ตอนที่แล้วบทที่ 259 - ฉันจะไปที่ไหนก็ได้ (1) [09-01-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 261 - ฉันจะไปที่ไหนก็ได้ (3) [13-01-2020]

บทที่ 260 - ฉันจะไปที่ไหนก็ได้ (2) [11-01-2020]


บทที่ 260 - ฉันจะไปที่ไหนก็ได้ (2)”

เมื่อเวลาได้ผ่านไปพักหนึ่งทั้งสามคนก็ได้กลับมาเป็นปกติ ในที่สุดแล้วคิมเยซอลก็ได้ถามถึงสามีของเธอ

"แล้วลูกหาพ่อไม่เจอหรอ?"

"ครับ ไม่เจอแม้แต่ร่องรอยเลย แต่ว่าผมจัดการกวาดล้างมอนสเตอร์ในโลกที่พ่ออยู่ไปแล้ว พ่อจะต้องปลอดภัยแน่"

"เจ้าพ่อคนนั้นนี่นะ เขาซ่อนได้แม้กระทั่งลูกตัวเอง นี่ทำให้แม่นึกไปถึงตอนที่แม่กับพ่อเดทกันอยู่เลย..."

คิมเยซอลได้หวนนึกไปถึงวันวานของเธอ แม้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะไม่น่ามองในแง่ดีได้เลยก็ตาม

"ไม่น่าจะเป็นอะไรหรอกเนอะ คนๆนั้นไม่ใช่คนที่จะไปตายในที่ที่เราไม่รู้อยู่แล้ว ลูกไม่ต้องห่วงหรอกนะ เดี๋ยวพ่อเขาก็กลับมาเหมือนกับไม่มีอะไรในตอนที่การผนึกบนโลกหายไปเองนั่นแหละ"

"ผมอยากรู้จังเลยว่าแม่ไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหน แต่ก็... ชั่งเถอะครับ พ่อไม่เป็นไรแน่ งั้นเรากลับโลกกันดีกว่า"

"ได้เลย ไปกันเถอะ ถึงแม่จะตกใจที่ลูกไปกลับโลกได้ก็เถอะนะ"

เธอได้ยินมาแล้วว่ายูอิลฮานได้ใช้เวลาที่ยาวนานอยู่บนโลก และยังได้รู้ถึงสิ่งต่างๆที่ยูอิลฮานได้เจอมาแล้วเช่นกัน ยังไงก็ตามเธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อในระดับพลังในตอนนี้ของยูอิลฮานเลย คิมเยซอลได้คิดว่านี่ก็คงจะเป็นความต่างกันในพรสวรรค์

"อิลฮานจะเปิดเส้นทางไปสู่สิ่งมีชีวิตชั้นสูงในอีกไม่นานแล้ว ดังนั้นคุณแม่ก็จะได้เข้าร่วมกองกำลังของเขาด้วย"

"ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะดีมากเลยล่ะ"

ในเวลาเดียวกันยูอิลฮานก็มองกลับไปที่แม่ของเขาและพูดออกมา

"แม่ครับ ตอนนี้ผมก็ไม่คิดจะให้แม่สู้ดวยเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าทุกๆคนที่แข็งแกร่งจะต้องสู้ แล้วก็ผมก็แกร่งขึ้นมาแบบนี้ในระหว่างที่ผมสู้เอาชีวิตรอด..."

"อิลฮาน แม่ได้ตัดสินใจเรื่องนั้นแล้วนะ"

คิมเยซอลได้เขกหน้าผากของยูอิลฮานและพูดออกมาอย่างขี้เล่น

"ในระหว่างที่ลูกกำลังต้องลำบากจะมีแม่คนไหนกันปล่อยให้ลูกลำบากอยู่คนเดียวน่ะ? ลูกแม่ ลูกก็ทำสิ่งที่ลูกต้องทำไปเถอะ แม่พร้อมที่จะสนับสนุนลูกเต็มที่"

"อ่า"

ความดื้นรั้นของแม่ทรงพลังเกิดไป ในจุดนี้ความดื้นรั้นของยูอิลฮานก็มีต้นกำเนิดมาจากเธอเช่นกัน เนื่องจากยูอิลฮานไม่อาจจะทำอะไรได้อีกทำให้เขารู้สึกอึดอัดมาก แต่ว่าคิมเยซอลก็เข้าใจในตัวเขาเป็นอย่างดี

"แม่ได้ยินว่าตอนนี้ลูกมีเพื่อนเยอะเลยนี่นา แม่อยากจะเจอเพื่อนๆลูกเร็วๆจังเลย"

"พวก 'เพื่อน' ทุกๆคนสินะคะ"

เลียร่าได้พูดขึ้นราวกับประกาศออกมา ยังไงก็ตามคิมเยซอลก็รู้ถึงสิ่งที่เลียร่าต้องการจะซ่อนจากเธอทำให้เธอตาเป็นประกายขึ้นมา

"โอ้แบบนี้นี่เอง นี่ลูกมี 'ผู้หญิง' ที่ยังเป็น 'เพื่อน' อยู่ 'ในตอนนี้' เยอะเลยสินะ"

"นี่แม่เพิ่งจะเรียกหนูว่าลูกเองนะคะคุณแม่!"

"ลูกสาวคนใหม่ของแม่ ลูกแม่น่ะเป็นผู้ชายที่น่าทึ่ง แล้วก็มีแต่คนที่น่าทึ่งอยากจะสนับสนุนลูกแม่มากมายเลยนะ ไปดูพวกเธอกันดีกว่า เร็วๆเลยลูกแม่"

เลียร่าได้หดหู่ใจกับความคิดที่หลงผิดของคิมเยซอล ในระหว่างนี้ยูอิลฮานก็ได้เปิดใช้งานสกิลข้ามมิติออกมา และเหล่าภูติก็ปรากฏตัวกันมาราวกับรู้ว่าพวกเขากำลังจะไปกัน

[สหายเยซอลอันมีค่าของเรา บางทีเธออาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้วสินะ]

[ขอให้เธอมีความสุข แล้วก็ขอให้เธอก้าวหน้าไปต่อนะ]

[การเคลื่อนไหวของสวนอาทิตย์อัสดงแปลกไป พวกนั้นเป็นได้ทั้งมิตรหรือศัตรู ยังไงก็ตามเมื่อพวกนั้นกลายมาเป็นมิตรจะยิ่งอันตรายกว่าการเป็นศัตรูกันซะอีก จำเรื่องนี้เอาไว้นะ]

"เพื่อนๆของฉัน ฉันจะไม่มีวันลืมพวกเธอทุกคนเลย"

คิมเยซอลได้หยักหน้าอย่างซาบซึ้งให้กับเหล่าภูติที่อยู่กับเธอมาเป็นเวลานาน ในเวลาต่อมาสกิลข้ามมิติก็ทำงานสำเร็จและส่งทั้งสามคนไปสู่โลก

"อ่า เขากลับมาแล้ว!"

"อิลฮานนนน!"

คนที่เฝ้าคอยยูอิลฮานกลับมาต่างก็กรูกันเข้ามาต้อนรับเขาในคราวเดียว คนที่น่าตกใจที่สุดเลยก็คือนายูนา ในทันทีที่เธอสังเกตเห็นคิมเยซอลมากับเขา เธอก็ได้วิ่งเข้ามากอดแขนคิมเยซอลในทันที

"คุณแม่ หนูอยากเจอคุณแม่มานานแล้วววว~!"

"โอ้ นี่คงเป็นลูกสาวคนที่สองของแม่งั้นสินะ?"

"ใช่ค่ะ หนูเป็นลูกสาวคนที่สอง~!"

หลังจากได้ยินนายูนาตอบกลับมาโดยไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียวทำให้แม้แต่คิมเยซอลก็ยังเหงื่อตกออกมา

"แม่ไม่นึกเลยนักว่าหนูจะยอมรับมาตรงๆแบบไม่สนใจอะไรเลยแบบนี้ ลูกชายของแม่คนนี้มีพรดีจริงๆ"

"นั่นเพราะเขาเก่งไงล่ะคะ"

ระหว่างที่นายูนายิ้มออกมาอย่างหมดจดก็ได้มีออร่าเสน่ห์เปล่งทั่วร่างของเธอ นี่คือออร่าที่เกิดมาจากมานาของตัวเธอเองซึ่งมันทำให้ยูอิลฮานรู้ได้เลยในทันทีถึงเรื่องหนึ่ง

"ดูเหมือนว่าเธอจะได้คลาส 4 มาในเวลาสั้นๆสินะ"

"เฮะๆ เยี่ยมไปเลยใช่ม๊า?"

ตอนนี้นายูนาได้เต็มไปด้วยความมั่นใจ จากการที่เธอได้รับคลาส 4 มาทำให้ค่าสเตตัสและสกิลของเธอได้เปลื่ยนนไปอย่างมาก เพราะแบบนี้จึงไม่แปลกที่เธอจะมั่นใจมากขึ้น ยูอิลฮานได้ถามกับนายูนาที่กำลังมองมาที่เขาขึ้น

"ถ้างั้นเลเวลของเธอในตอนนี้ล่ะ?"

"หลังจากได้คลาส 4 มาก็พุ่งไปเลเวล 279 แล้ว~"

"โอ้ววว"

คนที่มีส่วนร่วมมากที่สุดในสงครามที่ดาเรย์รองมาจากยูอิลฮานนั้นไม่ใช่ทั้งเลียร่าหรือเอิลต้า แต่เป็นนายูนา เธอได้ใช้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในป้อมปราการทั้งแสงแห่งมอบพรให้กับทุกๆคนที่อยู่ในพื้นที่ ด้วยบัฟวงกว้างนี้ของเธอทำให้เธอได้รับค่าประสบการณ์มหาศาลจนเป็นรองแค่ยูอิลฮาน

หลังจากที่เธอได้รับคลาส 4 มาเธอไม่เพียงแต่จะได้รับคลาสรองมา แต่เลเวลเธอยังพุ่งพรวดไปอีก 79 เลเวลทำให้มานาของเธอเพิ่มขึ้นไปอย่างมหาศาล และเธอในตอนนี้สามารถจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ต่อให้เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงก็ยังต้องตกตะลึงได้แล้วด้วย

"คนบนโลกนี้นี่ไม่ธรรมเลยสักคนเดียว ทั้งอิลฮาน แล้วก็เธอนายูนา"

"ชมฉันอีกสิพี่สาว! ชมอีก"

"แต่ว่าตอนนี้ เธอจะต้องถูกลงโทษ"

"อ้ายยยยยยยยย"

หลังจากนายูนาเผยเจตนาออกมาเธอก็ถูกเลียร่ารังแกไปในทันที ทุกๆคนได้ปล่อยสองคนนี้เอาไว้โดนไม่สนใจใดๆทั้งนั้น การลงโทษของเลียร่านั้นดูโหดร้ายมากๆ แต่ว่าจากภายนอกทั้งสองคนดูสนิทกันมากๆ

"ฉันเอิลต้า ฉันเคยทักทายคุณในร่างอื่นมาก่อน แต่ว่าตอนนี้ฉันก็เป็นมนุษย์แล้วเหมือนกัน"

"โอ้ ลูกสาวคนที่สามหรอ?"

"ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูดอยู่ค่ะ"

ในขณะเดียวกันเอิลต้าก็ได้แนะนำตัวเองกับคิมเยซอล เธอทำตัวสงบมากซึ่งต่างไปจากนายูนาผู้โง่เง่า แต่ว่าเอิลต้าก็ไม่อาจจะหลอกคิมเยซอลได้อยู่ดี คิมเยซอลได้ยิ้้มมากยิ่งขึ้นเมื่อมองไปที่ดวงตาสีเขียวของเอิลต้า

"ไม่มีอะไรหรอกนะ นับจากนั้นฝากตัวด้วยนะจ๊ะ"

"...เหมือนกันค่ะ"

"แต่ว่าแม่จำได้ว่าแม่เคยเห็นทูตสวรรค์อีกคนอยู่นะ เธอไปไหนแล้วล่ะ?"

คิมเยซอลได้ทำให้บรรยากาศนิ่งไปในทันที เอิลต้าได้มองไปทางยูอิลฮานอยู่ครู่หนึ่ง และเขาก็ได้หยักหน้ามาอย่างไม่ลังเล เขาไม่อาจจะซ่อนอะไรจากแม่เขาได้เลย

"เธอตายไปแล้ว เธออยู่ในมุมมองที่ต่างไปจากเรา และหลังจากที่สู้กัน... ยูอิลฮานก็ได้ฆ่าเธอ"

"โอ้"

คำพูดตรงๆของเอิลต้าได้ทำให้คิมเยซอลพูดไม่ออกแม้แต่นิดเดียว นี่คือคำตอบที่แย่ที่สุดที่เธอได้ยินมา

"ถ้าคุณอยู่กับเราคุณจะต้องได้เจอกับเรื่องพวกนี้มากขึ้น ยูอิลฮานไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์และไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่คุณเคยคิดอีกแล้ว ฉันคิดว่าฉันน่าจะบอกคุณถึงเรื่องก่อนหน้านี้ด้วย"

"...แม่เข้าใจ หากลูกแม่ใจดีเกินไปลูกแม่ก็จะช่วยคนอื่นๆไม่ได้"

คิมเยซอลได้มองไปที่ลูกของเธอ ริมฝีปากของเธอได้ขยับราวกับจะพูดอะไรออกมา แต่แล้วเธอก็ได้แค่หยักหน้าให้เขาและพูดสั้นๆออกมา

"ลูกจำไว้ด้วยนะว่า เมื่อตัวตนเดิมลูกตายไปแล้วลูกจะย้อนกลับไปเป็นตัวตนเดิมไม่ได้แล้วนะ"

"ครับ ผมจะจำเอาไว้"

"ดีแล้วลูกแม่"

ทั้งสองคนได้คุยจบกันแค่เพียงเท่านั้น โลกของเขาได้กลายเป็นไร้ระเบียบไปแล้ว หากพวกเขายังมีความคิดแบบคนในศัตวรรษที่ 21 อยู่อีกพวกเขาก็จะเอาตัวรอดมาไม่ได้ ในตอนนี้การที่เขาทำแบบนี้คือดีที่สุดแล้ว

"สะ สวัสดีค่ะ! ฉันคือข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์เอริเซีย"

เอริเซียได้โผล่ขึ้นมาในทันทีที่พวกเขาคุยกันจบ หูสีเงินของเธอได้ถูกพับลงมาอย่างสุภาพ และเมื่อคิมเยซอลได้มองมาที่เธอทำให้ ดวงตาของคิมเยซอลเบิกกว้างขึ้น

"โอ้ ไม่ต้องสุภาพกับฉันขนาดนั้นก็ได้นะจ๊ะ..."

"มารดาของท่านจักรพรรดิ..."

จากการที่เอริเซียเป็นคนเริ่มต้นทำให้ สหายของยูอิลฮานและลูกน้องของเขาทั้งหมดก้มหัวให้กับคิมเยซอล ในที่สุดคิมเยซอลก็ได้เข้าใจว่าาลูกชายสุดโดดเดี่ยวของเธอได้เปลื่ยนไปมากๆแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่เธอตกใจมากที่สุดก็คือกองทัพมังกรที่มียูมิลเป็นผู้นำ

"โอ้วววว!"

"โอ้"

"พี่สาวคนสวยล่ะ"

"สวัสดีค่ะพี่สาว!"

"ดะ เด็ก เด็กน้อยน่ารักเต็มไปหมดเลย..."

คิมเยซอลรู้ว่าเด็กๆพวกนี้คือเด็กที่เกิดหลังจากมหาภัยพิบัติที่ยังรอดอยู่ แล้วก็ยังรู้ด้วยว่าเด็กๆคนพวกนิวไทป์จากที่ยูอิลฮานได้เล่าให้เธอฟัง เพราะแบบนี้ทำให้เธอไม่อาจจะมีความสุขกับสถานการณ์แบบนี้ได้เลย

มีกี่ชีวิตกันที่เสียไปกว่าที่จะเหลือมายืนอยู่ตรงนี้? พวกเด็กๆต้องทุกข์ทนลำบากมาขนาดไหนกัน? แค่จินตนาการถึงมันก็ทำให้เธอปวดใจแล้ว

"มานี่มา ทุกคนมาให้ฉันกอดคนล่ะทีสิ"

"เย้!"

"ว้าว!"

ยังไงก็ตามเมื่อเห็นเด็กอยู่ตรงหน้าเธอก็ไม่อาจจะร้องไห้ออกมาได้ ที่เธอทำได้ก็คือยิ้มอย่างสดใสที่สุดให้กับเด็กๆ เธอได้กอดเด็กๆทีล่ะคนจนครบ 8000 คนด้วยรอยยิม

"ทุกคนแข็งแกร่งแล้วก็กำลังมั่นใจกัน มิลคงพยายามอย่างหนักเลยสินะ"

"ครับคุณย่า ผมทำได้ดีเลยใช่ไหมครับ?"

"แน่นอนสิ หลานทำได้ดีมาก สมแล้วที่เป็นหลานย่า"

"ว้าว เธอคือย่าของฮีโร่ล่ะ!"

"น่าทึ่งจัง!"

เมื่อเด็กๆได้ยินว่าคนที่พวกเขาเพียงจะกอดไปมีสายเลือดเดียวกับยูมิลได้ทำให้เด็กยิ่งดีใจกันขึนไปอีก ยูอิลฮานได้มองฉากๆนี้อย่างโล่งใจที่สุด

แม้ว่าเด็กๆจะติดตามยูอิลฮานกับยูมิลมา แต่ว่าทางด้านอารมณ์แล้ทั้งสองคนนี้คือคนที่ไม่ปกติมากๆ บางทีคิมเยซอลอาจจะสามารถเติมเต็มช่องว่างที่เด็กๆขาดไปได้ก็ได้ เขาอย่างจะให้แม่ของเขาทำแบบนั้นได้จริงๆ

"ท่านยูอิลฮาน"

"ยูอิลฮาน"

เมื่อยูอิลฮานมองดูฉากอันน่าประทับใจนี้อยู่ คังฮาจินก็ได้เข้ามาหาเขา

"ตอนนี้นายคิดจะทำอะไรต่อล่ะ?"

"เราต้องไปหามิเรย์ นายคงต้องการคำตอบนี้สินะคังฮาจิน?"

"อ่า... ฉันขอโทษนะที่พูดเหมือนกับฉันเร่งนาย"

"ไม่เป็นไรหรอก เธอเป็นเพื่อนฉันเหมือนกัน ถึงฉันจะอยากสร้างอุปกรณ์เพราะมีวัตถุดิบเยอะแยะให้ใช้ก็เถอะนะ..."

ยูอิลฮานได้ตรวจดูสภาพของนาฬิกาทรายแห่งกาลเวลาในช่องเก็บของของเขา ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นมากมายและมันให้ความรู้สึกเหมือนสามเดือนได้ผ่านไปแล้วนับตั้งแต่ที่เขาได้เปิดใช้บาเรียไป แต่ว่าความเป็นจิรงคือยังผ่านไปไม่ได้สิบวันด้วยซ้ำไป

"ฉันยังมีเวลาไว้ให้ใช้ในนาฬิกาทรายแห่งกาลเวลาอยู่อีกตั้งเยอะ ในตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าถ้าฉันหย่อนยานจะเกิดหายนะขึ้นแน่ ตอนนี้ฉันต้องสนใจที่ผู้คนก่อน"

"...ขอบคุณนะ นายเป็นคนดีจริงๆ"

"ด้วยความยินดี ในกลุ่มเรานายมีก็แต่นายเนี้ยแหละที่เป็นคนมีคุณธรรม"

"นายก็รู้สินะ... ถึงคำว่าคุณธรรมนั่นจะฟังดูน่าเศร้ามากๆก็เถอะนะ..."

ทั้งสองคนได้ยิ้มแห้งๆให้กันและกัน จากนั้นก็หันไปทางอื่น

"ถ้างั้นเราก็ควรจะไปกันได้แล้วนะ"

"ฉันทนรอเห็นใบหน้าตกใจของมิเรย์ตอนเห็นหน้าเราไม่ไหวแล้ว"

ยูอิลฮานได้เดินไปที่คฤหาสน์ของเขา แต่จู่ๆเขาก็หยุดเดิน เลียร่า นายูนา คังฮาจิน เอลฟ์ หมาป่า รวมไปถึงกองทัพมังกรกับคิมเยซอลต่างก็กันมาสนใจที่ยูอิลฮานกันทุกคน

เขาได้พูดขึ้นมาว่า

"ก่อนไปเรามากินข้าวกันก่อนไหม?"

***

ลานปาสคือที่ที่เฟิ่งฟูไปด้วยอารยธรรมเวทย์ที่พัฒนาสูงกว่าโลกอื่นๆมากมาย และที่ศูนย์กลางเพลลาเดียวที่ตอนนี้กำลังเกิดบางอย่างที่เรียกได้ว่ากำลังเกิดการเปลื่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น

[คุณได้สร้างปาฏิหาริย์ที่ไม่น่าเชื่อขึ้นได้สำเร็จ คุณได้กลายเป็นผู้บุกเบิกพลังใหม่แห่งอคาชิค และคุณได้รับคุณสมบัติที่จะกลายเป็นคลาส 4]

[นับจากนี้คุณเป็นผู้บุกเบิกขอบเขตพลังลึกลับที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากคุณได้ผ่านความยากลำบากและประสบการณ์มาคุณจะไปถึงปลายทางไหน แต่ว่าเทพแห่งเวทมนต์จะอวยพรให้แกคุณ มานาทั้งหมดที่ใช้ลดลงครึ่งหนึ่ง และคุณจะสามารถฟื้นฟูมานาทั้งหมดที่ใช้ไปได้เดือนล่ะครั้ง]

"มะ มิเรย์"

จักรพรรินีแห่งอาณาจักรเออร์ม่าแอนอิลต้าได้พูดขึ้นมาด้วยเสียงสั่นเครือ แม้ว่าอายุเธอจะเกือบ 30 ไปแล้ว แต่ว่าใบหน้าของเธอก็ยังคงไร้ริ้วรอยๆใดๆ และมีเพียงแค่สีหน้าที่ตกตะลึงอยู่เท่านั้นในตอนนี้ ตัวเธอดูเหมือนกับอายุสิบขวบซะมากกว่าอีก

"เธอทำอะไรลงไปกัน?"

ประตูสีฟ้าฟางๆได้รอยอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง นี่คือสิ่งที่คังมิเรย์ได้สร้างขึ้น จากนั้นเธอได้พูดออกมาด้วยดวงตาเป็นประกายพร้อมรอยยิ้มบนริมฝีปาก

"ดูเหมือนตอนนี้ฉันจะไปหาอิลฮานได้แล้ว"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด