าอันตราย เขาจะไม่มีทางหนีหาย

เรื่องนี้ทำเอาพ่อลูกตระกูลโจวต่างเผยความนับถือ

ฉินหยุนนำยันต์สะกดกายระดับสูงออกมาเตรียมรับศึกเช่นกัน!

เหมือนอย่างพวกเขา อีกฝ่ายเป็นหน่วยห้าคน ทว่า ในหน่วยมีผู้ฝึกตนระดับวรยุทธ์เต๋าร่วมอยู่ด้วย!

ทั้งห้าบินเข้ามาพร้อมเข้าถึงอาคารหินหกชั้น

ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่ม ประกอบด้วยเด็กหนุ่มสองคน ชายวัยกลางคนอีกสอง และผู้หญิงอีกหนึ่ง

และที่ชวนตื่นตะลึงยิ่งกว่า คือผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋านั้นคือหญิงสาวผู้นั้น!

ฉินหยุนและคณะหันสายตาจดจ้องหญิงสาว ไม่เพียงแต่นางต้องตาเพราะขอบเขตวรยุทธ์เต๋า แต่ท่าทีและรูปลักษณ์ของนางยังชวนดึงดูดสายตา

หญิงสาวผู้นี้ใบหน้ารูปไข่ แม้รูปลักษณ์ของนางไม่ได้ชวนโลกตื่นตะลึง แต่ก็งดงามพอให้มอง เส้นผมมัดเอาไว้อย่างไม่เป็นระเบียบนัก ผิวพรรณของนางเปล่งปลั่งด้วยสีน้ำตาลข้าว ทั้งยังสวมกางเกงขาสั้นหนังสัตว์ เผยออกซึ่งขาเรียวยาวงดงาม กายท่อนบนเพียงสวมใส่ด้วยเสื้อหนังสัตว์แขนสั้นที่ปิดไว้แค่ช่วงหน้าอก เผยซึ่งหน้าท้องนวลพร้อมมัดกล้าม

ด้วยร่างสูงเพรียว รูปลักษณ์ของนางจึงดูดิบเถื่อนแต่งดงาม ทั้งยังมีท่าทีคล้ายหุนหันพลันแล่น กล่าวได้ว่าเป็นหญิงสาวดึงดูดเสน่ห์ผู้หนึ่ง

ฉินหยุนเคยเจอโฉมงามมาก็มาก แต่กับตรงหน้าเขาตอนนี้ แม้นางไม่อาจเรียกได้ว่างดงามหากเขานำไปเทียบเปรียบ แต่เสน่ห์ของนางมีเอกลักษณ์เฉพาะจนดึงดูดใจผู้คนได้

“พวกเราคือหน่วยนักล่า หน่วยมังกร!” ชายกลางคนใบหน้าอ้วนกลมกล่าวคำพร้อมไอแห้ง

ถึงตอนนี้ฉินหยุนและคณะค่อยตระหนักว่ามีคนอยู่ข้างกายหญิงสาว

“พวกเจ้ามาที่นี่กันเพื่ออะไร?” เหล่าถานเอ่ยคำ ภายในใจเปี่ยมด้วยความสงสัยและประหลาดใจ

หน่วยของอีกฝ่ายถือว่ายังเยาว์ และยังมีหญิงสาวที่แข็งแกร่ง ทว่านางก็ไม่คล้ายจะเป็นผู้นำหน่วย

ชายวัยกลางคนใบหน้าอ้วนกลมยิ้ม “ก่อนหน้านี้ แถวนี้มีฝูงอาชาหมาป่าอยู่ ข้าคิดว่าพวกเจ้าสังหารพวกมันไปใช่หรือไม่? จากเรื่องนี้ ก็พอจะบอกได้ว่าพละกำลังของพวกเจ้าไม่เลวเลยทีเดียว พวกเรามาที่นี่เพื่อผนึกรวมกำลังพวกเจ้า ทำลายฝูงสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุด ฝูงสัตว์อสูรนี้ประกอบด้วยสัตว์อสูรระดับวิญญาณสองตัว รวมทั้งไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรด้วย!”

ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรสามารถแลกเปลี่ยนได้ห้าสิบล้านแต้มเสวียน สิ่งนี้มูลค่าทัดเทียมกับแก่นอสูรระดับวิญญาณ!

เมื่อชายใบหน้าอ้วนกลมมองเหล่าถานและคณะ เขาจึงกล่าว “ที่นี่มีไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรอย่างน้อยก็ห้า พวกเราไม่ทราบลงลึกนัก แต่เมื่อใดที่พวกเราจัดการฝูงสัตว์อสูรลงได้ เจ้าก็น่าจะทราบใช่หรือไม่ว่าผลประโยชน์ใดรออยู่?”

หากสองหน่วยแบ่งกันอย่างเท่าเทียม ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่าน่าประทับใจ!

เหล่าถานกล่าว “ฝูงสัตว์อสูรอาชาหมาป่าเป็นพวกเราสังหารเอง! แต่เหตุใดจึงคิดว่าพวกเราคู่ควรเข้าร่วมกับพวกเจ้า? เจ้ามีผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋า แต่พวกเราหามีไม่!”

ชายใบหน้าอ้วนกลมหัวเราะ “หากข้าเดาไม่ผิด เจ้าสมควรเป็นราชาปืนใหญ่เหล่าถานงั้นสินะ? เพียงแค่ปืนใหญ่ราชันวิญญาณในมือเจ้าก็เกินพอแล้ว!”

เหล่าถานยิ้ม เขานำเอาปืนใหญ่ราชันวิญญาณในมือวางลง สิ่งนี้คือสิ่งที่ไม่ว่าผู้ใดล้วนคิดอยากครอบครอง หากอีกฝ่ายคิดอยากโจมตีแย่งชิง พวกเขาคงลงมือไปนานแล้ว

ฉินหยุนเงียบขณะจ้องมองหญิงสาวร่างกำยำก่อนพบว่าอีกฝ่ายก็มองเขาเช่นกัน

หญิงสาวใช้แขนกอดอกไว้ นางยิ้มอ่อนเผยให้เห็นที่ใบหน้า แม้นางทรงพลังและอาจหาญ แต่ดวงตานั้นคล้ายหยอกเหย้าไม่สิ้นสุด มันดึงดูดจนเกินไป

“อย่าได้คิดว่าเพียงแค่เจ้าขนยังไม่ขึ้นที่ใบหน้า ข้าจะบอกไม่ได้ว่าเจ้าเป็นเด็กน้อยผู้หนึ่ง เจ้าอายุเท่าใด?” หญิงสาวหัวเราะเอ่ยถาม

น้ำเสียงของนางระรื่นหู ราวกับสายลมเย็นบางเบาพัดผ่าน ทว่า มันก็เผยร่องรอยอำนาจไว้ในน้ำเสียงนี้ด้วย

“สิบหก!” นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินหยุนรู้สึกยุ่งยากใจเพราะตนยังเด็ก โดยเฉพาะการต้องบอกอายุตนเองต่อหญิงสาวที่แข็งแกร่งเช่นตรงหน้า

ชายใบหน้าอ้วนกลมขมวดคิ้ว “เหล่าถาน นี่หลานชายเจ้าหรือ?”

เหล่าถานส่ายศีรษะ “ไม่ เขาคือคนที่แยกออกจากหน่วยตนเอง พวกเราบังเอิญเจอเขาหลบซ่อนในชั้นใต้ดิน จึงให้เขาเข้าร่วมหน่วยด้วย ระดับการฝึกฝนของเขาคือขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด แต่มีพลังจิตที่แข็งแกร่งมาก”

เด็กหนุ่มในชุดดำกล่าวเฉียบคม “พวกท่านเข้าร่วมหน่วยเราได้ แต่เด็กนี่ไม่! เขาจะถ่วงพวกเรา!”

เด็กหนุ่มอีกคนจากหน่วยมังกรเองก็เอ่ยปาก “เป็นตามนั้น เขาเพียงแค่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด หากพวกเราแบ่งทรัพย์สินหลังสงคราม พวกเราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบมาก”

เหล่าถานเอ่ยคำขึ้น “ปืนใหญ่ราชันวิญญาณของข้าจำเป็นต้องให้ผู้มีพลังจิตแข็งแกร่งควบคุม ด้วยวิธีนี้ พวกเราจะลงสนามรบเองได้และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้มากขึ้น! ก่อนหน้านี้ ราชาอาชาหมาป่าก็เป็นเขาใช้ปืนใหญ่สังหารไป”

“เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็น สำคัญคือเขาแค่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด เท่ากับต้องเสียส่วนแบ่งคนหนึ่งในศึกครั้งนี้! ไม่เท่ากับว่าพวกเราขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้าจะเสียเปรียบหรอกหรืออย่างไร? เว้นแต่ว่าเขาจะไม่ต้องการส่วนแบ่งในการศึกครั้งนี้!” เด็กหนุ่มในชุดดำเอ่ยคำ

น้ำเสียงของเหล่าถานเย็นชาขึ้นมา “เจ้าบอกว่าอาหยุนไม่มีคุณสมบัติได้รับส่วนแบ่งทรัพย์สินสงคราม? หากเขาสามารถควบคุมปืนใหญ่ราชันวิญญาณ ก็เท่ากับเขามีพลังเทียบเท่าผู้ฝึกตนวรยุทธ์เต๋า หากเขาสามารถจัดการสัตว์อสูรระดับวิญญาณได้ เหตุใดจึงกลายเป็นไม่สามารถมอบส่วนแบ่งแก่เขาอย่างเท่าเทียม?”

ผู้อาวุโสโจวเผยเสียงเย็นขึ้น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็คงร่วมมือกันไม่ได้! เป็นพวกเจ้าที่ปรามาสคนของเราด้วยสายตามืดบอด!”

ชายวัยกลางคนใบหน้าอ้วนกลมกล่าว “เหล่าถาน เป็นพวกเราคิดให้เจ้าถอยฉากไปควบคุมปืนใหญ่ไม่ต้องลงสมรภูมิรบ ด้วยเหตุนั้นพวกเราจะวางใจได้มากขึ้น! หากปล่อยให้เด็กน้อยขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ดควบคุมปืนใหญ่ พวกเราไม่สามารถวางใจได้! เจ้าต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้ดี หากไม่เข้าร่วมกับพวกเรา ก็เท่ากับเจ้ากำลังทิ้งโอกาสได้รับไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร”

เด็กหนุ่มในชุดดำเผยเสียงเย็นชา “ต่อให้ไม่เข้าร่วม พวกเราก็หาหน่วยอื่นเข้าร่วมแทนได้”

ฉินหยุนมองหญิงสาวและเอ่ยคำเบา “พี่สาว ท่านอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า ไม่ใช่ท่านหรือที่ต้องตัดสินใจว่าข้าควรเข้าร่วมหรือไม่”

หญิงสาวยิ้ม “ข้าไม่ใช่ผู้นำหน่วย จึงไม่อาจตัดสินใจ และข้าหาได้สนใจไม่ จะยังไงท้ายที่สุดแล้วข้าก็สามารถจัดการฝูงสัตว์อสูรได้!”

ชายวัยกลางคนใบหน้าอ้วนกลมคือผู้นำ เขาก้มศีรษะลงต่ำครุ่นคิด คล้ายลังเล เด็กหนุ่มทั้งสอง พวกเขาต่อต้านฉินหยุนอย่างชัดเจน พวกเขาตอนนี้คิดพยายามเกลี้ยกล่อมผู้นำหน่วยให้ปฏิเสธออกไป

“เหล่าถาน หากเจ้าให้เด็กน้อยผู้นี้ถอยไป เจ้าสามารถเข้าร่วมกับพวกเรา! เมื่อพวกเรารวมกำลังกันและจัดการฝูงสัตว์อสูรได้สำเร็จ พวกเราจะสามารถได้รับไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรจำนวนมากได้ รวมถึงแก่นอสูรจำนวนมากด้วย” ชายกลางคนใบหน้าอ้วนกลมท้ายที่สุดจึงเผยการตัดสินใจ

ใบหน้าเหล่าถานเปี่ยมด้วยความไม่ยินดี น้ำเสียงนี้เย็นชายิ่งกว่าครั้งก่อน “เช่นนั้นก็น่าเสียดายแล้ว พวกเจ้าคงต้องไปหาหน่วยอื่น! พละกำลังของอาหยุนเป็นข้าได้พิสูจน์ด้วยตนเองแล้ว เขาคือคนของหน่วยข้า หากปรามาสต่อเขา ก็หมายความถึงปรามาสต่อข้า เหล่าถานผู้นี้”

ฉินหยุนเพียงเพิ่งเข้าร่วมหน่วย แต่อีกฝ่ายกลับให้ค่าแก่เขาสูงเพียงนี้ เรื่องนี้ทำเอาเขาประทับใจไม่น้อย

อันที่จริง เขาเองก็อยากร่วมงานกับหน่วยมังกร หากเขาสามารถได้รับไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร ก็เท่ากับเขาได้รับผลประโยชน์ครั้งใหญ่

“เหล่าถาน พวกท่านเข้าร่วมหน่วยมังกรของพวกเขาได้! ข้าจะอยู่ที่นี่รอพวกท่านกลับมา!” เขาไม่อยากปล่อยเหล่าถานให้พลาดโอกาสอันดีเช่นนี้

ใบหน้าเหล่าถานดำมืด “อาหยุน เจ้าคือหนึ่งในพวกเรา พวกเราไม่คิดให้เจ้าอยู่ที่นี่เพียงลำพังแน่ มันอันตรายเกินไป”

หญิงสาวเอนหลังพิงกำแพงขณะมองไปนอกหน้าต่าง นางกล่าวออกเสียงเบา “เอาอย่างนี้เป็นไร? เจ้าหนูนี่เหมือนจะมีฝีมืออยู่ เพียงแค่ภายนอกพวกเราไม่อาจได้เห็นพละกำลังของเขาอยู่แล้ว”

ฉินหยุนพยักหน้ารับ “เป็นเช่นนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกท่านปรามาสต่อข้า อย่างไรแล้วข้าก็เพียงขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด! เรื่องนี้ข้าไม่ขอคิดปิดบัง แท้จริงแล้วข้าคืออาจารย์จารึก และรู้วิธีการทำยันต์ ข้าสามารถขัดเกลายันต์สะกดกายระดับกลางที่สามารถสะกดสัตว์อสูรระดับแปดได้ ส่วนสัตว์อสูรระดับเก้าว่าสามารถสะกดได้หรือไม่นั้น ข้าไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่”

“สัตว์อสูรฝูงใหญ่ ย่อมต้องมีระดับเจ็ดและแปดจำนวนมาก พวกมันจะเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ ด้วยขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับเก้า ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการพวกมันทั้งหมด นอกจากนี้ยังต้องรับมือกับสัตว์อสูรระดับเก้าด้วย ทั้งยังมีสัตว์อสูรระดับวิญญาณอีกสองตัวที่เป็นจ่าฝูง เรื่องนี้ไม่ใช่ง่ายจัดการพวกมันอย่างที่คิดแน่”

“หากพวกท่านมียันต์สะกดกายของข้า สัตว์อสูรระดับที่เจ็ดและแปดถือเป็นเรื่องง่ายจัดการ!”

เหล่าถานและคนของหน่วยมังกรต่างร่างกายแข็งทื่อเพราะคำพูดนี้ พวกเขาไม่เชื่อว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าตนจะเป็นอาจารย์จารึก!

ในสภาพแวดล้อมอย่างเมืองอี้ อาจารย์จารึกถือเป็นความล้ำค่าประการหนึ่ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ที่สามารถทำยันต์ระดับกลางขึ้นไปได้นั้น ถือว่าหาได้ยากยิ่ง!

มีเพียงหน่วยใหญ่เท่านั้นจึงจะมีอาจารย์จารึกสักคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นแกนหลักของหน่วย

“เรื่องนี้จริง? มีหลักฐานหรือไม่?” หญิงสาวร่างกำยำหรี่ดวงตา ริมฝีปากเผยรอยยิ้มเอ่ยคำ

“ง่ายนัก ที่ตรงนี้ ให้ข้าขัดเกลายันต์สะกดกายให้ดูสักแผ่นจะชัดเจนกว่าหรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยคำจบ เขานำเอาเตาหลอม แท่นหลอม ค้อนราชันยักษ์วิญญาณ และมีดแกะสลักออกมา

ได้เห็นอุปกรณ์ครบชุดขนาดนี้ พวกเขาล้วนเชื่อไปครึ่งทางแล้ว!

เหล่าถานพลันนึกขึ้นได้จึงเอ่ยคำ “อาจารย์จารึกระดับต้นรุ่นเยาว์ เท่าที่ข้ารู้มีเพียงผู้เดียว ทั้งยังอยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด! เป็นองค์ชายรัชทายาทแห่งเทียนฉิน ฉินหยุนผู้นั้นจึงเป็นอาจารย์จารึก!”

ฉินหยุนยิ้ม “ข้าคือฉินหยุน!”

ฝูงชนตื่นตะลึงอีกครั้ง เด็กหนุ่มที่ผู้คนกล่าวขานนามขจรไกลกลับยืนตรงหน้าพวกเขาตอนนี้!

“นี่เจ้ามาทำอะไรที่นี่แทนที่จะหลบอยู่ในสถาบันยุทธ์ชิงเสวียน? อัจฉริยะเช่นเจ้าสมควรอยู่ในสถาบันยุทธ์ฝึกฝนอย่างสงบจิตสงบใจ มาสถานที่เช่นนี้ออกจะอันตรายเกินไปแล้ว” ผู้อาวุโสโจวสูดลมหายใจเข้าลึกเอ่ยคำออกมา

หากไม่ใช่เขาได้เห็นกับตาตนเอง เขาจะไม่มีทางเชื่อว่าอาจารย์จารึกหนุ่มที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งจะกล้ามาสถานที่อันตรายเช่นนี้!

การทำยันต์ระดับกลาง จำเป็นต้องใช้เวลามาก แต่สำหรับผู้ฝึกตนที่ไม่รู้เรื่องราวของยันต์นอกจากใช้งาน เรื่องนี้ออกจะน่าสนใจ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงจับตามองและอดทนรับชมฉินหยุนขัดเกลายันต์ขึ้นมา

ฉินหยุนนำกระดูกสัตว์ระดับหกและเจ็ดออกมาโยนเข้าเตาหลอม หลังเผาจนได้ที่เป็นสีแดงฉานอ่อนยวบ เขาจึงนำมันวางลงบนแท่นหลอมและเริ่มทุบตี ก่อนจะกลายเป็นกระดาษบางแผ่นหนึ่ง

1 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด