ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAS ตอนที่ 2 - วางแผน

AS ตอนที่ 1 - นายน้อยแห่งตระกูลลองกินุส


ทวีปรุ่งอรุณ

ณ เมืองหลวงแห่งอาณาจักรรุ่งอรุณ ธงอาณาจักรพลิ้วปลิวไสวตามแรงโบก ใบหน้าของผู้คนเหล่านั้นเต็มไปด้วยความสุข เสียงโห่ร้องดังก้องดังเพื่อต้อนวีรบุรุษผู้นำชัยชนะกลับมาอย่างห้าวหาญ

เซเลบัส ลองกินุส คือหนึ่งในผู้ที่มีวรยุทธ์สูงที่สุดในอาณาจักรรุ่งอรุณ เขาปกป้องอาณาเขตชายแดนของอาณาจักรจากเหล่าศัตรูมาช้านาน ทำให้กองกำลังจากอาณาจักรศรัทธานิรันดร์ที่เข้ามาจู่โจมนั้นถูกแพ้พ่ายอย่างราบคราบ ด้วยกองทัพโลหิตเพลิงที่นำทัพโดยเซเลบัส

ด้วยความสำเร็จนั้น อาณาจักรจึงมอบรางวัลและยกย่องสรรเสริญเซเลบัสเป็นการใหญ่ นอกจากนั้นยังได้มอบประกาศิตแห่งจักรพรรดิแก่เขาอีกด้วย นั่นทำให้เซเลบัสสามารถร้องขอสิ่งใดก็ได้จากองค์จักรพรรดิหนึ่งสิ่ง

 

เมื่อเซเลบัสมาถึง เขายังไม่ได้เข้าเฝ้าองค์องค์จักรพรรดิในทันที แต่กลับมุ่งหน้าไปยังตระกูลอย่างร้อนรน เหล่าบริวารต่างก็รู้ดีว่า สาเหตุที่ทำให้ท่านผู้นำตระกูลบ้าคลั่งได้ขนาดนี้มีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือ นายน้อยของตระกูลนั่นเอง

กล่าวได้ว่า ขณะที่เซเลบัสปกป้องชายแดนจักรวรรดิอยู่นั้น ไอ้เด็กบ้านี่ก็พยายามไปล่วงเกินบุตรสาวของผู้นำตระกูลเบลเทียนอย่างไม่หยุดหย่อน ขนาดถูกจับได้คาหนังคาเขา ก็ไม่ยอมเอ่ยปากขอโทษ และยังแสดงท่าทียโสโอหังใส่ตระกูลเบลเทียนอีกด้วย

 

ด้วยความอัปยศนี้เอง ผู้นำเบลเทียนเดือดดาลจนระงับโทสะไว้ไม่ไหว จึงพลั้งทำร้ายนายน้อยตระกูลลองกินุสอย่างต่ำช้า ถึงขั้นกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก แต่แทนที่ตระกูลเบลเทียนจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกมันกลับประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่า การที่นายน้อยตระกูลองกินุสหมดสติไปไม่ใช่ความผิดของพวกมันแม้แต่น้อย ถือว่าโชคยังเข้าข้างที่นายน้อยตระกูลลองกินุสยังไม่เสียชีวิต เพราะไม่งั้นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ได้อุบัติขึ้นกับตระกูลเบลเทียนเป็นแน่

นายน้อยตระกูลลองกินุสนั้นไม่ใช่แค่คนที่ชอบก่อเรื่องวุ่นวายเพียงอย่างเดียว มันยังเป็นเสือผู้หญิงอีกด้วย พูดได้ว่าหากนำนิ้วมือกับนิ้วเท้าออกมานับ ก็ยังนับได้เพียงเสี้ยวของหญิงสาวที่มันพิชิตมา

 

ใต้ต้นไม้ภายในสวนของตระกูลลองกินุส เด็กชายอายุราวๆ 16-17 ปี นั่งจ้องหนังสือเล่มหนาเตอะในมือพร้อมพลิกหน้ากระดาษอ่านอย่างตั้งใจ บางครา ก็มีประกายแห่งความตื่นเต้นและความหวังอยู่ในแววตาคู่นั้น แต่ส่วนมากแล้วจะเป็นความแข็งทื่อ ดูไร้อารมณ์ ที่ปรากฏในแววตานั่นเสียมากกว่า

ชายหนุ่มที่ถูกขนานนามว่านายน้อยของตระกูลลองกินุส ได้ศึกษารวบรวมหนังสือที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการบ่มเพาะมาตลอดทั้งช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา

แต่ก็นั่นแหละ เรียกว่าเป็นการอ่านหนังสือก็ยังพูดได้ไม่เต็มปาก เรียกว่าเป็นการรวบรวมข้อมูลพวกนั้นลงฐานข้อมูลของระบบแปลกๆ ที่เขาเพิ่งได้รับมาเห็นจะเหมาะกว่า

 

‘ระบบนักฆ่า’

 

สองสามวันผ่านไป แดนรวบรวมข้อมูลต่างๆ จนสำเสร็จ ความเบื่อหน่ายจนแทบอยากจะกรีดร้องผุดขึ้นมาในความรู้สึก เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยแววตาเศร้า ทันใดนั้นมันหวนนึกถึงอนิเมะและโดจิน ที่ไม่มีทางจะได้กลับไปอ่านมันอีก

แดนจำได้ดีในช่วงเวลานั้น มันเป็นปี 2595 อนิเมะเรื่อง One Piece ก็ได้ดำเนินมาถึงจุดจบด้วยจำนวนทั้งสิ้น 20,000 ตอน ช่างเป็นเรื่องทีน่าเศร้าที่ไม่มีแม้โอกาสจะได้อ่านตอนจบของเรื่อง เพราะดันต้องมาตายหลังอ่านนิยายเรื่อง Ancient Cultivator in Modern World ของ TheAdventurer เสียก่อน

เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเริ่มเรียบเรียงข้อมูลของเจ้าของร่างคนก่อนที่ได้รวบรวมมา เท่าที่เขาพอจะเดาได้ก็คือ ร่างนี้เป็นของนายน้อยของตระกูลลองกินุสที่ชื่อว่า “แดน ลองกินุส”

 

ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักแดนในฐานะขยะของตระกูลลองกินุสและวายร้ายประจำเมือง แต่จะว่าไประดับการบ่มเพาะของมันก็ถือว่าอยู่ในขั้นที่ค่อนข้างดี (เมื่อเทียบกับความขี้เกียจของมัน) คงเพราะทรัพยากรที่คอยสนับสนุนตั้งแต่เล็กๆ แต่ทัศนะคติของมันเองนั่นแหละที่ทำให้ระดับการบ่มเพาะที่สูงส่งไปก็ไร้ค่า เป็นคนที่ไม่ชอบการนองเลือดและเกลียดความรุนแรงเป็นที่สุด นี่ถึงขนาดยอมเสียศักดิ์ศรีทั้งหมดเพื่อแลกกับชีวิตของตนเลยทีเดียว

 

ในโลกใบนี้ ผู้ที่แข่งแกร่งกว่าย่อมได้รับการเคารพนับถือ แต่กับคนไร้ค่าอย่างแดนนั้นขืนตายไปก็ไม่สมควรได้รับเกียรติแม้จัดงานศพ ถึงทุกคนในเมืองเมฆาจะเกลียดและนินทาเขาอยู่บ่อยๆ ก็ยังไม่มีใครกล้าด่าหรือโจมตีมันต่อหน้าเป็นแน่ คงเพราะชื่อของตระกูลลองกินุสยังคุ้มกะลาหัวอยู่

 

ในขณะที่แดน ลองกินุสกลับมาที่ตระกูลในสภาพหมดสติ ไม่มีใครรู้ว่าเขาได้ตายไปแล้ว และปัจจุบันมีวิญญาณอีกดวงเข้ามาอาศัยอยู่ในร่างของเขาแทน

 

แดนปิดหนังสือก่อนจะยืนขึ้น โดยถือหนังสือไว้ข้างกาย เขาเริ่มพึมพำกับตัวเอง

“แสงแดดและตำแหน่งของดวงอาทิตย์เปลี่ยนไปมากเมื่อเทียบกับช่วงเช้า มันคงเป็นเวลาที่เราต้องหาอะไรใส่ท้องแล้วสินะ”

 

แดนมุ่งหน้าไปในคฤหาสน์ตระกูล แต่ก่อนที่เขาจะเข้าไป บริวารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาพร้อมกล่าวกับเขาด้วยเสียงที่เหน็ดเหนื่อย

 

“นายน้อยเจ้าคะ บิดาของท่าน ท่านเซเลบัสมาถึงแล้วเจ้าค่ะ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด