ตอนที่แล้วตอนที่ 33 ได้รับมาแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 35 ความลี้ลับของศักยภาพ

ตอนที่ 34 บันทึกพันธุกรรม


ปริมาณของเหลวในแต่ละขวดมีไม่เยอะ

ดังนั้น 41 ขวดจึงใส่เพียงถุงเล็กๆเท่านั้น

เฟิงหลินประสบความสำเร็จในเอาของทั้งหมดเข้าบ้านโดยไม่ดึงความสนใจใดๆ

ตอนที่เขาถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว

พ่อแม่ของเฟิงหลินยุ่งตลอดทั้งวัน และเข้านอนพร้อมน้องชายและน้องสาวของเขาแล้ว

เฟิงหลินค่อยๆเดิน ไม่เสียงดังทำให้ทุกคนตื่น เข้าไปที่ห้องมืดๆของเขาอย่างเงียบๆแม้เขาจะเสียพลังงานไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดื่มยาแห่งชีวิตในทันที

นั่นเป็นเขายังไม่ย่อยยาสารอาหารเทพเขียวประเภท3ที่เขากินไปก่อนหน้านี้

ถ้าเขาได้รับสารอาหารมากเกินไปในคราวเดียว มันจะไม่ดีสำหรับการย่อยอาหารของเขา

เขาเปิดบันทึกการวิจัยของนักวิจัยพันธุกรรมและเริ่มอ่าน

นี่เป็นยุคสมัยดวงดาว และบันทึกจะไม่มีลักษณะล้าสมัยเหมือนบันทึกที่เขียนด้วยลายมือ แต่เป็นการบันทึกที่เก็บไว้ในไมโครชิปแทน

ไมโครชิปเปล่งแสงประกายและภาพฉายสามมิติออกมา มีร่างมนุษย์ที่สวมเสื้อคลุมสีขาวยืนอยู่ในห้องที่คล้ายกับห้องทดลองเคมี เขาถือหลอดทดลองอยู่ในมือราวกับกำลังพยายามผสมอะไรบางอย่าง

ของเหลวสีแดงคล้ายเลือดปล่อยความร้อนออกมาเหมือนแม็กม่า

บูม!

ทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้น ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรผิดปกติและยาระเบิดอย่างกะทันหัน ทำให้หลอดทดลองระเบิดกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย

ชายในชุดคลุมสีขาวดูเหมือนจะคาดเดาไว้แล้ว เขาหลบอย่างเร็วและไม่ได้รับอันตรายใดๆ

อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถปกปิดความผิดหวังบนใบหน้าเอาไว้ได้ เขามองไปที่กล้องแล้วพูดช้าๆว่า "วันนี้คือปี 9982(ปฏิทินดาราศาสตร์) วันที่: 17 มีนาคม การผสมยาสารอาหารในเลือดล้มเหลวอีกครั้ง! ฉันจำไม่ได้ว่าฉันทำพลาดมากี่ครั้งแล้ว มันคือ100ครั้ง?หรือ300ครั้ง?หรือ1,000ครั้ง?ฉันสับสนนิดหน่อย แต่ฉันต้องทดลองต่อไป การปรุงยาอย่างไม่หยุดหย่อนจึงจะกลายเป็นนักพันธุศาสตร์ที่แท้จริง นี่คือความฝันของฉัน ฉันจะยอมแพ้ไม่ได้ ... "

ชายคนนี้เริ่มวุ่นวายอีกครั้ง หลังจากเขาพูดเสร็จ เขายังคงปรุงยาสีแดงนั้น จากนั้นก็ล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่างไรก็ตามเขาไม่ยอมแพ้

ฉากยังคงฉายต่อไป พวกเขาบันทึกเสียงการค้นคว้าพันธุศาสตร์ทั้งหมด

เฟิงหลินดูการบันทึกอย่างจริงจังและสรุปใจความสำคัญในบางสถานการณ์เกี่ยวกับนักพันธุศาสตร์

นักพันธุศาสตร์ถลำลึกลงไปในการวิจัยทฤษฎีพันธุศาสตร์ พวกเขาจะใช้พื้นฐานของพวกมันในการสร้างและพัฒนาทรัพยากรการบ่มเพาะที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ซึ่งจะแบ่งออกเป็นความรู้หลายประเภท

นักพันธุศาสตร์บางคนมีความเชี่ยวชาญในการปรุงยาเสริมพลังบ่มเพาะ และเป็นที่รู้จักในฐานะเภสัชกรทางพันธุกรรม มีผู้ที่พัฒนาชุดยีนที่ผสมผสานกับยีนมนุษย์เพื่อปลดปล่อยพลังไร้เทียมทาน คนเหล่านี้ถูกเรียกว่าผู้สร้างเกราะพันธุกรรม....

แม้พวกเขาจะเป็นนักพันธุศาสตร์เหมือนกันหมด แต่ความแตกต่างด้านความรู้นั้นต่างกันมาก

ชายคนนี้ชื่อ’ไอรอส ลินคอน’ เขาเป็นนักวิจัยในสาขายาพันธุกรรม และเด่นเรื่องการผสม

ยา สมบัติ ชุดยีน วิชายุทธ์ ... ทรัพยากรบ่มเพาะทั้งหมดเหล่านี้ถูกแยกออกเป็นระดับต่างๆ ได้แก่ ระดับต่ำ ระดับกลาง ระดับสูง และระดับสูงสุด

ผู้สามารถปรุงยาระดับต่ำได้จึงจะถือว่าเป็นนักพันธุศาสตร์ที่แท้จริง ยาสารอาหารเลือดเดือดเป็นหนึ่งในนั้น

หลังจากทานยานี้ เลือดของผู้ใช้จะเดือด และผลจากยาจะกระตุ้นศักยภาพทางพันธุศาสตร์ของตนทันที ปลดปล่อยพลังที่เหนือล้ำกว่าเดิมถึง50%

ข้อเสียคือผลของยาสามารถอยู่ได้เพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น หลังจากนั้นมันจะทำให้คนๆนั้นเสียทั้งเลือดและพลังงาน ที่สำคัญพวกเขาจะอ่อนแอตลอดทั้งเดือน ยานี้ไม่ควรใช้หากไม่ใช่ช่วงเวลาวิกฤติจริงๆ

แม้กระนั้น ความต้องการสำหรับยาเลือดเดือดก็ยังสูงมาก

ด้วยยาเช่นนี้ มันก็เหมือนกับได้รับชีวิตเพิ่มหนึ่งชีวิต ใครจะไม่ต้องการ?

ยาแห่งชีวิตที่เฟิงหลินซื้อมานั้นเป็นยาที่ไม่มีระดับชัดเจน มันเป็นเพียงผลพลอยได้เมื่อเภสัชกรพันธุศาสตร์ปรุงยาระดับกลางที่เรียกว่าเลือดเทพ

เมื่อเห็นสิ่งนี้เฟิงหลินก็มีความมั่นใจมากขึ้นในความคิดที่อยากจะเป็นนักพันธุศาสตร์

เพียงผลพลอยก็มีมูลค่าสูงแล้ว ถ้าเขาสามารถสร้างยาทางพันธุกรรมที่แท้จริงได้ มูลค่าของมันจะประเมินค่าไม่ได้

มีเนื้อหาจำนวนมากในชุดบันทึกนี้ และสิ่งที่มีค่าที่สุดคือยาพันธุกรรมสามประเภทที่บันทึกไว้ในนั้น – ยาเลือดเดือด ยาเพิ่มความแข็งแกร่ง และยาแปรสภาพ

น่าเสียดายที่ราคาของอุปกรณ์ และส่วนผสมที่จำเป็นสำหรับยาพันธุกรรมเหล่านี้แพงเกินไป ไม่ใช่สิ่งที่เฟิงหลินสามารถจ่ายได้

ตอนนี้เฟิงหลินกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ว่ามีขุมทรัพย์ แต่ไม่สามารถเข้าไปเอาได้ เขารู้สึกเสียใจอย่างมากจากนั้นเขาก็ตรวจดูบันทึกย่ออย่างละเอียดและพบจุดที่เป็นประโยชน์อย่างมาก

มันเป็นกุญแจสำคัญในการบริโภคยาแห่งชีวิต

คนธรรมดาไม่สามารถรับยาแห่งชีวิตได้ เพราะยาจะทำให้ร่างกายระเบิด อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งที่แน่นอน ถ้าถูกเจือจางคนธรรมดาก็จะสามารถดื่ม

อย่างไรก็ตามยาแห่งชีวิตจะต้องไม่ถูกเจือจางด้วยน้ำ แต่ต้องเจือจางด้วยสารอาหารเหลว

สารอาหารเหลวทั่วไปจะมีเทคนิคการผสมแบบง่ายๆ เป็นการผสมระหว่างธรรมชาติและความสมบูรณ์แบบ

ตราบใดที่ยาแห่งชีวิตเจือจางลงจากสารอาหาร คนธรรมดาก็จะสามารถบริโภคได้

อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยของเหลวทางพันธุกรรมจะต้องเป็นสารอาหารเหลวระดับกลาง สารอาหารเกรดเริ่มต้นนั้นด้อยคุณภาพและมีสิ่งสกปรกมากเกินไป หากทั้งสองรวมกันจะเกิดปฏิกิริยาที่คาดเดาไม่ได้เกิดขึ้นแทน อาจมีผลข้างเคียงหลังจากบริโภคและอาจทำให้เกิดอันตรายต่อเขาหรือเธอได้

"อืมม?" เฟิงหลินเพิ่งจะนึกได้ว่าเขาไม่เพียงแต่ได้เหรียญดารากว่า100,000เหรียญจากคล็อตและลูกน้อง แต่เขายังได้รับสารอาหารมาอีก 20 ขวดด้วย เขาสามารถลองกับพวกนั้นได้

เขาหยิบสารอาหารเหลวระดับกลางออกมาหนึ่งขวด มันมีกลิ่นหอมอ่อนๆออกมาเมื่อเขาเปิดฝา มีกลิ่นของผักและผลไม้ทำให้เกิดความอยากอาหารมาก

จากนั้นเขาก็นำขวดยาแห่งชีวิตออกมาอย่างระมัดระวัง ยานี้มีสีอำพันและอยู่ในสภาพแข็งเล็กน้อยเหมือนวุ้น มันดูลึกลับมากและมีกลิ่นที่หอมหวนมาก

แค่เล็กน้อยก็พอให้เฟิงหลินรู้สึกว่าเส้นเลือดหลักทั้งแปดเขาถูกชะล้าง แม้กระทั่งอวัยวะภายในและนอกก็ยังดูเหมือนได้รับการชะล้าง

เขาหยดหยดยาแห่งชีวิตลงในสารอาหารเหลวระดับกลางอย่างระวัง ทั้งสองรวมกันอย่างกลมกลืนเหมือนนมกับน้ำ

"มันได้ผลจริงๆ!" เฟิงหลินร่าเริงและดื่มมัน

ในขณะที่สารอาหารเหลวไหลเข้าสู่ร่างกาย ก็เกิดเป็นคลื่นร้อนพุ่งผ่านร่างกาย ปล่อยความร้อนในไปทั่วตัวเขา

เซลล์แต่ละเซลล์ในร่างกายของเขาบิดตัวไปมาอย่างบ้าคลั่ง และดูดซับสารอาหารเช่นเดียวกับทะเลทรายแห้งแล้งที่เจอฝนตกหนัก

ความรู้สึกนี้ไม่เลวเลย!

เฟิงหลินเลียริมฝีปากเพราะอยากดื่มมากกว่านี้ นอกเหนือจากนั้นไม่มีอะไรแตกต่างเป็นพิเศษ

เฟิงหลินส่ายหัว แม้ว่าผลของการผสมสารอาหารนี้จะไม่เลว แต่มันก็ไม่ได้มีผลต่อเขามากนัก

ท้ายที่สุดพลังของเขาอยู่ที่1.9  เขาใช้พลังชีวิตส่วนเกินไปมากก่อนหน้านี้และต้องการสิ่งที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีกว่านี้

"นั่นใครน่ะ?" ทันใดนั้นเฟิงหลินก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดูเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังสอดแนมเขา

"อ่า! อ่า!" เสียงแหลมติดต่อกันสองครั้งดังขึ้น ราวกับตกใจที่เฟิงหลินสังเกตเห็น ร่างเล็กสองคนในชุดนอนตกใจและล้มลงกับพื้น ไม่กล้าหายใจเสียงดัง

เฟิงหลินมองอย่างระวัง และรู้ว่านั่นคือน้องชายเขาเฟิงเฉิน และน้องสาวของเขาเฟิงซิน

เขาผ่อนคลายและยิ้มอย่างอบอุ่น "ทำไมทั้งสองคนถึงได้มาอยู่ตรงนี้?"

เด็กทั้งสองคนที่กลัวสายตาของเฟิงหลินมองดูเขา และพูดพึมพำว่า "เราได้กลิ่นหอม ... แล้วจากนั้น ... และจากนั้นเราก็ตื่น!"

ใบหน้าของทั้งคู่เป็นสีเหลืองจากการขาดสารอาหาร ตอนนี้ตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่สารอาหารเหลวเกรดกลางในมือของเฟิงหลิน และกลืนน้ำลาย

พวกเขาตื่นขึ้นเพราะกลิ่นของสารอาหารเหลว?

เฟิงหลินมองและยิ้มและกวักมือเรียกพวกเขา

น้องที่อายุน้อยกว่าของเขาเดินมาอย่างระวัง

เฟิงหลินเทสารอาหารเกรดกลางลงในขวด "นี่!"

"นี่ของพวกเรางั้นหรอ?" เด็กสองคนไม่อยากเชื่อสิ่งนี้ เพราะพวกเขาแสดงออกถึงความต้องการอย่างมาก แม้ว่าพวกเขาจะต้องการดื่มจริงๆ พวกเขาก็ยังคงส่ายหัวและส่งคืนให้อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นพวกเขาก็พูดว่า "พี่ชาย พี่ไม่ต้องดื่มหรอคะ? นี่เป็นสารอาหารระดับกลาง ถ้าพี่ดื่มอาจจะได้รับการพัฒนาและสามารถสอบเข้าวิทยาลัยได้!"

ความรู้สึกอบอุ่นเพิ่มขึ้นในหัวใจของเฟิงหลินในขณะที่เขาลูบผมสีเหลืองของน้องทั้งสองซึ่งทำให้เขานึกถึงพื้นหญ้า เขายิ้มและพูดว่า "พี่ดื่มแล้วล่ะ เพราะงั้นน้องสามารถดื่มได้!"

"จริงๆหรอคะ/ครับ?" พวกเขาสองคนมองเฟิงหลินอย่างสงสัย

เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินพยักหน้า ทั้งเฟิงเฉินและเฟิงซินต่างก็ยังเป็นเด็กอยู่ และไม่สามารถต้านทานการล่อลวงได้ พวกเขาคว้าสารอาหารเหลวแล้วจิ้มกินอย่างช้าๆ พร้อมยิ้มอย่างมีความสุข

พวกเขาเลียรสชาติที่เหลือตามมุมปากเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆที่ได้ดื่มหลังจากคอแห้งในทะเลทรายมายาวนาน

เฟิงหลินยิ้ม

การเป็นมนุษย์ในช่วงชีวิตที่สอง เขาได้รับชีวิตใหม่และครอบครัวใหม่ ...

การได้กินและได้ดื่มเพื่อเติมเต็มความสุขคือวิธีที่ง่ายที่สุด!

เขาสาบานกับตัวเองว่าจะปกป้องช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ตราบเท่าที่เขาทำได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด