ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0210 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0212 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0211 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 211 : จักรวรรดิเทียนหลิง

ตั้งแต่ที่ฉินหยุนเข้ามาในเขตสาม บ่อยครั้งเขาจะได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ดังจากระยะไกล เขาต้องปรับความระแวดระวังถึงขั้นสูงสุด เป็นเพราะหากเมื่อใดที่รับรู้ตัวตนของสัตว์อสูร เขาจะได้ตอบสนองได้เร็วทันท่วงที

“ยันต์ค้นหาวิญญาณนี่มีปัญหาหรือเปล่า? ทิศทางที่ชี้ไปตอนนี้มันเขตสอง หรือพวกหยินเชิ่งเข้าไปอยู่ในเขตสอง?”

ฉินหยุนตอนนี้กำลังมองยันต์ค้นหาวิญญาณที่ค่อย ๆ ลอยไปยังส่วนลึกของเมืองอี้ เขาเกิดความลังเลว่าควรไล่ตามไปดีหรือไม่

“ถ้าเป็นตอนกลางคืนที่เราใช้พลังเงาได้ พวกสัตว์อสูรคงไม่มีทางหาตัวเราเจอ ต่อให้เขตสองมีสัตว์อสูรทรงพลังจำนวนมาก เราก็สามารถลอบเข้าไปได้โดยไม่ถูกพบเห็น”

ท้ายที่สุด ฉินหยุนตัดสินใจมุ่งหน้าสู่เขตสอง

ช่วงเวลากลางคืน เขาหลบซ่อนตัวตนในความมืดขณะมุ่งหน้าไปยังเขตสอง

เดิมเขาคิดอยากเข้าเขตสองอยู่แล้ว แต่หลังไปถึงเขตสาม บ่อยครั้งเขาได้พบสัตว์อสูรทรงพลังอยู่กันเป็นฝูง เพราะสัตว์อสูรในเขตสามยังทรงพลังเพียงนั้น เขาจึงลังเลไม่กล้าเข้าไปลึก

แต่พอตอนนี้พวกหยินเชิ่งอยู่ในเขตสอง เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเข้าไป

ไม่นานหลังฟ้าสาง ฉินหยุนปล่อยพลังจิตออก เขาสัมผัสได้ถึงออร่าสัตว์อสูรในบริเวณ มันเป็นสัตว์ระดับวิญญาณ!

“เราต้องรีบไปให้พ้นจากพื้นที่ฝูงสัตว์อสูรโดยเร็ว!”

เขาตัดสินใจใช้ทางอ้อม และเมื่อฟ้ามืด เขาจึงพบห้องใต้ดินแห่งหนึ่งเพื่อใช้หลบซ่อน

อย่างไรแล้ว เขาก็แค่ผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด ในช่วงกลางวัน เขาไม่อาจใช้พลังเงาได้ หากสัตว์อสูรพบเจอเขาเข้า มันจะเป็นเรื่องอันตรายเกินไป ดังนั้นช่วงระหว่างวันเขาจึงต้องหาสถานที่หลบซ่อนตัว

อาคารส่วนใหญ่ที่นี่จะมีห้องใต้ดินอยู่ลึกลงไป ส่วนใหญ่เอาไว้ใช้เก็บอาหาร ไวน์ และสินค้าอื่น มันจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะหาห้องใต้ดินเพื่อซ่อนตัว

ระหว่างช่วงกลางวัน ฉินหยุนหลบซ่อนในห้องใต้ดินและใช้เวลาไปกับการทำยันต์ขึ้นมา

ตอนนี้ยันต์ที่เขาจัดทำขึ้นล้วนเป็นยันต์หนังสัตว์ระดับสูง มีเพียงยันต์ระดับนี้จึงค่อยสามารถใช้รับมือกับสัตว์อสูรระดับเก้าได้

มันต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายามอย่างมากในการจัดทำยันต์หนังสัตว์ระดับสูงขึ้นสักแผ่นหนึ่ง

หลังฉินหยุนจัดทำยันต์ผ่านไปครึ่งวัน เขารู้สึกอ่อนแรงจนร่างกายเริ่มสั่น

ทว่า เขาหาได้สนใจไม่ เอาแต่ตั้งหน้าทำยันต์เพิ่มขึ้น กระทั่งว่าภายนอกมีการเคลื่อนไหว แต่ตอนนี้เป็นเวลากลางวัน การออกไปด้านนอกถือเป็นเรื่องอันตราย

ระหว่างช่วงกลางวัน ฉินหยุนไม่อาจปิดผนึกตัวตนได้โดยสมบูรณ์ หากเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง ผลลัพธ์ที่ได้คงมีแต่ความตายแล้ว

เมื่อฉินหยุนจัดทำยันต์สะกดกายระดับสูงเรียบร้อย ก็เป็นช่วงเวลากลางคืนพอดี

ตั้งแต่ช่วงกลางวันจนถึงตอนนี้ แรงสั่นสะเทือนบางเบาจะเกิดขึ้นไม่หยุด โดยเฉพาะกับตอนนี้ แรงสั่นสะเทือนยิ่งมายิ่งรุนแรง

“หรือไกลออกไปจะมีการต่อสู้ใหญ่โต แต่นี่ก็นานเกินไป หรือจะเป็นฝูงสัตว์อสูรสองฝ่ายต่อสู้กันเอง?” ฉินหยุนสำรวจยันต์สะกดกายระดับสูง หลังยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรจึงค่อยเก็บ

เขานำเอายันต์ค้นหาวิญญาณออกมา ทำการตรวจสอบตำแหน่งโดยคร่าวของหยินเชิ่งและออกเดินทางในทันที

กลางคืนฟ้ามืดสนิท ฉินหยุนเปรียบดั่งภูตผีในยามค่ำคืน ราวกับผู้กลืนหายในความมืด เขาสามารถปกปิดตัวตนได้อย่างสมบูรณ์ในความมืดขณะทะยานกายมุ่งตรงไป

“แปลก ยิ่งมายิ่งรู้สึกถึงแรงสั่นไหวของพื้นดิน หรือนี่เรากำลังเข้าใกล้สถานที่เกิดการปะทะ?” ฉินหยุนมองไปทางหมู่เมฆหนาบนท้องฟ้าขณะรู้สึกถึงสายลมพัด เขาเกิดความรู้สึกว่าหยินเชิ่งและคณะกำลังต่อสู้กับฝูงสัตว์อสูรอยู่

ในใจเขาเปี่ยมล้นด้วยความสงสัย ฝีเท้ายิ่งก้าวทะยานรวดเร็วขึ้นเพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทาง

ผ่านไปกว่าสี่ชั่วโมง เขาได้ยินเสียงร้องคำรามของสัตว์จากตรงหน้า ด้วยเหตุนี้จึงนำเอายันต์ค้นหาวิญญาณออกมา

ได้เห็นยันต์ค้นหาวิญญาณส่องแสง เขาพลันยินดี!

“เป็นมัน! หยินเชิ่งอยู่ตรงหน้า!”

ฉินหยุนเก็บยันต์ค้นหาวิญญาณขณะลดความเร็วลง เขาเพิ่มความระแวดระวังมากขึ้นขณะเข้าไปใกล้สมรภูมิรบตรงหน้า

ยิ่งเข้าใกล้ ก็ยิ่งได้เห็นร่องรอยการระเบิดฝุ่นฟุ้งกระจาย ทั้งยังมีออร่าอันแข็งแกร่งของสัตว์อสูร

ตรงหน้าเขา บริเวณศูนย์กลางของกลุ่มฝุ่นที่ตลบอบอวล มีแสงวูบไหวปรากฏขึ้นหลายต่อหลายครั้ง

“เป็นผู้ฝึกตนวรยุทธ์เต๋า และตรงนั้นก็มีอีกคน!” ฉินหยุนลอบตระหนก เขาไม่เคยคิดว่าหยินเชิ่งจะเรียกยอดฝีมือวรยุทธ์เต๋าหลายคนมารวมกันได้ เหตุนี้เขาจึงได้เข้าใจว่าทำไมหยินเชิ่งจงกล้าบุกถึงเขตสาม

ฉินหยุนชะลอฝีเท้าขณะนำเอายันต์ค้นหาวิญญาณออกมา ก็เหมือนเช่นทุกครั้ง มันบ่งชี้ไปยังทิศทางที่หยินเชิ่งอยู่

หลังจากยืนยันได้แล้ว เขาจึงเพิ่มความเร็วและความระวังมากขึ้น

อย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขาอยู่ในสมรภูมิรบตึงเครียดแล้ว

ที่แห่งนี้มีฝุ่นทรายกระจายฟุ้งทุกหนแห่ง ก้อนหินและเศษซากก็ปลิวกระจายทั่วทุกที่ เป็นสมรภูมิรบที่แสดงถึงความดุเดือด แต่เพราะเขาสามารถกลมกลืนกับความมืดจึงค่อยวางใจได้อยู่

“หน่วยของพวกมันอย่างน้อยน่าจะมีผู้ฝึกตนวรยุทธ์เต๋าสามคน น่าจะกำลังรับมือกับสัตว์อสูรระดับวิญญาณ ไม่อย่างนั้นแล้ว คงไม่เกิดความวุ่นวายขนาดนี้แน่”

ฉินหยุนครุ่นคิดขณะปล่อยพลังจิตออกไปตรวจหาออร่าของหยินเชิ่ง

ไม่ช้า เขาก็พบตำแหน่งของหยินเชิ่ง!

หยินเชิ่งและคณะบุคคลระดับแปดและเก้า ตอนนี้กำลังต่อสู้กับสัตว์อสูรคล้ายสุนัขอยู่

สัตว์อสูรสุนัขตัวนี้ลำตัวยาวราวสามเมตร ร่างปกคลุมด้วยเกราะหนังยาวหลายเมตร หางหนาและใหญ่ มันโบกสะบัดคล้ายสามารถโจมตีได้อย่างอิสระ

อย่างกะทันหัน สัตว์อสูรสุนัขพลันสะบัดหาง พร้อมกับมีหนามจำนวนมากพุ่งออกมา!

หนามเหล่านี้เปี่ยมไปด้วยพลังแอบแฝง หลังถูกยิงออก มันเกิดการระเบิดขึ้น!

ตู้ม!

เพียงพริบตา สิ่งปลูกสร้างหลายแห่งใกล้เคียงพังทลาย ยิ่งมายิ่งมีกลุ่มฝุ่นหนาแน่น

หยินเชิ่งขับไล่กลุ่มฝุ่นทรายด้วยยันต์วายุให้พัดหายไปกับอากาศ จากนั้น สัตว์อสูรสุนัขจึงเผยเขี้ยวเล็บออกพุ่งทะยานอย่างดุดัน

ฉินหยุนกำยันต์สะกดกายไว้แน่นในมือ แต่เขายังไม่คิดลงมือ!

เขาไม่มั่นใจมากพอว่าตนสามารถทำสำเร็จ และกังวลว่าผู้อื่นที่อยู่ร่วมด้วยจะพบเห็นตัวเองเข้า

สัตว์อสูรสุนัขเป็นสัตว์อสูรระดับเก้า ดังนั้นแล้วสัมผัสด้านกลิ่นของมันจึงดีเยี่ยม หากต้องตกเป็นเป้าหมายย่อมไม่ใช่เรื่องดี!

ตอนนี้ เขายังหาโอกาสให้ลงมือเหมาะเจาะไม่ได้ ดังนั้นจึงได้แต่สังเกตการณ์ไปก่อน

ฉินหยุน ผู้ซึ่งเฝ้าสังเกตการณ์อย่างระมัดระวัง ฉับพลันสัมผัสได้ว่ามีคนเข้ามาใกล้ เขาตระหนกขณะมองไปยังทิศทางที่ออร่าใกล้เข้ามา เป็นเด็กหนุ่มสวมใส่ชุดเกราะสีเงิน

ฉินหยุนใช้พลังเงาปิดซ่อนตัวตนในความมืด แต่แล้วตอนนี้ เขารู้สึกว่าตนถูกพบเจอตัวเข้าแล้ว เพราะเหตุนี้เขาจึงตื่นตัวขึ้นมา

อีกฝ่ายน่าจะอายุราวยี่สิบ ร่างกายสวมใส่ชุดเกราะสีเงิน ระดับการฝึกฝนคือขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด มีเพียงเหตุผลเดียวที่ชายคนนี้ปรากฏตัวที่นี่ อีกฝ่ายย่อมต้องเป็นผู้ร่วมหน่วยของหยินเชิ่ง และตัวตนต้องไม่น้อยหน้าผู้ใดอย่างแน่นอน

“วิญญาณสัตว์ร้าย?” หลังจากชายชุดเกราะสีเงินกล่าวเช่นนั้น เขาจึงโยนตาข่ายแสงสีทองเข้าใส่ฉินหยุน

ฉินหยุนสะดุ้ง เขาไม่คิดว่าชายในชุดเกราะสีเงินจะพบเจอตัวเขาเข้าจริง นอกจากนี้แล้ว ตาข่ายที่โยนออกมายังเป็นอุปกรณ์วิญญาณที่ค่อนข้างดีเสียด้วย

แม้เขาหลบได้ในครั้งแรก ตาข่ายนี้กลับแปลกประหลาดนัก มันไม่ใหญ่ แต่เมื่อมันใกล้ถึงตัว ขนาดมันกลับใหญ่ยิ่งทั้งยังปลดปล่อยม่านพลังได้

ฉินหยุนที่หลบไปนับร้อยเมตรยังติดกับ!

หลังโดนจับได้ ตาข่ายนี้หดตัวลงและปลดปล่อยสายฟ้าออก

“แม่ทัพหยิน เข้าจับปลาได้ตัวหนึ่ง ฮ่าฮ่าฮ่า!” ชายในชุดเกราะหัวเราะดัง

“องค์ชาย เหตุใดท่านจึงออกมา? ที่นี่อันตรายเกินไป!” ด้วยสีหน้าเปี่ยมด้วยความกังวล หยินเชิ่งเร่งรีบทะยานกายมา “ข้าจะพาท่านออกจากที่นี่ก่อน”

ชายชุดเกราะสีเงินผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นองค์ชายรัชทายาทแห่งจักวรรดิเทียนหลิง หลิงหยวน!

ใบหน้าอหังการของหลิงหยวนเปี่ยมด้วยความไม่ชอบใจ เขาคว้าตาข่ายเอาไว้ลากฉินหยุนเดินตามหยินเชิ่งออกจากสมรภูมิรบ

หลังจากฉินหยุนโดนจับตัวไว้ได้ เขาโดนพลังไฟฟ้าเล่นงานไปไม่ใช่น้อย แต่ด้วยเพราะพลังธาตุตะวันทมิฬ เขาจึงสามารถปลดปล่อยพลังแยกสลายสายฟ้าให้มันอ่อนแรงลงได้

หลังจากหยินเชิ่งออกพ้นจากสมรภูมิรบพร้อมหลิงหยวน เขาเอ่ยเตือน “องค์ชาย พวกเราให้สัญญาต่อฝ่าบาทว่าพวกเราพาท่านมาที่นี่ แต่ท่านต้องให้ความร่วมมือกับพวกเราด้วย โดยการอยู่ให้ห่างจากสมรภูมิรบเพื่อความปลอดภัย”

หลิงหยวนโยนคนที่ตนจับได้ลงกับพื้นขณะหัวเราะ “ดู ข้าจับอะไรได้กันนะ? เหมือนจะเป็นคนเสียด้วย!”

ฉินหยุนที่โดนจับตัวได้ พลังเงาจึงไม่ทำงาน ตัวตนเขาถูกเปิดเผย

เมื่อหยินเชิ่งได้เห็นใบหน้าฉินหยุน ใบหน้านี้พลันเปี่ยมด้วยความตกตะลึง ถัดจากนั้น ความโกรธฉายชัดที่ใบหน้าตะโกนกล่าว “เป็นมัน! เป็นมันนี่เอง! พวกมันทำให้พวกเราโดนฝูงหมาป่าโจมตี ทำให้เราเสียคนไปมาก!”

ถัดจากนั้น หยินเชิ่งจึงเตะเข้าใส่ใบหน้าฉินหยุนคราหนึ่ง ทั้งยังสบถถ่มถุยออก “องค์ชายขอรับ ท่านวิเศษยิ่งนัก ไอ้สารเลวน้อยนี้ที่ท่านจับตัวมันได้ พวกเราค้นหามันมานานยิ่งแล้ว!”

หลิงหยวนสำรวจมองใบหน้าฉินหยุนก่อนกล่าวตื่นตกใจไม่น้อย “มัน... มันเป็นฉินหยุน! ข้าเคยเห็นภาพของมันมาก่อน เป็นฉินหยุน!”

หยินเชิ่งมึนงงไปวูบ เขาไม่เคยคิดว่าฉินหยุนที่มีชื่อเสียงผู้นั้นจะปรากฏแก่สายตาตรงหน้า!

“ดีมาก วิเศษมาก! ฮ่าฮ่าฮ่า” หลิงหยวนหัวเราะออก “ตราบเท่าที่ข้าสังหารฉินหยุนได้ ชื่อเสียงข้าจะลือไกล! พวกเรามาที่นี่โดยไม่สูญเปล่าแล้ว เรื่องนี้จะยิ่งขจรความกล้าแกร่งของจักรวรรดิเทียนหลิงของเรา!”

เมื่อหยินเชิ่งได้ยินดังนี้ เขาหัวเราะรับคำก่อนเตะใส่ร่างฉินหยุนอีกครั้งหนึ่ง “เจ้ามองหาอะไร? องค์ชายรัชทายาทแห่งเทียนหลิงของเรา คือหลานชายของผู้นำสถาบันยุทธ์หลิงเสวียนอย่างไรเล่า!”

ฉินหยุนมองที่หยินเชิ่ง ดวงตาเปี่ยมด้วยจิตสังหาร เป็นไอ้สารเลวผู้นี้ที่เกือบฆ่าเมิ่งเฟยหลิงและพี่สะใภ้หลี่

เมื่อนึกถึงเมิ่งเฟยหลิงที่อ่อนแรงและได้รับบาดเจ็บ ความโกรธของเขายิ่งสุมรุนแรง!

“ฮ่าฮ่าฮ่า องค์ชายที่แข็งแกร่งที่สุดงั้นหรือ? แล้วยังแต่งกับเชี่ยวเย่ว์หลานแล้วด้วย? ตอนนี้มันตกอยู่ในมือข้า ไม่เห็นต่างอะไรกับขยะเปียกชิ้นหนึ่ง!” หลิงหยวนหัวเราะออกจากใจขณะเตะเข้าใส่ฉินหยุนอย่างไม่ยั้งเท้า

การทรมานร่างกายอัจฉริยะที่ผู้คนกล่าวขาน ยิ่งทำให้หลิงหยวนรู้สึกถึงความเหนือกว่า ยิ่งมาเขายิ่งคิดว่าตนเองคือผู้ยิ่งใหญ่ใต้หล้า!

“อย่าได้ใจไป!” ฉินหยุนคำรามโกรธแค้นปล่อยยันต์อัคคีออก จุดขึ้นซึ่งเปลวเพลิงเผาผลาญ

“ฮ่าฮ่าฮ่า ยันต์อัคคีโสโครกของเจ้าเผาอุปกรณ์วิญญาณระดับสูงของข้าไม่ได้หรอก!” หลิงหยวนหัวเราะดังขึ้นขณะดับไฟด้วยฝ่ามือ

หยินเชิ่งรับชมจากด้านข้าง ยิ่งนึกสนุกร่วมเตะฉินหยุนยกใหญ่

ฉินหยุนอดทนต่อความเจ็บปวด เขากำลังตั้งสมาธิไปที่กระบี่ของตอนซึ่งหล่นอยู่ไม่ไกล!

เมื่อครู่ตอนเรียกใช้ยันต์อัคคี เขาปล่อยกระบี่ออกไปด้วยพลังจิต โดยใช้แสงของไฟที่ปะทุทำให้พวกมันไม่อาจพบเห็น

“องค์ชายรัชทายาทแห่งเทียนหลิงแล้วยังไง? คิดลองดีกับข้า ดูตัวอย่างชี่อวี้กับฉินเจิ้งเฟิงไว้!”

ฉินหยุนมองที่ใบหน้าของหลิงหยวนซึ่งกำลังหัวเราะขณะกัดฟันกรอด เขากำลังใช้เคล็ดวิชาเทวะควบคุมโดยใช้พลังจิตทั้งหมดควบคุมกระบี่ให้ลอยมา

หยินเชิ่งพลันพบเห็น คิดหมุนตัวรวดเร็วแต่ก็ไม่ทันการ!

กระบี่หมุนควง พาดผ่านลำคอของหลิงหยวนปลิดปลงศีรษะอีกฝ่ายร่วงหล่น!

เมื่อหยินเชิ่งได้เห็นศีรษะองค์ชายตนเองกลิ้งกับพื้น ขาทั้งสองไร้สิ้นเรี่ยวแรง เขาแทบล้มลงกับพื้น

องค์ชายรัชทายาทแห่งจักรวรรดิเทียนหลิงดับดิ้นแล้ว!

หลิงหยวนมีประสาทสัมผัสดีเยี่ยม เพราะแบบนั้นเขาจึงรู้ถึงฉินหยุนที่ใช้พลังเงาก่อนหน้านี้ได้

แต่แล้ว เป็นเขาได้ใจจนเกินไปจึงเตะใส่ฉินหยุนอย่างไม่ยั้งเท้า นอกจากนี้เพราะหยินเชิ่งอยู่ข้างกาย เขาจึงหย่อนความระวังโดยไม่ทันรู้ตัวถึงกระบี่บินที่มาจากด้านหลัง

เมื่อหลิงหยวนไม่อยู่ควบคุมตาข่าย ฉินหยุนเป็นอิสระ เขาขว้างยันต์สะกดกายออกไปเพื่อสะกดหยินเชิ่งให้ไม่อาจขยับ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด