ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0209 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0211 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0210 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมเวทอหังการ

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 210 : เพียงลำพัง

อย่างรวดเร็ว ฉินหยุนสำเร็จการขัดเกลายันต์ค้นหาวิญญาณ หลังเรียกใช้งาน ยันต์ค้นหาวิญญาณจึงลอยขึ้นพร้อมปล่อยแสงชี้นำสู่ทิศทาง

“ทางนั้นสินะ!”

หลังเก็บยันต์ค้นหาวิญญาณ โดยทันที เขาออกเดินทางมุ่งหน้าผ่านบริเวณซากปรักหักพัง

“ดูเหมือนที่เขตสี่จะไม่ค่อยมีสัตว์อสูรสักเท่าไหร่ สงสัยนักว่าเขตสามจะเป็นอย่างไร?” หลังจากฉินหยุนออกพ้นบริเวณซากปรักหักพังของอาคาร เขาระมัดระวังตัวขณะวิ่งไปตามถนนที่ว่างเปล่า

ในช่วงกลางวัน เขาจะหลบซ่อนตัวเองในบ้านร้างและขัดเกลายันต์หนังสัตว์ขึ้นมา

“ยันต์สะกดกายเป็นอะไรที่ใช้งานได้ง่าย สงสัยนักว่าต้องใช้ยันต์ระดับใดจึงสามารถสะกดสัตว์อสูรระดับที่แปดลงได้?” ฉินหยุนตอนนี้กำลังพยายามทำยันต์หนังสัตว์ระดับกลางขึ้นมา

เพื่อให้ยันต์สะกดกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น เขาจึงแกะสลักผังสะกดกายและผังเสริมพลังขึ้นบนแผ่นหนังสัตว์

“ดูเหมือนเราจะเริ่มทำยันต์ระดับสูงได้แล้ว!”

ฉินหยุนตอนนี้ทำได้เพียงยันต์หนังสัตว์ระดับกลาง เขาติดอยู่ตรงนี้ เพราะหากต้องการสร้างยันต์ระดับสูง เขาจำเป็นต้องใช้หนังสัตว์ระดับเก้า

หลังจัดการสร้างยันต์หนังสัตว์เรียบร้อย เขาจึงใส่วัชระพลังภายในเข้าไป ด้วยวิธีการนี้จะทำให้ยันต์หนังสัตว์อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานที่สุด

ยามเมื่อจัดทำยันต์หนังสัตว์ ตั้งแต่แรกเริ่มเขาได้จัดเตรียมหนังสัตว์ที่ผ่านการใส่พลังภายในเอาไว้ และตอนนี้การใส่วัชระพลังภายในคือดีที่สุด หนังสัตว์ที่หยางฉีเย่ว์ช่วยเขาจัดทำขึ้น ถือว่าดีที่สุดเท่าที่เขาเคยครอบครอง

หลังจัดการเรียบร้อย เขาจึงผสานวัชระกำลังภายในและปล่อยให้ยันต์หนังสัตว์รวบรวมพลังจนเพียงพอ ด้วยวิธีการนี้ พลังของผังวิญญาณจะแข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อเรียกใช้ยันต์

กล่าวได้ว่ายันต์หนังสัตว์ระดับกลางที่ฉินหยุนสร้างขึ้น มีคุณภาพดีเยี่ยม

เพื่อให้มั่นใจว่ายันต์หนังสัตว์มีคุณภาพสูงสุด ฉินหยุนจำเป็นต้องใช้เวลาครึ่งวันกว่าจะได้จัดทำได้แผ่นหนึ่ง อย่างไรแล้วทั้งหมดนี่จะเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตเขายามคับขัน

เพราะไม่มีสหายร่วมด้วย เขาไม่อาจจัดการสัตว์อสูรระดับแปดได้ง่ายอย่างที่เคย

ห้าวันผ่านไป

ยามฟ้ามืดฉินหยุนจะรีบเดินทาง ด้วยการชี้นำของยันต์ค้นหาวิญญาณ เขากำลังเข้าไปในเขตที่สามแล้ว!

“หยินเชิ่งอยู่เขตสามหรือ? คงได้เจอสหายในพื้นที่ไม่น้อย!” แม้ฉินหยุนไม่รู้เรื่องของเขตสาม แต่เขาทราบได้ว่าเป็นเขตสามก็เพราะบ้านที่ดูดีกว่า และพลังวิญญาณที่หนาแน่นกว่า

ยามค่ำคืน เมืองอี้แห่งนี้จะมีแสงอ่อนจางของดวงดาวและดวงจันทราสาดส่อง เรื่องนี้ไม่ได้เป็นผลต่อฉินหยุนที่สามารถกลมกลืนกับความมืดแต่อย่างใด

ตู้ม!

อย่างกะทันหัน เสียงดังสนั่นดังจากระยะไกล เป็นผลให้ฉินหยุนหันควับมองอย่างแตกตื่น

“หยินเชิ่งน่าจะอยู่ทางนั้น! ถ้ามันกำลังรับมือสัตว์อสูร เราน่าจะหาโอกาสฉกฉวยช่วงชุลมุนโจมตีมันได้” เป็นเวลาครึ่งวันตั้งแต่ฉินหยุนเข้าถึงเขตสาม เขาไม่ได้พบสัตว์อสูรใดแม้สักตัว ทว่า เขตสามค่อนข้างใหญ่ ดังนั้นจะต้องมีฝูงสัตว์อสูรซ่อนตัวอยู่อย่างแน่นอน

ฉินหยุนระมัดระวังขณะลอบเข้าไปใกล้พื้นที่ซึ่งกำลังเกิดการปะทะ

เมื่อเข้าใกล้ได้มากพอ เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงออร่าพลังภายในของหยินเชิ่ง นอกจากหยินเชิ่งแล้ว ยังมีอีกเจ็ดคนที่อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปดหรือเก้า

“จักรวรรดิเทียนหลิงก็มีดีเหมือนกันนี่!” ฉินหยุนครุ่นคิดกับตนเองอยู่พักหนึ่ง ก่อนหน้านี้มีผู้ฝึกตนวรยุทธ์เต๋าและกายวรยุทธ์ระดับเก้ารวมกลุ่มกันอยู่ ด้วยระดับแปดอีกจำนวนหนึ่ง พวกเขาสามารถเรียกตัวเองเป็นจักรวรรดิได้

ทว่า โชคพวกเขาคล้ายไม่ดีนัก พอคิดตั้งตนเป็นจักรวรรดิ ฝูงสัตว์อสูรก็มาถึงพอดี

“จักรวรรดิเทียนหลิงจะต้องใช้โอกาสช่วงสัตว์อสูรบุกรุกหาทางรุกรานประเทศเล็กแห่งอื่น พวกมันมีสถาบันยุทธ์หลิงเสวียนหนุนหลัง น่าจะบีบบังคับให้ประเทศเล็กหลายแหล่งรวมตัวกับพวกมันได้”

ฉินหยุนมาถึงบริเวณเกิดการต่อสู้ หยินเชิ่งและคณะตอนนี้กำลังรับมือฝูงสัตว์อสูรขนาดเล็ก พวกมันมีกว่าสิบตัว และส่วนใหญ่เป็นสัตว์อสูรระดับแปดและเก้า พวกมันมีเขี้ยวแหลมคม และในฝูงยังมีวัวกระทิงลำตัวยาวกว่าสี่เมตร

“หรือจะเป็นกลุ่มสัตว์อสูรที่ออกมาลาดตระเวนแล้วเผชิญเจอกลุ่มของหยินเชิ่งเข้าให้?” ฉินหยุนหลบซ่อนตัวในความมืด เขาค่อยเคลื่อนกายเข้าไปใกล้ร่างของขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับแปดคนหนึ่ง

การต่อสู้กำลังตึงเครียด สถานการณ์กำลังวุ่นวาย ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่มุ่งเน้นสมาธิแต่กับการต่อสู้ตรงหน้า พวกเขาไม่อาจพบเห็นฉินหยุนที่กลมกลืนไปกับความมืด!

ฉินหยุนนำเอายันต์หนังสัตว์สะกดกายระดับกลางออก และขว้างมันเข้าใส่ชายวัยกลางคนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปดคนหนึ่ง

เมื่อยันต์สะกดกายทำงาน พลังงานโปร่งแสงและไร้สีพลันทะลักออกปกคลุมร่างชายวัยกลางคนเอาไว้

ชายวัยกลางคนตอนนี้ไม่อาจขยับร่าง ใบหน้าเปี่ยมล้นด้วยความหวาดกลัว

“ฮึม!” กระทิงทองคำตัวหนึ่งคำรามร้องราวพยัคฆ์ขณะพุ่งเข้าใส่ เขาของมันเสียบแทงทะลุร่างชายวัยกลางคน ฉีกร่างอีกฝ่ายเป็นเพียงเศษเนื้อ

ชั่วขณะนี้เอง ฉินหยุนนำเอามีดสั้นออกมา เขาเริ่มใช้เคล็ดวิชารวมจิตวิญญาณสังหารกับวัวกระทิงที่กำลังกินเนื้อสด ก่อนจะใช้วิชาวายุสังหารจัดการปลิดชีพวัวกระทิงตัวดังกล่าว

“ได้ผล!”

ฉินหยุนสามารถสังหารสัตว์อสูรระดับแปดได้ เรื่องนี้ทำเขายินดี

ถัดจากนั้น เขาจึงใช้วิธีการเดียวกันนี้จัดการกับคณะของหยินเชิ่ง สังหารไปได้สี่คน รวมสัตว์อสูรวัวกระทิงก่อนหน้านี้ด้วย เขาได้สังหารวัวกระทิงระดับแปดได้สามตัว และระดับเก้าอีกหนึ่งตัว

“ถอยก่อน!” ชายชรากายวรยุทธ์ระดับเก้าร้องตะโกน

หยินเชิ่งเองก็พบว่าเรื่องราวผิดท่า พวกเขาเดิมทีสามารถสะกดข่มวัวกระทิงเหล่านี้ แต่ตอนนี้กลับเสียคนถึงสี่ หากเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเขาอาจถูกกวาดล้าง

ฉินหยุนซ่อนตัวเงียบงันในความมืด เพียงรับชมวัวกระทิงไล่ล่าพวกหยินเชิ่งขณะไล่ตามโดยรักษาระยะอย่างเงียบงัน

หลังการไล่ตามกลุ่มของหยินเชิ่งกว่าสองชั่วโมง ในที่สุดพวกมันค่อยหยุดฝีเท้าลง ตอนนี้ยังมีวัวกระทิงกว่าสิบตัว หนึ่งในนั้นระดับเก้า ขณะที่อีกเก้าตัวที่เหลืออยู่ระดับแปด

ฉินหยุนหยุดฝีเท้าหลบซ่อนตัวตนใกล้วัวกระทิง เขากำลังสับสนว่าควรลงมือจัดการสัตว์อสูรที่ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ เพราะวัวกระทิงระดับเก้าก็บาดเจ็บไปแล้วไม่ใช่น้อย

“หากพี่ใหญ่หลี่และคนอื่นอยู่ที่นี่ด้วย จะจัดการให้สำเร็จไม่ใช่เรื่องยากเลย!” ฉินหยุนกัดฟันกรอด เขาไม่ทราบว่าตนสามารถจัดการวัวกระทิงที่เหลือจำนวนมากเหล่านี้ได้หรือไม่

เมื่อนับจำนวนยันต์สะกดกายที่เหลืออยู่ เขามีสิบสองแผ่น

“ขว้างพวกมันออกไปสักสิบน่าจะแช่แข็งวัวกระทิงพวกนี้ได้หมด! พิจารณาจากสถานการณ์ ถ้าเราจัดการวัวกระทิงพวกนี้ไม่ได้ ก็แค่ถอย!”

วัวกระทิงทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ไม่คิดแยกจากฝูง

เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ปลดปล่อยยันต์สะกดกายออกไปสิบแผ่นตามจำนวนวัวกระทิงที่เหลืออยู่

หลังจากยันต์สะกดกายทำงาน วัวกระทิงทั้งหมดรู้ตัว พวกมันคิดอยากเคลื่อนไหวแต่ไม่อาจ เป็นพลังประหลาดสะกดร่างกายพวกมันเอาไว้

กระทั่งวัวกระทิงระดับเก้าก็ไม่อาจเคลื่อนไหว!

“เหมือนที่คิด วัวกระทิงพวกนี้บาดเจ็บ พลังถดถอยไปมาก มันไม่สามารถเป็นอิสระจากยันต์สะกดกายได้”

ฉินหยุนนำค้อนราชันยักษ์วิญญาณออกมาและทะยานกายพุ่งตัว เขาโคจรพลังภายในเปลวเพลิงทมิฬ รวมถึงพลังอสนีบาตอัคคีในแขนราชสีห์สวรรค์เข้าใส่ค้อนราชันยักษ์วิญญาณ

หลังดูดกลืนวัชระกำลังภายใน ผังแปรธาตุและบ้าคลั่งภายในค้อนราชันยักษ์วิญญาณจึงทำงาน เสียงร้องหวีดหวิวของการกรีดผ่านอากาศของตัวค้อนดังขึ้นขณะฟาดหวดจนพื้นสนั่น

“มังกรหลอมหกกระบวน ทลายอุกกาบาต!”

ฉินหยุนเล็งที่หัวของวัวกระทิงระดับเก้าซึ่งแข็งแกร่งที่สุดก่อนฟาดหวดลงเต็มแรง ด้วยเสียง “ตู้ม” ดังขึ้นพร้อมอสนีบาตและอัคคีเพลิงปะทุ หัวนั้นแหลกเละ

วัวกระทิงระดับเก้าถูกสังหารด้วยการฟาดค้อนเพียงครั้งเดียว!

ฉินหยุนใช้โอกาสนี้เผยออร่าออกและฟาดหวดเข้าใส่หัวของวัวกระทิงตัวอื่นด้วยค้อน ผ่านมังกรหลอมหกกระบวน เขาสามารถจัดการพวกมันได้เพียงการโจมตีครั้งเดียว!

พละกำลังของการฟาดหวดแต่ละครั้งสะเทือนพื้นดิน กระทั่งพื้นดินปริแตก!

วัวกระทิงทั้งหมดล้มตายแน่นิ่งกับพื้น ฉินหยุนสูดลมหายใจเข้าลึกขณะยินดีอยู่ภายใน

“เราจัดการวัวกระทิงพวกนี้ได้!”

เขาจ้องมองค้อนราชันยักษ์วิญญาณในมือขณะพบว่าเรื่องนี้ยากจะเชื่อ แม้เขาไม่ได้ใช้พลังภายในทั้งหมด แต่ความกังวลเมื่อครู่ก็ทำเอาเขาใช้ทุกอย่างที่มีจริง ๆ

หลังจัดการเก็บร่างวัวกระทิงจนครบ ฉินหยุนจึงเร่งรีบหาสถานที่พักฟื้นกำลังภายในที่เพิ่งใช้ไปเมื่อครู่ การล่าวัวกระทิงของเขาเมื่อครู่นี้สามารถแลกได้ยี่สิบล้านแต้มเสวียน

ตอนนี้ แก่นอสูรในมือของเขามีมูลค่ารวมแล้วทั้งสิ้นแปดสิบล้านแต้มเสวียน

หลังพักผ่อนจึงพบว่ารุ่งสางแล้ว เขาค่อยขัดเกลายันต์สะกดกายเพิ่ม

“เป็นอาจารย์จารึกนี่ดีจริง ๆ!” ฉินหยุนนึกย้อนถึงผลลัพธ์ของยันต์สะกดกายต่อฝูงสัตว์อสูร กระทั่งอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกครั้งหนึ่ง

สัตว์อสูรระดับที่แปด ตราบเท่าที่มียันต์สะกดกาย พวกมันจะไม่สามารถขยับร่างกายได้

“ถ้าเราเจอสัตว์อสูรระดับเก้าที่พร้อมสมบูรณ์ ยันต์สะกดกายคงใช้งานแทบไม่ได้ ต้องเน้นจัดการพวกที่ได้รับบาดเจ็บ” ฉินหยุนยิ่งมายิ่งหิวกระหายการสร้างยันต์สะกดกายระดับสูง

ทว่า เขาในตอนนี้ไม่มีหนังสัตว์ปีศาจระดับที่เก้า

“หนังสัตว์อสูรพวกนี้น่าจะใช้ได้!” ฉินหยุนนำเอาหนังสัตว์อสูรวัวกระทิงระดับเก้าออกมา

หนังวัวกระทิงเป็นสีทอง ทั้งยังหนาราวก้อนอิฐ และยังแข็งแกร่งราวก้อนหิน

ฉินหยุนต้องใช้ค้อนราชันยักษ์วิญญาณเพื่อทุบหนังสัตว์อสูรพวกนี้ จากนั้นจึงใช้ความร้อนผ่านทางผังแปรธาตุขัดเกลาขึ้นเป็นแผ่นบาง และใช้วัชระกำลังภายในจัดการพวกมัน

“ใช้ได้นี่! หนังสัตว์อสูรพวกนี้ก็เหมือนหนังสัตว์ปีศาจทั่วไป ดีเลย!” ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออก ในภายหน้า เขาสามารถได้รับหนังสัตว์พวกนี้อีกจำนวนมาก ทั้งยังง่ายแก่การซื้อหาอีกต่างหาก

หลังนำไปขัดเกลา มันจึงกลายเป็นยันต์หนังสัตว์ที่มากประโยชน์และล้ำค่า

เพื่อให้เป็นยันต์ระดับสูง ยันต์ต้องมีการแกะสลักผังวิญญาณมากกว่าหนึ่ง นอกจากนี้พวกมันยังต้องมีการแกะสลักผังรวบรวมพลังไว้ร่วมกับผังวิญญาณอื่น เพื่อกักเก็บพลังจำนวนมากสำหรับทำให้ผังวิญญาณอื่นทำงานได้ดีมากขึ้น

ตอนนี้ เขาจำเป็นต้องแกะสลักผังสะกดกายเอาไว้สองด้านของแผ่นหนังสัตว์ และยังต้องแกะสลักผังรวบรวมพลังให้เชื่อมต่อกับผังสะกดกาย

เมื่อขัดเกลามันด้วยค้อนราชันยักษ์วิญญาณ เขาสามารถแกะสลักผังวิญญาณไว้ในตัววัสดุได้ ด้วยประสบการณ์จำนวนมาก เรื่องนี้ไม่ได้ยากแก่เขาแต่อย่างใด

ด้วยพื้นที่ขนาดเล็ก มันเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้งานยาก เพราะต้องแกะสลักผังวิญญาณจำนวนมากลงไปโดยต้องไม่ให้ทับซ้อนขัดแย้งกัน

เขาต้องใช้เวลาทั้งวันและคืนกว่าจะขัดเกลายันต์หนังสัตว์ระดับสูงขึ้นได้!

“ยากจริง!” หลังทำสำเร็จ เขาพบว่าตัวเองแทบหมดเรี่ยวแรง

เดิมที ด้วยสภาพแวดล้อมอย่างนี้ เขาจำเป็นต้องสะสมพลังสำรองเอาไว้จำนวนหนึ่งเผื่อเหตุไม่คาดฝันด้วย

แต่ด้วยความตั้งใจจนลืมตัว เขาถึงกับใช้พลังภายในจนถึงหยดสุดท้ายเพื่อสร้างยันต์สะกดกายระดับสูงขึ้น!

ขณะนอนกับพื้น เขากล่าวโทษตนเอง เป็นเขาไม่อาจระงับความต้องการของตัวเองได้

โชคยังดีที่ไม่มีเหตุการณ์เกินคาดคิดแต่อย่างใด เขาสามารถพักฟื้นได้ในระยะเวลาเพียงสองชั่วโมง จากนั้นเขาจึงค่อยไล่ตามหยินเชิ่งในช่วงฟ้ามืด

“หยินเชิ่ง อีกไม่นานต้องตายด้วยมือข้า!” ร่างฉินหยุนทะยานออกด้วยพลังเงาที่ผสานกลมกลืนกับความมืด

ด้วยยันต์ค้นหาวิญญาณ การตามรอยหยินเชิ่งไม่ใช่เรื่องยาก

ระหว่างทาง เขาพบสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งจำนวนหนึ่ง แต่โชคดีที่พวกมันไม่เจอตัวเขา

หากต้องเผชิญหน้ากับฝูงสัตว์อสูรแข็งแกร่ง กับเขาคนเดียวไม่ต้องพูดถึง กระทั่งว่ามีขอบเขตวรยุทธ์เต๋าเคียงบ่าเคียงไหล่ยังไม่กล้าเผชิญหน้าด้วยซ้ำ

“สัตว์อสูรเหล่านี้เป้าหมายหลักคือกินคน บางครั้งพวกมันก็กินสัตว์อื่น ดังนั้นแล้วสัตว์อสูรและสัตว์อื่นในพื้นที่จึงตั้งป้อมระวังต่อกัน”

ฉินหยุนพบเห็นกระดูกที่แตกหักของสัตว์ปีศาจตามรายทาง พวกมันเหล่านี้คือเศษซากที่ผ่านการกินไปเรียบร้อยแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด